เผยเชียนปิดเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยด้วยความพึงพอใจแล้วเลิกพูดถึงผลสอบ
ถึงหนึ่งคะแนนจะเป็นการพัฒนาครั้งประวัติการณ์ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้เอามาโม้ไม่หยุด เก็บไว้ในใจจะดีกว่า
“เหมือนแกจะทวนหนังสือหนักและจริงจังมากนะ ช่วงนี้งานเป็นไงบ้าง” เผยเชียนถาม
หม่าหยางตบอก “ไม่ต้องห่วงเลยพี่ ผมทั้งเรียนและทำงานไปพร้อมกัน ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง!
“วันนี้ผมมารายงานผลงานกับพี่
“ผมตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อเติมเต็มฝันผู้คนบนเว่ยป๋อ แต่ตอนนี้มีฝันที่ควรค่าแก่การเติมเต็มน้อยลงเรื่อยๆ หลายคนเขียนข้อความให้ดียังไม่ได้เลย ผมจะไปเชื่อได้ไงว่าคนแบบนั้นมีฝันจริงๆ
“ส่วนคนที่เขียนมาได้ดีก็ได้เงินไปเติมเต็มฝันแล้ว เรื่องที่เขียนเข้ามาใหม่แทบไม่มีความฝันอีก ในฐานะมนุษย์ เราไม่ควรโลภมาก ผมเลยไม่เติมเต็มฝันให้พวกเขาอีก
“สัปดาห์ที่แล้ว ผมใช้เงินไปแค่หนึ่งแสนหยวน เฮ้อ บอกได้แค่ว่ายุคสมัยนี้ ความฝันช่างหาได้ยากจริงๆ
“ความฝันที่ดีมีค่ายิ่งกว่าทอง นี่คือคำพูดจากใจของผม”
เผยเชียนผงะไป
จะพูดยังไงกับไอ้หม่าดี
เผยเชียนแค่อยากให้ไอ้หม่าผลาญเงินบนเว่ยป๋อเยอะๆ แต่หมอนี่ดันจริงจังเกินไป
คนที่ได้เงินไปแล้วจะไม่ได้ซ้ำอีก คนที่เขียนอธิบายมาไม่ดีก็จะไม่ได้เหมือนกัน สุดท้ายสัปดาห์ที่แล้วใช้เงินไปแค่แสนเดียว? ดูจากความเร็วในการแจกเงินตอนนี้ ฉันคงหวังพึ่งแกไม่ได้แล้วละ
เผยเชียนเคยพยายามพูดกล่อมให้ไอ้หม่าลดมาตรฐานลง ไม่ต้องเข้มงวดมาก แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง ไอ้หม่าก็ไม่เห็นด้วย แถมยังบอกว่าความฝันเป็นสิ่งหายากและล้ำค่ามาก จะปล่อยให้มัวหมองไม่ได้
เผยเชียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้ไอ้หม่าทำตามใจไป
“แล้วเรื่องไลฟ์รีวิวของล่ะ ความนิยมเป็นยังไง” เผยเชียนถามขึ้นอีก
หม่าหยางตอบ “เริ่มอยู่ตัวแล้วพี่ ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่”
เผยเชียนดีใจมาก เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลย
ว่ากันตามตรง การไลฟ์ด่าสินค้าของหม่าหยางถือเป็นการชี้จุดบกพร่องของสินค้า ตอนแรกก็อาจจะเป็นที่นิยมพอสมควร แต่ก็จะค่อยๆ เริ่มอยู่ตัวและไม่ได้รับความนิยมแบบพรวดพราดอีก
เพราะการไลฟ์ด่าสินค้าไม่เหมาะสำหรับดูทุกวัน บางทีเวลาดูคนตินั่นนี่เยอะเกินไปก็ทำให้เบื่อได้
ความนิยมไม่เพิ่มขึ้น แต่อยู่ตัวคงที่ ถือเป็นข่าวดีสำหรับเผยเชียน
หม่าหยางพูดต่อ “ผมไลฟ์ไปเกินสิบครั้งแล้ว สินค้าที่เอามารีวิวมีตั้งแต่เครื่องเขียนไปจนถึงอุปกรณ์ในครัวเรือน อาหาร สินค้าดิจิทัล และอื่นๆ ทุกอย่างได้ผลดีมากเลยพี่!
“บางเจ้าถอดสินค้าออกจากร้าน ปิดร้าน แล้วชิ่งหนี
“แบรนด์ใหญ่ๆ เอาสินค้าที่มีปัญหาออกจากชั้น ออกมาขอโทษและแก้ไข ลูกค้าที่ร้องเรียนไม่สำเร็จก่อนหน้านี้ได้รับการชดเชยตามที่ควรจะได้ในที่สุด
“หลายแบรนด์ติดต่อผมมาเป็นการส่วนตัว อยากจ่ายเงินเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องและขอให้ผมไม่รีวิวสินค้าพวกเขา หลายแบรนด์ที่ยังไม่โดนรีวิวบอกเป็นนัยว่าถ้าไม่พูดถึงแบรนด์พวกเขาในไลฟ์สตรีม ทุกอย่างก็จะโอเค แถมยังบอกว่าจะให้เงินค่าสปอนเซอร์ด้วย…”
เผยเชียนถามด้วยความกังวล “แล้วแกตอบว่าไง”
หม่าหยางหัวเราะ “แน่นอนว่าผมกดบล็อกข้อความที่ส่งมาส่วนตัวไปเลย!
“พี่เชียน ผมยังไม่ลืมที่พี่บอกไว้ ไม่ว่าเหตุผลจะคืออะไร ก็ห้ามรับเงินจากคนอื่นเด็ดขาด! เราไม่ได้จัดไลฟ์เพื่อโจมตีแบรนด์ไหน แต่ส่งข้อความส่วนตัวมาแบบนี้มีพิรุธมาก ยิ่งต้องจัดไลฟ์เพื่อเปิดโปงเข้าไปใหญ่!
“ผมมีผู้ติดตามสองสามล้านแล้ว ทุกคนบอกว่าผมเป็นนักสู้ ผู้ถ่ายทอดจิตวิญญาณเถิงต๋า และทัพหน้า เงินแค่นี้จะซื้อผมได้ยังไง!”
ใบหน้าใหญ่ยาวของหม่าหยางฉายชัดถึงความภาคภูมิใจ
เผยเชียนอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้ “เยี่ยมมาก! ไอ้หม่า ฉันเห็นมาตลอดว่าแกเป็นคนมีความสามารถ ถ้ามอบหมายให้แกทำ ฉันก็วางใจได้เสมอ!”
ต้องยอมรับเลยว่าถ้าให้คนอื่นรับหน้าที่นี้ คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใจเด็ดขนาดนี้
แบรนด์ที่เขาจัดไลฟ์เปิดโปงไม่ใช่แค่ของเกรดต่ำ แต่มีของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้วย การเปิดโปงนี้จึงทำให้หลายคนไม่พอใจ
ที่แย่ไปกว่านั้นคือหมอนี่เปิดเผยเรื่องที่แบรนด์ส่งข้อความมาหาส่วนตัวด้วย เรียกได้ว่าไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด คนทั่วไปไม่มีทางใจเด็ดแบบนี้
เผยเชียนพอใจกับผลงานของหม่าหยางเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
ถึงฐานแฟนของไอ้หม่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีคนติดตามหลักล้านแล้ว แต่คนดังในเว่ยป๋อที่มีคนติดตามหลักล้านก็มีเยอะแยะ ดูจากเงินที่ไอ้หม่าทุ่มไปเพื่อให้ได้ผู้ติดตามหลายล้านแล้วก็ถือว่าสมเหตุสมผล
“ไม่มีใครคุกคามแกใช่มั้ย” เผยเชียนถามด้วยความเป็นห่วง
หม่าหยางส่ายหน้า “มีแอกเค้านต์บริษัทสินค้าเกรดต่ำส่งข้อความส่วนตัวหาผมอยู่บ้าง แต่ผมแท็กหาตำรวจอินเทอร์เน็ตทันที พวกเขาเลยรีบลบบัญชีทิ้งด้วยความกลัว ประเทศของเราปกครองด้วยกฎหมายนะพี่ บอดี้การ์ดผมก็มี ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
เผยเชียนอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “อืม ก็ดีแล้ว”
ถ้าเป็นคนทั่วไปก็ไม่มีทางที่จะมีการคุ้มครองระดับนี้ แต่หม่าหยางมีเถิงต๋าหนุนหลัง ทุกอย่างเลยง่ายขึ้นมาก ถึงจะมีคนเกลียดชังหม่าหยางจับใจ แต่ก็ยังต้องนึกถึงเถิงต๋าที่อยู่เบื้องหลังหม่าหยางด้วย
พูดถึงเถิงต๋า…
เผยเชียนถามขึ้น “ได้รีวิวสินค้าของเถิงต๋าบ้างมั้ย”
หม่าหยางชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือเกาหัว “เอ่อ… ไม่ได้รีวิวเลย”
เผยเชียนไม่พอใจเล็กน้อย “บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้สนใจสินค้าของเถิงต๋าเป็นพิเศษ”
หม่าหยางเกาหลังหัว “แต่เถิงต๋ายังไม่มีสินค้าใหม่ออกมาเลยนะพี่…”
เผยเชียนตอบ “มีเครื่องทะเลาะอัจฉริยะนี่ ครั้งหน้ารีวิวเจ้านี่แหละ แสดงให้ทุกคนเห็นถึงปัญหา ข้อบกพร่อง และข้อเสียให้ละเอียดในไลฟ์สตรีมเลยนะ”
หม่าหยางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ตัวที่เพิ่งปล่อยใหม่น่ะเหรอ สินค้าเราต้องไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพแน่นอนอยู่แล้ว มันจะมีเนื้อหาไม่พอไลฟ์นะพี่…”
เผยเชียนทำหน้าจริงจัง “เพราะเป็นสินค้าของเราเองนี่แหละถึงต้องเข้มงวดขึ้นอีก! เราต้องปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ถมยังต้องผลักดันให้ OTTO ปรับปรุงและพัฒนาตัวเองต่อไป!”
แน่นอนว่าที่บอกว่าเป็นการผลักดัน OTTO นั้นโกหก จริงๆ คืออยากให้เครื่องทะเลาะอัจฉริยะขายได้น้อยๆ และทำเงินได้น้อยๆ
เครื่องทะเลาะอัจฉริยะวางขายได้สัปดาห์กว่าๆ ตอนแรกไม่มีใครสนใจ ทุกอย่างปกติดี แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ วันหนึ่ง ยอดขายก็พุ่งขึ้นพรวดพราด
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเฉียวเหลียงโพสต์เว่ยป๋อแนะนำ แต่นั่นก็แค่เป็นการเพิ่มน้ำมันใส่กองเพลิง เผยเชียนไม่เข้าใจเลยว่าความนิยมเริ่มขึ้นมาได้ยังไง
เผยเชียนไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ และไม่ทำอะไรระหว่างมองดูของที่ตุนคลังไว้เพื่อผลาญเงินกลายเป็นเงินทุนระบบ สร้างปัญหาให้เพิ่ม
ดังนั้นเขาจึงวางแผนจะใช้ประโยชน์จากการไลฟ์ด่าสินค้าของหม่าหยางในการลดยอดขายเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ
เครื่องทะเลาะอัจฉริยะขายมาได้สัปดาห์กว่าแล้ว กระแสแห่ซื้อตามกันแบบไม่ลืมหูลืมตาน่าจะซาลงมาได้เล็กน้อย
ในเมื่อทุกคนกลับมามีสติแล้ว การออกมาพูดถึงปัญหาและข้อเสียของเครื่องทะเลาะอัจฉริยะก็น่าจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
ยังไงไอ้เครื่องนี่ก็ต้องมีปัญหาแน่นอน
OTTO ไม่มีโรงงานของตัวเอง ต้องออกแบบระบบลำโพงอัจฉริยะแล้วหาโรงงานผลิตให้ ซึ่งก็ไม่ได้มีเกณฑ์ทางเทคนิคที่สูงเป็นพิเศษ
พูดอีกอย่างคือ คุณภาพของเครื่องนี้ก็เหมือนลำโพงซาวด์บาร์ที่เจ้าอื่นผลิต แต่ราคาแพงกว่าเพราะมีเครื่องทะเลาะอัตโนมัติด้วย
ราคากว่าสองพันหยวนนั้นถือเป็นสินค้าตัวเริ่มต้นที่ดี แต่ก็เป็นแค่ลำโพงธรรมดา คุณภาพสู้ตัวราคาหลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักหมื่นไม่ได้
เห็นมั้ยล่ะ ถ้าหาดูยังไงก็ต้องมีข้อเสียอยู่แล้ว!
เผยเชียนมองว่าเฉินยู่เฟิงและคนอื่นๆ ที่รับผิดชอบเรื่องการเตรียมไลฟ์ให้หม่าหยางเป็นทีมงานมืออาชีพ พวกเขาน่าจะหาข้อเสียได้ดีกว่าตัวเอง
ให้พวกเขาสับเครื่องทะเลาะอัจฉริยะเละ บอกข้อเสียแบบจัดเต็ม อย่างน้อยถึงจะบอกไม่ได้ว่าห้ามทุกคนซื้อได้ แต่ก็น่าจะกีดกันลูกค้าออกไปได้บางส่วน
จะดีมากถ้ามีของค้างอยู่ในคลังส่วนหนึ่งก่อนปิดบัญชี
หม่าหยางพูดขึ้น “โอเคพี่เชียน เดี๋ยวผมบอกให้เฉินยู่เฟิงเริ่มเตรียมตัวสำหรับไลฟ์สตรีมต่อไป แล้วเราจะไลฟ์รีวิวเครื่องทะเลาะอัตโนมัตินะพี่!”
เผยเชียนพยักหน้า “โอเค ต้นฉบับเวอร์ชันแรกเสร็จแล้วส่งให้ดูหน่อยนะ ฉันจะได้ตรวจให้”
“จัดให้ครับพี่ รอดูได้เลย!” หม่าหยางกลับออกไปด้วยความตื่นเต้น
เผยเชียนรู้สึกท่วมท้นขึ้นมาขณะที่มองหม่าหยางกลับออกไป
ดีจริงๆ ที่มีคนอึนๆ แบบไอ้หม่า
เหมือนว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หมอนั่นก็จะมองโลกในแง่ดีเสมอ ไม่เหมือนตัวเขาที่มีสารพัดเรื่องให้กังวลทุกวัน ต้องเค้นหัวคิดหาทางผลาญเงิน
น่าอิจฉาจริงๆ
เผยเชียนหันไปมองวันเวลา วันนี้วันที่ 18 มกราคม เหลืออีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะเข้าช่วงตรุษจีน งานทุกอย่างในบริษัทน่าจะมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว
เขาวางแผนว่าจะให้หยุดทำงานทันทีหลังประชุมประจำปีในวันที่ 20 เพราะวันก่อนตรุษจีนคือวันที่ 22
จริงๆ การประชุมประจำปีควรจะจัดเร็วกว่านี้ แต่เดือนที่แล้วมีเรื่องให้จัดการสารพัด เผยเชียนกลัวว่าการเตรียมการประชุมประจำปีจะทำให้การสรุปบัญชีล่าช้าออกไป เขาเลยขยับออกไปสองสามวันให้ตรงกับวันหยุด
ทำแบบนี้เขาก็กลับบ้านช่วงวันหยุดได้หลังจบการประชุม ซึ่งก็สะดวกดีทีเดียว
แน่นอนว่าเขาต้องจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนช่วงวันหยุด
ถึงเผยเชียนจะทำเงินได้เยอะในรอบบัญชีนี้ แต่เขาก็เตรียมตัวมาค่อนข้างดี เขาทุ่มเงินก้อนใหญ่ไปกับโปรเจ็กต์เกม Mission & Choice และให้บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งแบ่งเงินไปอีกส่วน ที่เหลือวางไว้ว่าจะเอาไปลงกับการโฆษณา
แม้การโฆษณาจะมีความเสี่ยง แต่เผยเชียนก็ยอมมองข้ามและทุ่มเงินกับการโฆษณา นอกจากนี้การโฆษณาของเผยเชียนจะวางเป้าหมายที่กิจการหน้าร้านเป็นหลัก เช่น ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู โมหยูเดลิเวอรี่ ฟิตเนสฝากประจำ อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย นี่เฟิงโลจิสติกส์ และอื่นๆ
กิจการทั้งหมดนี้มีจุดหนึ่งที่เหมือนกันคือ ถึงส่วนใหญ่จะทำกำไรได้อย่างมั่นคงแล้ว แต่ถ้าเปิดสาขาเพิ่มได้รวดเร็วพอ ก็จะทำเงินไม่ได้มาก การโฆษณากิจการเหล่านี้ปลอดภัยกว่าโฆษณาเกมและมือถือ
ระหว่างช่วงตรุษจีน พวกเขาจะโปรโมตในเมืองต่างๆ เช่น จิงโจว ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะช่วยให้ผลาญเงินก้อนใหญ่ได้
ด้วยวิธีนี้ เมื่อระบบสรุปบัญชีอย่างเป็นทางการหลังตรุษจีน เขาก็จะน่าจะมียอดขาดทุนค่อนข้างสูง
พอผ่านการสรุปบัญชี เผยเชียนก็จะทุ่มพลังทั้งหมดกับรอบบัญชีหน้า
เขารู้สึกว่าแผนการของตัวเองช่างสมบูรณ์แบบและไร้ที่ติ
