📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 6 ตอนที่ 334

บทที่ 334 - จู่โจมถึงตาย
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“ท่านประมุข ผู้ชราอยู่นี่”

มีเสียงชราดังขึ้นมาจากเบื้องล่าง ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งลอยขึ้นมาจากหลุมและหยุดลงตรงที่พวกเขา เป็นอาวุโสปฐพี สภาพของเขาตอนนี้น่าอนาถอย่างที่สุด ชุดเทาขาดวิ่นเป็นริ้วๆ แทบไม่อาจปิดบังร่างกายส่วนใหญ่ บาดแผลน้อยใหญ่จากพลังทมิฬกระจายอยู่ทั่วตัว แม้เขาจะยืนได้อย่างมั่นคง แต่สีหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

“ก่อนอื่นอย่าเพิ่งพูดอะไร นางย่อมสูญเสียพลังไปมากจากการโจมตีเมื่อครู่ ตอนนี้นางย่อมไม่อาจใช้พลังได้อีก พวกเราจะปล่อยให้นางหนีออกไปไม่ได้! ไม่อย่างนั้น ไม่เพียงความแค้นที่ท่านประมุขถูกทำร้ายไม่ได้รับชำระ หากคนปานนี้ดำรงอยู่ในโลก ไหนเลยพวกเราจะวางใจได้” ฉุ่ยเสวียนฟงข่มกลั้นความเจ็บปวด กัดฟันพูดพร้อมกับลอยร่างขึ้น ใช้ความเร็วสูงสุดพุ่งไปยังทงซินที่กำลังบินไปหาเย่หวูเฉิน

นางต้านยันพลังกับพวกเขาเป็นเวลานาน ใต้พลังมังกรหยกวารีที่สี่บุคคลประสานกัน นางไม่ตกตายราวปาฏิหาริย์ แทบเป็นไปไม่ได้ที่นางจะขยับกายได้อีก หากคิดไม่ถึงเลยว่านางจะจู่โจมอย่างร้ายกาจตัดแขนฉุ่ยหยุนหลัน…. และนั่นยังไม่ใช่ขีดจำกัดของนาง ทั้งสภาพแบบนั้น นางยังปลดปล่อยความมืดบดบังฟ้าดิน ทำให้สองยอดฝีมือเทวะต้องบาดเจ็บตามกัน

สตรีเทพพิโรธเป็นตัวตนศักดิ์สิทธิ์มาจากแห่งใด! พลังและชีวิตของนาง ไร้ขีดจำกัดอย่างนั้นหรือ!?

ไม่ว่าผลลัพธ์วันนี้จะเป็นเช่นใด เด็กหญิงชุดดำก็ฝังเงาในหัวใจพวกเขาไปตลอดชีวิต ทว่าเวลานี้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำและเป็นตัวเลือกหนึ่งเดียวนั่นก็คือ ใช้ทุกสิ่งที่มีเพื่อหยุดนาง หากเป็นไปได้คือสังหาร ไม่อย่างนั้น อย่างที่ฉุ่ยเสวียนฟงพูดออกไป หากบุคคลปานนี้ดำรงอยู่ในโลก ไหนเลยพวกเขาจะวางใจได้

อาวุโสเทียมฟ้าและอาวุโสปฐพีบินตามฉุ่ยเสวียนฟงไปติดๆ พุ่งละลิ่วไปยังทิศที่ทงซินบินไป

พลังทั้งหมดใกล้เหือดแห้ง ทงซินเริ่มรู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้ง ความเร็วที่แต่เดิมประดุจดั่งสายฟ้า ยามนี้เชื่องช้าอย่างยิ่ง นางยังไม่ทันไปถึงเย่หวูเฉิน อาวุโสเทียมฟ้าที่เข้ามาถึงก่อนก็ส่งพลังหยกวารีเย็นเยียบมาจากเบื้องหลัง

สัมผัสถึงพลังที่พุ่งมาจากด้านหลัง ทงซินบิดร่างเบี่ยงหลบจากจุดเดิมนับสิบเมตร พลังหยกวารีพุ่งผ่านอากาศว่างพร้อมบิดอากาศให้ปั่นป่วน ทว่าตำแหน่งเบื้องล่างที่มันพุ่งตรงไป คือจุดที่เย่หวูเฉินยืนอยู่

เย่หวูเฉินตระหนักได้ถึงอันตราย ราวกับคลื่นยักษ์กดทับบนทรวงอก ยังไม่ทันเข้าใกล้มันก็นำความรู้สึกราวร่างถูกบดบี้ เขาตกใจแต่ยังกลับคืนสู่ความสงบในพริบตา ทันใดนั้นเขาเคลื่อนพลังหวูเฉินทั้งหมด สร้างม่านปราการขึ้นตรงหน้า

นี่คือครั้งแรกที่เย่หวูเฉินใช้พลังทั้งหมดเพื่อการป้องกัน อย่างไรก็ตาม แม้นี่เป็นเพียงการโจมตีแบบรีบร้อนของอาวุโสเทียมฟ้า แต่ม่านปราการไหนเลยจะทนรับพลังขอบเขตเทวะได้ พลังหวูเฉินปะทะพลังหยกวารีเพียงชั่วขณะ ฉับพลันมันก็ถูกฉีกออกเป็นช่อง…. เย่หวูเฉินถูกพลังอัดเข้าตรงอก ตาขาวเหลือกขึ้น ร่างถูกปะทะด้วยพลังมหาศาล พุ่งทะลุผ่านสองกำแพง จากนั้นทรุดร่างลง

ทั่วร่างปวดร้าวอย่างรุนแรง อวัยวะภายในปั่นป่วน เย่หวูเฉินสูดหายใจและรีบเคลื่อนพลังหวูเฉินทันที โชคดีที่ระยะห่างนับว่าไกล และเขาใช้พลังหวูเฉินป้องกันได้ทันท่วง จึงลดอำนาจทำลายลงได้เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงไม่บาดเจ็บร้ายแรง อย่างไรก็ตาม การโจมตีธรรมดาของยอดฝีมือเทวะครั้งนี้ ทำให้เขายิ่งตระหนักว่าทงซินต่อสู้กับสี่เทวะเพียงลำพัง นางต้องเผชิญกับพลังน่าหวาดหวั่นเพียงใด และพลังยิ่งใหญ่ขนาดไหนที่นางมี

ขณะที่เย่หวูเฉินถูกโจมตี ทงซินชะงักค้างอยู่กลางอากาศ หัวใจแทบหยุดเมื่อเห็นเย่หวูเฉินถูกกระแทกปลิวไป จนกระทั่งเขาทรุดร่างไร้พลัง…. ในอกมีบางสิ่งระเบิดออก นางค่อยๆหันกายกลับมา ดวงตาทมิฬคู่นั้นฉับพลันวาบแสงแห่งความเกลียดชัง จ้องมองอาวุโสเทียมฟ้าที่พุ่งเข้ามา

ตั้งแต่นางติดตามเย่หวูเฉิน นางไม่เคยปรารถนาออกห่าง นางใช้มือทั้งสองเป็นเกราะป้องกันให้กับเขา เมื่อมีนาง เย่หวูเฉินคิดสังหารใครแทบไม่ต้องลงมือ ทว่าเมื่อสามปีก่อน นางออกห่างเย่หวูเฉินเพียงไม่นาน กลับเกือบทำให้นางไม่ได้พบกับเขาอีกครั้ง การสูญเสียเย่หวูเฉินในครั้งนั้น นางหวาดกลัว , คาดหวัง , โหยหา , และเกลียดตัวเอง จนในที่สุดเมื่อได้พบกับเขาอีกครั้ง นางสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเขาได้อีก

อย่างเช่นวันนี้ นางยอมขัดขืนคำสั่งของเขา ดีกว่าปล่อยให้เขาอยู่ในสถานที่อันตรายเช่นนี้ต่อ

ทว่าเวลานี้ นางทำได้เพียงมองคนอื่นทำร้ายเขาโดยไม่อาจทำสิ่งใด แม้ว่าคนผู้นั้นจะไม่ตั้งใจ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผล….

ท้องฟ้ามืดดำอีกครั้ง ทว่าแตกต่างจากครั้งก่อน ความมืดนี้ไม่ได้ผสมความรู้สึกอึดอัดจนยากจะหายใจเหมือนทุกครา ทว่ามันรวดเร็วยิ่งจนแสงสว่างดับไป ท้องฟ้ากลายเป็นผืนแผ่นมืดเหมือนหมึกดำ ไร้แสงสว่างใดๆ และไม่อาจมองเห็น

เป็นความมืดโดยสมบูรณ์ ความมืดดำที่ทำลายสิ้นแสงสว่าง ธาตุทมิฬที่สร้างห้วงมิติแห่งความมืดนี้ไร้พลังโจมตีใดๆ ทว่ามันเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นความมืดอันสัมบูรณ์ ดวงตาสูญเสียการมองเห็น ขณะที่ทงซินสามารถอาศัยธาตุทมิฬที่กระจายในทุกแห่ง ระบุตำแหน่งของเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย

ชั่วขณะที่ความมืดสัมบูรณ์เข้าห่อหุ้ม จิตใต้สำนึกของผู้คนได้สั่งให้หยุดนิ่ง อาวุโสเทียมฟ้าลอยค้างอยู่กลางอากาศ สีหน้าเคร่งเครียด นอกจากเสียงเขาก็ไม่อาจมองเห็นสิ่งใด กระทั่งจิตสัมผัสแห่งเทวะยังบอกได้เพียงว่า ในความมืดนี้มีดวงตาน่าหวาดหวั่นมองมาจากที่ไหนสักแห่ง มันจ้องตรึงอยู่ที่ตัวเขา ทำให้ร่างกายและหัวใจเย็นยะเยือกไร้ที่เปรียบ

ความรู้สึกราวกับถูกใบมีดเย็นเชียบจ่อที่ลำคอ พร้อมตัดผ่านคอหอยได้ทุกเวลา

“ทุกคนระวังตัวด้วย!!” อาวุโสเทียมฟ้าตะโกนบอกขณะล่าถอยออกไปไกล พลังทมิฬที่ไร้อำนาจโจมตีเช่นนี้ ทำให้เขาไม่อาจใช้พลังหยกวารีเข้าต่อต้าน ทำได้เพียงสร้างแสงสว่างขึ้นมา ทว่าสำนักจักรพรรดิใต้นั้นอ่อนด้อยเรื่องเวทย์แสง แม้เขาเป็นถึงอาวุโสที่มีพลังขอบเขตเทวะ ก็ยังไม่อาจทำอันใด ทำได้เพียงพยายามหลบหลีกในความมืดเท่านั้น เมื่อถูกมิติมืดกั้นขวาง ในใจยิ่งรู้สึกกดดัน

ชี่ว์!

มีเสียงบางดังขึ้นในหู หากยากยิ่งที่จะได้ยินในความมืด เสียงเล็กๆนี้คือการลั่นของมิติทมิฬ และมันดังขึ้นในหูของทุกผู้คน….

ในโลกที่มืดสนิท ทงซินลอยสูงขึ้นจากพื้นเรื่อยๆ มือขวาของนางยื่นเหยียดออกไป ชี้คมกริชเทพพิโรธแห่งความตายไปเบื้องหน้า ฉับพลันนางหมุนร่างรวดเร็วรุดดุจสายฟ้า ก่อพายุหมุนทมิฬในพริบตา พายุทมิฬฉีกกระชากความมืด ฉีกกระชากมิติให้ขาดออก ฉีกทุกสิ่งที่ต่อต้านมัน นำพาความกดดันแห่งการทำลายล้าง….

“อ้าก!” มีเสียงร้องดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงร้องเจ็บปวดจากการถูกโจมตี และเสียงนี้เป็นของอาวุโสเทียมฟ้า เมื่ออาวุโสปฐพีและฉุ่ยเสวียนฟงได้ยินก็ตกใจ และส่งเสียงตะโกนเรียก “อาวุโสเทียมฟ้า เป็นอะไรมั้ย!?”

เพียงสิ้นเสียงของพวกเขา ภาพตรงหน้าก็สว่างเจิดจ้าขึ้น ผู้คนปวดดวงตาจากแสงสว่างจ้าที่วาบขึ้นในความมืดอย่างฉับพลัน ผู้คนปิดตาลง พร้อมได้ยินเสียงตะโกนกรีดร้องของอาวุโสปฐพีและฉุ่ยเสวียนฟงที่ข้างหู “อาวุโสเทียมฟ้า!!”

สตรีเทพพิโรธและเย่หวูเฉินหายไปจากสายตา ทั้งสองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทว่าตัวตนที่สูงส่งสุดในสำนักจักรพรรดิใต้ อาวุโสเทียมฟ้าผู้แข็งแกร่งสุดได้ร่วงลงจากฟ้า นอนแผ่อยู่บนพื้น ดวงตาเบิกกว้าง ทรวงอกสะท้อนอย่างรุนแรง ทั่วอกและทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยโลหิตที่เกิดจากคมมีด

ทันใดนั้น บนอกของอาวุโสเทียมฟ้าสะท้อนแสงบางอย่าง กริชเทพพิโรธพุ่งออกมาจากอก ดุจดาวตกมันพุ่งไปยังทิศใต้ และหายลับไปในทันที

“เร็วเข้า! สตรีเทพพิโรธพาเย่หวูเฉินไปแล้ว…. ไปไล่ตามพวกมันกลับมา สตรีเทพพิโรธใช้พลังจนหมดสิ้นแล้ว พวกมันย่อมไปได้ไม่ไกล อาวุโสเทียมฟ้าไม่ได้บาดเจ็บตรงจุดสำคัญ เขาย่อมไม่เป็นอะไร” ฉุ่ยหยุนหลันกัดฟันกล่าว ด้วยความสามารถในการฟื้นฟูของพลังหยกวารี และยิ่งเป็นพลังระดับเทวะของอาวุโสเทียมฟ้า ไม่ต้องกล่าวถึงบาดแผลที่เจาะร่างพลาดจุดสำคัญ ต่อให้เจาะถูกจุดตายก็ยังไม่แน่ว่าจะเอาชีวิตเขาได้

“รีบไปเร็ว ชายชราผู้นี้ไม่เป็นไร หากปล่อยให้นางหนีไปได้ สำนักจักรพรรดิใต้ของพวกเขาต้องประสบหายนะครั้งใหญ่แล้ว” อาวุโสเทียมฟ้ากดเลือดที่ทะลักออกจากอก น้ำเสียงยังคงสงบเหมือนเช่นเคย ไร้วี่แววความเจ็บปวดใดๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสังเกตเห็น ว่ามือที่สั่นเทาของอาวุโสเทียมฟ้ากำลังกลายเป็นสีเทาทีละน้อย….

อาวุโสปฐพีและฉุ่ยเสวียนฟงพยักหน้าให้กัน พวกเขาไม่รอช้าอีก ไล่ติดตามไปยังทิศที่กริชเทพพิโรธบินไปด้วยความเร็วสูงสุด เบื้องหลังพวกเขา ยังมียอดฝีมือแห่งสำนักจักรพรรดิใต้ติดตามไปอีกหลายคน

ทงซินพาเย่หวูเฉินบินไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วสูงยิ่ง รีดเค้นพลังเฮือกสุดท้ายในร่างจนถึงขีดจำกัด กระทั่งกริชเทพพิโรธที่เจาะทะลุการป้องกันและฝังอยู่ในอกของอาวุโสเทียมฟ้า นางยังไม่มีเวลาเรียกมันกลับคืน

“ทงซิน….เด็กโง่ เจ้ามาทำไม” เย่หวูเฉินกุมมือและกอดเอวบางนางไว้ ลูบผมนางและกล่าวอย่างอ่อนโยน

ทงซินสีหน้าแตกตื่นน่าสงสาร หันหน้าออกด้านข้าง ดวงตาพร่าไหว

“หากเจ้าเอาแต่ใจอย่างนี้ ไม่ยอมปล่อยให้ข้าอยู่ห่างกาย…. หากวันหนึ่งเจ้าเป็นอะไรไป แล้วข้าจะทำยังไง?” เย่หวูเฉินยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย คู่ดวงตายังพร่ามัว

สีหน้าแตกตื่นของทงซินหายไป นางชิดร่างกับเขา สัมผัสความอบอุ่นจากกาย ขณะที่บินอยู่ร่างนางก็จมลงในอกฉับพลัน นางเงยหน้าขึ้นมองช้าๆ

เย่หวูเฉินประสานแขนสองข้างกอดนางไว้ในอก ทำให้นางหยุดบิน ทั้งคู่ลอยอยู่กลางอากาศ “ทงซิน เจ้าเหนื่อยมากแล้ว หลับพักเถอะ พอเจ้าตื่นขึ้นมาพวกเราจะอยู่ที่บ้านกัน”

น้ำเสียงของเขาเบาบางและอ่อนโยนยิ่ง ทงซินมองหน้าเขาและกระพริบตา ความรู้สึกอ่อนล้าแผ่พุ่งขึ้นฉับพลัน เปลือกตาของนางหนักอึ้ง ในที่สุดนางก็ปิดตาลงช้าๆ

ระหว่างที่นางหลับไป กริชเทพพิโรธที่พุ่งออกจากอกของอาวุโสเทียมฟ้า ในที่สุดก็บินกลับมาถึงนาง

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset