📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 201

บทที่ 201
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

41. นอกชายแดน (5)

* * *

ณ ห้องพักของฉันภายในโรงแรม

ขณะกำลังเปิดหน้าต่างไอเท็ม เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมหน้ากากอีกา เสียงเคาะดังมาจากหน้าต่างระเบียง

ก๊อกก๊อก!

32

นี่คือตัวเลขของชั้นโรงแรมที่นักเรียนห้อง 2/0 เช่าเหมา

ปกติแล้วไม่ควรจะมีใครเคาะกระจกของชั้น 32 ในยามวิกาล แต่เรื่องนี้ถูกนัดแนะไว้ล่วงหน้า

“เปิดอยู่ เข้ามาได้เลย”

แอ๊ด!

วังจีโฮเดินเข้ามาหลังจากประตูระหว่างห้องพักกับระเบียง

ไม่สิ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเรียกวังจีโฮได้ไหม

อีกฝ่ายไม่ใช่วัยรุ่น แต่เป็นวังจีโฮในวัยสามสิบ ซึ่งเคยเจอกันในวันคอนเสิร์ตของควอนเจอิน

“รบกวนด้วย”

วังจีโฮในสูทผ้าเซียร์ซัคเกอร์ (Seersucker) ผมเผ้าหวีเรียบแปล้

ถ้าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน คงดูไม่ออกว่าเป็นคนเดียวกับเพื่อนร่วมชั้น

“นายเสร็จแล้ว?”

“ใช่… ไปกันเถอะ”

วังจีโฮอยากจะออกไปทันที แต่ฉันเสนอว่าควรปลอมตัวก่อนออกไป และเขาก็เห็นด้วย

ทันทีที่วังจีโฮมาถึงเฉิงตู ดูเหมือนเขาจะสั่งให้ลูกน้องจองโรงแรมอื่นไว้ คงใช้เพื่อแวะเข้าไปปลอมตัวก่อนไปยังจุดนัดพบ

‘ปลอมตัวให้เรียบร้อยไปเลยดีกว่า… เราไม่รู้ว่าจะมีใครหน้าไหนมาเกาะกระจกเหมือนตอนอยู่อีคารัสอีก’

ถึงวังจีโฮจะหาวิธีแก้ไขได้อยู่แล้ว แต่การเตรียมตัวไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

ขณะยืนบนระเบียงแล้วมองไปรอบๆ วังจีโฮถามฉัน

“ทำไมถึงอยากปลอมตัวก่อนออกไปล่ะ”

“เมื่อคืนวาน ฉันเห็นเงาคนห้อยหัวอยู่นอกหน้าต่างโรงแรมอีคารัส”

“ชั้นบนสุดของอีสต์วิงที่เราพัก? นายเห็นเมื่อไร”

“ตอนที่เดินไปเลานจ์หลังกินข้าวเสร็จ ถ้าไม่ใช่กึมชานซอลก็คงเป็นวังชานซอล บางทีพวกเขาอาจเล่นพิเรนทร์ที่นี่ด้วย… ไม่แน่ว่าตอนนี้กำลังเตรียมตัวแกล้งคนอยู่ข้างนอก เช่นการทำเซอร์ไพรส์ครูจูเก่อแจกอล หรือไม่ก็จุดพลุชุดใหญ่ด้านนอกหน้าต่าง”

วังจีโฮตอบอย่างหนักแน่น หลังจากได้ฟังตัวอย่างพฤติกรรมสุดเพี้ยนของห้อง 2/0

“หลังกินมื้อค่ำเสร็จ… ถ้าสองคนนั้นอยู่ข้างนอก ฉันก็ต้องสัมผัสได้แล้วสิ”

เงานั่นไม่ใช่เด็กห้อง 2/0?

วังจีโฮสัมผัสไม่ได้?

ทีแรกฉันคิดว่าวังจีโฮตรวจพบ แต่ไม่สนใจเพราะไม่ตระหนักถึงอันตราย

“ถ้าเป็นที่นั่น เวลานั้น คนเดียวที่จะเล็ดลอดสายตาฉันได้…”

วังจีโฮทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเปิดเผย

“ใคร?”

“เคยได้ยินสำนวนไหม… นกแอบฟังตอนกลางวัน หนูแอบฟังตอนกลางคืน”

ในคืนที่ฉันเห็นเงา

เจ้าของเงาห้อยหัวคือหนู?

“รีบไปก่อนที่หนูจะไล่ทัน”

คงไม่ตามมาถึงจีนหรอกกระมัง

ไม่สิ ดูจากการตอบสนองของวังจีโฮ มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว

ซู่ว…

เมื่อวังจีโฮช่วยกาง ‘บาเรียพรางตัว’ คลุมเสื้อผ้าให้ ฉันถามย้ำเพื่อความมั่นใจ

“เราจะไปกันยังไง”

“ใช้สกิลกระโดดไง ให้ฉันอุ้มไหม”

“ไม่ล่ะ เกรงใจ”

ฉันตอบโดยไม่แยแสวังจีโฮที่กลับมาแสยะยิ้ม

〈ท่านใช้แสงประทาน ‘เส้นทางเพลเยอร์〉

การ์ดตัวละครที่เคยใช้หลายครั้งในโลกนี้ ลอยขึ้นมาจากปลายนิ้ว

ดวงตาวังจีโฮเปล่งประกายราวกับมองเห็นสิ่งที่ถูกสลักอยู่บนการ์ด

“ฉันใช้สกิลกระโจนของเผ่าเสือได้”

สกิลพื้นฐานของเผ่าเสือ

หนึ่ง – เนตรส่อง

สอง – คำราม

สาม – กระโจน

การ์ดที่ฉันใช้คือแบคโฮกุนร่างติดดีบัฟ แต่แน่นอนว่าใช้สกิลกระโจนได้

“ฮะฮะฮะ! ตามมาให้ทันก็แล้วกัน”

เมื่อวังจีโฮที่หัวเราะชอบใจกระโดดไปยังความว่างเปล่าตรงหน้า บาเรียขนาด ‘หนึ่งตารางคืบ’ ปรากฏขึ้นในอากาศเป็นทางยาวคล้ายขั้นบันได โดยแต่ละแผ่นเว้นระยะห่างระหว่างกันพอสมควร

ท่ามกลางทิวทัศน์ยามค่ำคืน วังจีโฮเหยียบลงบนบาเรียแผ่นแรก

ดูคล้ายกับเขากำลังลอยอยู่กลางอากาศ เพราะบาเรียโปร่งใสมาก อีกทั้งระยะทางก็ยังค่อนข้างไกล

ฉันหยิบไม้เท้าออกมาเผื่อไว้กันเหนียว พลางเรียกใช้สกิล

〈ใช้งานสกิลของตัวละคร ‘กระโจน’ 〉

แล้วก็กระโดดตามวังจีโฮลงไป

ในฐานะมหานครที่มีประชากรกว่าสิบหกล้านชีวิต ทิวทัศน์ยามราตรีของเฉิงตูช่างตระการตา

ขณะฉันนึกชื่นชมทัศนียภาพของตึกระฟ้าในทุกก้าวที่กระโจน ระดับความสูงทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง

ไม่นานก็มาถึงจุดหมาย

“แทบไม่เปลี่ยนไปเลย”

วังจีโฮร่อนถึงพื้น พลางพึมพำกับตัวเองขณะมองไปยังอาคารไม้ทรงวงกลมขนาดใหญ่

รอบอาคารเต็มไปด้วยโคมไฟสีแดงหลักพัน มีทางเข้าสี่ทิศ แต่ละจุดสูงกว่าห้าเมตร

อย่างไรก็ดี แม้ตรงนี้จะมีอาคารสุดอลังการตั้งอยู่ แต่ผู้คนสัญจรไปมากลับไม่มีใครชายตามอง

“ถ้าไม่มีพลังวิเศษจะมองไม่เห็นอาคาร… จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ห้ามคนนอกเข้า แต่มีคนบาดเจ็บบ่อยเพราะความอยากรู้อยากเห็นจนน่ารำคาญ”

วังจีโฮชี้ไปทางประตูสีดำขณะพูด

“‘ตลาดกลางคืน’ จะอยู่ทางทิศเหนือ มิติแห่งนี้เชื่อมต่อกับทางเข้าเต่าดำ… เข้าไปกันเถอะ”

“ตลาดกลางคืน? หมายถึงตลาดโต้รุ่ง?”

“ใช่”

เมื่อวังจีโฮหยุดยืนหน้าประตูสีดำ ลวดลายของเต่าดำปรากฏขึ้นบนประตูพร้อมกับเปิดออก

ฉันมองไม่เห็นด้านใน แต่วังจีโฮก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล

เดินเข้าไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงขับขานบทกลอนดังขึ้นโดยมีพื้นหลังเป็นเสียงพิณ

[ผู้เพิกเฉยต่อการเรียกหาของโอรถสวรรค์, ผู้สถาปนาตนเองว่าเซียนสุรา]

เป็นบทกวีของตู้ฝู่ (Du Fu) หนึ่งในยอดนักกวีชาวจีนผู้เคยอาศัยในเฉิงตู

เมื่อลองตั้งใจฟัง มันคือวรรคหนึ่งซึ่งเขียนถึงหลี่ไป๋ (Li Bai) จาก ‘เพลงแปดเซียนร่ำสุรา’ ที่ตู้ฝู่ประพันธ์ขึ้น

เมื่อนักร้องเปลี่ยนท่อนขับกลอน ทิวทัศน์ตรงหน้าฉันพลิกผันโดยสิ้นเชิง

ผู้คนมากมายร่วงลงมาจากด้านบน ด้านหลังคนเหล่านั้นคือเงาดำนับสิบ

โคมไฟกระดาษสีจำนวนมาก ปรากฏขึ้นกลางอากาศอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ถ้าชอบอะไรก็ซื้อได้เลยนะ”

“ไม่ล่ะ”

ท่ามกลางมิติที่พื้นหลังเป็นเสียงขับขานบทกวี ฉันเห็นพ่อค้าแม่ขายพยายามเรียกลูกค้ากันสุดฤทธิ์

ทุกคนสวมหน้ากาก หลายคนในนั้นมีอวัยวะบางส่วนดูคล้ายสัตว์ร้าย

บางคนแค่ตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศของตลาด แต่ก็มีเผ่าแท้ตัวจริงแฝงอยู่ในกลุ่ม

“นัดพบกันที่นี่?”

“ใช่ เจ้านั่นบอกว่าจะไม่มาเจอถ้าไม่ใช่ที่นี่ ป่านนี้คงรออยู่ในศาลาตรงกลาง”

วังจีโฮชี้ไปทางศาลากึ่งกลางทะเลสาบ

พอมองตามไป ฉันเห็นนักร้องกำลังท่องกวี และนักดนตรีกำลังดีดพิณอยู่ในศาลาเปิดโล่ง

เมื่อเราสองคนข้ามสะพานไผ่ไปถึงศาลา นักร้องหยุดขับขานแล้วคำนับให้วังจีโฮอย่างนอบน้อมโนเวลกูดอทคoม

มือของนักร้องชี้ไปทางประตูสู่ใต้ดิน

“ร้องต่อไปเถิด”

ได้ยินวังจีโฮพูดเช่นนั้น นักร้องยืนตัวตรงแล้วกลับมาร้องอีกครั้ง

เนื้อร้องอาจหายไปกลางคัน แต่คนฟังมิได้ตะขิดตะขวง เนื่องจากนักดนตรียังบรรเลงอยู่

เมื่อเพลงกลับมาร้องต่อ ฉันดื่มด่ำกับมันพลางย่ำเท้าเดินลงไปยังชั้นใต้ดินของศาลา จนกระทั่งได้พบกับทางเดินยาวอยู่เบื้องหน้า

“เต่าดำทุ่มทุนสร้างมาก… เมื่อก่อนตรงนี้ยังเป็นแค่ทางเดินกรวดหิน”

ได้เห็นลวดลายเต่าดำฝังอยู่ในกำแพงผ้าไหมสีดำ วังจีโฮกล่าวชมเชย

ลำตัวคล้ายเต่า แต่หางและคอคล้ายงู ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเต่าดำ

“นี่คือฐานของเต่าดำ?”

“ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ที่นี่สร้างโดยสาวกของผู้พิทักษ์สี่ทิศ อันประกอบไปด้วยเสือขาว มังกรคราม หงส์แดง และเต่าดำ หงส์แดงกับเต่าดำแวะมาพักอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งก็จะเปิดตลาดกลางคืน”

ฉันพอจะรู้ว่าโลกนี้ก็มีแนวคิดของผู้พิทักษ์สี่ทิศ แต่ไม่รู้ว่ามีหงส์แดงกับเต่าดำ เพราะทั้งสองไม่เคยปรากฏตัวในเกม

ตรงข้ามกับความเข้าใจของฉัน หงส์แดงกับเต่าดำปักหลักอยู่ในจีนนี่เอง

“แล้วอีกสองล่ะ”

“มังกรครามย้ายถิ่นฐานนับตั้งแต่ลูกหลานถือกำเนิด ส่วนเสือขาว… เจ้านั่นออกจากคาบสมุทรเกาหลีไม่ได้”

ดูเหมือนว่าผู้พิทักษ์สี่ทิศจะไม่สนิทกันสักเท่าไร

อย่างไรก็ดี เต่าดำซึ่งดูเหมือนจะใกล้ชิดกับเพลเยอร์เจ้าของแสงประทาน ‘จักรพรรดิเพลิง·เทพกสิกรรม’ น่าจะติดต่อกับเสือขาวอยู่

ทันใดนั้น

〈สกิล ‘พลังโชคชะตา’ ทำงาน〉

ฉันได้ยินเสียงจากระบบที่ไม่ได้ยินมานาน

ในเวลาเดียวกัน วังจีโฮที่เดินนำหน้า เกิดชะงักฝีเท้า

“โชอึยชิน… พลังนี้…”

เมื่อลองมานึกดู วังจีโฮเคยพูดว่าเขาสัมผัสถึง ‘พลังโชคชะตา’ ได้ระหว่างการแข่งทัวร์นาเมนต์หมากรุก

‘ทำไมถึงทำงานตอนที่อยู่กันแค่สองคนล่ะ…’

แทนที่จะมัวตั้งคำถามกับสภาพแวดล้อม ประเด็นสำคัญในตอนนี้ก็คือ

เราต้องรับมือกับพลังโชคชะตายังไง?

วาบ!

เมื่อลองมองไปรอบตัวด้วยความระมัดระวัง ฉันเห็นบางสิ่งกำลังกะพริบ

หนึ่งในลวดลายเต่าดำบนผนังผ้าไหมสองฝั่งทางเดิน กำลังส่องแสง

ชี้ไปยังลวดลายดังกล่าว ฉันถามวังจีโฮ

“สัมผัสอะไรจากตรงนั้นได้ไหม”

อาศัยดวงตาเคลือบพลังเวทสีทอง วังจีโฮมองตามปลายนิ้วฉัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

‘…เขาคงสัมผัสได้แค่จังหวะเกิดพลังโชคชะตา’

ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินไปดูเอง

ขณะสัมผัสลวดลายเตาดำที่ส่องแสงด้วยปลายนิ้วเคลือบพลังวิเศษ

ครืน…!

ผนังหินที่ฉาบด้วยผ้าไหมสีดำ เริ่มขยับเขยื้อน

เพียงพริบตาเดียว วังจีโฮมายืนบังฉันหน้าแล้ว

ดูเหมือนว่าเมื่อเห็นผนังหินเปิดออก เขาพุ่งเข้ามากางบาเรียป้องกันไว้ให้

เสียงหนึ่งดังข้ามไหล่วังจีโฮเข้ามา

“ข้ากะว่าจะปล่อยผ่านถ้าประตูไม่เปิด… แต่ดันเปิดเสียได้”

เป็นภาษาเกาหลีอันคล่องปร๋อ

ฉันขยับไปด้านข้างวังจีโฮและเห็นบุคคลในชุดดำคาดผ้าปิดตา

“เต่าดำ เจ้ามาทำอะไรที่นี่”

“เห็นว่าเจ้าเดินทางมาไกล เลยอยากทดสอบอะไรนิดหน่อย แต่ตอนนี้ชักสนใจแขกที่เจ้าพามาด้วยแล้วสิ”

“หืม… ‘ศักดิ์’ ของเจ้าเพิ่มขึ้น?”

“ถูกต้อง เสือขาวกับมังกรครามตัดสินใจดำรงอยู่ในโลกด้วยสถานะเผ่าแท้ แต่ไม่ใช่กับข้าและหงส์แดง ทุกวันนี้พวกเรายังใคร่ครวญอยู่ และการใคร่ครวญทำให้บารมีของเราสูงขึ้น จนพักหลังเริ่มสนทนากับมนุษย์ได้ยากแล้ว”

เบื้องบนของโลกนี้สามารถแทรกแซงโลกได้จำกัด แต่ก็ยังมีอีกหลายทางอ้อมในการแทรกแซง

มีมนุษย์จำนวนไม่น้อยที่จะคลุ้มคลั่งทันทีหากเผลอสบตากับเบื้องบนที่สั่งสมบารมีไว้มาก จึงมีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ระบุว่า เบื้องบนจำเป็นต้องปิดตาก่อนมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์

ไม่ว่าจะเบื้องบนผู้สวมหนังหมีสีขาวบนตาชั่ง หรือไท่ซ่างเหล่าจวิน หรืออาร์เคียที่ฉันเคยเจอผ่านพลังโชคชะตา ต่างก็ล้วนคาดตาเอาไว้มิดชิด

“ข้าลองทำนายดูก่อนที่เจ้าจะมา… หากแขกของเจ้าหาที่นี่พบ ข้าจะยอมปรากฏตัว แต่ถ้าไม่ ก็จะให้เข้าไปพบกับผู้ฝึกพลังวิเศษของจักรพรรดิเพลิง”

“ยุ่งยากจังเลยนะ ทุกวันนี้ก็ยังคิดไม่ตกอยู่อีกหรือว่าจะเลือกฝั่งไหน”

“ชีวิตการเป็นเบื้องบนก็น่าสนใจดี แต่ข้ายังมีพวกเต่าคอยติดตาม และมีมนุษย์ที่ปรารถนาปัญญาของข้า นั่นคือเหตุผลที่ยังใคร่ครวญ”

เต่าดำกล่าวเสียงนุ่มนวลแล้วหันมาจ้องฉัน

“รู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเจ้ายังเอาแต่สวมหน้ากากอีกา”

ฉันพยักหน้ารับ

วินาทีที่เห็นสัญลักษณ์อีกาบนเหรียญในงานประมูลมายา ฉันตัดสินใจสวมหน้ากากอีกามาตลอด

“…อา อีกาเริ่มจับตามองเจ้าแล้ว ระวังตัวไว้ด้วย”

สายตาวังจีโฮที่มองมาจากด้านข้าง มอบความรู้สึกทิ่มแทงรุนแรงเป็นพิเศษ แต่ฉันแสร้งทำเป็นไม่เห็น

“อยากแนะนำให้รู้จักเด็กคนหนึ่ง”

เมื่อเต่าดำสะบัดชายแขนเสื้อ บางสิ่งลอยขึ้นไปในอากาศ

ร่างกายถูกห่อด้วยผ้าไหม สัดส่วนบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นคนผอมบาง

“รับเด็กนี่ไปสิ ข้าบังเอิญไปเจอมาแล้วช่วยเอาไว้”

รับเด็กนี่ไป?

กำลังพูดจาเหลวไหลอะไรอยู่

วังจีโฮชิงตอบกลับไปขณะฉันยังสับสน

“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้…”

“นายรู้จัก?”

“ใช่ นายก็รู้จัก”

แต่เพิ่งเคยเจอกันเองนะ

วังจีโฮแนะนำตัวอีกฝ่ายอย่างสั้นกระชับราวกับอ่านใจฉันออก

“ม๊กอูรัม ห้อง 1/0 ของโรงเรียนแสงเงิน”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset