MasterGU.noted = ชื่อบทจากเว็บนอก -> The Result of Your Choice/ผลลัพธ์ที่คุณเลือก (6)
เสียงดังกล่าวฟังดูเลือนรางกว่าตอนที่ฉันถูกคราดซ่างเป่าซินจินเสียบท้อง
‘คงเป็นเพราะค่าความชำนาญของเรายังต่ำ แต่ว่า…’
โทนเสียงของคราดเก้าซี่ มิได้ฟังดูห่อเหี่ยวเหมือนกับครั้งนั้น
“โชอึยชิน!”
ครูฮัมกึนยองตะโกน
ด้านหลังเอนามีประเภทสัตว์ประหลาดที่กำลังสู้กับฉัน เอนามีประเภทบินเตรียมทำท่าจู่โจม
‘ในที่สุดคราดก็ยอมพูด… เราต้องตอบสนองต่อเสียงนั่น!’
เมื่อฉันตัดสินใจใช้หนึ่งในเก้า ‘ซี่’ ของคราดซ่างเป่าซินจิน
กระแสคลื่นพลังวิเศษสว่างขึ้นตรงหน้า
ซี่คราดซึ่งเคยยิงเป็นเส้นตรงได้อย่างเดียวในตอนที่ซัดใส่ตือหงอเหนง
บัดนี้มันต่างออกไป
เปรี้ยง! เปรี้ยะ—!
ซี่คราดที่พุ่งออกไปจากอาวุธ ทะลวงผลึกวิญญาณของเอนามีสัตว์ประหลาดจนแหลกละเอียด
หลังจากนั้น…
ฟ้าว!
เป็นไปตามความตั้งใจของฉัน กระแสพลังหักเลี้ยวในวิถีโค้งอย่างงดงาม แล้วพุ่งขึ้นไปตัดหัวเอนามีประเภทบิน
ในเวลาเดียวกับที่เกิดเอฟเฟกต์เอนามีถูกกำจัด ข้อความแจ้งเตือนสองบรรทัดถูกส่งเข้ามาในดีไวซ์
เกรดของเอนามีที่ฉันเพิ่งโค่นลงไปคือ SSR และแน่นอนว่าผู้มีผลงานสูงสุดคือ ‘ซูเปอร์โนว่าไร้นาม’
“เกือบเข้าไปยุ่งโดยไม่จำเป็นแล้วสิ”
ฮัมกึนยองยืนชื่นชมภาพตกค้างที่เกิดจากซี่คราด
เป็นอีกครั้งที่ฉันได้ตระหนักถึงอานุภาพของอาวุธเกรด UR
‘…ถ้ายิงลงพื้น ภูเขาอาจหายไปทั้งแถบได้เลย’
เกือบทำลายภูเขาที่อาจารย์ของตัวละครฉันอาศัยอยู่แล้วสิ
ในอนาคตคงต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้
ฉันสาบานกับตัวเอง พลางหันไปมองครูฮัมกึนยอง
มือของเขายังคงจับคันศรไว้แน่น สายตาสอดส่องมองหาอันตรายรอบตัวโดยไม่คุยกับฉัน
“…ครั้งนี้ก็จะไม่ถามผมใช่ไหมครับ”
“ใช่ แต่ก็พอเดาได้น่ะ”
พอเดาได้?
“คงเกี่ยวข้องกับหน้ากากอีกาที่เธอสวมในวันที่ช่วยเม็งเฮียวทง”
ครูฮัมกึนยองให้ความร่วมมือกับทางการอย่างเต็มที่ในคดีเซอไพรส์วันเกิดชเวย็อนทึก ย่อมรู้จักหน้ากากอีกาเป็นธรรมดา
เด็กหนุ่มผู้มีข้อมูลในมือมากมาย, สวมหน้ากากอีกา และมีคราดซ่างเป่าซินจิน
แม้จะสงสัยและเป็นห่วงพฤติกรรมฉัน แต่ครูฮัมกึนยองตั้งปณิธานกับตัวเองแล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายนักเรียน
〈คำเตือน เอนามีกำลังเข้ามาใกล้〉
เสียงจากระบบดึงความคิดฉันกลับมา
ครูฮัมกึนยองก็คงสัมผัสได้ จึงมองไปที่รอยแยก
“มาตั้งใจปราบพวกมันกันเถอะ”
“ครับ”
หลังจากนั้น คราดเก้าซี่ไม่พูดอะไรอีกเลย
แต่ฉันไม่กลัวอะไรแล้ว หลังจากรู้วิธีบังคับทิศทางซี่คราด และด้านหลังก็ยังมีครูประจำชั้นผู้เก่งกาจคอยสนับสนุน
* * *
จากระยะไกล ใครบางคนกำลังเฝ้าดูพฤติกรรมของสองสมาชิกหน่วยป้องกัน—โชอึยชินและฮัมกึนยอง
ซงแดซอกกับมินกือริน
พวกเขาก็สมัครเข้าร่วมปาร์ตี้เช่นกัน แต่เนื่องจากถูกฮงคยุงบ๊กกับฮัมกึนยองคัดค้าน จึงทำได้แค่ดูอยู่ห่างๆ
“เมื่อกี้นายเห็นไหม… นั่นฝีมืออึยชินหรือ”
มินกือริน ผู้เห็นโชอึยชินจัดการเอนามีสองตัวพร้อมกันจากระยะไกล ถามกับซงแดซอก
ได้เห็นใบหน้าหญิงสาว ซงแดซอกรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
‘กือรินคงกำลังคิดว่า ‘สุดยอด เท่มาก ฉันอยากจะวาดภาพนี้!’ อยู่แน่ๆ …’
ช่างบังเอิญ โชอึยชินที่มอบแว่น AR ให้มินกือริน กำลังแสดงฝีมือโดดเด่นอยู่หน้ารอยแยก
แม้ซงแดซอกจะรู้สึกขอบคุณรองหัวหน้าห้องจอมพิรุธ แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่สบอารมณ์นัก
โดยไม่ได้สนใจความงุ่นง่านของอีกฝ่ายเลย มินกือรินยุ่งอยู่กับการร่างภาพในใจ พลางจดบันทึกไอเดียลงบนดีไวซ์ และสลับไปร่างภาพจริงบนสมุดสเก็ตช์
“ฉันจะเริ่มไปโรงเรียนตั้งแต่พรุ่งนี้”
ซงแดซอกโพล่งขึ้นอย่างเหลืออด
และเป็นไปตามที่ต้องการ มินกือรินหยุดวาดกลางคัน แล้วหันมามองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“จริงหรือ”
“ใช่ ฉันจะเข้าร่วมกลุ่มติวของห้องศูนย์ด้วย”
“จริงหรือ”
มินกือรินทำหน้าเหวออยู่สักพัก ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างโดยมีคราบใสๆ ตรงมุมดวงตา
หลังจากดึงความสนใจออกจากรองหัวหน้าห้องจอมพิรุธสำเร็จ ซงแดซอกมีความสุขเมื่อได้เห็นมินกือรินตื้นตันใจ
‘เพราะเขาสัญญาแล้วว่าจะช่วย…’
ขณะลูบฮู้ดที่คลุมศีรษะมินกือริน ซงแดซอกยืนกรานหนักแน่นกับตัวเอง
แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นการตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่เขาก็ทราบดีว่าเด็กห้องศูนย์ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใด
* * *
รอยแยกดันเจี้ยนระดับ SSR บนสันเขาอาชาเหล็กแห่งเขาการี ถูกเคลียร์อย่างไม่ยากเย็น
ไม่ผิดจากที่คาด ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ผลงานอันดับหนึ่งตกเป็นของซองกุกอุน แต่ที่น่าสนใจที่สุดสำหรับฉันคือจิตรกรฮงคยุงบ๊ก
‘เขาใช้พลังวิเศษแบบไหนกันแน่’
จิตรกรฮงคยุงบ๊ก ผู้เดินออกมาในชุดฮันบกสะอาดเอี่ยมไม่ต่างจากก่อนเข้าไป
ชายชรากำลังยิ้มแย้มอย่างผ่อนคลายในท่าสองมือไพล่หลัง
สภาพของเขาดูต่างจากคนอื่นที่มีร่องรอยความยากลำบาก บางคนถึงกับเสื้อผ้าขาด
โดยเฉพาะคเยอีดัมที่เสื้อผ้ามีฝุ่นจับหนา บ่งบอกว่าเขาต้องผ่านช่วงเวลาล้มลุกคลุกคลาน
“หลานของพี่ซองกับเด็กๆ โรงเรียนแสงเงินขยันขันแข็งกันมาก… และยินดีกับกุกอุนด้วยที่ทำผลงานได้เป็นอันดับหนึ่ง”
“ขอบคุณมากครับ เป็นเพราะท่านจิตรกรเสียสละให้ต่างหาก”
“ถ่อมตัวเกินไปแล้ว เฮะเฮะเฮะ!”
ซองกุกอุนคงไม่ได้พูดเพื่อเอาใจ
ฮงคยุงบ๊กคงปล่อยให้เขาทำผลงานจริงๆ
“อึยชิน นายจัดการทั้งหมดนี่เลยหรือ… สุดยอด”
ซองซีวานที่ตรวจสอบประวัติการฆ่า กล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“แค่โชคช่วยน่ะครับ”
“โชคช่วยแล้วยังไง ไม่มีใครสนเรื่องนั้นหรอก! จัดการทั้งหมดนี้ได้ก่อนที่พวกเราจะเคลียร์รอยแยกเสร็จ… เร็วมากเลย ใช้เวทมนตร์หรือ”
“ถ้าใช้เวทมนตร์จะติดปัญหาด้านระยะเวลาร่าย คงยากที่จะทำสถิติแบบนี้ได้นะ”
เลขาส่วนตัวของซองกุกอุน—จอนมูยองช่วยวิเคราะห์
‘จอนมูยองสนใจเวทมนตร์สินะ…’
เนื่องจากเชี่ยวชาญภารกิจลอบเร้นเป็นหลัก พลังโจมตีของจอนมูยองจึงไม่สูงนัก
เขาคงศึกษาเวทมนตร์เพื่อชดเชยจุดอ่อน แต่ดูเหมือนว่าจะติดกำแพงอุปสรรค
“เฮะเฮะ…”
“ถ้าไม่ใช่เวทมนตร์… ก็ต้องเป็นการโจมตีกายภาพ…”
ขณะสายตาแฝงความกดดันเริ่มสาดมาหาฉัน
ซองซีวานตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศ
“อีดัม พวกเราจะหย่อนยานไม่ได้แล้วนะ! ไม่งั้นถูกรุ่นน้องแซงเอาแน่!”
“…”
คเยอีดัมยังคงเงียบจนถึงที่สุด
ปาร์ตี้จู่โจมรอยแยกดันเจี้ยน SSR ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์
ก่อนจะแยกย้าย
ฉันเข้ามานั่งในรถคันที่มีซองกุกอุนและจอนมูยอง
พวกเขาชวนขึ้นรถเพราะฉันมีบางสิ่งอยากจะพูดด้วย
สิ่งที่พูดต่อหน้าคนอื่นไม่ได้
‘…ดูธรรมดาแค่ภายนอกสินะ’
ตรงข้ามกับการตกแต่งภายนอกที่ดูเหมือนรถท้องถิ่นราคาถูก ด้านในถูกบุด้วยโลหะต่างโลก
สามารถป้องกันการโจมตี ลอบสังหาร หรือแม้กระทั่งดักฟัง
โบราณกล่าวไว้ว่า รถก็เหมือนกับเจ้าของ และรถคันนี้ก็เหมือนซองกุกอุนจริงๆ
“ได้คำตอบแล้วหรือ? ไม่ต้องรีบตัดสินใจนักก็ได้ ฉันไม่ได้เร่ง”
“ผมมาเพื่อบอกเรื่องอื่น”
“พูดมาสิ”
…สีหน้าแบบนี้ คงเดาว่าเรามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเผ่าแท้ที่เพ่งเล็งคาบสมุทรเกาหลี
ที่จริงก็เกี่ยวล่ะนะ เพียงแต่ไม่ใช่ทางตรง
“ในห้องบอสของซิมูเลเตอร์รุ่นเก่า… ผมเห็นไม่เหมือนคนอื่น”
“ไม่เหมือนคนอื่น?”
ซองกุกอุนกับจอนมูยองหันมาจ้องหน้าฉัน
คำนึงจากสีหน้า พวกเขาคงยังไม่มีข้อมูลของเบาะแสที่ฉันได้รับผ่านพลังโชคชะตาโน!วลกูดoทคอม
ฉันอธิบายทุกสิ่งที่เห็นไปตามจริง โดยข้ามแค่ในส่วนพลังโชคชะตา
ทั้งความจริงที่ว่า ‘เขาคนนั้น’ ไม่เชื่อใจเผ่าแท้และลูกหลาน อีกทั้งยังซ่อนเบาะแสไว้ในโรงเรียนเก่าเพื่อความปลอดภัย
รวมถึงภาพอีมูกีสู่สวรรค์
“จากคำบอกเล่าของจิตรกรฮงคยุงบ๊ก คนที่ขอให้วาดรูปนั้นคือปู่ของรุ่นพี่ โดยกำกับเงื่อนไขในการวาดไว้บางส่วน”
ฉันลงลึกรายละเอียด รวมถึงเงื่อนไขปลีกย่อยที่ฮงคยุงบ๊กแจกแจงให้ฟัง
“…เพิ่งรู้ว่าภาพอีมูกีสู่สวรรค์มีเบื้องหลังแบบนี้ด้วย”
“จะให้ผมแทรกกำหนดการไปเยือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติไหมครับ”
“ฝากด้วย”
ซองกุกอุนดูร้อนใจอยากจะเห็นมันทันที
“ว่าแต่… ในห้องบอส… ทำไมนายถึงเห็นต่างจากคนอื่นล่ะ”
ฉันไม่ตอบ
จะให้เล่าเรื่อง ‘พลังโชคชะตา’ ก็คงไม่ได้
ซองกุกอุนจ้องหน้าฉันที่เอาแต่เงียบ
เขาครุ่นคิดสักพักแล้วพูดออกมา
“หรือจะใช้พลังที่เล่าไม่ได้…? ช่างเถอะ ถึงฉันจะอยากรู้เดี๋ยวนี้ แต่ไว้ค่อยไปถามจากท่านจิตรกรเอาก็ได้”
ซองกุกอุนตอบสนองในแบบที่ฉันหวัง
…ที่เราตัดสินใจบอกเรื่องนี้ ก็เพราะเพิ่งมั่นใจว่าซองกุกอุนสนิทกับฮงคยุงบ๊ก
และฝ่ายแรกคงอ่านความคิดฉันออก
“ดูแล้วนายจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีได้… หลังจากนี้ก็ฝากด้วยล่ะ คุณรุ่นน้อง”
ป้าบ!
ซองกุกอุนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พลางใช้มือตบหลังฉันอย่างแรง
แม้จะไม่ได้รู้สึกแย่ เพราะอย่างน้อยตัวละครของฉันก็มีความสุข แต่มันก็เจ็บอยู่นิดหน่อย
ว่าแต่ ‘เพื่อนร่วมงานที่ดี’ ?
‘ไหนบอกไม่เร่งให้ตัดสินใจไง…’
ซองกุกอุนเหมารวมไปแล้วว่าฉันตอบตกลง
* * *
เช้าวันจันทร์
หลังจากการฝึกช่วงเช้า, ระหว่างทางไปห้องเรียน
ฉันตรวจสอบข้อความในห้องแชตของจางนัมอุกกับอูซังฮุน
[อูซังฮุน] ??
อูซังฮุนใช้เครื่องหมายคำถามสองอัน!
คำนึงจากการที่เขาพิมพ์ยาวกว่าปกติถึงสองเท่า ดูท่าคงเป็นห่วงจางนัมอุกอยู่ไม่น้อย
แต่จางนัมอุกยังคงไม่ตอบสนอง
ไม่ได้ขึ้นว่าข้อความถูกอ่านด้วยซ้ำ
‘ชักไม่ปกติแล้วสิ…’
ขณะฉันคิดว่าควรทำอย่างไร หากต้องการรับรู้สถานการณ์ของฝั่งจางนัมอุก
“ไปฮงชอนคราวนี้คงมีอะไรให้ทำเพียบเลยสินะ ฉันเห็นชื่อ ‘ซูเปอร์โนว่าไร้นาม’ จัดการเอนามีไปหลายตัวเชียว”
วังจีโฮเดินเข้ามาหาฉัน
ตรงนี้คือถนนเชื่อมระหว่างเขตหอพักกับย่านอาคารเรียนปีหนึ่ง
หมายความว่าอีกฝ่ายที่มาจากคฤหาสน์ซึ่งต้องผ่านประตูหน้า คงมายืนรอฉันนานแล้ว
…ว่างนักหรือไง ถึงได้ไล่อ่านประวัติการลงรอยแยกในวันอาทิตย์
“นายไม่มีงานทำหรือ”
“…ช่วงสุดสัปดาห์ฉันก็ยุ่งเหมือนประธานคนอื่นๆ นั่นแหละ มีหลายสิ่งต้องจัดการ โดยเฉพาะปัญหาด้านบุคลากร”
ปัญหาด้านบุคลากร?
คงมีใครสักคนถูกไล่ออก เปลี่ยนตำแหน่ง หรือไม่ก็จ้างใหม่
“นายคงรู้จักพวกเขาดีอยู่แล้ว ทุกคนเกี่ยวข้องกับห้อง 1/0”
วังจีโฮพูดพลางยื่นคางไปยังทิศฝั่งตรงข้าม
บนทางเดินไปสู่ตึกปีหนึ่ง
มีชายชราในชุดฮันบกยืนอยู่สองคน
“ท่านจิตรกรอย่ามัวยึดติดกับตำแหน่งผู้ช่วยครูประจำชั้นห้อง 1/0 อยู่เลย อีกเดี๋ยวก็คงมีงานที่ชมรมศิลปะล้นมือแล้ว!”
“เฮะเฮะ… น้องทักนั่นแหละที่ควรปล่อยวาง อีกไม่นานบรรดาชมรมสายต่อสู้คงติดต่อมาเพียบแน่”
“ท่านมีจิตรกรมินเป็นศิษย์อยู่แล้วไม่ใช่หรือ… เด็กที่มีแววจะเป็นศิษย์ของผมน่ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ติดต่อกลับมา…”
“เด็กที่มีแววจะเป็นศิษย์? นึกแล้วเชียวว่ามันแปลก ที่คนนิสัยอย่างนายอยู่ๆ ก็นึกอยากเป็นครูขึ้นมา… ศิษย์คนนั้นไม่ติดต่อไปหา ก็เลยต้องถ่อมาถึงที่นี่เอง?”
“ใช่ครับ ท่านจิตรกร! ผมถึงต้องเป็นผู้ช่วยครูประจำชั้นให้ได้ไง!”
จิตรกรฮงคยุงบ๊ก กับผู้บำเพ็ญตบะทักกำลังยืนโต้เถียงกัน
‘ผู้บำเพ็ญทักน่ะเข้าใจได้ เดิมทีเขาก็เป็นครูกิตติมศักดิ์อยู่แล้ว… แต่คิดไม่ถึงว่าฮงคยุงบ๊กจะเอากับเขาด้วย อยากเป็นครูประจำชั้นเพราะเป็นห่วงมินกือรินกับซงแดซอกหรือไง’
สองปรมาจารย์กำลังเถียงกันเพื่อแย่งตำแหน่งเล็กๆ อย่างผู้ช่วยครูประจำชั้นห้อง 1/0
ทันใดนั้น ใครบางคนเดินเข้าไปใกล้สองอาวุโสแล้วแทรกบทสนทนา
“ผู้ช่วยครูประจำชั้นห้อง 1/0 คือข้าต่างหาก”
ยงเจกอนโผล่ขึ้นมาอย่างปุบปับราวกับสายลม
ดูท่าเผ่ามังกรนิสัยเพี้ยนผู้รักความบันเทิงรายนี้ จะร่วมวงแก่งแย่งตำแหน่งผู้ช่วยครูประจำชั้นกับเขาด้วย
“ใคร! …ด…เดี๋ยวนะ นี่มันมังกร!”
“เฮะเฮะ…”
ผู้บำเพ็ญทักและจิตรกรฮงคยุงบ๊กต่างปิดปากเงียบ หลังจากพบว่าอีกฝ่ายคือมังกรอายุหลายพันปี
ดูท่า ‘ปัญหาด้านบุคลากร’ ในช่วงสุดสัปดาห์ จะรวมถึงการแต่งตั้งยงเจกอนเป็นผู้ช่วยครูประจำชั้นห้องศูนย์
ยงเจกอนที่สังเกตเห็นฉันกับวังจีโฮ หันมาโบกมือให้
ฉันทักทายกลับ
“…สวัสดีครับ ครูมาเช้าจังเลยนะ”
“วันแรกของการเป็นผู้ช่วยครูประจำชั้นทั้งที ต้องมาเช้าหน่อยสิ… แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ ‘ห้องของเรา’ จะวุ่นวายผิดปกตินะ”
ยงเจกอนจงใจใช้คำว่า ‘ห้องศูนย์ของเรา’ ต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งสอง
มังกรตัวนี้อาจมีนิสัยประหลาด แต่ในฐานะตัวละครของฉัน ถือว่าเขาดูแลห้องเรียนได้ไม่ขาดตกบกพร่องตามหน้าที่
‘นั่นสิ ทำไมในห้องถึงมีเสียงโหวกเหวก… เกิดอะไรขึ้นกันแน่’
หลังจากกลุ่มคนที่มีอายุรวมเกินหมื่นปีเดินมาถึงหน้าห้องศูนย์
สิ่งที่พวกเราเห็นคือความโกลาหล
“โล่งอกไปที! มีเพื่อนกับครูมาถึงแล้ว!”
ซาวอลเซอึม ผู้กำลังเปิดโฮโลแกรมด้วยท่าทีลนลาน เผยสีหน้าโล่งใจเมื่อหันมาเห็นพวกเรา
ยังไม่ทันที่ซาวอลเซอึมจะได้อธิบาย เสียงตะโกนดังแทรกขึ้นมา
“เฮ้ย! รองหัวหน้าห้อง! โทรเรียกตำรวจ!”
“เรียกกรรมการรักษาระเบียบจะเร็วกว่านะ”
เป็นเสียงของเม็งเฮียวทงและฮันอี
ทั้งสองกำลังจับกุมชายคนหนึ่งซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าซอมซ่อ
และด้านหน้าพวกเขา คือภาพวาดเลียนแบบ ‘อีมูกีสู่สวรรค์’ ที่วางอยู่ในสภาพฉีกขาด