วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์
ที่ออฟฟิศสาวหน้านิ่งในเมืองปักกิ่ง
ฉีเหยียนกับเพื่อนร่วมงานกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมการสำหรับห้องวิจัยอาหาร
ตอนแรกบริษัทสาวหน้านิ่งตกอยู่ในสถานการณ์สับสนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เพราะแบรนด์นี้ก่อตั้งโดยเมิ่งชั่งและเมิ่งชั่งวางแนวคิดไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ตอนนี้แนวคิดนั้นกลับโดนทำลาย ออร่าความเทพหายวับไปทันที ดังนั้นพนักงานที่ตอนแรกเคารพนับถือเมิ่งชั่งจึงตกอยู่ในสภาพสับสน
แต่ฉีเหยียนก็ชี้แนวทางในการทำงานให้กับพนักงานสาวหน้านิ่ง หลังจากได้อ่านบทความเกี่ยวกับเมิ่งชั่งและบอสเผย!
ฉีเหยียนตัดสินใจชี้นำให้พนักงานตั้งใจทำงานอย่างหนักตามคำแนะนำของบอสเผย เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันของสาวหน้านิ่ง จะทำให้บอสเผยผิดหวังไม่ได้!
สิ่งแรกที่เธออยากทำคือจ้างเจ้าของร้านข้างทางฝีมือโดดเด่นมาเป็นที่ปรึกษาด้านอาหาร ตั้งห้องวิจัยอาหาร และพัฒนารสชาติเมนูทั้งหมดรวมถึงบะหมี่เย็นย่างด้วย
ฉีเหยียนทำตามแผนต่อหลังจบช่วงเทศกาลตรุษจีน
เธอส่งทีมค้นหาพิเศษไปยังเมืองต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อตามหาเจ้าของร้านข้างทางฝีมือโดดเด่น
หัวหน้าทีมค้นหานี้คือจางหยาฮุยซึ่งเป็นเจ้าของร้านข้างทางรุ่นเยาว์ ที่สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมในงานแข่งขันสตรีตฟู้ด แน่นอนว่ามีพนักงานสาวหน้านิ่งหลายคนให้ความร่วมมือกับเขาด้วย
เมื่อพบเจ้าของร้านข้างทางฝีมือโดดเด่นพวกเขาก็จะเชิญไปปักกิ่ง ถ้าไม่เจอก็จะทุ่มเงินก้อนใหญ่เพื่อขอเคล็ดลับและสูตรจากร้านข้างทาง พูดง่ายๆ คือไม่ยอมกลับไปมือเปล่า
ในจีนมีเมืองมากมาย ถึงจะตามหาแค่ในเมืองระดับหนึ่งและสองก็ยังต้องใช้เวลานานอยู่ดี ฉีเหยียนรู้ดีว่านี่คือภารกิจระยะยาวจึงไม่ได้รีบร้อนอะไร และพิจารณาแบ่งย่อยเป็นหลายขั้นตอบแทน
การเปิดห้องวิจัยอาหารและตามหาเจ้าของร้านข้างทางฝีมือโดดเด่นดำเนินไปพร้อมกันโดยไม่มัวชักช้า
ตอนนี้ห้องวิจัยอาหารในปักกิ่งเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่รายละเอียดบางอย่างยังไม่ได้ข้อสรุป ฉีเหยียนยังพิจารณาอย่างจริงจังอยู่
ในจังหวะนั้นก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับเธอ “พี่เหยียน ผมมีเรื่องมารายงานครับ”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง “โมหยูเดลิเวอรี่เปิดสาขาใหม่ในปักกิ่ง ที่ตั้งร้านอยู่เยื้องร้านของเรา ห่างกันประมาณสิบเมตร แทบจะชนกันเลยครับ”
ฉีเหยียนเงยหน้าขึ้นมาด้วยความอึ้ง
โมหยูเดลิเวอรี่?
เท่าที่ฉีเหยียนรู้โมหยูเดลิเวอรี่มีร้านอยู่ในปักกิ่งแล้วแต่มีแค่ไม่กี่สาขา ก่อนหน้านี้โมหยูเดลิเวอรี่เปิดห่างจากสาวหน้านิ่งในปักกิ่งออกไปสิบกว่ากิโลเมตร จึงไม่สร้างความสัมพันธ์เชิงแข่งขันกับสาวหน้านิ่ง
แต่รอบนี้โมหยูเดลิเวอรี่ดันมาเปิดฝั่งตรงข้ามกับสาวหน้านิ่งจริงๆ เหรอ ห่างกันไม่ถึงสิบเมตร ไม่ต่างกับการเปิดชนกันเลย!
หมายความว่ายังไงกัน
ฉีเหยียนรู้ดีว่านอกจากภัตตาคารไร้ชื่อในจิงโจวที่ไม่ย้ายร้านหรือเปิดสาขาเพิ่มแล้ว โมหยูเดลิเวอรี่ก็เป็นกิจการร้านอาหารเดียวในเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน
รูปแบบธุรกิจของโมหยูเดลิเวอรี่แตกต่างจากกิจการเดลิเวอรี่เจ้าอื่นๆ กิจการเดลิเวอรี่ธรรมดาและกิจการระดับไฮเอนด์ของพวกเขาอย่างสือเหอเน้นไปที่เรื่องการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ เมนูส่วนใหญ่เป็นเมนูประจำบ้านที่ลดจำนวนเกลือและน้ำมัน ในมณฑลฮั่นตงมีชื่อเสียงมากจากการคัดแยกขยะ
ในช่วงเดือนที่ผ่านมาดูเหมือนว่าโมหยูเดลิเวอรี่จะขยับขยายมาที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเมืองระดับหนึ่งอื่นๆ ตามคำสั่งของบอสเผย ผลลัพธ์เหมือนจะค่อนข้างดีทีเดียว
เพราะร้านเดลิเวอรี่ที่คุณภาพสูง บริการดี และวางราคาค่อนข้างสูงแบบนี้เหมาะกับการทำตลาดในเมืองระดับหนึ่งและน่าจะเป็นที่ชื่นชอบในหมู่พนักงานออฟฟิศมากกว่า
แต่ทำไมโมหยูเดลิเวอรี่ถึงเปิดแข่งกับสาวหน้านิ่งโดยตรงแบบนี้ล่ะ
โมหยูเดลิเวอรี่แข่งกับสาวหน้านิ่งได้แน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย
ถึงเมิ่งชั่งจะเคยโม้เกินจริงไว้ว่าโมหยูเดลิเวอรี่กับสาวหน้านิ่งนั้นส่งเสริมกันและกัน แต่นั่นก็เป็นวาทกรรมไว้ใช้หลอกนักลงทุน ทุกคนกินข้าวแค่วันละสามมื้อ ในพื้นที่เดียวกันมีคนสั่งเดลิเวอรี่ไม่มาก ถ้ามีโมหยูเดลิเวอรี่ที่มีวัตถุดิบหลากหลายและรสชาติที่ดีกว่าใครจะมาสั่งบะหมี่เย็นย่างกัน
เรื่องนี้ต้องส่งผลกระทบครั้งใหญ่กับสาวหน้านิ่งแน่!
แน่นอนว่าหลังจากเหตุการณ์พลิกผันหลายครั้งก่อนหน้านี้ สาวหน้านิ่งก็สูญเสียความนิยมที่เคยมีจนตอนนี้ร้านดูร้างผู้คนไปมาก แต่ก็ยังพอมีลูกค้าเหลืออยู่บ้างแม้จะแทบไม่คุ้มทุน
การเปิดสาขาใหญ่ของโมหยูเดลิเวอรี่จะทำให้สถานการณ์ของสาวหน้านิ่งเลวร้ายลงกว่าเก่า
ชัดเจนว่าพนักงานที่เข้ามารายงานรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย “พี่เหยียนคิดว่านี่เป็นไอเดียวของบอสเผยหรือผู้จัดการโมหยูเดลิเวอรี่ตัดสินเองครับ พวกเราควรทำยังไงดี”
เมื่อเทียบกับการแข่งขันในตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ทัศนคติของบอสเผยนั้นน่าเป็นห่วงกว่า
ทุกคนรู้ดีว่าพวกเขาแข่งกับโมหยูเดลิเวอรี่ไม่ไหวแน่ สถานการณ์เลวร้ายที่สุดคือขาดทุนเพิ่มขึ้นทุกเดือน
แต่ถ้าเป็นไอเดียของบอสเผยก็ยิ่งน่าตรวจสอบทัศนคติที่บอสเผยมีต่อสาวหน้านิ่งในตอนนี้
บอสต้องการให้สาวหน้านิ่งเป็นฟืนช่วยจุดไฟความรุ่งเรืองให้โมหยูเดลิเวอรี่เหรอ
ถ้าเป็นแบบนั้นพนักงานทั้งหมดของสาวหน้านิ่งก็ต้องพลีชีพไปด้วยสิ
ฉีเหยียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้
“เดี๋ยวพี่แวะไปตรวจสอบเรื่องนี้เอง”
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฉีเหยียนก็มาถึงโมหยูเดลิเวอรี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องจากร้านสาวหน้านิ่ง
ร้านนี้ว่างมาสองเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการรีโนเวต เหล่าช่างกำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็งโuเวลกูดoทคฺoม
ดูจากความคืบหน้าการรีโนเวตแล้วน่าจะเพิ่งเริ่มช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน ยังเหลือเวลาอีกพักหนึ่งก่อนที่ร้านจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
มองในแง่ภูมิศาสตร์โมหยูเดลิเวอรี่สาขานี้จะสร้างความสัมพันธ์เชิงแข่งขันกับสาวหน้านิ่งแน่นอน เพราะทั้งสองร้านอยู่ใกล้กันเกินไปและขอบเขตการจัดส่งก็ซ้อนกัน
มีคนสวมหมวกนิรภัยหนึ่งคนคอยดูงานอยู่ข้างๆ อีกคนกำลังนำเสนอแผนงานรีโนเวตให้เขา ฉีเหยียนเดาว่าคนที่สวมหมวกน่าจะเป็นผู้จัดการสาขานี้
เนื่องจากเป็นพนักงานภายใต้บอสเผยเหมือนกัน ฉีเหยียนจึงเข้าไปทักทั้งสองคนและแนะนำตัวเอง
ชายสวมหมวกยิ้มให้และรีบจับมือทักทายกับฉีเหยียน “สวัสดีครับ ผมรุ่ยยู่เฉิน เป็นผู้จัดการโมหยูเดลิเวอรี่คับ”
ฉีเหยียนผงะไป
รุ่ยยู่เฉิน?
นั่นมันคนที่ดูแลโมหยูเดลิเวอรี่ทั้งหมดไม่ใช่เหรอ เขาคือผู้บริหารระดับสูงของเถิงต๋าคอร์เปอเรชันที่คอยรายงานกับบอสเผยโดยตรงเลยนี่
ฉีเหยียนรู้ดีว่าถึงสาวหน้านิ่งจะถือเป็นกิจการของเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน แต่ตำแหน่งของเธอก็ยังไม่สูงพอ เธอไม่สามารถรายงานกับบอสเผยได้โดยตรง ถ้าเจอปัญหาอะไรต้องไปรายงานกับเฮ่อเต๋อเซิ่งก่อน จากนั้นค่อยให้เฮ่อเต๋อเซิ่งรายงานกับบอสเผยต่อ
สถานะของสาวหน้านิ่งกับโมหยูเดลิเวอรี่ในเถิงต๋าคอร์เปอเรชันนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
แต่ฉีเหยียนก็ไม่คิดว่ารุ่ยยู่เฉินจะถ่อมาถึงปักกิ่งแทนที่จะอยู่สั่งงานที่จิงโจวในฐานะผู้จัดการโมหยูเดลิเวอรี่
ถึงรุ่ยยู่เฉินจะไม่รู้จักฉีเหยียนแต่ก็ชัดเจนว่าเขารู้จักสาวหน้านิ่ง เขาถอดหมวกนิรภัยออกแล้วยื่นให้ทีมช่าง จากนั้นก็เชิญฉีเหยียนไปนั่งที่คาเฟ่ใกล้ๆ
ฉีเหยียนเองก็มีคำถามมากมายอยากถาม ทั้งสองจึงแวะไปที่คาเฟ่เล็กๆ ที่อยู่ถัดไปไม่ไกล
…
หลังจากสั่งกาแฟและพูดคุยกันเล็กน้อย ฉีเหยียนก็ลังเลอยู่บ้างและไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี
ถึงเธอจะมีข้อสงสัยมากมายในใจแต่สาวหน้านิ่งก็เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับโมหยูเดลิเวอรี่ ถ้าถามออกไปตรงๆ จะดูเหมือนว่าเธอไม่รู้จักสถานะของตัวเอง แถมยังดูทะนงตัวเกินไปถ้าเกิดเป็นแผนของบอสเผยจริงๆ
รุ่ยยู่เฉินเห็นฉีเหยียนดูลังเลจึงผุดยิ้ม “ผมรู้ว่าคุณมีคำถามมากมายอยากถาม ไม่ต้องเกรงใจครับ อยากถามอะไรเชิญถามได้เลย
“ถ้าอยากรู้เกี่ยวกับร้าน ผมบอกได้เลยว่าบอสเผยเป็นคนตัดสินใจเลือกทำเลนี้ให้ร้านเอง บังเอิญมีร้านเหมาะๆ อยู่ในละแวกนี้พอดี ผมเลยตัดสินใจเปิดสาขาใหม่ที่นี่
“แต่รอบนี้เปิดสาขาใหม่กว่าสิบสาขา แถมยังไม่ใช่แค่โมหยูเดลิเวอรี่ กิจการหน้าร้านอื่นๆ ของเถิงต๋าอย่างร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับฟิตเนสฝากประจำก็มีแผนเข้ามาเปิดที่ปักกิ่งด้วยครับ”
หลังจากรุ่ยยู่เฉินอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ฉีเหยียนก็พอจะเข้าใจว่าเรื่องราวเป็นมายังไง
กิจการหน้าร้านต่างๆ ของเถิงต๋าเจอปัญหาเรื่องทำเลเปิดร้านใหม่ระหว่างช่วงเทศกาลตรุษจีน
รุ่ยยู่เฉินเองก็ปวดหัวกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้บอสเผยเป็นคนตัดสินใจเรื่องทำเลเปิดสาขาใหม่ รุ่ยยู่เฉินแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจเรื่องทำเลของสาขาต่างๆ ด้วยตัวเอง บอสเผยไม่ค่อยถามเรื่องนี้บ่อยนัก รุ่ยยู่เฉินจึงรู้สึกกดดันและต้องรับผิดชอบมากขึ้น
ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเมืองระดับหนึ่งอื่นๆ มีร้านสาวหน้านิ่งอยู่หลายสาขา แต่เขาควรขยายกิจการต่อไปในเมืองระดับหนึ่งและเพิ่มจำนวนสาขาของโมหยูเดลิเวอรี่ไหม หรือควรจะกลับมาเน้นที่เมืองระดับสองจนมั่นใจว่าเมืองส่วนใหญ่มีโมหยูเดลิเวอรี่หมดแล้วก่อนจะค่อยๆ พัฒนาต่อ
แต่รุ่ยยู่เฉินก็ไม่ต้องคิดนานเพราะเขา เสี่ยวเผิง และคนอื่นๆ ได้รับคำตอบจากบอสเผยอย่างรวดเร็ว
ถึงบอสเผยจะไม่ได้บอกชัดเจน แต่การกระทำของบอสก็อธิบายทุกอย่างเรียบร้อย
บอสเผยโฆษณากิจการหน้าร้านของเถิงต๋าในเมืองใหญ่ๆ อย่างปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ การกระทำนี้หมายความว่ายังไง
เห็นได้ชัดว่าบอสกำลังบอกใบ้ให้รุ่ยยู่เฉิน เสี่ยวเผิง และคนอื่นๆ รีบเข้ามาขยายกิจการในเมืองระดับหนึ่ง!
บอสเผยออกแคมเปญโฆษณาขนาดนี้ ถ้าไม่ยอมเปิดสาขาเพิ่มบอสก็คงผิดหวังแย่
ดังนั้นโมหยูเดลิเวอรี่ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ฟิตเนสฝากประจำ และกิจการหน้าร้านอื่นๆ จึงตัดสินใจเปิดสาขาในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเมืองอื่นๆ ทันที!
อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยไม่ได้ตามมาทันทีเพราะติดปัญหาเรื่องห่วงโซ่เงินทุน อีกอย่างตลาดท้องถิ่นในจิงโจวก็ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว แต่โมหยูเดลิเวอรี่ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู และกิจการอื่นๆ ทุ่มเงินก้อนโตเพื่อเปิดสาขาใหม่มาตลอด
สาขาต่างๆ สร้างกำไรคืนให้กับสองกิจการมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่สำคัญเพราะนี่เป็นแผนที่บอสเผยวางไว้ พวกเขาต้องใช้กำไรทั้งหมดในการเปิดสาขาใหม่
เมื่อมีบอสเผยคอยหนุนหลัง รุ่ยยู่เฉินกับเสี่ยวเผิงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องห่วงโซ่เงินทุนจะพัง พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
โมหยูเดลิเวอรี่สาขานี้เป็นหนึ่งในสาขาใหม่ที่กำลังจะเปิด
รุ่ยยู่เฉินถ่อมาถึงปักกิ่งเพราะจุดที่ต้องให้ความสำคัญเปลี่ยนมาเป็นที่ปักกิ่งแล้ว เขาอยากจับตาดูสาขาต่างๆ ในปักกิ่ง พอเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรค่อยตัดสินใจแผนต่อไป
บอสเผยไม่ได้พูดอะไรมากหลังจากรู้ว่ารุ่ยยู่เฉินจะเปิดสาขาเพิ่มในปักกิ่ง บอสแค่ย้ำให้เปิดสาขาหลักตรงที่ที่มีมาตรฐานสูงที่สุดตรงข้ามร้านสาวหน้านิ่ง ซึ่งบอสเผยก็ไม่ได้อธิบายว่าทำไม