สีเฮ่าแนะนำแนวทางคร่าวๆ จากนั้นก็กลับไปทำงาน
บอสชิวไม่ได้บอกอะไรมากเกี่ยวกับการตรวจงานครั้งนี้ ไม่ได้บอกให้เตรียมอะไรด้วยซ้ำ
สีเฮ่าอยากเตรียมตัวล่วงหน้า แต่พอคิดดูอีกทีก็ไม่รู้จะเตรียมตัวไปทำไม
สภาพการทำงานของทุกคนไม่ได้แย่ มีทัศนคติที่ดี และเปี่ยมไปด้วยไฟในการทำงาน แต่ละโปรเจ็กต์รุดหน้าไปอย่างราบรื่น ถึงบางโปรเจ็กต์จะไม่คืบหน้าตามตารางที่วางไว้ แต่ก็เป็นเพราะพวกเขามีไอเดียที่ดีกว่าเดิม จึงต้องเปลี่ยนแผนพัฒนาใหม่
สรุปแล้ว สีเฮ่าคิดว่าสภาพการทำงานของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้นั้นสมบูรณ์แบบมาก ไม่มีอะไรให้ต้องปกปิด
ปัญหาเดียวคือ เขาไม่ได้ทำงานล่วงเวลา ทำให้ดูเหมือนไม่ได้ทำงานหนัก แต่บอสชิวไม่เคยสนับสนุนให้ทำงานล่วงเวลา ในเมื่อบอสไม่สนับสนุน คนที่มาตรวจก็ไม่น่าจะสนับสนุนเหมือนกัน
ดังนั้นสีเฮ่าจึงไม่ได้บอกให้ทุกคนเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ พอมองไปรอบๆ แล้วเห็นผู้พัฒนาเกมอินดี้และพนักงานฝ่ายธุรการทำงานกันอย่างขะมักเขม้น เขาก็รู้สึกโล่งใจ
การตรวจสอบรอบนี้น่าจะทำพอเป็นพิธี คนที่มาตรวจคงเดินดูรอบๆ ถามคำถามนิดหน่อย และเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดน่าจะมีแค่นี้
…
บ่ายสองโมงครึ่ง ชิวหงพาถังอี้ซู่ไปที่ศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ของโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน
คนขับรถทั้งสองเดินตามดูแลถังอี้ซู่อย่างใกล้ชิดเหมือนเป็นบอดี้การ์ด คอยป้องกันอันตรายทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้น
อูจื้อเฉิงเห็นชิวหงกับถังอี้ซู่จากไกลๆ แต่ยังไม่รู้ว่าสาวน้อยคนนั้นคือ ‘หัวหน้า’ ที่มาตรวจสอบวันนี้
เธออายุยังน้อย อูจื้อเฉิงคิดว่าน่าจะยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ
แถมยังดูขี้กลัวและระแวดระวังตัว เดินก้มหน้าก้มตาเหมือนเด็กนักเรียน ดูไม่เหมือนเจ้าคนนายคนเลยสักนิด
แต่ดูจากท่าทีของชิวหงที่ปฏิบัติต่อเธอและบอดี้การ์ดสองคนที่เดินตามหลังทำหน้าทำตาน่าเกรงขามแล้ว ก็ดูเหมือนว่าเธอน่าจะมีตำแหน่งสูงทีเดียว
“หรือว่าจะเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของไฮโซรายใหญ่ที่คอยหนุนหลังบอสชิว”
ฉากต่างๆ ในนิยายปรากฏขึ้นในหัวอูจื้อเฉิง
ถึงจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่อูจื้อเฉิงก็โล่งใจมากขึ้นหลังจากได้เห็นตัวตนจริงของถังอี้ซู่
ตอนแรก เขารู้สึกต่อต้านเล็กน้อยกับ ‘การตรวจสอบของหัวหน้า’ เพราะกลัวว่าจะเจอหัวหน้าไร้สมองและขาดเหตุผลที่ชอบถามคำถามโง่ๆ และแนะนำอะไรเหมือนไม่มีหัวคิดเพื่อให้ตัวเองมีบทบาท
กลายเป็นว่าคนที่มาคือเด็กสาวขี้กลัวซึ่งดูคุยด้วยง่าย อูจื้อเฉิงรู้สึกดีขึ้นและคิดว่า ‘การตรวจสอบ’ ที่ว่าน่าจะแค่ทำพอเป็นพิธี
เด็กสาวแบบนี้จะไปรู้เรื่องการออกแบบเกมได้ยังไง เธอน่าจะแวะมาดูผ่านๆ บอสชิวคุยด้วยนิดหน่อยก็น่าจะจบเรื่อง
พอเห็นสีเฮ่า ชิวหง และถังอี้ซู่ เขาก็รีบพุ่งเข้าไปหา “บอสชิว!”
ชิวหงแนะนำทุกคนให้รู้จักกัน “นี่คือคุณถัง ตัวแทนผู้ให้ทุนโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน ส่วนนี่สีเฮ่า ผู้ดูแลการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ครับ”
ชิวหงคิดว่าถ้าถังอี้ซู่มาตรวจสอบในฐานะ ‘ตัวแทนพิเศษ’ ได้ ก็น่าจะเป็นผู้จัดการภายในเถิงต๋า ว่ากันตามหลักการแล้ว เธอต้องมีตำแหน่งอะไรสักอย่าง
แต่เขาก็ไม่รู้ว่าตำแหน่งในเถิงต๋าของถังอี้ซู่คืออะไร เพราะบอสเผยไม่ได้แจ้งมา
เขาเลยได้แต่แนะนำไปแบบคลุมเครือ
สีเฮ่ารีบยื่นมือออกไป “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
ถังอี้ซู่กลัวว่าดวงซวยของตัวเองอาจจะไปติดคนอื่นเข้า แต่ถ้าไม่จับมือตอบก็จะดูไม่สุภาพ เธอจึงยื่นมือไปจับมืออีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “หนูชื่อถังอี้ซู่ เรียกน้องถังก็ได้ค่ะ”
สีเฮ่าดีใจไม่น้อยที่เห็นว่า ‘หัวหน้า’ ที่มาตรวจสอบวันนี้ไม่ถือตัวเลย เขารีบพูดขึ้น “โอเคครับ ขอผมแนะนำงานประจำวันของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้นะครับ เชิญตามมาทางนี้เลย”
สีเฮ่าพาถังอี้ซู่กับชิวหงเดินชมรอบๆ ศูนย์พัฒนาเกมอินดี้พร้อมแนะนำคร่าวๆ
“ตรงนี้คือโซนพักผ่อน ข้าวเที่ยง ประชุมประจำวัน รับแขก และอื่นๆ จะทำที่นี่
“ตรงนี้คือโซนธุรการ แผนกธุรการของเรารับผิดชอบเรื่องการวางแผนพัฒนาเกมและงานบริการสนับสนุนต่างๆ เป็นหลัก นอกจากงานบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ประจำวันแล้ว เราก็มีหน้าที่รับผิดชอบอีกมากมายครับ
“มื้อเที่ยงจัดส่งโดยโมหยูเดลิเวอรี่สาขาใกล้ๆ มีกาแฟและเครื่องดื่มให้บริการฟรี
“ส่วนเรื่องการพัฒนาเกม ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เกมที่พัฒนาเร็วที่สุดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนหน้า เกมที่ช้าหน่อยต้องใช้เวลาพัฒนาอีกสามถึงห้าเดือน ขนาดของแต่ละเกมนั้นแตกต่างกัน ระยะเวลาในการพัฒนาจึงไม่เท่ากัน”
สีเฮ่าอธิบายทุกแง่มุมของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้คร่าวๆ ตลอดการอธิบาย ถังอี้ซู่ฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้าเป็นพักๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
ตอนแรกสีเฮ่าตั้งใจว่าจะแนะนำแค่สั้นๆ เพราะมั่นใจว่าถังอี้ซู่ต้องถามคำถามแน่นอน จะได้ลงรายละเอียดตอนตอบ
ไม่คิดเลยว่าถังอี้ซู่จะแค่ฟังและพยักหน้า ไม่คิดถามอะไรเลยสักนิด
ซึ่งก็ชวนกระอักกระอ่วนอยู่หน่อยๆ เพราะใช้เวลาแนะนำทั้งศูนย์พัฒนาเกมอินดี้แค่สิบนาที แต่อีกฝ่ายเดินทางจากจิงโจวมาถึงปักกิ่ง คงจะให้ตรวจสอบแค่สิบนาทีแล้วกลับไม่ได้
แต่ก็แนะนำศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ไปหมดแล้ว ถังอี้ซู่เองก็ไม่มีคำถามอะไร สีเฮ่าคิดว่าคงจะแปลกเล็กน้อยถ้าเขาแนะนำทุกอย่างตั้งแต่ต้นโดยละเอียดโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ขอ
พอเห็นว่าสถานการณ์ดูกระอักกระอ่วน สีเฮ่าก็รีบคิดหาทาง
“เดี๋ยวผมให้ผู้พัฒนาเอาเดโม่ที่สมบูรณ์หน่อยมาโชว์นะครับ”
สีเฮ่าประทับใจในตัวเองมาก
ในศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีเกมอินดี้มากมาย!
เกมอินดี้เหล่านี้ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเพิ่งพัฒนาเสร็จไปแค่บางส่วน แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่จะเอามาแสดงเป็นเดโม่
ถ้าเอาเดโม่เกมมาโชว์ ก็จะแสดงให้เห็นว่าการทำงานของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้นั้นมีประสิทธิภาพมาก บอสชิวเองก็น่าจะภูมิใจ
ถังอี้ซู่พูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “ถ้าลำบาก ไม่ต้องก็ได้นะคะ…”
สีเฮ่ารีบพูดขึ้น “ไม่เลยครับ ไม่ลำบาก! เชิญทางนี้เลยครับ
“คุณหยู ช่วยเอาเดโม่เกมคุณมาโชว์หน่อย ใช่ เดโม่เวอร์ชันเสถียรที่ทำออกมาได้สักพักแล้วน่ะ”
ผู้พัฒนาเกมอินดี้มีหนวดที่อยู่ข้างๆ รีบย่อหน้าต่างเครื่องมือพัฒนาเกมแล้วเปิดเดโม่เกมตัวเอง
สีเฮ่าเดินเข้าไปดูคร่าวๆ หน้าอินเทอร์เฟสของเดโม่ไม่มีอะไรผิดปกติ เขาหันไปหาถังอี้ซู่แล้วผายมือไปที่เก้าอี้ “เชิญนั่งตรงนี้เลยครับ”
เดโม่นี้เป็นเวอร์ชันเสถียรที่มีบั๊กเล็กน้อย
ระหว่างการพัฒนาตัวเกมย่อมมีหลายเวอร์ชัน และเพื่อป้องกันข้อบกพร่องร้ายแรงในเกม เวอร์ชันใหม่จะไม่แทนที่เวอร์ชันเก่าทันทีหลังจากเริ่มพัฒนาหรือพัฒนาเสร็จแล้ว แต่จะบันทึกเก็บไว้หลายๆ เวอร์ชัน
หลังจากพัฒนาแต่ละเวอร์ชันเสร็จ พวกเขาจะปรับแก้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีบั๊กร้ายแรงอะไรก่อนที่จะไปพัฒนาเวอร์ชันถัดไป
เดโม่ตัวนี้เป็นเวอร์ชันเสถียร หลังจากแก้บั๊กอยู่หลายครั้งก็สามารถรันได้อย่างราบรื่น
แน่นอนสีเฮ่ากลัวว่าจะมีบั๊กร้ายแรงจำนวนมากปรากฏขึ้นระหว่างเล่นเกม และสร้างความประทับใจที่ไม่ดีกับอีกฝ่าย เขาจึงเลือกเดโม่เวอร์ชันเสถียร
ถังอี้ซู่นั่งลงบนเก้าอี้แล้วหยิบจอยบนโต๊ะขึ้นมาถืออย่างเก้ๆ กังๆ
ปกติเธอไม่ค่อยเล่นเกม การตอบสนองของเธอค่อนข้างช้า เล่นก็ไม่เก่งเท่าไหร่ ท่าทางการจับจอยของเธอเลยดูไม่เป็นธรรมชาติ
สีเฮ่าแปลกใจเล็กน้อย ทำไมสปอนเซอร์ โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานถึงดูเหมือนเล่นเกมไม่เป็นเลยล่ะ
ถังอี้ซู่ดันก้านอนาล็อกเบาๆ ตัวละครในหน้าจอเริ่มก้าวสองสามก้าวและกระโดดอยู่กับที่
แต่ก่อนจะทันได้สู้กับมอนสเตอร์ตัวแรก กล่องข้อความก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอเกม
Error!
สีเฮ่ากับคุณหยูเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
นี่มันเดโม่เวอร์ชันเสถียรไม่ใช่เหรอ пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ
หลังจากปรับแก้อยู่หลายสิบครั้งก็ไม่น่าจะมีบั๊กร้ายแรงอะไรแล้วนี่
สีเฮ่ามองคุณหยูด้วยสายตาที่จะสื่อว่า นี่มันอะไรกัน ทำไมต้องขว้างระเบิดในช่วงสำคัญแบบนี้ด้วย
คุณหยูเองก็ไม่รู้เรื่อง เขาผายมือสองข้างเพื่อบอกว่า ผมจะไปรู้ได้ไง!
เดโม่เวอร์ชันเสถียรไม่ได้ปรับแก้อะไรมาพักใหญ่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็เล่นได้ปกติดี
บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเมื่อพบข้อผิดพลาด สีเฮ่ารีบพูดขึ้น “บั๊กเล็กๆ น้อยๆ ครับ เป็นปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้ในการพัฒนาเกม
“คุณหยู รีบบันทึกภาพหน้าจอบั๊กนี้ไว้แล้วเอาไปแก้ให้เร็วที่สุด อย่าให้กระทบกับเวอร์ชันออฟฟิเชียลนะ”
คุณหยูพยักหน้า “ครับ! ไม่มีปัญหาครับ”
ถังอี้ซู่เล่นกับจอยระหว่างคุณหยูลากเมาส์บันทึกภาพหน้าจออยู่ข้างๆ เขารีบเปิดแบบฟอร์มขึ้นมาบันทึกบั๊กไว้รอแก้ไขต่อไป
จากนั้นเขาก็กดปิดหน้าต่างรายงานข้อผิดพลาดแล้วเริ่มเกมใหม่
ถังอี้ซู่เข้าสู่เกมอีกครั้ง รอบนี้หลังจากวิ่งเล่นอยู่หนึ่งนาทีก็ยังไม่เจอบั๊ก
สีเฮ่าปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก “เห็นมั้ยครับ เมื่อกี้เป็นบั๊กเล็กน้อยที่จู่ๆ ก็โผล่มา ไม่ได้มีตลอด วันนี้คงบังเอิญ น่าจะไม่มีปัญ…”
ก่อนที่จะทันได้พูดจบ เขาก็เห็นตัวละครในหน้าจอโดนมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกรุมโจมตีจนตาย แต่กลับไม่มีตัวเลือกให้เริ่มต้นใหม่ปรากฏขึ้น เกมค้างอยู่หน้านั้น
สีเฮ่า “เอ่อ…”
รอบนี้เขาไม่ต้องพูดอะไรอีก คุณหยูรีบบันทึกภาพหน้าจอ บันทึกข้อมูล แล้วรีสตาร์ตเกมใหม่ ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที
สีเฮ่าหมดคำจะพูด “เชิญเล่นต่อเลยครับ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดถังอี้ซู่ก็เล่นเดโม่สั้นๆ จนจบ
แต่ในแบบฟอร์มของคุณหยูมีข้อมูลบั๊กอย่างน้อยสิบห้ารายการและภาพบันทึกหน้าจออีกมากมายบนหน้าเดสก์ท็อป
สีเฮ่ารู้สึกละอายใจเล็กน้อยและไม่กล้าสบตากับชิวหง
เละเทะมาก!
เขาอยากเอาเกมที่ศูนย์พัฒนาเกมอินดี้พัฒนาให้น้องถังดู แต่กลายเป็นว่าจริงๆ แล้ว พวกเขาพัฒนาบั๊กกันอยู่!
บั๊กสิบห้าตัวทำให้คุณหยูมึน ระดับความรุนแรงของบั๊กนั้นแตกต่างกันไป บางตัวแค่รายงานความผิดพลาดโดยตรงและปิดเกม บางตัวเป็นความผิดพลาดในการเรนเดอร์และกระทบกับกราฟิกในเกม บางตัวทำให้เกมค้าง แต่ก็ยังเล่นต่อได้
แต่ไม่ว่าบั๊กจะร้ายแรงหรือไม่ ยังไงก็ต้องแก้
ที่ผ่านมา คุณหยูรู้สึกดีกับตัวเองมาก เขาคิดว่าเดโม่เวอร์ชันที่เอามาโชว์ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ทุกอย่างถึงเลวร้ายไปหมด บั๊กที่นานๆ ครั้งจะโผล่มาดันโผล่มารวดเดียวหมดซะงั้น!
สีเฮ่าพูดขึ้นด้วยความลำบากใจ “น่าจะเป็นอุบัติเหตุครับ วันนี้เราโชคไม่ดีเท่าไหร่ ลองเล่นเกมนี้ดูนะครับ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
“น้องโจว เปิดเกมของน้องหน่อย”
สีเฮ่าอยากแก้ตัวเพื่อแสดงให้เห็นว่าเกมของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ไม่ได้เละเทะ ยังมีเกมที่เล่นได้อยู่
แต่น้องโจวก็ยกมือเกาหัวแล้วพูดขึ้นอย่างอึดอัดใจ “พี่เฮ่า ไม่รู้ทำไม ผมเปิดเกมตัวเองไม่ได้ครับ…”
สีเฮ่าแทบลมจับ “ตอนเช้าทุกอย่างก็โอเคดีนี่ ทำไมถึงเปิดไม่ได้ล่ะ”
น้องโจวดูไม่รู้อะไรจริงๆ “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน! ผมไม่ได้แก้อะไรเลยนะครับ!”
สีเฮ่าอึ้งไป “รีบตรวจดูเลย!”
ตอนนี้ทั้งศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ตกอยู่ในความโกลาหล
เกมอินดี้มักมีบั๊กเยอะอยู่แล้ว
เพราะการพัฒนาเกมอินดี้มักมีกำลังคนไม่พอ การทดสอบและปรับแก้บั๊กมักไม่ได้ทำทันที
แต่ผู้พัฒนาเกมอินดี้เหล่านี้ก็ชินแล้ว คนที่มีประสบการณ์หน่อยจะเลือกแนวทางที่ครบถ้วนสมบูรณ์กว่าเพื่อลดการมีบั๊กแอบแฝง
แถมหลังจากเข้ามาทำงานในศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ ผู้พัฒนาคนอื่นๆ และพนักงานฝ่ายธุรการมักจะช่วยทดสอบเกมและหาบั๊กให้ บั๊กในเกมจึงมีน้อยลงเมื่อเทียบกับแต่ก่อน
ผู้พัฒนาเกมอินดี้อยู่ในสถานะ ‘สงบสุขดี’ มาตลอด พวกเขาคิดว่าเกมตัวเองมีบั๊กไม่มาก อย่างน้อยก็น่าจะเล่นได้ราบรื่นดี
กลายเป็นว่าวันนี้ ทุกคนโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง!
