เฉียวเหลียงโดนคนอื่นๆ ลากไปบ้านฝันสยอง
“ไปกันเร็ว! ใครกลัวจนขาแข็ง คนนั้นเป็นหมา!”
“อาจารย์เฉียวเก่งเกม BE QUIET ที่สุดไม่ใช่เหรอ งี้ต้องเข้าไปเป็นคนแรกเลย!”
“ดูสิ ในแผ่นพับบอกว่าบ้านฝันสยองความน่ากลัวอยู่ระดับกลาง ไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่น่ากลัวสุดในบ้านผีสิง…”
ทุกคนพยายามเกลี้ยกล่อมอาจารย์เฉียวให้ลองเล่นบ้านฝันสยอง
เฉียวเหลียงเริ่มคล้อยตาม
จริงด้วย ในแผ่นพับเขียนบอกว่าบ้านฝันสยองความน่ากลัวอยู่ระดับกลางจริงๆ แถมดูค่อนข้างสั้น ไม่น่าจะน่ากลัวอะไรมาก
แต่ระหว่างที่กำลังจะเดินไปข้างหน้า เขาก็เห็นชายร่างกำยำเดินออกมาหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เหมือนกับจะลมจับได้ทุกเมื่อ
กลุ่มสาวๆ ที่เพิ่งออกมาร้องห่มร้องไห้กันจนเครื่องสำอางเลอะเปรอะไปหมด
“น่ากลัวมาก!”
“หลอนมากเลย ฮือ!”
“ต้องจำขั้นตอนการเล่นอีก ทำไมไม่รีบฆ่ากันให้มันจบๆ ไปตั้งแต่แรก!”
ลูกค้าที่เดินออกมาจากโปรเจ็กต์นี้ไม่คิดจะแวะไปเล่นสุดขีดสยองต่อ พวกเขาแวะไปวงกตทองคำแทน หรือไม่ก็กลับไปหนีสยอง ราวกับว่าไม่อยากอยู่ที่นี่เพิ่มอีกแม้แต่วินาทีเดียว
เฉียวเหลียงสังเกตเห็นว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
ตายห่าแน่นอน!
ไม่ใช่น่ากลัวระดับกลางแล้ว!
แต่พอคิดดูอีกทีก็ไม่แปลก สำหรับบอสเผยแล้ว เกมกลับใจคือฟากฝั่งเป็นเกมที่ยากกว่าปกตินิดหน่อย เพราะงั้นก็ไม่ต้องคิดให้มากความเลยว่า ‘น่ากลัวระดับกลาง’ ของบอสนั้นเป็นยังไง
คราวนี้นอกจากเฉียวเหลียงแล้ว แฟนคลับคนอื่นๆ ที่รบเร้าเขาก่อนหน้านี้เริ่มเดินถอยหลัง
“ฉันว่าเรา…กลับไปต่อแถวเล่นหนีสยองกันดีกว่ามั้ย ถ้ารีบไปต่อแถวตอนนี้ก็จะได้เล่นเร็วขึ้น”
“นี่แกใจเสาะขึ้นมาเหรอ ยังไม่ทันได้เข้าไปเลย พูดออกมาได้ไม่อายปากเลยเรอะ!”
“เหอะๆ ถ้าไม่รนหาที่ตาย เราก็ไม่ตายนะ เรื่องแค่นี้เข้าใจยากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไอ้ข้ออ้าง ‘ไหนๆ ก็มาแล้ว’ คือแนวคิดที่ผิดมหันต์สุดๆ! ฉันไม่หลงเชื่อคำพูดนั้นหรอก เราไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลองสัมผัสทุกประสบการณ์ก็ได้…”
เสียงเริ่มแตกออกเป็นสองฝั่ง
ก็เหมือนเวลากลุ่มเพื่อนที่มาสวนสนุกด้วยกันแล้วมักจะมีส่วนหนึ่งเปลี่ยนใจไม่เข้าตอนไปถึงหน้าบ้านผีสิง ถ้าจะพูดให้ถูกก็ไม่ได้เป็นเพราะกลัวอย่างเดียว แต่เพราะเห็นชัดเจนแล้วว่าพอเข้าไปจะตกใจกลัวขนาดไหน
“เอ่อ…ต่อแถวอยู่รึเปล่าครับ” เสียงหนึ่งถามขึ้น
กลุ่มเฉียวเหลียงที่กำลังลังเลกันอยู่เดินวนไปวนมาอยู่ตรงแถวเข้าเล่น ทำให้คนที่มาถึงทีหลังไม่รู้ว่าพวกเขาจะเข้าเล่นไหม เลยต้องถามออกไป
เฉียวเหลียงหันกลับไปเห็นหนุ่มผมสั้นเตียนดูท่าทางกระฉับกระเฉงมองมาทางพวกเขาพร้อมยิ้มให้
“โอ้ ขอโทษครับ เชิญก่อนได้เลย” เฉียวเหลียงกับกลุ่มแฟนคลับรีบหลีกทางให้
ชายหนุ่มไม่ได้เข้าไปเล่นทันที แต่ถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ “อาจารย์เฉียว…รึเปล่าครับ”
เฉียวเหลียงผงะไป หืม เจอแฟนคลับในที่แบบนี้ได้ด้วยเหรอ
แต่พอมาคิดดูดีๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ลูกค้ากลุ่มแรกของโฮสเทลเขย่าขวัญเป็นแฟนเดนตายของเถิงต๋า ถ้าเป็นแฟนเดนตายก็ไม่แปลกที่จะเคยดูคลิปผลงานเทพสร้าง
“ใช่ครับใช่ ผมเฉียวเหลียง คุณเคยดูคลิปผมด้วยเหรอครับ”
ชายหนุ่มดูตื่นเต้น “ใช่ครับ เคยดูๆ ผมชอบคลิปคุณมาก! เสียงของคุณเป็นเอกลักษณ์มาก ผมแค่ลองถามไปงั้น ไม่คิดว่าจะเป็นคุณจริงๆ! ผมขอแนะนำตัวหน่อยนะครับ ผมแซ่หร่วน ชื่อหร่วนกวางเจี่ยน เป็นคนทำงานภาพให้เกมกลับใจคือฟากฝั่ง”
เฉียวเหลียงตาเบิกกว้าง
หร่วนกวางเจี่ยน?
เขาไม่ได้แค่ทำงานภาพให้กลับใจคือฟากฝั่ง แต่ทำงานภาพให้แม่ทัพผี นักออกแบบเกม BE QUIET แล้วก็ GOG ด้วย!
คนคนนี้เป็นทั้งเพื่อนสนิทและพันธมิตรทางธุรกิจของบอสเผย
เพื่อนของบอสเผยก็เหมือนเพื่อนของฉันแหละเนอะ
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับที่ได้พบ!”
ทั้งสองจับมือกับอย่างกระตือรือร้นเหมือนกับว่าเฝ้ารอวันที่จะได้พบกันมานานแล้ว
พอได้มาเจอตัวจริงก็พบว่าทั้งสองฝ่ายนั้นสมคำร่ำลือที่เคยได้ยินมานานจริงๆ!
เฉียวเหลียงมองหร่วนกวางเจี่ยนแล้วพบว่าอีกฝ่ายอายุน้อยกว่าที่คิดไว้ แถมยังสุภาพ ไม่เหมือนภาพจำของพวกศิลปินเลยสักนิด แต่ก็สัมผัสได้ว่าชายคนนี้คลุกคลีในวงการศิลป์มาหลายปี
ส่วนหร่วนกวางเจี่ยนนั้นรู้สึกว่าถึงเฉียวเหลียงจะหน้าตาธรรมดาและอ้วนนิดหน่อย เหมือนพวกโอตาคุทั่วไป แต่ดวงตาก็เปี่ยมไปด้วยความรู้
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย หร่วนกวางเจี่ยนก็เสนอขึ้น “จริงๆ ผมเป็นคนขี้กลัวมาก ก่อนจะมาที่นี่ก็สองจิตสองใจอยู่นาน พวกเราเข้าไปด้วยกันดีมั้ยครับ”
เฉียวเหลียงไม่มั่นใจ “พูดจริงเหรอครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้า “จริงสิครับ ผมเนี่ยตัวกลัวบ้านผีสิงเลย บอสเผยก็รู้เรื่องนี้”
แฟนคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความงุนงง “เอ๊ะ ถ้าขี้กลัวขนาดนั้น ทำไมถึงยังอยากเข้าไปอีกล่ะครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนทำหน้าราวกับพร้อมเผชิญหน้าความตาย “นักรบที่แท้จริงต้องพร้อมเผชิญหน้าอุปสรรค! ในฐานะที่เป็นเพื่อนของบอสเผย ผมก็ต้องสนับสนุนเพื่อนอยู่แล้ว!”
เขาดูเหมือนวีรบุรุษผู้กำลังจะออกศึกที่เตรียมใจพร้อมว่าอาจไม่มีชีวิตรอดกลับมา
ทุกคนสังเกตสีหน้าหร่วนกวางเจี่ยนแล้วสรุปได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก เขาดูจริงจังมาก
จิตใจที่ไม่หวั่นเกรงส่งผลกระทบต่อเฉียวเหลียงและกลุ่มแฟนคลับ
เฉียวเหลียงรู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที
เฉียวเหลียงหนอเฉียวเหลียง แกเรียกตัวเองว่าเป็นผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์มาตลอด บอกว่าตัวเองรู้จักบอสเผยดีกว่าใครๆ ไม่ใช่เหรอ
ดูอีกฝ่ายสิ เขาเป็นนักวาดที่กล้าท้าทายตัวเองด้วยการเข้าบ้านผีสิง แต่แกกลับกลัวจนไม่กล้าทำอะไร
ไหนล่ะความมุ่งมั่นที่แกมีตอนเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่ง ไหนล่ะความกล้าตอนที่แกลงคลิปผลงานเทพสร้าง
คิดได้แบบนั้น เฉียวเหลียงก็รู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา “โอเคครับ! ถ้างั้นผมพร้อมพลีชีพไปกับคุณ เราเข้าไปก้าวผ่านความท้าทายที่บอสเผยออกแบบมาให้พวกเราด้วยกันเถอะครับ!”
ไม่รู้ทำไม การมาของหร่วนกวางเจี่ยนช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งกลุ่ม ทุกคนจึงเข้าไปในบ้านฝันสยอง
เฉียวเหลียงเดินนำหน้า ในฐานะผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์ เขาต้องเป็นคนนำกลุ่ม
สิ่งแรกที่เขาเห็นคือตู้คอนเทนเนอร์ปริศนามากมายตั้งเรียงรายกัน ส่วนข้างในมีอะไรนั้น เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
พนักงานเหมือนจะชินกับลูกค้าแบบพวกเขาที่หัวร่อต่อกระซิกกันเข้ามา ก็เลยไม่ได้พยายามพูดให้ขวัญเสียหรือพูดให้กำลังใจ แต่แค่ยื่นรายละเอียดเกมให้แต่ละคนเงียบๆ จากนั้นก็ผุดยิ้มมีเลศนัย
รอยยิ้มนั้นทำให้ทุกคนขนลุก
ด้านข้างมีโซนสำหรับพักผ่อน พวกเขาถือคำอธิบายเกมไปนั่งตรงโซนนั้นด้วยความงุนงง
“กรี๊ด!”
เสียกรีดร้องดังขึ้นพร้อมหญิงสาวคนหนึ่งที่วิ่งออกมาจากทางออกหลังตู้คอนเทนเนอร์
ทุกคนหันมองกันด้วยแววตางุนงง
เฉียวเหลียงอ่านคำอธิบายเกมในมืออย่างละเอียดแล้วพบว่าบ้านฝันสยองนั้นแบ่งเป็นโปรเจ็กต์ย่อยหลายโปรเจ็กต์ โดยมีทั้งฉากห้องน้ำ ข้างหน้าต่าง หน้าทีวี บันได เพดาน ใต้เตียง และอื่นๆ
โปรเจ็กต์ย่อยแต่ละโปรเจ็กต์มีคำอธิบายภารกิจอยู่ ตัวอย่างเช่น ในฉากห้องน้ำ ผู้เล่นต้องล็อกประตูห้องน้ำ จุดเทียน หลับตา ล้างมือ และอื่นๆ
ภารกิจเหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อบังคับที่ต้องทำตาม ผู้เล่นสามารถเข้าไปยืนเฉยๆ ไม่ทำอะไรแล้วกลับออกมาก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ตั๋วเข้าเล่นสุดขีดสยองก็ต้องทำตามภารกิจทั้งหมดเพื่อเคลียร์บ้านฝันสยองให้ได้
ยิ่งอ่านเฉียวเหลียงก็ยิ่งกลัวมากขึ้น
ไม่ใช่เพราะภารกิจจำได้ยาก เอาเข้าจริง ถึงภารกิจจะมีหลายขั้นตอน แต่ทุกขั้นตอนก็เชื่อมโยงกันเป็นลำดับ เขามั่นใจว่าตัวเองจะนึกขั้นตอนต่างๆ ออกอย่างง่ายดายเมื่อเข้าไปในฉากและเห็นข้าวของต่างๆ
แต่หลักๆ ที่กลัวเป็นเพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองจะทำตามขั้นตอนพวกนี้ได้!
เขานึกภาพตัวเองถือเทียนแดงในห้องน้ำมืดตื๋อจากนั้นก็หลับตาหน้ากระจก…
น่ากลัวเท่าๆ กับบ้านผีสิงทั่วไปเลยนะนั่น!
พอหันไปมองคนอื่นๆ ก็ชัดเจนว่าความกล้าที่ผุดขึ้นมาเมื่อครู่นั้นหายไปหมดแล้ว โดยเฉพาะหร่วนกวางเจี่ยนที่มือสั่นระริก
เมื่อเห็นหร่วนกวางเจี่ยนตื่นกลัวกว่าตัวเอง เฉียวเหลียงก็สงบใจลงได้นิดหน่อย
เขารู้สึกเหมือนเป็นเด็กหัวทึบที่กำลังจะเข้าสอบ พอเห็นเด็กที่หัวทึบกว่าตัวเองแล้วรู้สึกมั่นใจขึ้นมา
ไม่มีการจำกัดเวลาในการจำภารกิจ พวกเขานั่งจำภารกิจในโซนพักผ่อนนานเท่าไหร่ก็ได้ พร้อมแล้วก็ค่อยไปต่อแถวเพื่อเข้าเล่นโปรเจ็กต์ย่อยไหนก็ได้
เฉียวเหลียงรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง เป็นความรู้สึกตอนที่ครูให้เขาจำกวีโบราณแล้วให้ท่องปากเปล่าในอีกชั่วโมง
แต่เนื้อหาที่ต้องจำนั้นน่าตื่นเต้นกว่ากันเยอะ
มีคนเข้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อทดสอบความกล้าเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าจะกรีดร้องหรือไม่ พวกเขาต่างออกมาด้วยสีหน้าเหมือนจะขาดใจตายกันทุกคน มีคนเข้าไปเล่นแล้วเจ็ดถึงแปดคน แต่ก็ไม่มีใครเคลียร์ภารกิจได้สักคน แถมดูจากสีหน้าแล้วก็พอจะเดาออกว่าไม่มีใครอยากเข้าไปเล่นอีก
เพราะงั้นผู้คนที่นั่งรอในโซนพักผ่อนจึงเริ่มเปลี่ยนใจกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพยายามจำภารกิจเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกลัวมากขึ้น สุดท้ายก็ล้มเลิกความตั้งใจโดยไม่ได้เข้าไปลองเลยสักครั้ง
พอเห็นคนในโซนพักผ่อนมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ เฉียวเหลียงก็รู้สึกเหมือนโดนความมืดเข้ากลืนกิน
แต่ตอนที่กำลังลังเลใจว่าจะถอยดีมั้ย หร่วนกวางเจี่ยนก็ลุกขึ้นยืนโนเวลกูดอทคoม
การกระทำนั้นเป็นเหมืองแสงที่ส่องผ่านเมฆดำลงบนหัวเฉียวเหลียง!
เฉียวเหลียงผงะไป “พี่หร่วน อย่าบอกนะว่า…”
หร่วนกวางเจี่ยนทำหน้าเหมือนพร้อมเผชิญหน้ากับความตายอีกครั้ง “ถ้าผมไม่ไป แล้วใครจะไป ทุกคน ผมขอเข้าไปก่อนจะได้ดึงข้อมูลศัตรูมาให้เพิ่มได้!”
ทุกคนแสนดีใจ เฉียวเหลียงดีใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด
เยี่ยมเลย!
พวกเขากำลังกังวลอยู่พอดีว่าใครจะเป็นคนเปิดก่อน!
ในเมื่อคุณหร่วนจะเข้าไปเป็นคนแรก ทุกคนก็จะรอฟังเขากลับมาเล่าว่ามีอะไรข้างในบ้างจะได้เตรียมใจถูก
ถ้าหร่วนกวางเจี่ยนผู้ขี้กลัวรอดออกมาได้ ทุกคนก็มั่นใจได้ว่าตัวเองจะรอดออกมาเหมือนกัน
เฉียวเหลียงตบบ่าหร่วนกวางเจี่ยน “สู้เขานะพี่หร่วน พวกผมจะรอพี่คว้าชัยชนะกลับมาอยู่ตรงนี้แหละ!”
หร่วนกวางเจี่ยนเดินเข้าตู้คอนเทนเนอร์ด้วยสีหน้าพร้อมน้อมรับความตาย
เฉียวเหลียงกับคนอื่นๆ นั่งจำภารกิจต่อในโซนพักผ่อน
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
เฉียวเหลียงสะดุ้งโหยง ทุกคนหันมองกันด้วยความงุนงง
เกิดอะไรขึ้น เขาพลาดท่าแล้วเหรอ
เพิ่งเข้าไปได้ไม่ถึงสองนาทีก็สิ้นชีพแล้ว?
โซนพักผ่อนตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร แต่ทุกอย่างนั้นบ่งบอกชัดเจนบนสีหน้าของแต่ละคน
น่ากลัวเกินไปแล้วโว้ย!
ที่นี่น่ากลัวจริงๆ ด้วย!
เฉียวเหลียงนึกภาพเหตุการณ์ตามฉากที่จำได้ในหัว เขาเดาว่าหร่วนกวางเจี่ยนน่าจะวิ่งออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์หลังฝืนทนต่ออีกนาทีสองนาที
ไม่ถึงสองนาที เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เฉียวเหลียงอดทึ่งขึ้นมาไม่ได้
พี่หร่วนกลัวขนาดนั้นแต่ก็ฝืนทนสู้ต่อ ต้องเอาความกล้าหาญของพี่เขาเป็นแบบอย่าง!
ไม่มีใครตั้งสมาธิกับการจำภารกิจได้อีก พวกเขาต่างหันมองตู้คอนเทนเนอร์แห่งความสยองเพื่อรอดูว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะทนได้อีกนานเท่าไหร่กว่าจะยอมแพ้
ห้านาทีผ่านไป
สิบนาทีผ่านไป…
ถึงเสียงกรีดร้องด้านในจะดังไม่หยุดขนาดไหน แต่หร่วนกวางเจี่ยนก็ไม่ยอมออกมา
เฉียวเหลียงรู้สึกทึ่งยิ่งกว่าเดิม
ดูสิว่าการไม่ยอมแพ้มันเป็นยังไง! ดูสิว่าการท้าทายตัวเองมันเป็นยังไง! นี่แหละคือความใจกล้าเด็ดเดี่ยว!
คุณหร่วนเป็นนักวาด แต่สามารถฝืนทนต่อความกลัวได้ แถมยังเหมือนจะเคลียร์ภารกิจได้ด้วย เฉียวเหลียง แกบอกตัวเองว่าเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์แท้ๆ ทำไมถึงไม่กล้าเข้าไปสักที!
ไม่อายเหรอ แกไม่อายบ้างรึไง!
หลังจากจำภารกิจทั้งหมดได้ เผยเชียนก็พร้อมก้าวเดินสู่หนทางที่ไม่อาจหวนคืน
ถึงหร่วนกวางเจี่ยนจะยังไม่ออกมา แต่โปรเจ็กต์ย่อยก็มีหลายโปรเจ็กต์ ซึ่งแต่ละโปรเจ็กต์สามารถเล่นพร้อมกันได้และผู้เล่นก็สามารถเลือกได้ว่าจะเล่นโปรเจ็กต์ไหน พวกเขาต้องเล่นผ่านไปได้ส่วนหนึ่งก่อนถึงจะไปเล่นโปรเจ็กต์ถัดไปเพื่อที่จะได้ไม่ชนกัน
แฟนคลับอึ้ง “อาจารย์เฉียวไม่รอเขากลับออกมาก่อนเหรอ”
ดวงตาของเฉียวเหลียงบ่งบอกว่าพร้อมเผชิญหน้ากับความตาย “ไม่ละ พี่หร่วนลงสนามรบไปแล้ว ฉันจะมัวนั่งลังเลอยู่ได้ไง แค่นี้ก็ถ่วงพี่เขามากแล้ว ถ้ารอให้พี่เขาออกมาแล้วค่อยเข้าไป แบบนั้นจะไม่น่าละอายใจยิ่งกว่าเหรอ พวกนายรอดูชัยชนะของฉันนะ!”
เฉียวเหลียงเดินเชิดหน้าเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ด้วยการช่วยเหลือจากพนักงาน
แต่ไม่ถึงสองนาทีหลังจากเขาเข้าไป หร่วนกวางเจี่ยนก็กลับออกมาจากอีกฝั่ง
พนักงานรีบตรงไปแสดงความยินดี “ยินดีด้วยค่ะ! คุณเป็นผู้กล้าคนแรกที่เคลียร์บ้านฝันสยองได้! นี่คือหลักฐานว่าคุณมีสิทธิ์เข้าเล่นสุดขีดสยอง รักษาไว้ให้ดีๆ ด้วยนะคะ”
พนักงานได้รับมอบหมายให้คอยสังเกตการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดเพื่อยืนยันว่าผู้เล่นทำตามภารกิจจริงๆ ถ้าผู้เล่นกลัวจนไปต่อไม่ไหว พนักงานก็ต้องเตรียมตัวเข้าไปช่วยออกมา
แน่นอนว่าพนักงานย่อมเป็นคนแรกที่รู้ว่าหร่วนกวางเจี่ยนทำภารกิจผ่านได้สำเร็จลุล่วง
แฟนคลับของเฉียวเหลียงเบิกตากว้างแล้วมองหร่วนกวางเจี่ยนอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ผ่านเหรอ
งั้น…ก็หมายความว่าด้านในไม่มีอะไรน่ากลัว ถ้าฝืนทนก็ผ่านภารกิจได้สำเร็จรึเปล่า
ทุกคนเข้าห้อมล้อมหร่วนกวางเจี่ยน ผลัดกันถามเหตุการณ์ด้านใน
หร่วนกวางเจี่ยนยิ้ม “จริงๆ แล้ว ถ้ามาคิดดูดีๆ ข้างในก็ไม่มีอะไรน่ากลัวนะครับ อาจจะมีอุปสรรคบ้างนิดหน่อย แต่ก็น่าจะผ่านกันได้ ถ้าทำภารกิจได้สำเร็จครบถ้วน ความรู้สึกแห่งความสำเร็จที่ได้รับนั้นไม่อาจเทียบกับอะไรได้เลย!”
ทุกคนทึ่งไปตามๆ กัน
“จริงเหรอครับ”
“ดูสีหน้าพี่หร่วนสิ ดูไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
“ตั้งแต่เข้าไป อาจารย์เฉียวยังไม่ร้องเลยสักแอะนี่นา”
“แสดงว่าข้างในก็ไม่น่ากลัวน่ะสิ ขนาดคนขี้กลัวอย่างพี่หร่วนยังทนเล่นจนจบได้ พวกเราก็น่าจะผ่านได้เหมือนกันรึเปล่า”
“เดี๋ยว ทุกคนเปลี่ยนใจกันหมดเลยเหรอ”
“ลองคิดดูสิ ถ้าอาจารย์เฉียวออกมาก็น่าจะภูมิใจในตัวเองสุดๆ แล้วคงไปล้อเราในกลุ่มว่าเป็นพวกปอดแหก! ถ้าน่ากลัวจริงๆ ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้ามันไม่น่ากลัวล่ะ เราจะไม่มีทางล้างภาพนี้ออกไปได้เลยนะ!”
สุดท้ายคนที่ลังเลใจที่สุดในกลุ่มก็หันไปหาหร่วนกวางเจี่ยน “คุณหร่วนคิดว่า…ผมจะเล่นผ่านมั้ยครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนตบอก “ไม่ต้องห่วงเลย ขนาดคนขี้กลัวอย่างผมยังเล่นผ่านได้ คุณก็ต้องเล่นผ่านแน่นอน!”
ประโยคนั้นเรียกความกล้าให้ทุกคนได้มากทีเดียว พวกเขาทยอยไปเข้าแถวรอสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง