📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 4 ตอนที่ 221

บทที่ 221 - เสวี่ยหนี่เทพหิมะ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“หลบหนี?” เหยียนจื่อเมิ่งสีหน้าสลด นางกล่าวด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว “ข้าจะหนีไปไหนได้? ทุกคนในที่แห่งนี้สามารถสังหารข้าได้ในพริบตา ข้าจะหนีพวกเขาพ้นได้จริงๆหรือ? โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ทว่าจะมีที่ใดที่พวกเขาไม่อาจหาเจอ และเขาก็ตายไปแล้ว ยังจะมีผู้ใดให้ข้าได้พึ่งพิง….”

“คุณหนู….” ปิงเอ๋อร์สีหน้าสลดลงอีกคน นางย่อกายลง แนบศีรษะเข้ากับหน้าท้องของเหยียนจื่อเมิ่ง กล่าววาจาดุว่า “เจ้าตัวน้อย เหตุใดเจ้าถึงได้มาในเวลานี้ รู้หรือไม่ว่าเจ้าจะทำให้มารดาของตัวเองตาย….”

“คุณหนู พวกเขาจะไม่ละเว้นเด็กในท้องท่าน หากพวกเขาต้องการสังหาร ไม่ว่าท่านจะอยู่หรือหนีอย่างไรก็ตายอยู่ดี แต่หากพวกเขาคิดให้อภัยท่าน ถ้าท่านหนีและถูกจับตัวกลับมา พวกเขาย่อมไม่ทำร้ายท่าน ฉะนั้น เหตุใดพวกเราถึงไม่ลองเสี่ยงหลบหนี ข้า…. ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะช่วยคุณหนูหนีออกไป” ปิงเอ๋อร์ยืนขึ้นและกล่าวจริงจัง

“ปิงเอ๋อร์ ขอบคุณเจ้ามาก” เหยียนจื่อเมิ่งส่ายศีรษะ “เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้าอยากอยู่คนเดียว”

“ตกลง หากคุณหนูต้องการสิ่งใด ขอให้เรียกใช้ข้าทันที” ปิงเอ๋อร์มองนางด้วยความกังวล จากนั้นเดินออกไปอย่างเบาเท้า

หลังจากที่ปิงเอ๋อร์ออกไป เหยียนจื่อเมิ่งที่อดกลั้นมานานก็น้ำตาไหลร่วง นางกล่าวอย่างอ่อนโยน “ท่านเห็นหรือเปล่า….พวกเรามีลูกด้วยกัน….พวกเรามีลูกด้วยกัน….”

สายลมแห่งความโศกเศร้าพัดมาเป็นคำรบที่สอง ครานี้ไม่มีผู้ใดรบกวนนาง หากแต่ชะตาชีวิตไม่ได้เป็นของตัวนางเอง ราวกับเป็นนักโทษที่รอคอยการลงทัณฑ์

อาณาจักรคุยชุยมีสภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งยังมีหิมะตกน้อยยิ่งในฤดูหนาว อย่างไรก็ตามในยามพลบค่ำ สายลมเย็นได้แผ่วพริ้วมา เหยียนจื่อเมิ่งค่อยๆกระชับผ้าห่ม นอกหน้าต่างนั้นไม่ทราบว่าหิมะตกลงมาเมื่อใด มันค่อยๆหนาขึ้น นางอาจไม่สนใจที่ตัวเองเหน็บหนาว แต่นางไม่อาจปล่อยให้เด็กที่อยู่ในท้องเป็นอันตราย

ม่านความมืดคืบคลาน อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง หิมะยิ่งหนาท่วมทับ แผ่สะท้อนแสงขาวเป็นผืนเดียวในยามราตรี ยามนี้หิมะได้ท่วมหนาสูงราวหัวเข่า

เสียงผลักประตูดังขึ้น เหยียนซีหมิงก้าวเข้ามาสีหน้าไร้อารมณ์ ด้านหลังของเขา ปิงเอ๋อร์ตามมาพร้อมถ้วยน้ำซุปร้อนในมือ เหยียนจื่อเมิ่งหัวใจสะท้านวูบ สายตาจ้องมองพร้อมปกป้องท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว

เหยียนซีหมิงหยุดยืนอยู่ไม่ห่างจากเหยียนจื่อเมิ่ง เขากล่าว “เมิ่งเอ๋อร์ นี่คือยาบำรุงครรภ์ที่แม่หมอเตรียมเอาไว้ให้ เจ้าดื่มมันก่อน แล้วมาทานมื้อเย็นกับข้า” เขาหันศีรษะไปมองปิงเอ๋อร์ ใช้สายตาออกคำสั่งนาง ปิงเอ๋อร์ก้าวเท้าเข้าไปพร้อมยื่นถ้วยน้ำยาในมือ

ยาบำรุงครรภ์? เหยียนจื่อเมิ่งเงยหน้ามองด้วยไม่เชื่อ น้ำยาในถ้วยยังคงร้อนอยู่ สองมือที่ถือถ้วยน้ำยาสั่นเทา ปิงเอ๋อร์ส่งสายตาเจ็บปวดและบอกนาง “อย่า”

“ไม่! ข้าไม่ดื่ม!” เหยียนจื่อเมิ่งปัดถ้วยน้ำยาในมือปิงเอ๋อร์ จากนั้นลงจากเตียง นั่นย่อมไม่ใช่ยาบำรุงภรรค์ หากแต่เป็น….ยาขับเลือด!

“เจ้า….” เหยียนซีหมิงพลันถอดใบหน้าที่สวมอยู่ เผยใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง เขาคว้าตัวเหยียนจื่อเมิ่ง “เจ้าตายไม่ได้ แต่ตัวบัดซบที่อยู่ในท้องของเจ้าจะต้องตาย จะต้องตาย!”

เหยียนจื่อเมิ่งสลัดตัวออกและอ้อนวอน “ซีหมิง ปล่อยข้าไปเถอะ…. ขอเพียงให้ข้าได้ให้กำเนิดเด็กคนนี้ ไม่ว่าเจ้าจะทำกับข้าอย่างไร จะให้เป็นวัวม้าข้าก็ยอม…”

“เจ้าฝันไปเถอะ วันนี้ มันจะต้องตาย ย้า!” เสียงอ้อนวอนของเหยียนจื่อเมิ่งยิ่งทำให้เขาโกรธหนักกว่าเดิม เขาบ้าคลั่งและกำหนัดต่อยเล็งไปที่ท้อง เหยียนจื่อเมิ่งอุทานตกใจ มือสองข้างยกป้องกัน ทว่าไร้เวลาให้หลบหลีก ทันใดนั้น ร่างงดงามมาหยุดอยู่เบื้องหน้า ควบกลั่นพลังทั้งหมดกำหมัดเข้าปะทะกับเหยียนซีหมิง

หมัดสองข้างปะทะเข้าใส่กัน ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของเหยียนซีหมิงกลับไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา เขาจึงปลิวกระเด็นกลับหลัง เป็นปิงเอ๋อร์ที่อยู่เบื้องหน้าตัวสั่นไปทั้งร่าง ทว่าไม่ได้เคลื่อนขยับใดๆ นางพลันโบกมือทำลายหน้าต่างของห้องแล้วตะโกน “คุณหนู ไปเลย! ข้างนอกหิมะกำลังตกหนัก นี่คือโอกาสที่สวรรค์ประทานให้กับคุณหนู ไปเร็ว!”

“ปิงเอ๋อร์….”

“ไปเร็วเข้า!”

“สาวใช้ชั้นต่ำ กลับกล้าทำร้ายข้า” เหยียนซีหมิงลุกขึ้นจากพื้น สีหน้าน่าสะพรึงอย่างยิ่ง ปิงเอ๋อร์กระทำการพลีชีพ บีบบังคับให้เหยียนจื่อเมิ่งตัดสินใจโดยไม่กลัวตาย เหยียนจื่อเมิ่งกัดฟันระงับความเสียใจ กระโดดออกจากหน้าต่างและพรางร่างในหิมะราตรี

ในสำนักจักรพรรดิใต้และสำนักจักรพรรดิเหนือ แม้กระทั่งสาวใช้ ยังมีพลังไม่ด้อยไปกว่าเหล่าผู้นำของสำนักปกติ แต่ทว่าไหนเลยพลังของนางจะเทียบได้กับนายน้อยแห่งสำนักจักรพรรดิเหนือ-เหยียนซีหมิง ปิงเอ๋อร์ทุ่มพลังสุดตัวถึงสามารถต่อยเหยียนซีหมิงที่ใช้พลังกึ่งหนึ่งจนปลิวออกไป เหยียนซีหมิงพุ่งไปทางหน้าต่าง ทันใดนั้น เขาพลันรู้สึกว่าที่เท้าถูกรั้งไว้ด้วยบางสิ่ง เป็นปิงเอ๋อร์ที่กอดเท้าของเขาเอาไว้แน่น นางอ้อนวอน “นายน้อย ได้โปรดปล่อยคุณหนูไปเถอะ….”

“ไสหัวออกไป!” เหยียนซีหมิงเตะเข้าที่ร่างของปิงเอ๋อร์จนกระอักเลือด จากนั้นเขาพุ่งออกไปนอกหน้าต่าง ไล่ตามไปยังทิศทางที่เหยียนจื่อเมิ่งหนีไป

การหลบหนีของเหยียนจื่อเมิ่ง ทำให้ผู้คุ้มกันลับที่ซ่อนตัวอยู่พากันพุ่งมายังทิศทางดังกล่าว เหยียนซีหมิงตะโกน “หลีกไปให้พ้นข้า ในทิศทางนี้ห้ามผู้ใดเข้ามาใกล้!”

เรื่องอื้อฉาวถึงเพียงนี้ เขาย่อมไม่ปล่อยให้ผู้ใดได้รับรู้ ด้วยน้ำเสียงแห่งราชัน ทำให้ผู้คุ้มกันทรงพลังเหล่านั้นลังเลก่อนจะล่าถอยออกไป ในเวลานี้เอง เบื้องหลังของเหยียนซีหมิงบังเกิดลมเย็นขึ้นสายหนึ่ง เขาคว้ามือออกไปด้านหลัง เพียงจับได้แค่ปิ่นปักผมหยกในมือ ทว่าในชั่วพริบตา ขาทั้งสองข้างกลับถูกปิงเอ๋อร์รวบเอาไว้มั่นอีกครั้ง “นายน้อย ถึงแม้คุณหนูจะกระทำผิดต่อท่าน แต่ท่านเป็นผู้ใหญ่มีเมตตา ท่านปล่อยคุณหนูไปเถอะนะ….”

“ไสหัวไปให้พ้นข้า!” เหยียนซีหมิงทุบเข้าใส่ ได้ยินเสียงกระดูกหัก ทว่าแขนคู่นั้นยังกอดขาทั้งสองของเขาเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้หลุดไป เขาขมวดคิ้วแน่นและใช้พลังเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน ในที่สุดก็ซัดปิงเอ๋อร์ให้ปลิวออกไป เขาสูดหายใจเข้า ไล่ตามเหยียนจื่อเมิ่งด้วยโทสะท่วมฟ้า ความเร็วของเขาสูงยิ่ง

หิมะที่ตกหนักทำให้บดบังสายตา อีกทั้งยังช่วยปกปิดกลิ่นอายของบุคคล ทว่าด้วยพลังของเหยียนซีหมิง หิมะที่ตกหนักนี้ไม่อาจนับเป็นสิ่งใด ด้วยการไล่กวดติดตาม ร่างของเหยียนจื่อเมิ่งที่หนีออกมาก่อนพลันปรากฎอยู่เบื้องหน้า หัวใจเขามืดทะมึน ซัดฝ่ามือตรงไปที่ท้องของนาง….ที่เขาต้องการ หาใช่ชีวิตของนางไม่

สัมผัสถึงสายลมเย็นเยียบ เหยียนจื่อเมิ่งพลันหันร่างกลับ เพียงพบว่าถูกฝ่ามือซัดเข้าที่ท้อง ร่างนางปลิวไปราวเกล็ดหิมะ เจ็บปวดที่ท้องร้าวรวดไปทั่วร่างกาย บนพื้นหิมะขาว ปรากฎโลหิตแดงฉานที่กระอักออกมา

“ลูกข้า….” ราวถูกฟาดด้วยท่อนเหล็ก น้ำตาไหลร่วงสุดแสนร้าวราน ดวงตาพลันพร่าเลือน สติดับวูบไปในกลางหิมะ

ใบหน้าหล่อเหลาของเหยียนซีหมิงในที่สุดก็เผยความสุขบิดเบี้ยวออกมา ขณะที่กำลังจะก้าวไปเบื้องหน้า พลันรู้สึกถึงพลังกดดันท่วมทับทะลักทลาย เป็นความเย็นเยียบยิ่งยวด เหยียนซีหมิงพลันแตกตื่น แรงกดดันอันน่าพรั่นพรึง เขาเพียงเคยสัมผัสได้จากบิดาเท่านั้น ทันใดนั้น เขาระเบิดพลังในร่าง ส่งพลังเพลิงแผ่พุ่งไปในอากาศ ผลักสองมือเสือกส่งไปบนฟากฟ้า

ทว่าเมื่อพลังจู่โจมส่งออก พลังเพลิงพลันวับหายไม่อาจเห็น เหยียนซีหมิงเหมือนกับทุ่มต่อยใส่ปุยนุ่น ไม่อาจบ่งบรรยายความปั่นป่วนในร่างกาย ทันใดนั้น ที่เบื้องหน้าปรากฎร่างสีขาว เป็นสตรีทรงเสน่ห์ในชุดหิมะสวมผ้าคลุมหน้า นางยืนอยู่กลางหิมะโปรยปราย ประดุจดั่งเทพแห่งหิมะและน้ำแข็ง บริสุทธิ์จนผู้คนต้องหยุดหายใจ ในชั่วขณะแห่งความตะลึงลาน หญิงสาวก็ยื่นมือขาวหิมะออกวาดในอากาศ

ในชั่วขณะนั้น เหยียนซีหมิงต้องรวบรวมพลังต้านทานอย่างบ้าคลั่ง ทว่าทั่วกายของเขา กลับไร้คลื่นอากาศปั่นป่วน มีเพียงร่างกายที่ค่อยๆหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ….

ติ้ง….

น้ำแข็งเย็นเยียบพลันปรากฎห่อหุ้มร่างของเหยียนซีหมิง ในพริบตาก็ขยายออกหนาหลายเมตร ปิดกั้นเขาเอาไว้แน่นหนา น้ำแข็งนี้ไม่ใช่น้ำแข็งธรรมดา หากแต่เป็นน้ำแข็งที่อัดแน่นด้วยพลังเย็นเยือกเหนือล้ำ กระทั่งเหยียนซีหมิงที่มีพลังขอบเขตสวรรค์ ยังไม่อาจดิ้นรนหลุดออกไปได้ในเวลาสั้นๆ

สตรีผู้นั้นเข้าไปหาเหยียนจื่อเมิ่งที่หมดสติอยู่ แตะสัมผัสใบหน้าของนาง จากนั้นแตะที่ท้อง นางกล่าวเสียงแผ่วเบา “เป็นข้าที่ประมาทถึงได้มาช้าไป….”

นางวาดมือทั้งสองข้าง แสงเย็นเข้าหุ้มร่างของเหยียนจื่อเมิ่ง จากนั้นอุ้มร่างนางขึ้นมา บินขึ้นไปบนฟากฟ้า และหายไปในม่านหิมะไร้ขอบเขต

“ต่อให้ต้องสูญเสียพลังทั้งหมด ข้าก็จะต้องรักษาสายเลือดสุดท้ายของเจ้าไว้ให้ได้….”

เพียงนางจากไปได้ไม่นาน เหยียนต้วนหุนก็พลันพุ่งมาถึงราวกับผีปีศาจ จากนั้นหยุดอยู่หน้าเหยียนซีหมิงที่ถูกแช่แข็ง และในเวลานี้เอง ผิวน้ำแข็งหนาได้ปริร้าว จากนั้นแตกกระจายปลิวว่อน กลายเป็นเศษน้ำแข็งชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหยียนซีหมิงผู้เป็นอิสระหอบหายใจเอาอากาศเฮือกใหญ่ เมื่อมองเห็นบิดา เขาจ้องตามองและกล่าว “เป็นสตรี….ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ข้าไร้พลังใดๆที่จะตอบโต้นาง”

เหยียนต้วนหุนโบกมือ มุ่นคิ้วและกล่าว “ข้ารู้ว่านางคือใคร หิมะที่ตกลงมา ข้าก็คิดอยู่ว่ามันผิดปกติ”

“หรือว่านางคือ….เสวี่ยหนี่?”

“ถูกต้อง มีเพียงเสวี่ยหนี่เท่านั้นถึงจะมีพลังยิ่งใหญ่ปานนี้ได้ หิมะที่ตกลงมาสมควรเป็นฝีมือของนาง เพราะว่าท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา เสวี่ยหนี่จะสามารถผสานกลิ่นอายเข้ากับหิมะได้ ไม่ใช่แค่เพียงเจ้า แม้แต่ข้าก็ยังไม่อาจสัมผัสได้ถึงการบุกรุกของนาง เฮอะ สมแล้วที่เป็นเสวี่ยหนี่ ค้นพบสถานที่แห่งนี้ได้อย่างคาดไม่ถึง สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจก็คือ เสวี่ยหนี่ลงทุนทำถึงขนาดนี้เพียงเพื่อช่วยนางออกไป!” คิ้วของเหยียนต้วนหุนขมวดมุ่นยิ่งขึ้น

“ท่านพ่อ พวกเราไล่ตามไปเร็วเข้า ต่อให้นางคือเสวี่ยหนี่….”

“หากให้เวลาเสวี่ยหนี่ได้เตรียมหิมะไว้มากพอ เมื่อนั้นนางจะไร้ผู้ต้าน เสวี่ยหนี่ในหิมะนั้นไร้เทียมทาน ทุกเกล็ดหิมะจะกลายเป็นศาสตราคมกล้าสำหรับนาง นางไม่ได้ทำร้ายเจ้า ย่อมแปลว่านางไม่ต้องการยั่วยุสำนักจักรพรรดิเหนือของข้า พวกเราไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้นโทสะของศัตรูประเภทนี้ หากเสวี่ยหนี่ต้องการสตรีผู้นั้น ก็จงให้นางพาไป ยิ่งพาไปไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!” เหยียนต้วนหุนกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นหันกายกลับ หากผู้บุกรุกในครั้งนี้เป็นคนอื่น ต่อให้เป็นยอดฝีมือขอบเขตเทวะก็ตาม เขาจะไม่ปล่อยมันให้จากไปได้ง่ายๆ แต่ทว่าฝ่ายตรงข้ามคือเสวี่ยหนี่…. ในดินแดนทางเหนือสุดขั้วของอาณาจักรชางหลาน หนาวเหน็บจนน่ากลัว เย็นจนกระทั่งสามารถบั่นทอนพลังของตัวตนอย่างเหยียนต้วนหุน แต่สำหรับเสวี่ยหนี่กลับเป็นสภาพที่นางสามารถใช้พลังในระดับสูงสุด ต่อให้เป็นสำนักจักรพรรดิเหนือ การจะล่วงล้ำเข้าไปยังต้องจ่ายราคาสาหัส เพียงเพื่อสตรีแพศยาหนึ่งคน สำหรับพวกตนแล้วถือว่าไม่คุ้ม!

เหยียนซีหมิงกัดฟันไม่เต็มใจ แต่ในที่สุดเขาก็ถอยกลับ

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset