📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 4 ตอนที่ 230

บทที่ 230 - อบอุ่นหัวใจ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“ท่านปู่ ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรือ?” กงลั่วถามด้วยความกังวล

ชายชราสั่นศีรษะและถอนหายใจบาง “ร่างกายของมนุษย์เหมือนภาชนะที่สามารถเติมน้ำลงไป เมื่อน้ำถูกเติมบรรจุจนเต็ม เมื่อนั้นมนุษย์จะบรรลุระดับสูงสุด ทั้งไม่อาจใส่น้ำเพิ่มลงไปได้อีก อย่างไรก็ตาม หากพลิกภาชนะคว่ำลง มันก็ยังคงมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามผิวข้างและก้นภาชนะ ยากนักที่จะกำจัดน้ำทั้งหมดออกไป พ่อหนุ่ม….น้ำของเจ้าได้เหือดแห้งลง ภาชนะของเจ้าถูกแตกทำลาย แม้ว่าเจ้าจะรักษาชีวิตไว้ได้ราวกับปาฏิหาริย์ แต่ไม่ว่าเจ้าจะเติมน้ำลงไปมากเพียงใด เจ้าก็ไม่อาจกักเก็บน้ำนั้นไว้ได้อีก เหลือเพียงหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามผิวข้างและก้นภาชนะ เจ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่?”

เย่หวูเฉินพยักหน้า สภาพร่างกายของตนเอง เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร

“ท่านปู่ ไม่มีทางอื่นอีกแล้วจริงๆหรือ?” เมื่อได้ฟังปู่กล่าวคำ กงลั่วเอ่ยถามใจเสีย

“พ่อหนุ่ม ดูเหมือนเจ้าจะถูกบีบคั้นให้ต้องรีดเร้นใช้พลังในร่างจนถึงระดับที่น่าตกใจ เจ้าสามารถมายังที่แห่งนี้ได้ นับว่าเป็นลิขิตสวรรค์ หลังจากอาศัยอยู่ที่นี่ของให้เจ้ารู้สึกวางใจ ข้าจะลองหาดูว่ามีวิธีใดบ้างที่พอจะช่วยเจ้าฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับมา จงอย่าได้เกรงอกเกรงใจ” ชายชราตบบ่าของเย่หวูเฉินขณะกล่าวปลอบ เย่หวูเฉินไร้วี่แววหดหู่ใจ มีเพียงใบหน้าซีดขาวอ่อนแอและรอยยิ้มบาง เขาพยักหน้าและลอบคิดว่าผู้คนในโลกแห่งนี้ ล้วนแต่เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ สามารถตายในที่แห่งนี้นับว่าไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจ

“ท่านปู่….” หนิงเสวี่ยตะโกนกล่าว ทันใดนั้น นางก้าวออกมาและคุกเข่าลง “ข้าขอร้องท่าน ได้โปรดช่วยท่านพี่ เพื่อช่วยข้าท่านพี่ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ ได้โปรด….ท่านปู่ได้โปรดช่วยเขา ข้าจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน….”

เมื่อเห็นการกระทำของหนิงเสวี่ย เย่หวูเฉินอยากจะอุ้มนางขึ้นมา หากแต่ในเวลานี้เขาอ่อนแอเกินไป ไร้เรี่ยวแรงที่จะอุ้มนางขึ้นมาได้ ทว่าหนิงเสวี่ยคุกเข่าลงได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็มีพลังอ่อนโยนรั้งนางเอาไว้ หยุดนางไม่ให้คุกเข่าเต็มตัว น้ำเสียงโศกสะอื้นที่เปล่งออกมานั้นสั่นเครือ ไหลซึมเข้าสู่หัวใจของทุกคน ทำผู้คนสลดและสงสาร มีเพียงหัวใจสัตย์ซื่อที่สุดเท่านั้นที่จะเปล่งน้ำเสียงเช่นนี้ออกมาได้ มันสัมผัสจับใจผู้คน

ชายชรากล่าว “แม่หนู อย่าห่วงกังวลเลย ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นที่สุด ถึงแม้อาการของพี่ชายเจ้าข้าเพิ่งเคยพบเจอ แต่มิใช่ต้องไร้วิธีรักษา เจ้ารีบลุกขึ้นก่อนเร็วเข้า”

ชายชราแผ่พลังปราณจากร่าง พยุงหนิงเสวี่ยที่คุกเข่าอยู่กึ่งหนึ่งให้ลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนโยน นี่เป็นครั้งที่สองที่นางคุกเข่าลง ครั้งแรกนางคุกเข่าเพื่อเย่หวูเฉินต่อหน้าปู่หลง อ้อนวอนให้เขาช่วยเหลือพี่ชาย

“ขอบคุณ ท่านปู่” หนิงเสวี่ยกล่าวเสียงแผ่ว

เย่หวูเฉินกอดหนิงเสวี่ยไว้และกระซิบกล่าว “เสวี่ยเอ๋อร์ ต่อไปอย่าได้คุกเข่าให้ใครอีกเข้าใจไหม เจ้าจงเชื่อพี่ชาย พี่ชายเจ้าจะไม่มีวันยอมแพ้ เพื่อเสวี่ยเอ๋อร์ของข้า….เพื่อทำให้โลกหล้าไม่ควรคู่ให้เจ้าคุกเข่า ข้าจะต้องดีขึ้น…..จะต้องดีขึ้น”

น้ำเสียงเขาออกมาจากก้นบึ้งจิตใจ สัมผัสหัวใจของทุกคนรายรอบเช่นกัน นี่คือชายหนุ่มผู้อ่อนแอ ไม่อาจยืนต้านทานแม้กระทั่งสายลมโชยพัด หากแต่ถ้อยคำที่เขากล่าวนั้น กลับไม่นำพาความรู้สึกว่าเขาอวดดีหรือคุกคาม บางคนเริ่มคาดคิดอยู่ในใจ ว่าเขาเป็นบุคคลแบบใดในโลกลึกลับภายนอก และมีบทบาทอิทธิพลแบบใด

เขาอ่อนแออย่างยิ่ง ทว่าร่างลักษณะที่ปรากฎ , ทั้งคำพูดและกิริยา ล้วนเหนือล้ำห่างไกลกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ พวกเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงความสูงส่งบางอย่างจากตัวของเย่หวูเฉิน

“ท่านพี่…. อื้ม! ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องดีขึ้นแน่ๆ เพราะไม่เคยมีสิ่งใดที่ท่านทำไม่ได้” หนิงเสวี่ยยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของนางทำให้ผู้คนรู้สึกยินดีไปกับนาง

ชายชรามองที่เย่หวูเฉินและกล่าว “พ่อหนุ่ม ข้าจะหาทางช่วยเจ้าแน่นอน ทุกคนที่นี่คือครอบครัว หากวันหน้ามีสิ่งใดก็จงอย่าได้เกรงใจ โอ้ ทำความรู้จักพวกเขาเสียสิ”

หลังจากที่ชายชรากล่าวจบ เขาก็หันกายแล้วเดินจาก ผู้คนขยับออกเป็นทางให้เขาโดยพร้อมเพรียง

เมื่อชายชราจากไป ผู้คนก็กลับมาเสียงดังจอแจและล้อมวงเข้าหา แต่ละคนเอ่ยหาเป็นกังวล

“น้องชาย นี่คือ ‘ลูกกลอนกระยาทิพย์’ ที่บรรพบุรุษข้าส่งต่อกันมาหลายชั่วรุ่น เมื่อก่อนลูกชายข้าเคยป่วยหนักแต่ข้าเสียดายไม่คิดเอาให้เขากิน เจ้ารับไปเร็วน้องชาย บางทีมันอาจจะช่วยเจ้าได้” ชายผิวคล้ำ หน้าคล้ำหยิบยาสกปรกออกมาจากอกเสื้อ เขาวางมันลงในมือของเย่หวูเฉิน

“เร็วเข้าพ่อหนุ่มรีบรับเอานี่ไป นี่คือโสมหมื่นปีที่ข้าแอบนำมาจากบ้านโดยที่ไม่มีใครรู้ เคยได้ยินว่ามันสามารถฟื้นฟูคนพิการให้กลับมาเป็นปกติได้ มันสมควรช่วยเจ้าได้” ป้าคนหนึ่งยิ้มกล่าว

“ได้ยินว่าเจ้าตกลงมาจากเบื้องบน เจ้ากระดูกหักตรงไหนหรือเปล่า? นี่คือ ‘กาวประสานหยกแดง’ ที่บรรพบุรุษข้าส่งต่อกันมาหลายรุ่น มันจะต้องช่วยเจ้าฟื้นฟูได้เร็ววันแน่”

“น้องชาย เจ้าวางใจได้และพักฟื้นร่างกายให้ดี ที่นี่จะไม่มีใครรังแกเจ้า ถ้าเจ้าอยากไปที่ไหนบอกข้าต้าหู่ได้ ข้าต้าหู่จะปกป้องเจ้าเอง” ชายผู้มีร่างกายกำยำสั่นร่าง หัวเราะเซ่อซ่าขณะกล่าว

“เอาละๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน อย่าทำให้คนอื่นกลัวสิ” ป้าชุนตะโกนเสียงดัง จากนั้นยิ้มกล่าว “หนุ่มน้อย เดินมาไกลคงจะเหนื่อยมากแล้ว จากนี้เจ้าก็พักที่บ้านของข้า ถัดจากห้องของซานลู่จื่อยังคงว่างอยู่ เจ้าไปพักที่นั่นได้”

กลุ่มคนหนุ่มสาวที่อยู่ด้านนอกวงพากันหัวเราะ สมควรเป็นเพราะป้าชุนที่กล่าวถึงซานลู่จื่อ

“โอ้” สตรีวัยกลางคนอีกคนหนึ่งขัดออกมา “แม่ของซานลู่จื่อ ข้าเคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือไง หนุ่มน้อยคนนี้เป็นแขกจากแดนไกล บ้านของเจ้าสกปรกซกมก หนุ่มน้อย มาพักที่บ้านของข้าดีกว่า ต้าชุนหัวของข้าเพิ่งแต่งกับเอ้อเกาซื่อแห่งบ้านหมีใหญ่ ดังนั้นตอนนี้เลยมีห้องว่าง”

“เจ้ากล่าวอะไรออกมา มีที่ไหนให้คนเข้าไปอยู่ในห้องของหญิงสาว หนุ่มน้อย เจ้ามาบ้านข้าดีกว่า ห้องที่บ้านข้ากว้างขวางและสะอาด เจ้าลูกคนสุดท้องของข้าจะได้มีเพื่อนอยู่ด้วย….”

หนิงเสวี่ยที่อยู่ด้านข้างก็มีคนเข้ามาทักทายเช่นเดียวกัน เด็กหญิงคนหนึ่งอายุราว 5-6 ขวบ สวมใส่เสื้อผ้าหยาบกร้าน ลักษณะราวกับตุ๊กตากระเบื้อง นางวางขนมหวานสองก้อนไว้บนมือหนิงเสวี่ย และกล่าวปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “พี่สาวตัวน้อยอย่าได้เสียใจเลย ที่นี่ไม่มีคนเลวร้าย นี่เป็นขนมหวานที่แม่บุญธรรมของข้าทำให้ ข้าไม่ชอบกินมันเลยเอาให้พี่สาว พี่สาวตัวน้อยจะได้อารมณ์ดีขึ้น”

“พี่สาวตัวน้อย แผลบนหน้าท่านโดนคนเลวทำร้ายเหรอ? ถ้ามีคนเลวมาที่นี่ พวกเราจะบอกพ่อให้ทุบตีพวกมัน”

……………

……………

ผู้คนห่วงใยราวกระแสน้ำอุ่น เย่หวูเฉินพูดไม่ออกด้วยอบอุ่นหัวใจ เขาไม่เคยรู้เลยว่าจะมีสถานที่แบบนี้ซ่อนอยู่บนโลก

เพียงแค่เพิ่งพบกัน พวกเขาไร้การต่อต้าน , ไร้การผลักไส , ไม่มีความคิดมุ่งร้ายใดๆ กลับกันพวกเขาหยิบยื่นความช่วยเหลือเมื่อได้รู้สภาพร่างกายของเย่หวูเฉิน พวกเขามอบยาล้ำค่าที่กระทั่งตนเองยังไม่กล้าใช้ ห่วงใยจริงใจไร้การแสดง ในสายตาของโลกภายนอก พวกเขาทั้งหมดเป็นคนโง่เง่า ทว่าหากคนทั้งโลกโง่เง่าเช่นนี้ โลกทั้งใบคงกลายเป็นสมบูรณ์แบบ

นี่คือโลกอันบริสุทธิ์ ไร้มนทิล , ไร้เห็นแก่ตัว , ไร้ริษยา , ไร้การเหยียดหยัน , ไร้ความหิวโหย , ไร้สงคราม , ไร้ความเสื่อมทราม , ไร้การแย่งชิง เป็นโลกที่ทุกคนโหยหาแต่ไม่มีใครเชื่อว่ามีอยู่จริง วันนี้มันกลับปรากฎอยู่ตรงหน้า

ชื่อของแต่ละคนล้วนแปลกประหลาด ทว่ากลับฟังไพเราะเสนาะหู ในโลกที่ไร้ชื่อเสียงและความร่ำรวย ชื่อก็เป็นแค่คำเรียก ไม่อาจนับว่าดีหรือแย่ ผู้คนเพียงจำชื่อและเจ้าของๆมัน ไม่สนใจถึงความหมาย และไม่มีการหัวเราะหรือล้อเลียน

บางสิ่งได้สัมผัสหัวใจ ดวงตาค่อยๆมองผ่านใบหน้าของแต่ละคน เขายิ้มและเพียงเอื้อนเอ่ยออกมาได้คำเดียว “ขอบคุณ…..”

บางทีสำหรับพวกเขา สิ่งที่ทำอยู่อาจเป็นเพียงเรื่องปกติ แต่สำหรับเย่หวูเฉิน ผู้ประสบชะตาสาหัสมามากมาย ความอบอุ่นเช่นนี้เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาไม่อาจเก็บคำขอบคุณไว้เพียงในใจ

“ฮ่าย อย่าทำแบบนี้อีก” ชายชราที่จากไปเดินกลับมา เขาแหวกผู้คนและเดินเข้ามาหา หลังจากกวาดตามอง เขายิ้มขื่นและกล่าว “พวกเจ้า ตอนนี้ร่างกายของเขาอ่อนแอมาก พวกเจ้าอายุเท่าไหร่กันแล้ว? ไม่รู้หรือไงว่ายาอายุวัฒนะหรือยาศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ไม่อาจช่วยได้ กลับกันมีแต่จะทำให้เขาไม่อาจทานทน กระทั่งธาตุไฟแตกซ่าน พวกเจ้าเอามันกลับไปซะ”

พวกคนต่างผิดหวังและนำยาจากบ้านกลับไป สีหน้าฉายแววละอายที่ไม่อาจช่วยเหลือ ด้วยการประเมินของเย่หวูเฉิน ยาล้ำค่าแต่ละอย่างที่พวกเขานำมาล้วนไม่อาจประเมินค่าได้ เขานึกไม่ออกเลยว่า เมื่อร้อยปีก่อนคนที่ตกลงมายังที่แห่งนี้เป็นผู้คนแบบใด

“ไปๆ ทุกคนแยกย้าย ข้ารู้ว่าทุกคนอยากฟังเรื่องราวของเขาเกี่ยวกับโลกภายนอก ฮี่ๆ ชายชราอย่างข้าก็อยากรู้เช่นเดียวกัน แต่เขาพึ่งเดินทางมาไกล ตอนนี้ร่างกายยังคงเหน็ดเหนื่อย เขาจำเป็นต้องพักผ่อน ไว้ค่อยรอเขาเล่าในเวลายามเย็น ซานหวา พาเขาไปที่ห้องของเจ้า ข้าจะให้เอ้อหยาปรุงยาให้เขา ลองดูว่าจะมีผลสักเล็กน้อยหรือไม่”

“เยี่ยมเลย” กงลั่วตอบรับ เขารีบเข้ามาประคองแขนของเย่หวูเฉิน “ทุกคนกลับไปกันก่อนนะ คืนนี้พวกเรามีเรื่องตื่นเต้นให้ทำแล้ว มาเถอะน้องชายกับน้องสาว พวกเราไปกัน”

ผู้คนแยกย้ายกันไปตามถนน มองดูกงลั่วพาเย่หวูเฉินจากไป พวกเขากระหายที่จะฟังเรื่องราวของโลกภายนอกและเรื่องราวของเย่หวูเฉินโดยแท้จริง

[ปล.พระเอกนี่ชอบมีปัญหากับชื่อคนอื่น ส่วนอันนี้คือความหมายครับ
ซานหวา : เด็กสาม
ซานลู่จื่อ : ลาสาม
ต้าหู่ : เสือใหญ่
ต้าชุนหัว : ฤดูใบไม้ผลิใหญ่
เอ้อเกาซื่อ : หมาสอง
เซียงเจีย : บ้านหมีใหญ่
เอ้อหยา : อีหนูสอง]

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset