📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 4 ตอนที่ 236

บทที่ 236 - คนไร้ศีลธรรม!
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เมื่อเห็นพวกเขากลับมา กงลั่วก็เข้าไปทักทายทันที เขาตะโกนอย่างตื่นเต้น “น้องหวูเฉิน มีข่าวดี ม่านพลังประหลาดนั่นหายไปแล้ว พวกเราออกไปข้างนอกได้แล้ว”

“ข้ารู้แล้วล่ะ” เย่หวูเฉินตอบ

กงลั่วหัวเราะและกล่าว “ข้ารู้ว่าเจ้ารู้แล้ว เรื่องใหญ่ขนาดนี้ย่อมรู้ได้ไม่ยาก พวกเจ้าเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน คงไม่ทราบชัดว่าพวกเรารู้สึกเช่นไร ตัวข้าอยู่ในนี้มานานกว่า 20 ปี แทบไม่มีซอกมุมใดที่ข้าไม่รู้จัก ข้าคิดฝันมาตลอดถึงข้างนอกนั่น ถึงแม้ไม่อาจเป็นไปได้ที่จะออกไปจากหุบเหวปลิดวิญญาณ แต่เพียงได้เห็นข้างนอกนั่นก็นับว่าดีแล้ว” เขากล่าวคำพูดพร้อมพยักหน้า “อืม….ซานลู่จื่อทำรถเข็นนี้ได้ดีทีเดียว ด้วยเจ้านี่ พวกเราก็วางใจได้เวลาเจ้าไปไหนมาไหน อืม…” เขายื่นศีรษะมาและกระซิบถาม “น้องหวูเฉิน ชุดนั่นเป็นเจ้ามอบให้กับพี่สาวข้าเหรอ?”

คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้เย่หวูเฉินตอบแต่อย่างใด เนื่องจากย่อมไม่มีคนอื่นใดอีกนอกจากเขา กงลั่วไม่รอให้เขาตอบและพยักหน้า “มันดูดีมากและยอดเยี่ยม พอพี่สาวข้าสวมใส่มันลงไป นางดูราวกับนางฟ้า เจ้าลองไปดูสิ”

กงลั่วชี้ไปยังที่ห่างๆตรงที่มีคนจำนวนมากกำลังมุงกันอยู่ มีหนุ่มสาวจำนวนมากพากันมารุมล้อมมองดู แต่ละคนล้วนมีสีหน้าตะลึง ประดุจดั่งเห็นบางสิ่งที่งดงามที่สุดในโลก…. อันที่จริงก็นับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่พวกเขาได้เห็นภาพที่งดงามถึงเพียงนี้

“พี่เอ้อหยา ชุดนี้น้องหวูเฉินมอบให้ท่านหรือ? สวรรค์ ท่านดูงดงามจริงๆ”

“งดงามยิ่งนัก ข้าเองก็อยากได้สักชุดหนึ่ง….”

“สมแล้วที่ท่านปู่เคยบอกว่าพี่หญิงเอ้อหยาเป็นนางฟ้า….”

ผู้คนรายล้อมมีจำนวนมากเกินไป มองจากที่ไกลไม่อาจมองเห็นเอ้อหยาที่อยู่ตรงกลางได้ แต่ย่อมพอจะนึกสีหน้าของนางออก เมื่อถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงชน นางย่อมไม่อาจหนีไปไหนได้ เย่หวูเฉินยิ้มและกลับไปยังห้องของตนพร้อมกับหนิงเสวี่ย ตั้งแต่เมื่อเขามาอยู่ที่นี่ กระท่อมที่แต่เดิมเป็นของกงลั่ว ตอนนี้มันกลายเป็นของเขากับหนิงเสวี่ย ส่วนกงลั่วไปอาศัยอยู่กับชายชรา

โชคชะตานับเป็นสิ่งประหลาด หากไม่ใช่เพราะเขาถูกบีบคั้นให้ตกลงมาจากหุบเหวปลิดวิญญาณและรอดชีวิตมาได้เพราะน้ำตาของหนิงเสวี่ย คันศรบาปวิบัติย่อมไม่อาจปรากฎขึ้นอีกครั้ง และหลังจากที่เขาตกลงมา คันศรบาปวิบัติได้แผ่กลิ่นอายเรียกหา และทำให้เขากลายเป็นเจ้านายของมัน

ความมหัศจรรย์ของโชคชะตา ผู้ใดเล่าจะเข้าใจ กระบี่ตัดดาราและคันศรบาปวิบัติ สองในสามศาตราต้องห้ามแห่งโลกหล้า ทุกอย่างกลายเป็นของ “คนภายนอก” ที่เดินทางข้ามมิติมายังที่แห่งนี้ ทั้งเหตุผลต่างไม่อาจคาดเดา แต่เมื่อเขาเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ย่อมหมายความว่าเขาไร้เหตุผลที่จะปลีกตัวอยู่แต่ในโลกของตน

“หนานเอ๋อร์ เหตุใดกระบี่ตัดดาราถึงต้องการให้ข้าเป็นเจ้านายมัน แล้วทำไมเจ้าถึงได้เรียกข้าตั้งแต่แรก หรือเป็นเพียงเพราะแค่ความรู้สึก?” เย่หวูเฉินเอ่ยถาม เป็นเสียงของหนานเอ๋อร์ที่ทำให้เขาตามหากระบี่ตัดดารา และสำหรับคันศรบาปวิบัติ ก็เป็นมันเองที่ปลดปล่อยกลิ่นอายเรียกเขา ชี้นำทิศทางให้เขาเข้ามา

“มันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งมาก เมื่อสัมผัสได้ว่าเจ้านายกำลังใกล้เข้ามา กระบี่ตัดดาราก็พลันปลุกข้าให้ตื่นขึ้น พอข้ารู้สึกได้ถึงเจ้านายที่เข้ามาใกล้ ข้าไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด จู่ๆก็รู้สึกว่าต้องเป็นเจ้านายเท่านั้น ความรู้สึกนี้เหมือนจริงจนยากบรรยาย สรุปคือมันเป็นความรู้สึกมั่นใจอย่างน่าอัศจรรย์” หนานเอ๋อร์กล่าว ตอนแรกนางเพียงตอบคำถามของเย่หวูเฉินได้แค่ว่า “ข้าไม่รู้” ตอนนี้ดูเหมือนจิตวิญญาณบอบบางดวงนี้ได้ถูกเชื่อมโยงและได้รับการชี้แนะ

“เพียงแต่ข้าสงสัยว่าเหตุใดคันศรเป่ยตี้ถึงอยากได้ท่านเป็นเจ้านายด้วยอีกคน? นี่มันแปลกมากจริงๆ กระบี่ตัดดารากับคันศรบาปวิบัติ ล้วนเป็นดังเช่นจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือ เหนือ-ใต้ต่างเกิดมาเพื่อเป็นศัตรูกัน อย่างไรก็ตาม นี่ย่อมอธิบายว่าเจ้านายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” หนานเอ๋อร์กล่าวพลางหัวเราะ

ยอดเยี่ยม? หากจะยอดเยี่ยมคงเป็นศาตราต้องห้าม เย่หวูเฉินได้ประจักษ์แก่ตาตอนที่สู้กับฟงเฉาหยาง ในเวลานั้น ขณะที่เขาถูกโจมตีหนักหน่วง ด้วยอาการบาดเจ็บภายในร้ายแรง ในจิตใจพลันปรากฎอักขระสีทองสี่คำ “แยกฟ้าผ่าปฐพี” ด้วยพลังที่ต่ำเตี้ยกว่าฟงเฉาหยางไปไกลห่าง เขาเหวี่ยงวาดกระบี่ตัดดาราด้วยกระบวนท่าที่อ่อนด้อยที่สุดใน “สามกระบวนท่าแห่งจักรพรรดิใต้ – แยกฟ้าผ่าปฐพี” มันผ่ากระบี่ตัดวายุและชำแรกร่างของเทพสงคราม ทั้งที่เทพสงครามมีพลังป้องกันเด่นล้ำกว่าพลังโจมตี คมกระบี่ยังตัดร่างและผ่าปฐพีออกราวกับตัดเนยถั่ว

ยามนี้เขามีสองศาตราต้องห้ามอยู่ในมือ หากสามารถใช้ออกซึ่งพลังแท้จริงของพวกมัน ไม่ทราบว่าจะน่ากลัวถึงเพียงใด มันจะมีพลังทำลายล้างทวีปเทียนเฉินหรือไม่?

“แอ๊ด” เสียงประตูไม้ถูกผลักเปิดเบาๆ เงาร่างสีเหลืองอ่อนถือถ้วยยาต้มอย่างดีปรากฎขึ้น เป็นเอ้อหยาที่ก้าวเข้ามาด้วยฝีเท้าแช่มช้า ร่างกายนางเติบโตมากกว่าฮั่วฉุ่ยโหรวผู้บอบบาง ทว่ายังเพรียวบางในชุดสีเหลืองอ่อน กระโปรงประดับด้วยหยกระยับ ขับส่งส่วนโค้งเว้าให้เย้ายวน ณ จุดนี้ เพียงการเปลี่ยนชุดก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นอีกคน ทำให้ผู้คนรู้สึกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นสตรีธรรมดาแค่ไหน ก็จำเป็นต้องแต่งเนื้อแต่งตัว หากเทียบเอ้อหยาในชุดนี้กับชุดก่อน นางดูเจิดจรัสกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า หากจะเรียกนางว่านางฟ้าก็ไม่นับว่าเกินจริง

เอ้อหยาลอบเงยหน้าขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นรอยยิ้มของเย่หวูเฉิน แก้มสองข้างร้อนแดง ทั่วทั้งร่างเกิดความรู้สึกแปลกๆ เพราะชุดนี้เป็นเขาที่มอบให้ หัวใจจึงเต้นรัวเร็วกว่าเก่าอยู่หลายเท่า และชุดนี้เย่หวูเฉินเตรียมไว้ให้ฮั่วฉุ่ยโหรว ดังนั้นเนื้อผ้าจึงนุ่มนวลมาก ทว่าด้วยนางเติบโตกว่า จึงเห็นได้ชัดว่าชุดนี้รัดอยู่เล็กน้อย

เมื่อนางวางถ้วยยาต้มลง เย่หวูเฉินก็ยังคงมองนางอยู่ ราวกับคนสูญเสียจิตใจ สายตาของเขาทำให้หัวใจนางเต้นสั่นระริกคล้ายจะหมดสติลง ในใจปิติยินดี ทว่ายังคงก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมามอง

เสี่ยวโหรวโหรว เจ้ายังสบายดีไหม? หรือเจ้าร้องไห้จนผ่ายผอม ด้วยเป็นเพราะข้าที่วอดวายลง?

เจ้าเป็นสตรีที่ดีเยี่ยม เจ้าควรมีชีวิตที่สุขสมสมบูรณ์แบบ ผู้ใดมีวาสนาได้หัวใจเจ้าไป ไม่ว่าใครย่อมปกป้องดูแลเจ้าทุกวิถีทาง ไม่มีวันปล่อยเจ้าให้ทุกข์ระทม ข้าได้พบเจ้านับว่าสวรรค์เมตตา แต่เจ้าได้พบข้าช่างเป็นฟ้าที่กลั่นแกล้ง

เจ้านั้นเชื่องเชื่อ หากแต่ภายในนั้นยืนกราน ข้ารู้ว่าต่อให้ข้าตกตาย เจ้าก็ไม่มีวันทรยศข้า ปกป้องเกียรติของข้าอย่างโง่งม หากชีวิตเจ้าใช้แลกข้าได้ เจ้าย่อมกระทำทันทีไม่มีลังเล คราแรกเป็นความอ่อนโยนของเจ้า แต่ความงมงายของเจ้าได้พิชิตข้าลง….

เสี่ยวโหรวโหรว จงรอข้ากลับไป….

อารมณ์ในอกยิ่งมายิ่งอบอุ่น มันได้ปลุกกระตุ้นหัวใจ เขาเงยหน้าขึ้นและกล่าวกับเอ้อหยา “ขอข้าจุมพิตท่านสักครั้งได้ไหม?”

หนิงเสวี่ยอ้าปากค้าง สีหน้าตะลึงงัน ส่วนเอ้อหยายิ่งแตกตื่นกับคำพูดนี้ ดวงตาจ้องกว้างรู้สึกสิ้นหนทาง

เย่หวูเฉินยื่นมือออกคว้าแขนของนาง ร่างของเอ้อหยากลายเป็นแข็งทื่อ นางลืมการปัดป้อง จำได้เพียงการก้มศีรษะลง…. มืออีกข้างเชยคางนางขึ้น ขณะที่ดึงนางเข้ามาใกล้ๆ

เอ้อหยาดูคล้ายไม่อาจควบคุมร่าง หากนางไม่เอ่ยคำว่าไม่ เขาก็ย่อมไม่ยอมหยุด นางหลับตาและห่อไหล่ลง เย่หวูเฉินกอดนางและจุมพิตบนหน้าผาก ราวกับผิวสัมผัสใบไม้อันเบาบาง ในจมูกไม่ใช่กลิ่นของฮั่วฉุ่ยโหรว ทว่าในใจกลับปรากฎเป็นเงาของนาง ทั้งยังยากที่จะลบออกไป

“อ๊า!! ทะ ทะ ท่าน….ท่านรังแกพี่สาวข้า!”

น้ำเสียงไพเราะดังมาจากประตู เอ้อหยาผู้โง่งมราวกับถูกไฟช็อต นางผละออกจากเย่หวูเฉินอย่างรวดเร็ว ก้มศีรษะต่ำและวิ่งหนีออกไป ไม่กล้ามองดูซื่อหยาที่ยืนอยู่ตรงประตู ซื่อหยานั้นรวดเร็วอย่างยิ่ง หลังจากที่นางไปจากเย่หวูเฉิน นางไปทางใต้เพื่อทักทายย่าของนาง จากนั้นจึงกลับมายังที่อยู่อาศัย เทียบกับเย่หวูเฉินแล้วนางกลับมาถึงรวดเร็วกว่ามาก เมื่อเย่หวูเฉินกลับมา นางก็มาถึงก่อนแล้วพักใหญ่

เย่หวูเฉินไม่แปลกใจใดๆที่นางมาอยู่ที่นี่ เขาเพียงบ่นเสียดายบรรยากาศที่กำลังไปได้สวย แต่กลับต้องมาถูกทำลายด้วยเสียงของหญิงสาวขายาว

หญิงสาวขายาวก้าวเข้ามาเร่งรีบ นัยน์ตากลมมนจ้องเขม็ง สองมือเท้าสะเอว กล่าววาจาด้วยใบหน้าขุ่นเคือง “ท่านเพิ่งรังแกข้ามา ตอนนี้กลับมารังแกพี่สาวข้า ท่าน….ท่านมันคนไร้ศีลธรรม!”

“อืม ใช่ ข้าเป็นคนไร้ศีลธรรม ดังนั้นการรังแกจึงเป็นเรื่องที่ปกติมาก” เย่หวูเฉินนั่งอยู่บนเตียงขณะยิ้มกล่าว

คำพูดของซื่อหยาถูกปิดกั้นในทันที อกน้อยที่ยังไม่เติบโตเต็มที่กระเพื่อมขึ้นลง ไม่ทราบว่าด้วยความโกรธหรือเหตุผลอื่น ผ่านไปครู่ใหญ่จึงเข่นเขี้ยวกล่าวคำ “ท่าน….คนไร้ศีลธรรม! ต่อไปนี้ข้าจะเรียกท่านว่าคนไร้ศีลธรรม เฮอะ!” นางแค่นเสียง กระทืบเท้าแล้วหมุนกายเดินออกไป

เพียงเดินไปได้หน่อยนึง นางก็หมุนกายกลับมา จ้องด้วยตางดงามและถาม “คนไร้ศีลธรรม เป็นท่านที่มอบชุดให้พี่สาวข้าอย่างนั้นหรือ?”

“เป็นข้า”

“ข้าก็อยากได้เหมือนกัน!”

“….ข้าไม่ให้” เย่หวูเฉินเลิกคิ้วขึ้น ถึงเขาอยากให้ก็ไม่มีชุดให้ หญิงสาวเรือนร่างถึงเพียงนี้เขาไม่เคยเห็นจากสตรีคนใด แม้ว่าเขาจะมีชุดสำหรับลูกสาวหลายตระกูล แต่ก็ไม่มีชุดใดที่หญิงสาวผู้นี้จะสวมใส่ได้

“ท่าน….เหตุใดถึงมอบให้ข้าไม่ได้” ด้วยความกังวลของซื่อหยา นางรีบร้อนจนถามคำถามโง่ๆออกมา

“เพราะข้าเป็นคนไร้ศีลธรรม” เย่หวูเฉินตอบด้วยรอยยิ้ม

“ข้าอยากได้….ถ้าท่านไม่มอบให้ข้า ข้าจะบอกคนอื่นเรื่องที่ท่านแอบส่องข้าอาบน้ำ” ซื่อหยาไม่ยอมแพ้และกล่าวด้วยความโกรธ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset