📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 6 ตอนที่ 322

บทที่ 322 - เดิมพัน (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ฉุ่ยอู๋เชวเมื่อได้ฟังก็ดึงชายเสื้อของฉุ่ยเมิ่งฉานเล็กน้อยและถาม “พี่ใหญ่ เขากำลังพูดถึงเงื่อนไขอะไร?”

ฉุ่ยเมิ่งฉานไม่อาจบอกเขาได้ นางสั่นศีรษะบางและถามเย่หวูเฉิน “ท่านต้องการอะไร?”

“เรียบง่ายมาก” เย่หวูเฉินกล่าวตอบ “ข้าอยากให้….องค์หญิงเฟยฮวง หลงฮวงเอ๋อร์ เป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเทียนหลง! โอ้ ไม่สิ ต้องจักรพรรดินี” โดยไม่รอให้ฉุ่ยเมิ่งฉานกล่าวตอบ เขาชิงกล่าวต่อ “อาณาจักรเทียนหลงดำรงมากว่าร้อยปี ยังไม่เคยมีจักรพรรดิที่เป็นสตรีมาก่อน หากองค์หญิงอายุ 16 ปีจะขึ้นเป็นจักรพรรดิย่อมถูกต่อต้านมากมาย เงื่อนไขนี้สำหรับผู้อื่นย่อมยากดุจปีนป่ายสวรรค์ ทว่าสำหรับเทพธิดาฉุ่ยย่อมเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ข้าไม่ทราบคนของท่านแทรกซึมอยู่ในราชวังเทียนหลงมากเพียงใดในตลอดหลายปีที่ผ่านมา รู้เพียงว่า ท่านจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่?”

หลังจากตะลึงเพียงชั่วขณะ ฉุ่ยเมิ่งฉานก็กลับสู่ความสงบ เข้าใจอย่างรวดเร็วถึงเป้าหมายหมายสูงสุดของเย่หวูเฉิน ทั่วหล้าต่างรู้ว่าตระกูลเย่ภักดี แต่เย่หวูเฉินทะเยอทะยานซึ่งนางได้รับรู้ ทว่าเขาไม่อาจใช้อำนาจของตระกูลเพื่อช่วงชิงบัลลังก์ มิเช่นนั้นตระกูลเย่จะถูกโลกนี้หมิ่นหยาม สูญเสียเกียรติยศอันภาคภูมิ ทว่าด้วยสัญญาการหมั้นกับหลงฮวงเอ๋อร์ เขาจะกุมอำนาจอาณาจักรเทียนหลงได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม เพื่อไปถึงจุดนั้น เพียงอาศัยหลงฮวงเอ๋อร์ที่ขึ้นสู่บัลลังก์ก็กระทำได้อย่างนั้นหรือ?

“ท่านต้องการจะลงมือกับหลงหยิน?” ฉุ่ยเมิ่งฉานถาม

เย่หวูเฉินสั่นศีรษะ เผยสีหน้าซับซ้อนจนใจ “ฮวงเอ๋อร์คือภรรยาของข้าที่ยังไม่ได้แต่ง แม้หลงหยินไม่ยอมรับแต่ไม่อาจเปลี่ยนความจริงข้อนี้ได้ อย่างไรเสียหลงหยินก็เป็นบิดาของฮวงเอ๋อร์ และครั้งหนึ่งหลงเจิ้งหยางเคยมีบุญคุณต่อข้า ดังนั้นแม้ข้าอยากลงมือกับหลงหยินแต่ก็ไม่อาจทำได้”

“ท่านไม่อาจทำ ไม่ได้แปลว่าคนอื่นไม่อาจ ตอนนี้ตระกูลหลินเกลียดชังตระกูลหลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ไม่ถึงขบถแต่คงขาดอีกไม่ไกล หายนะของตระกูลหลิน…. ถึงแม้ข้าไม่ทราบว่าท่านใช้วิธีการใด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ย่อมเกี่ยวข้องกับท่าน ท่านอยากฆ่าหลงหยินโดยยืมมือตระกูลหลิน หลังจากหลงหยินตาย ตระกูลเย่ของท่านก็จะกำจัดตระกูลหลินอีกครั้ง สนับสนุนหลงฮวงเอ๋อร์ให้ขึ้นครองอำนาจ ด้วยวิธีนี้ ตระกูลเย่ของท่านไม่เพียงได้กำจัดตระกูลหลิน แต่ยังลบข้อครหาการก่อกบฎ สร้างความชอบครั้งใหญ่ในการช่วยเหลือตระกูลหลง” ฉุ่ยเมิ่งฉานกล่าวออกมาในคราเดียว หัวคิ้วยิ่งขมวดชิดติดกัน ในใจยิ่งมายิ่งรู้สึกอัศจรรย์ เพียงไม่กี่คำของเย่หวูเฉินก็ทำให้นางคิดเรื่องทั้งหมดนี้ได้ในทันที หากหายนะของตระกูลหลินเป็นฝีมือของเย่หวูเฉินจริงๆ เช่นนั้นนี่ก็นับเป็นแผนการอัศจรรย์ที่ฆ่านกหลายตัวได้ด้วยหินหนึ่งก้อน

เวลานี้ นางรู้สึกหวาดกลัวเย่หวูเฉินมากยิ่งกว่าเดิม

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า สมแล้วที่เป็นฉุ่ยเมิ่งฉาน ข้าเพียงกล่าวไม่กี่คำ ท่านก็คิดออกมาได้ถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คงไม่เป็นไรหากจะบอก ที่ท่านเดามานั้นยังไม่ถูกต้อง ทว่าก็ผิดไปไม่ไกล เช่นนั้น เงื่อนไขนี้ท่านจะยอมรับหรือปฏิเสธ?” เย่หวูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม แววตาลึกล้ำเงียบสงบไม่ปิดบังถึงความพึงพอใจ ไม่ทราบว่าเขาพอใจในความหลักแหลมของฉุ่ยเมิ่งฉาน หรือความงดงามดุจเซียนฟ้าของนาง

ฉุ่ยเมิ่งฉานครุ่นคิดขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านอาจสามารถกำจัดหลงหยินได้โดยไร้ตำหนิ แต่ท่านจะให้หลงฮวงเอ๋อร์นั่งบนบัลลังก์ได้อย่างไร นางเป็นเพียงสตรีวัยแรกรุ่น หากนางขึ้นครองบัลลังก์ ไหนเลยจะบัญชาเหล่าขุนนางได้ จะกุมอำนาจได้อย่างไร และผู้คนในอาณาจักรเทียนหลงไหนเลยจะวางใจได้”

“เรื่องนั้นท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ท่านแค่ตอบมาว่าจะตกลงหรือไม่ก็เท่านั้น”

ฉุ่ยเมิ่งฉานลอบชำเลืองมองสีหน้าเขาปราดหนึ่ง ถอนใจบางและกล่าว “ข้าสามารถยอมรับได้แม้กระทั่งเงื่อนไขนั้น ข้าไม่มีเหตุผลใดให้ปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ท่านควรรู้ว่าอาณาจักรเทียนหลงคือเป้าหมายของสำนักจักรพรรดิใต้ หากหลงฮวงเอ๋อร์ขึ้นเป็นผู้ปกครอง นางย่อมตกเป็นเป้าหมายแรก เมื่อถึงเวลานั้น ข้าก็มีอีกคำถามที่สงสัย….คือท่านจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร?”

“ไม่ทราบว่าคนของเทพธิดาฉุ่ยที่แทรกซึมอยู่ทั่วเมืองเทียนหลง เขาเหล่านั้นภักดีต่อท่านหรือไม่?” เย่หวูเฉินถาม

ฉุ่ยเมิ่งฉานคิดเล็กน้อยและกล่าวตอบ “พวกเขาติดตามข้ามายังเมืองเทียนหลงตั้งแต่แรก ใช้เวลากว่าสิบปีรวมอำนาจเป็นหนึ่งอยู่ในมือ สิบปีที่ติดตามย่อมไม่สงสัยในความภักดีของพวกเขา นอกจากว่า….”

“งั้นก็ดี ท่านวางใจได้ว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง สำนักจักรพรรดิใต้พวกนั้นจะสูญสิ้นจิตใจ กระทั่งไม่คิดสนใจเรื่องของเมืองเทียนหลง” เย่หวูเฉินกล่าวราบเรียบอย่างยิ่ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มลึกลับ แฝงความมั่นใจในตัวเองถึงขีดสุด

ฉุ่ยเมิ่งฉานตกใจอย่างหนัก นางกำลังจะเอ่ยปากถามออกไป ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าของเย่หวูเฉินนางก็ต้องหยุดลง

“อย่างไรก็ตาม ท่านไม่คิดว่ายอมรับเงื่อนไขเร็วไปหน่อยหรือ? พลังของสำนักจักรพรรดิใต้พวกท่านสองคนพี่น้องย่อมทราบดี เหตุใดยังเชื่อคนพิการที่แทบไม่อาจหยัดยืนอย่างข้า? ไม่กลัวว่าข้าจะนำพาอันตรายมาตกสู่พวกท่านหรอกหรือ?” เย่หวูเฉินเงยศีรษะขึ้นและถามอย่างมีนัย

“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ เหตุใดท่านถึงเชื่อเขามากนัก? แล้วเงื่อนไขพวกนั้นที่ท่านเพิ่งตกลง มันคืออะไร?” ฉุ่ยอู๋เชวถามด้วยความกังวล ทว่าจากที่เขาเข้าใจในตัวฉุ่ยเมิ่งฉาน นางไม่ใช่คนที่ทำสิ่งใดโดยไม่คิด

“ทั้งหมดนี้คือการเดิมพัน ไม่ว่าแพ้หรือชนะก็จะไม่เสียใจ” ฉุ่ยเมิ่งฉานตอบกลับบางเบา ในใจกระเพื่อมไหวด้วยถ้อยคำสุดท้ายที่ฉุ่ยอู๋เชวกล่าว

“เดิมพัน? ฮี่ๆ ประเสริฐ บางครั้งในชีวิตผู้คนก็ต้องมีการเดิมพัน ในเมื่อเทพธิดาฉุ่ยเชื่อมั่นในตัวข้าเย่หวูเฉิน…. เช่นนั้น ข้าก็อยากขอให้เทพธิดาฉุ่ยช่วยข้าเล็กน้อยสักเรื่องหนึ่ง”

ม่านตางามของฉุ่ยเมิ่งฉานขยับไหวเล็กน้อย เผยให้เห็นความสงสัยของนาง

“จับตัวข้าส่งไปยังสำนักจักรพรรดิใต้ของท่าน” เย่หวูเฉินกล่าวคำช้าๆนำพาฉุ่ยเมิ่งฉานและฉุ่ยอู๋เชวให้ตกตะลึง ดวงตาคู่นั้นของเขาส่งประกายโหดเหี้ยมจนคนหัวใจเต้นรัว เขากำลังจะใช้ชีวิตตนเองเป็นหมากเดิมพัน และเป็นเดิมพันที่ไม่อาจพ่ายแพ้

………………..

………………..

ในคืนเงียบสงบ แสงจากห้องมากมายสะท้อนเรืองรองไปทั้งตระกูลเย่ ในห้องของเย่หวูเฉิน หนิงเสวี่ยกำลังนอนแช่อ่างอาบน้ำอย่างสงบ การที่เย่หวูเฉินช่วยทำความสะอาดทุกส่วนของร่างกาย ถือเป็นความสุขสูงสุดในแต่ละวันของนาง

“ท่านพี่ พี่ทงซินไปไหนเหรอ?” หนิงเสวี่ยปิดตาลงกึ่งหนึ่งอย่างสบายใจ รื่นรมณ์กับความอบอุ่นจากฝ่ามือทั้งสองของเย่หวูเฉิน

“วันนี้นางไปนอนกับพี่หญิง เสวี่ยเอ๋อร์ก็ไปนอนกับพี่หญิงด้วย ตกลงมั้ย?” เย่หวูเฉินจับเท้าน้อยๆของนาง กล่าวด้วยเสียงเบา เท้าเล็กๆนั้นขาวนวลละเอียดมีรูปทรงงาม เช่นเดียวกับหัวไหล่และลำคอเปลือยเปล่าที่เรียบลื่นเปียกชื้นและขาวดุจน้ำนม เขาลูบเล่นอย่างถนอม เกิดความรู้สึกอยากหอมขึ้นมา เพื่อสัมผัสกับรสชาติละมุน

“หืม….ไม่เอาอะ ข้าจะนอนกับท่านพี่….” หนิงเสวี่ยตอบกลับเสียงเบา ผมขาวหิมะสยายประไหล่ไร้ตำหนิที่ขาวดุจหิมะเช่นเดียวกัน หากไม่มองใบหน้านาง ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องอุทานว่านี่คือภูติหิมะ ไร้มลทินจนผู้คนไม่กล้าสัมผัส

“คืนนี้พี่ชายเจ้ามีเรื่องเล็กน้อย ต้องออกไปเพียงไม่นาน เสวี่ยเอ๋อร์อยู่กับพี่หญิงก่อนดีมั้ย? แล้วพี่ชายเจ้าจะรีบกลับมา” เย่หวูเฉินกล่าวอย่างอ่อนโยน

“…….”

“เสวี่ยเอ๋อร์?”

ไหล่ที่โผล่พ้นน้ำของหนิงเสวี่ยปกคลุมด้วยหยดน้ำ ราวกับผลึกส่งประกายระยิบเหนือผิวขาวเนียนงาม นางนอนแช่กายอยู่ในอ่าง นิ่งงันอย่างสงบ คู่ดวงตาปิดไว้เบาบาง จมูกหยกงามขยับไหวตามจังหวะการหายใจ ริมฝีปากชมพูประทับเป็นเส้นบาง

เย่หวูเฉินหยุดมือลง ขยับกายค่อยๆอุ้มหนิงเสวี่ยที่เปียกปอนขึ้นจากอ่าง เช็ดหยดน้ำที่เกาะตามร่างกาย อุ้มนางอย่างอ่อนโยนไปที่เตียง จากนั้นเอาผ้าห่มพันนางไว้อย่างแน่นหนา ยืนอยู่ข้างเตียง มองนางหลับไหลอย่างสงบในภาพน่ารัก ครั้งแรกที่เขาได้เห็นท่าทางการหลับของหนิงเสวี่ยทำให้เขาอบอุ่นใจ ทว่าตอนนี้สายตาเขาซับซ้อนและมัวหม่น

กำลังอาบน้ำอยู่ จู่ๆก็หลับไป

ในอดีตนางมักง่วงนอนอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ง่วงนางจะบอกกับเขาว่า “ท่านพี่ ข้าง่วงแล้ว ขอนอนหน่อย” …. ตอนนี้อาการง่วงนอนของนางรุนแรงถึงขั้นไม่มีเวลาให้เอ่ยปาก จนคล้ายกับนางหมดสติไปอย่างไรอย่างนั้น

แม้จะเห็นไม่ชัดเจน แต่เวลานอนหลับในทุกวันจะเพิ่มขึ้นทีละน้อย หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในอีกไม่กี่ปีให้หลัง นางจะตื่นขึ้นแล้วหลับต่อทันที จนกระทั่ง….หลับไหลลึกตลอดไป

เกิดจากเหตุอะไรกันแน่?

เย่หวูเฉินโน้มกายลงด้วยหัวใจที่เจ็บเสียด อุ้มหนิงเสวี่ยทั้งผ้าห่มไว้ในอ้อมแขน

ประตูที่ปิดอยู่เปิดออกบางเบา เย่หวูเฉินที่อุ้มหนิงเสวี่ยอยู่ก็หันกายมา และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่หญิง”

เย่ฉุ่ยเหยาในชุดฟ้าก้าวมาอยู่เบื้องหน้า ยื่นแขนเนียนนุ่มรับเย่หนิงเสวี่ยจากเขามากอด นางกล่าวเสียงเบา “เสวี่ยเอ๋อร์หลับแล้วเหรอ?”

“นางเพิ่งหลับไปเมื่อครู่ พี่หญิง บอกนางด้วยว่าข้าจะรีบกลับมา” เย่หวูเฉินปกปิดอารมณ์ซับซ้อนไว้ด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลายและมั่นใจ

เย่ฉุ่ยเหยาพยักศีรษะบาง “ระวังตัวด้วย”

นางไม่ห้ามปรามเขา หรือโน้มน้าว หรือกังวลมากนัก ตอนนี้นางไม่เพียงมีเขาเป็นที่พึ่งพิงอันไม่อาจลบเลือน นางยังเชื่อมั่นเขาอย่างโง่งม

“วางใจเถอะพี่หญิง ต่อให้โง่เพียงใดข้าก็ไม่หาที่ตาย ท่านควรกังวลให้พวกมันจะดีกว่า ต่อให้อันตรายแค่ไหนข้าก็ยังมีเซียงเซียง ไม่มีสิ่งใดที่หยุดรั้งข้าได้”

เย่ฉุ่ยเหยาอุ้มกระชับหนิงเสวี่ย ยิ้มบางให้เย่หวูเฉิน แล้วเดินออกไปห่างจากสายตา

เย่หวูเฉินกลับมาที่เตียงและนอนลง ปิดดวงตาทั้งสองข้าง กล่าวคำในหัวใจ “สำนักจักรพรรดิใต้…. ในเมื่อพวกเจ้าไม่ใช่สำนักจักรพรรดิใต้ที่แท้จริง เช่นนั้นการคงอยู่ของพวกเจ้าจึงไม่จำเป็น เตรียมตัวรับของขวัญชิ้นแรก กระบี่หนานฮวงจากข้าให้ดี….”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset