📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 164

บทที่ 164
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“วันนี้… แดซอกมาโรงเรียนด้วยทรงผมแบบว่า…”

“ที่จริงฉันจะพูดว่า ‘ทรงผมดูแปลกๆ ไปหน่อยนะ’ แล้วปล่อยผ่านก็ได้ แต่พอรู้ว่าเขาวางแผนถ่ายรูปติดบัตรด้วยทรงผมนี้… ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะช่วยน่ะ!”

มินกือรินและควอนเลนาต่างชี้ไปทางหน้าม้าของซงแดซอก

แนวผมที่เรียบเสมอกัน ดูแล้วน่าจะถูกตัดด้วยกรรไกรสำนักงาน

ถ้าจะให้เปรียบล่ะก็ ซงแดซอกดูเหมือนดาราในรายการวาไรตี้ที่ถูกลงโทษให้ไว้ทรงผมประหลาดๆ

แต่มีบางสิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่าทรงผมอันน่าตกตะลึง

‘มองเห็นตาแล้ว…!’

ซงแดซอกเจ้าของใบหน้าอวบอิ่มที่นั่งอยู่ ทุกคนมองเห็นดวงตาของเขาได้ชัดเจน

“ตัดหน้าม้ามันก็ไม่แย่นักหรอก… แต่นายควรไปทำที่ร้านสิ”

“แค่จะตัดหน้าม้า ทำไมต้องถ่อไปถึงร้านด้วย”

“ก็เพราะร้านเค้าตัดหน้าม้าสวยกว่านี้น่ะสิ!”

“ใช่ ปกติแล้วถ้าตัดแค่หน้าม้าจะคิดราคาถูกกว่าตัดทั้งหัว”

มีราคาแบบนั้นด้วยหรือ?

นักเรียนชายต่างทำหน้ามึนงง ส่วนนักเรียนหญิงที่ดูเหมือนจะรู้อยู่แล้ว ต่างผงกศีรษะรับหนักแน่น

“ว่าแต่… เธอไปเอากรรไกรซอยมาจากไหน”

“พกไว้เผื่อฉุกเฉินน่ะ… ผมข้างหน้าของฉันยาวเร็วมาก เผลอแปปเดียวก็ทิ่มตาแล้ว ก็เลยเก็บกรรไกรไว้ในล็อกเกอร์เผื่อวันไหนไม่สะดวกไปร้านทำผมตอนเช้า”

พูดจบ ควอนเลนาอวดหวีอะลูมิเนียมปลายแหลมกับกรรไกรซอย

เฉกเช่นคราวก่อนที่เคยช่วยจัดทรงให้เม็งเฮียวทงกับฉัน ดูเหมือนเธอจะมีเซนส์ด้านทรงผมและชอบการดูแลทรงผมคนอื่น

“รีบตัดสักที โฮมรูมเช้าจะเริ่มแล้ว”

“อื้อ!”

เมื่อซงแดซอกเริ่มบ่น ควอนเลนาอมยิ้มพลางหยิบผ้าคลุมมาพันรอบคอเขา

มันน่าทึ่งที่ได้เห็นดวงตาซงแดซอกก็จริง แต่สิ่งที่น่าทึ่งกว่าก็คือการเห็นเขายอมทำตามคำพูดเพื่อนคนอื่นนอกจากมินกือริน

‘บอกว่าจะถ่ายรูปติดบัตรสินะ คงไว้สำหรับสมัครฝึกงานกับสมาคม’

ซงแดซอกมีเกรดที่ดีตลอดการเรียนในโรงเรียนแสงเงิน ประวัติขาวสะอาดมาก อีกทั้งยังไม่ทำกิจกรรมภายนอก ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ผ่านข้อกำหนดด้านความปลอดภัยได้สบาย

ถ้าไม่เกิดอภินิหารเหนือความคาดหมาย ยังไงซงแดซอกก็จะถูกจ้าง

‘นอกจากนั้น ซงแดซอกยังเชี่ยวชาญเกี่ยวกับดาวเทียมของสมาคมมาก และยังรู้จักแง่มุมอื่นของสมาคมค่อนข้างละเอียด คงตอบคำถามที่สำคัญได้ทั้งหมด และนั่นเป็นแค่ส่วนที่ฉันเห็นจากบทสนทนาภายในเกมกับมินกือริน’

เด็กฝึกงานอาจไม่ถูกมอบหมายให้ทำงานใหญ่ แต่ก็คงเป็นประสบการณ์ล้ำค่าสำหรับชายคลั่งดาวเทียมอย่างเขา

“เงยหน้าขึ้นหน่อย… หยุด! ห้ามขยับจากตรงนี้นะ!”

“แค่ตัดให้มันพอดูได้ก็พอ…”

“ไม่!”

“สุดยอด… เลนาอย่างเจ๋งอ่ะ! ซอยออกมาดูดีมากเลย”

ขณะยืนดูฉากที่การต่อต้านของซงแดซอกไม่เป็นผลแม้แต่น้อย

ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลในตอนแรกย้อนกลับมาเตือนสติฉัน

“แล้วนายมานั่งทำอะไรตรงนี้”

ฉันถามวังจีโฮที่นั่งเหมือนกำลังต่อคิวตัดผม

“ดันเผลอพูดบางอย่างออกไป ก็เลยถูกจับมานั่งน่ะ”

“นายพูดอะไร”

“ผมข้างหนึ่งชอบทิ่มตา คิดไว้ว่าจะตัดนานแล้ว… เธอได้ยินจึงอาสาช่วย”

ทำไมหมอนี่ถึงชอบสร้างงานให้เพื่อนโดยไม่จำเป็น?

ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ตราบใดที่เพื่อนของฉันมีความสุข มันก็เป็นเรื่องดี

“นายควบคุมความยาวเส้นผมเอาเองไม่ได้หรือไง”

“ร่างกายพวกของเราก็เหมือนมนุษย์นั่นแหละ ถ้าปล่อยเอาไว้ผมก็จะยาว… อันที่จริงก็มีวิธีทำให้ผมยาวขึ้นได้อยู่หรอก ด้วยการใช้คลื่นพลังวิเศษกระตุ้นการแบ่งเซลล์ แต่มันยุ่งยากน่ะ”

ระหว่างที่ฟังคำอธิบายของวังจีโฮ ผมหน้าม้าของซงแดซอกถูกซอยแต่งจนเสร็จ

เด็กๆ ต่างประทับใจผมทรงใหม่ของซงแดซอก

“ดีขึ้นเยอะเลย”

“ก่อนหน้านี้ไม่เคยสังเกตเพราะเขาหัวกระเซิง แต่ดูๆ ไปแดซอกก็…”

“เหมือนพวกดาราสมัยฟิล์มขาวดำเลย!”

“ถ่ายรูปติดบัตรเสร็จแล้วขอดูบ้างนะ!”

ซงแดซอกผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายซงมันซอก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหน้าเป็นตาของเพลเยอร์

ใบหน้าของเขาหล่อเหลาตามแบบฉบับคนโบราณคมเข้ม

“เหมาะมากเลย… ขอบคุณนะ!”

“…ขอบคุณ”

ภาพที่ซงแดซอกกลับมาเป็นผู้เป็นคนหลังจากห่างหายไปนาน ทำเอามินกือรินมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ซงแดซอกที่มีความสุขหลังจากเห็นมินกือรินร่าเริง หันไปขอบคุณควอนเลนาอย่างเคอะเขิน

ขณะเพื่อนสมัยเด็กทั้งสองช่วยกันปัดผมออกจากผ้าคลุม ควอนเลนาเดินมาทางฉัน

“ต่อไปเป็นคิวของจีโฮ!”

“ฮะฮะฮะ! ฝากด้วยนะ”

วังจีโฮที่แอบดูฝีมือควอนเลนาเงียบๆ หันหน้าไปทางกระจกพร้อมกับเสียงหัวเราะ

วังจีโฮมักทำผมแสกสัดส่วน 6:4 โดยปล่อยผมด้านหน้าลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ผมฝั่งที่ยาวกว่าแทงตาเขาเล็กน้อย

“หืม…”

ควอนเลนากล่าวขณะบรรจงหวีผมด้านหน้าให้วังจีโฮ

“หน้าผากจีโฮเรียบเนียนมาก คิ้วก็คมเข้มสะอาดสะอ้าน ถ้าหวีเสยไปด้านหลังจะหล่อกว่านะ”

เธอพูดขณะใช้หวีเสยผมให้วังจีโฮ

ควอนเลนามองอยู่สักพักก่อนจะทำหน้าตกใจ

“จีโฮ… ญาติของนายมาที่หอพยัคฆ์สำแดงในวันจัดคอนเสิร์ตของรุ่นพี่ควอนเจอินใช่ไหม? ฉันจำได้ว่าเห็นคนที่หน้าเหมือนนายมาก”

คงหมายถึงเสือเหลืองในร่างสามสิบตอนต้น

วันนั้นเสือเหลืองเสยผมทั้งหมดไปด้านหลัง ควอนเลนาผู้มีสายตาดีคงจดจำเอกลักษณ์ได้

วังจีโฮตอบด้วยสายตาขี้เล่นโดยไม่เสียอาการ

“ไม่มีญาติคนไหนของฉันมาโรงเรียนในวันนั้น…”

“…งั้นหรือ”

วังจีโฮไม่ได้โกหก

ร่างแบ่งภาคไม่ใช่ญาติ แต่เป็นตัวเขาเอง

“ถ้าวันไหนรู้สึกอยากทำ ฉันจะลองเสยผมสักครึ่งหัวดูนะ แต่จะไม่เสยทั้งหัวเด็ดขาด”

“ตกลง! ถ้างั้นฉันขอซอยฝั่งที่ยาวออกนิดหน่อย”

“รบกวนด้วย”

ร่างแบ่งภาคแต่ละร่างต้องทำผมต่างกัน เพื่อสร้างความประทับใจที่แตกต่าง?

…ถ้าเจอคนตาดีแบบควอนเลนาบ่อยๆ คงใช้ชีวิตลำบากแย่

เมื่อวังจีโฮทำผมเสร็จ ซงแดซอกกับมินกือรินกลับมาจากข้างนอกพอดี หัวข้อการพูดคุยจึงเปลี่ยนไป

“ใกล้จะปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว พวกนายมีแผนยังไงกันบ้าง”

“ฉันอยากไปเที่ยวกับทุกคน!”

“ทะเลไหม? ไหนๆ ก็ฤดูร้อนทั้งที”

ได้ยินคำถามของเพื่อน สีหน้าคิมยูรีหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

“ยังไม่ได้อ่านประกาศของสภานักเรียนกันหรือ อีกเดี๋ยวก็ต้องไปทะเลอยู่แล้ว”

“หือ?”

“เพิ่งประกาศเมื่อเช้าเลย”

ซงแดซอกฉายโฮโลแกรม

— ประกาศสำคัญเกี่ยวกับค่ายยุวชนของนักเรียนปีหนึ่ง —

เด็กๆ ที่ได้อ่านประกาศต่างส่งเสียงตื่นเต้น

“เจ๋ง! ฉันอยากไป!”

“ฉันก็อยากไป”

“ฉันจะไปแน่นอน!”

แต่ก็มีบางคนห่อเหี่ยวหลังจากอ่านจบ

“ต้องมีคนเยอะแน่ๆ เลย… ฉันคงไปไม่ได้”

“ที่สถานรับเลี้ยงเด็กมีอาสาสมัครกำลังจะลาออก ทำให้คนไม่พอดูแล ฉันรับปากไว้แล้วว่าจะไปช่วยช่วงปิดเทอม คงไปด้วยไม่ได้”

มินกือรินกับฮันอีพูดด้วยความเสียดาย

ซงแดซอกก็เตรียมจะบอกว่า ‘ฉันไปไม่ได้’ เช่นกันหลังจากได้ยินว่ามินกือรินไม่ไป แต่ถูกฝ่ายหลังชิงพูดตัดหน้า

“ในเมื่อฉันไปไม่ได้ แดซอกก็ต้องไปแทนเพื่อเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง ถ่ายรูปมาเยอะๆ ด้วยนะ เข้าใจไหม”

“…อา”

ซงแดซอกที่ยังไม่ค่อยเป็นมิตรกับเพื่อนในห้องนัก รีบพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายหลังจากได้ยินคำ (สั่ง) ของมินกือริน

“น่าเสียดายที่ทั้งสองคนไปไม่ได้… ยูรีไปได้ใช่ไหม”

เข็มทิศของการสนทนาเบนไปหาคิมยูรีที่ปิดปากเงียบมาตลอดตั้งแต่เปลี่ยนหัวข้อ

“เอ่อ ฉัน…”

“ต้องไปอยู่แล้ว”

ฉันตอบแทนคิมยูรี

“งานสำคัญแบบนี้จะไม่มีหัวหน้าห้องได้ยังไง”

“ใช่! ยูรีต้องไปอยู่แล้ว!”

“ไปชอปปิ้งเตรียมตัวเข้าค่ายกันเถอะ! ถึงฉันจะไปไม่ได้ แต่ก็อยากไปชอปปิ้งกับเพื่อน”

คิมยูรีไม่มีโอกาสพูดแทรกขณะเด็กๆ ในห้องทึกทักกันเอาเอง

ระหว่างที่คิมยูรียืนอยู่หลังกลุ่มเด็กด้วยรอยยิ้มกระอักกระอ่วน ฉันหันไปกระซิบ

“ไม่เป็นไรหรอก ไปเถอะ”

มองใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจของฉัน คิมยูรีถามอย่างลังเล

“จะไม่เป็นอะไรแน่หรือ…”

“แน่สิ”

เธอมองไปทางกลุ่มเพื่อนที่กำลังตื่นเต้น จากนั้นก็หันมาพยักหน้าให้ฉัน

* * *

หลังเลิกเรียน

บุคคลไม่คาดฝันส่งข้อความเข้าดีไวซ์ของฉัน

[คิมชินรก] สวัสดีครับ ท่านอึยชิน

ได้แต่สงสัยว่าลูกหลานเผ่าเสือจอมก่อเรื่องติดต่อหาฉันทำไม

ภาพลักษณ์ที่ทักทายด้วยภาษาคนอย่างสุภาพนอบน้อม ช่างขัดกับวีรกรรมที่เผ่าเสือเล่าให้ฟังเหลือเกินโน!วลกูดoทคอม

[คิมชินรก] ระหว่างคุยกันเมื่อช่วงเช้า เจ้ามังกรรักสนุกนั่นหัวเราะแล้วก็หายตัวไปเลย

[คิมชินรก] ก่อนจะหายตัวไป เขาพูดว่า ‘ข้าจะไปหาผู้มีพระคุณของเจ้า’

[คิมชินรก] มังกรนั่นได้ทำอันตรายท่านโชอึยชินหรือไม่

ดูเหมือนยงเจกอนจะอยู่กับคิมชินรกก่อนมาหาฉัน

…ลับหลังเขาเรียกเราว่าผู้มีพระคุณของคิมชินรกสินะ

[คิมชินรก] ถ้ามังกรนั่นทำท่าจะก่อเรื่อง รีบติดต่อหาผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ

อย่างคิมชินรกจะยับยั้งไม่ได้ยงเจกอนก่อเรื่องได้หรือ?

แต่เนื่องจากไม่รู้ว่าพวกเขาสนิทกันแค่ไหน ฉันจึงไม่กล้าคาดเดา

ข้อความถัดไปก็ไม่ได้มาจากมนุษย์

[แบคโฮกุน] วันนี้จะมีผู้ชม

[แบคโฮกุน] ได้ใช่ไหม

ฉันเคยลากวังจีโฮไปดูมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ถือสา

ไม่มีทางที่แบคโฮกุนจะพาคนประหลาดๆ มาอยู่แล้ว

หากคำนึงจากกลุ่มมิตรสหายของเขา ก็คงไม่พ้นวังจีโฮหรือเสือแดง

[ฉัน] ไม่มีปัญหา

[แบคโฮกุน] ตกลง

ฉันพยายามนึกถึงความเป็นไปได้อื่น แต่ก็ไม่มีชื่อใดผุดขึ้นมาเลย

ช่างเถอะ ยังไงก็ต้องเจอกันตอนไปถึงหอฝึกสีเงินอยู่ดี

ไม่นานฉันก็มาถึงหอฝึกสีเงิน โดยการเดินผ่านทะเลสาบสีครามที่มีบาเรียปัดเป่าคอยกีดขวาง

“ใครคือผู้ชมล่ะ”

แบคโฮกุนเดินออกมารับตามลำพัง

หลังจากตามเข้าไปในหอฝึกก็ยังไม่พบใครอยู่ดี

หรือจะเปลี่ยนใจไม่มาแล้ว?

ขณะกำลังคิดแบบนั้น

บ๊อก!

…เจ้าบ่วง!

เสียงเห่าน่ารักๆ ของเจ้าบ่วงดังมาจากอีกฝั่งของหอฝึก

“เจ้าบ่วง…! มาหาฉันหรือ”

ฉันย่อตัวลงแล้วเหยียดแขนไปรอรับ

ด้วยย่างก้าวเล็กๆ เจ้าบ่วงกระโดดอย่างร่าเริงขึ้นมาบนอ้อมแขน

สุดยอดความน่ารักและน่าเอ็นดูที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็น รวมถึงขนปุยๆ อันอบอุ่นในอ้อมแขน ทำเอาฉันมีความสุขเหนือคำบรรยาย

วันนี้เสน่ห์ของเจ้าบ่วงก็ยังเหลือล้นเหมือนเดิม

เหมือนเดิม?

ฉันพบความไม่ชอบมาพากล

‘ดูเหมือนจะหยุดโตมาสักพักแล้วนะ’

เจ้าบ่วงในตอนที่เจอกันครั้งแรก มีขนาดประมาณสองกำปั้นผู้ใหญ่—ก้อนสำลี

แต่หลังจากฟื้นฟูร่างกาย ขนาดตัวของมันใหญ่จนพอดีนอนบนตักฉัน

แต่หลายเดือนผ่านไป เจ้าบ่วงกลับไม่โตขึ้นเลย

‘ได้ยินว่าปราณศักดิ์สิทธิ์ทยอยฟื้นฟูกลับมาแล้วนี่… แล้วทำไม’

ระหว่างที่ลูบหัวเจ้าบ่วงผู้กำลังกระดิกหางพลางเล่นซน ฉันถามแบคโฮกุน

“นายปล่อยให้เจ้าบ่วงอยู่อย่างอดๆ อยากๆ หรือไง ทำไมถึงไม่โตขึ้นเลยล่ะ”

“…?”

กรร…?

แบคโฮกุนกับเจ้าบ่วงเอียงคอพร้อมกัน

เมื่อลองมานึกทบทวนดู เจ้าบ่วงก็ไม่ได้ผอมกะหร่องสักหน่อย และคนอย่างแบคโฮกุนไม่มีทางละเลยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แน่

ฉันรู้สึกแย่หลังจากตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง

“ฉันผิดเอง… ขอโทษ! เจ้าบ่วงทั้งน่ารักและอวบอ้วนตลอดเวลาอยู่แล้ว!”

บ๊อก!

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ผู้แสนรู้และใจดีรีบให้อภัยความโง่เขลาชั่วขณะของฉัน

“โชอึยชิน สีหน้าของเจ้าตอนนี้…”

แบคโฮกุนมองมาสักพักแล้วพูดบางอย่าง

ตอนแรกฉันคิดว่าคงจะพูดทำนอง ‘เจ้าดูฉลาดน้อยลงนะ’ หรือไม่ก็ ‘ทำไมหน้าตาซื่อบื้อจัง’

“ดูมีความสุขมากทีเดียว”

เป็นประโยคที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ

เขาพูดถูก การได้เจอเจ้าบ่วงทำให้ฉันมีความสุขขึ้น

หันหลังกลับไป แบคโฮกุนพูด

“อีกสิบนาทีจะเริ่มการประลอง”

หลังจากครบสิบนาทีตามที่เขาประกาศ

คั้ง! แคร้ง!

กรร…

ขณะเจ้าบ่วงมองดู ฉันเริ่มปะทะกับ ‘เขี้ยวขาว·ตัดสายฟ้าผ่าอสนี’ ของแบคโฮกุน รวมถึงสองบริวารพยัคฆ์เงาที่เขาอัญเชิญมา

เมื่อการดวลอันดุเดือดดำเนินไป ฉันมิอาจละสายตาจากเขี้ยวขาวอันคมกริบ รวมถึงเขี้ยวยาวๆ ของพยัคฆ์เงา

‘ถ้าไม่ได้ใช้เนตรส่องตรึงไว้ เราจะถูกเล่นงานได้ง่ายมาก แต่การเปิดไว้นานก็เป็นภาระกับร่างกาย… เห็นทีต้องเริ่มอ่านทางพยัคฆ์เงาเพื่อกะจังหวะใช้เนตรแทน!’

ยิ่งเวลาผ่านไป ฉันได้เรียนรู้วิธีประคองสถานการณ์ในกรณีที่ถูกรุม

และไม่ใช่แค่การประคองสถานการณ์

อาศัยการสังเกตแววตาของแบคโฮกุนกับพยัคฆ์เงา รวมถึงกระแสคลื่นพลังวิเศษ ฉันสามารถเดาพฤติกรรมล่วงหน้าได้บางส่วน

‘ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าศัตรูจะเคลื่อนไหวแบบไหน การตอบโต้ก็จะยิ่งง่าย’

หลังจากประลองกับแบคโฮกุนเสร็จทุกครั้ง ฉันจะจำลองการต่อสู้ในหัวซ้ำอีกหลายรอบ

และเมื่อสถานการณ์ที่เคยจินตนาการถึง กำลังเกิดขึ้นจริงตรงหน้า

‘จังหวะนี้แหละ!’

จังหวะที่สองพยัคฆ์เงาหมอบลง เพื่อไม่ให้โดนลูกหลงการฟันของแบคโฮกุน

〈สกิล ‘เนตรส่อง’ ทำงาน〉

พยัคฆ์เงาสองตัวถูกตรึงไว้พร้อมกัน โดยที่ดาบของแบคโฮกุนยังฟันมาไม่ถึง

ด้วยพละกำลังทั้งหมด ฉันเหวี่ยงคราดซ่างเป่าซินจินพร้อมกับเปิดใช้งาน ‘ซี่’

บึ้มมมมม—!

วินาทีที่คลื่นพลังวิเศษปะทุจากปลายคราด

แบคโฮกุนผู้เอาแต่เหวี่ยงดาบใหญ่ด้วยมือข้างเดียวอย่างสบายๆ รีบเปลี่ยนมาใช้สองมือกำดาบแน่น

‘ทำให้ใช้สองมือจับดาบได้แล้ว…!’

แต่ความยินดีมีอายุขัยแสนสั้น

แรงปะทะเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายฉัน โดยมีจุดเริ่มต้นจากสองมือที่ถือคราด

แคร้ง!

คลื่นกระแทกอันเกิดจากคราดซ่างเป่าซินจินกับคมดาบ กำลังสั่นคลอนหอฝึกสีเงินทั้งหลัง

ใบหน้าของฉันพลันบิดเบี้ยวเมื่อต้องเผชิญกับน้ำหนักดาบที่โถมเข้าใส่

‘ที่ผ่านมาออมมือให้ตลอดเลยสินะ…!’

ขณะฉันเกร็งสองมือที่กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้า

บี๊บ!

เสียงจากระบบที่เคยได้ฟังในวันแรกของการมาเยือนโลก ดังขึ้นอีกครั้ง

〈ค่าความชำนาญอาวุธของท่านเพิ่มถึง 100%〉

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset