บั๊กแปลกๆ โผล่มาไม่หยุด ผู้พัฒนาเกมทุกคนรู้สึกเหมือนติดอยู่ในบ้านหลังคารั่วท่ามกลางคืนพายุฝน เหมือนว่าโชคร้ายทั้งหมดถูกดูดมารวมกันวันนี้!
อูจื้อเฉิงมั่นใจกับเกมหมึกหมอกม่านเมฆของตัวเองมากและอยากโชว์เกมกับสาวน้อยจากทีมตรวจสอบ แต่พอลองแอบไปเล่นดูก็พบบั๊กมากมาย!
มีบั๊กมากมายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนว่าจะมีมาตั้งแต่ช่วงต้นของการพัฒนาหมึกหมอกม่านเมฆแล้ว พวกมันซ่อนตัวมาหลายเวอร์ชันและจู่ๆ ก็เพิ่งมาโผล่เอาวันนี้
อูจื้อเฉิงเหมือนโดนสาดน้ำเย็นใส่ เขานิ่งเงียบไป
จะเอาไปโชว์ได้ยังไง อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าแล้วรีบแก้บั๊กดีกว่า!
เขาไม่กล้าละเลยเรื่องบั๊กที่ซ่อนอยู่ โชคดีที่โผล่มาช่วงพัฒนา ถ้ายังซ่อนอยู่จนเกมปล่อยออกไปแล้วค่อยไปโผล่เอาตอนนั้น คงโดนผู้เล่นด่าเปิงแน่
เกมที่ทุ่มเทสร้างตลอดหลายเดือนต้องมาพังเพราะบั๊ก ไม่ยุติธรรมเลย
บรรยากาศภายในศูนย์พัฒนาเกมอินดี้เปลี่ยนจากคึกคักเป็นจริงจัง และจากจริงจังกลายเป็นสับสนอลหม่าน
บั๊กมากมายพังภาพฝันของเหล่าผู้พัฒนาอย่างโหดเหี้ยม ทำให้พวกเขามั่นใจน้อยลง
สีเฮ่าเองก็รู้สึกขายหน้าเล็กน้อย เขาอยากโชว์ผลลัพธ์ของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ แต่ก็พลาด
น้องถังไม่ได้ดูโกรธ ยังดูใจดีเหมือนเดิม แต่เขากลับรู้สึกถึงความกดดันขนานใหญ่
ดูเหมือนว่าต่อจากนี้ไป เขาต้องให้ความสนใจเรื่องการทดสอบเกมมากขึ้น เกมในตอนนี้ยังห่างไกลจากการเปิดตัว!
พอไม่มีเกมให้เล่นอีก สีเฮ่าก็เสนอขึ้น “เราแวะไปนั่งพักและดื่มกาแฟที่โซนพักผ่อนกันไหมครับ”
ถังอี้ซู่พยักหน้า “ได้ค่ะ”
ทุกคนไปที่โซนพักผ่อนแล้วสั่งกาแฟคนละแก้ว
สีเฮ่ารู้สึกผิด “วันนี้ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้บั๊กถึงโผล่มาเต็มไปหมด! แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เราใส่ใจเรื่องการแก้บั๊กและจะรีบแก้ไขบั๊กพวกนี้ ต่อไปเราจะทุ่มเทกับการทดสอบเกมให้มากขึ้นเพื่อลดบั๊กลงให้ได้มากที่สุด
“เอ่อ… คุณมีคำถามอะไรอีกไหมครับ ผมตอบได้หมดเลยครับ”
ถังอี้ซู่กำลังจะตอบว่าไม่มีคำถามอะไร แต่ก็นึกถึงคำสั่งของเผยเชียนก่อนออกเดินทางขึ้นได้ เลยรีบถามออกไป “หนูอยากถามว่า ประสิทธิภาพในการทำงานของพวกคุณเป็นยังไงเหรอคะ”
“ประสิทธิภาพในการทำงาน?” สีเฮ่าตอบทันที “แน่นอนว่าประสิทธิภาพการทำงานของพวกเราสูงมากครับ!
“แผนกธุรการของเราช่วยผู้พัฒนาเกมแก้ความกังวลต่างๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้ทุ่มเทกับการออกแบบและระบบการเล่น พอสิ่งที่ทำสอดคล้องกับความสนใจและเป็นส่วนที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด ผู้พัฒนาเกมทุกคนจึงมีแพชชันในการทำงานเต็มที่ครับ…”
ในที่สุด สีเฮ่าก็พบจุดที่เหมาะกับตัวเองในการสื่อสารและเริ่มพูดคุยอย่างไม่ติดขัด
ถึงคำพูดของเขาจะดูเกินจริงไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ศูนย์พัฒนาเกมอินดี้มอบสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผู้พัฒนาเกมอินดี้สร้างเกมได้อย่างไร้ความกังวลจริงๆ ซึ่งช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงานได้มาก ผู้พัฒนาเกมทุกคนต่างก็คิดเหมือนกันหมด
สีเฮ่าอธิบายมุมมองของตัวเองอย่างละเอียดและยกรายละเอียดต่างๆ มาแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้นั้นสูงจริงๆ
เขาเห็นว่าถังอี้ซู่ฟังอย่างตั้งใจตลอดการอธิบาย เธอพยักหน้าเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าประทับใจกับสิ่งที่เขาพูด
สีเฮ่าอดรู้สึกภูมิใจขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้ เพราะยังไงเขาก็เป็นหัวหน้าแผนกธุรการ
ฉันสมควรจะได้รับคำชมใช่มั้ย
แต่หลังจากฟังที่สีเฮ่าอธิบาย ถังอี้ซู่ก็พูดขึ้น “ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาร้ายแรงในการทำงานประจำวันของพวกคุณนะคะ
“ต่อไปพนักงานทุกคนต้องแบ่งเวลางานคนละสิบชั่วโมงต่อสัปดาห์มาเล่นเกม ซึ่งต้องเล่นในเวลางานเท่านั้น ห้ามเล่นในเวลาพักผ่อนหลังเลิกงาน”
ซีเฮ่า “ครับ?”
เขาเกือบจะคิดว่าตัวเองหูฝาดไป
ทำไมประสิทธิภาพการทำงานที่ดีถึงเป็นปัญหาร้ายแรงในการทำงานประจำวันล่ะ
ทางแก้คือบังคับให้เล่นเกมระหว่างเวลางาน แถมต้องเล่นสัปดาห์ละสิบชั่วโมงด้วย
ถังอี้ซู่พูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เพราะแค่ยกสิ่งที่เผยเชียนพูดมาบอกต่อ
เผยเชียนบอกว่าถ้าศูนย์พัฒนาเกมอินดี้มีประสิทธิภาพการทำงานสูง ก็ให้บังคับทุกคนเล่นเกม พวกเขาต้องเล่นเกมสัปดาห์ละสิบชั่วโมง
ส่วนทำไมประสิทธิภาพการทำงานสูงแล้วต้องเล่นเกม ถังอี้ซู่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเผยเชียนไม่ได้บอก
จู่ๆ ชิวหงที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ ก็เงยหน้าขึ้น “น้องถังคิดว่า ‘ประสิทธิภาพการทำงานสูง’ ที่สีเฮ่าบอกอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไปเหรอครับ”
สีเฮ่าผงะไป “หา? ทำไมประสิทธิภาพการทำงานสูงถึงไม่ใช่สิ่งที่ดีล่ะครับ”
ชิวหงอธิบาย “ถ้าอิงตามความคิดแบบเดิมๆ ยิ่งมีประสิทธิภาพการทำงานสูงก็ยิ่งเป็นเรื่องดี แต่การมีประสิทธิภาพการทำงานแค่อย่างเดียวอาจไม่ใช่เรื่องดีในงานด้านการสร้างสรรค์และศิลปะ
“การออกแบบเกมเป็นการสร้างสรรค์ทางศิลปะรูปแบบหนึ่ง บางครั้งก็ต้องพึ่งแรงบันดาลใจมาก หลายครั้งที่ความคิดของคนเราเจอทางตัน เพราะติดอยู่ที่ทางตัน สมองจะมีสมาธิจดจ่อ ประสิทธิภาพในการทำงานจะดีขึ้นมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผลงานสุดท้ายที่ออกมาจะดีเสมอไป
“ดูอย่างผู้พัฒนาเกมพวกนี้ พวกเขาทุ่มเทและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก แต่ก็เพราะจุดนี้แหละที่ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาวะดื้อรั้น พวกเขามุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่เกมตัวเอง และหลับหูหลับตาเชื่อว่าวิธีการในปัจจุบันของตัวเองนั้นดีที่สุด โดยไม่สนใจความเป็นไปได้ที่ดีกว่า
“การกำหนดให้ทุกคนเล่นเกมเพิ่มขึ้นก็เพื่อให้ทุกคนเดินออกจากวงเล็กๆ ของตัวเองโดยที่ยังรักษาประสิทธิภาพการทำงานไว้ พวกเขาจะได้เห็นว่าเกมอื่นเป็นยังไงและเรียนรู้จากจุดแข็งของคนอื่น อาจจะได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ มาก็ได้โuเวลกูดoทคoม
“ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่น้องถังจะสื่อ”
สีเฮ่าถึงบางอ้อ “อ๋อ เข้าใจแล้วครับ! ผมจะจัดให้ทุกเล่นเกมด้วยกันเพื่อหาแรงบันดาลใจและข้อมูลเพิ่ม!”
ถังอี้ซู่อดทึ่งขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ยินที่ชิวหงพูด
รุ่นพี่หมายความว่าแบบนี้เองเหรอ!
รุ่นพี่นี่สุดยอดจริงๆ คาดการณ์ทุกอย่างไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว!
การตรวจสอบศูนย์พัฒนาเกมอินดี้จบลง ชิวหงหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา แล้วหันไปพูดกับถังอี้ซู่ “วันนี้น่าจะพอแค่นี้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเราจะแวะไปร้านสาวหน้านิ่งกัน”
…
…
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม ตอนเช้า
เมิ่งชั่งสั่งทีมงานและพนักงานทำความสะอาดให้ดูแลหน้าที่ตัวเองในร้านสาวหน้านิ่งสาขาหลัก ทั้งร้านรวมถึงในครัวสะอาดเอี่ยม โต๊ะเก้าอี้ในร้านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ
สาวหน้านิ่งวางเป้าหมายระยะยาวเป็นแบรนด์อาหารจีนจานด่วน จึงให้บริการอาหารเช้าด้วย
ตอนนี้เวลาตีห้า ถึงจะทำความสะอาดไปเรียบร้อยแล้วหนึ่งรอบเมื่อคืน แต่เมิ่งชั่งก็ยังกังวลใจอยู่ดี เขามาถึงแต่เช้าตรู่เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของร้านอีกครั้งก่อนเปิดให้บริการ เขาอยากมั่นใจว่าร้านจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
เมิ่งชั่งไม่รู้ว่าถังอี้ซู่แวะมาปักกิ่ง เขาไม่ได้ทำความสะอาดเพื่อต้อนรับเธอ แต่เพื่อต้อนรับนักลงทุนสองสามคนที่มาตรวจสอบ
ถังอี้ซู่บังเอิญแวะมาตรงกับนักลงทุนพวกนี้พอดี
เรื่องนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ที่เมิ่งชั่งได้เงินลงทุนหกล้านหยวนจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
เมิ่งชั่งไม่กล้าเปิดเผยว่าได้เงินลงทุนหกล้านหยวนจากเถิงต๋าเพราะบอสเผยสั่งไว้ แต่เมิ่งชั่งก็ฉลาดมาก เขามีวิธีอื่นในการบอกต่อข้อมูลนี้กับนักลงทุน
ก่อนหน้าที่เผยเชียนจะให้เงินลงทุนหกล้านหยวน นักลงทุนหลายคนติดต่อเข้ามาเสนอการลงทุนกับเมิ่งชั่ง
แต่เขาก็ปฏิเสธหมด เพราะเงื่อนไขการลงทุนโหดเกินไป ถ้าไม่จับเซ็นสัญญาคุ้มครองมูลค่าเงินลงทุนก็จำกัดการถ่ายโอนหุ้นของผู้ก่อตั้ง ซึ่งไม่เป็นมิตรกับเขาเอามากๆ
เหล่านักลงทุนไม่ได้ยืนกรานหรือยอมแพ้ทันทีหลังจากเมิ่งชั่งปฏิเสธ พวกเขาทำตัวนิ่งๆ และดูสถานการณ์ต่อ
พวกเขากำลังรอให้แบรนด์สาวหน้านิ่งประสบปัญหาการเงิน
นักลงทุนทุกคนรู้ว่าเมิ่งชั่งเป็นเจ้าของบริษัทที่ชอบทุ่มเงินทำการตลาด ถ้าสาวหน้านิ่งพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรไม่ได้ บริษัทก็จะมีเงินไม่พอให้เมิ่งชั่งผลาญแบบนี้ต่อ
แน่นอนว่าก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เพราะเมิ่งชั่งเก่งเรื่องการตลาด เขาทุ่มเงินเต็มที่เพื่อให้ลูกค้าจำแบรนด์สาวหน้านิ่งได้ นอกจากจะไม่ขาดทุนแล้ว ยังถือว่าได้กำไรทีเดียว
ในสายตาของนักลงทุนหลายคน กลยุทธ์นี้สอดคล้องกับแนวทางการทำการตลาดบนอินเทอร์เน็ต เมิ่งชั่งทำได้ดีมาก
เมิ่งชั่งและเงินทุนขาดกันไม่ได้
เพื่อรักษาห่วงโซ่เงินทุนและความนิยมของสาวหน้านิ่ง เมิ่งชั่งต้องคิดหาทางระดมทุนเพิ่ม เมื่อไหร่ที่สาวหน้านิ่งประสบความสำเร็จและมูลค่าบริษัทพุ่งสูง เหล่านักลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ดังนั้นเหล่านักลงทุนจึงคิดว่าการปฏิเสธชั่วคราวของเมิ่งชั่งเป็นแค่กลยุทธ์ต่อรอง
เมื่อไหร่ที่สาวหน้านิ่งประสบปัญหาการเงิน เมิ่งชั่งก็จะยอมลดทิฐิลงและยอมรับสัญญาการลงทุนที่มีเงื่อนไขด้านการคุ้มครองมูลค่าเงินลงทุนและการถ่ายโอนหุ้นของผู้ก่อตั้ง
แผนของพวกเขาถือว่าดีเลย อันที่จริงถ้าบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งไม่ลงทุนเพิ่ม เมิ่งชั่งก็จะตกอยู่ในสภาพคิดไม่ตก
แต่เมิ่งชั่งผู้มีนิสัยรักการเดิมพันก็วางเดิมพันถูกอีกครั้ง
หลังได้เงินทุนจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งมา ถึงโพนทะนาเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เขาก็ได้โอกาสเหมาะเหม็งในการโจมตีกลับ
เขาเริ่มผลาญเงินเร็วขึ้นกว่าเดิม ถึงขั้นทุ่มเงินหลายแสนเช่าสถานที่จัดบรรยายและใช้ฝีปากอันยอดเยี่ยมกับความเฉียบแหลมทางธุรกิจในการโปรโมตแบรนด์สาวหน้านิ่ง
ส่วนหนึ่งเขาทำไปเพื่อขยายอิทธิพลของแบรนด์สาวหน้านิ่ง อีกส่วนก็เพื่อส่งสารที่ชัดเจนมากๆ ให้เหล่านักลงทุน
ไม่ยอมลงทุนเหรอ คิดว่าฉันหาเงินจากที่อื่นไม่ได้ใช่มั้ย
ขอโทษที นอกจากจะหาได้แล้ว ยังได้เยอะมากด้วย!
ยังจะยึดมั่นในเงื่อนไขเดิมและไม่ยอมถอยอยู่มั้ย ถ้าไม่ลงทุนตอนนี้ ต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสได้ลงทุนแล้วนะ
เหล่านักลงทุนต่างลนลานขึ้นมาเมื่อเห็นสาวหน้านิ่งผลาญเงินก้อนโตโดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องห่วงโซ่เงินทุนเลยแม้แต่น้อย เมิ่งชั่งทำตัวเหมือนว่ายังควบคุมทุกอย่างไว้ได้เป็นอย่างดี
เพราะตอนนี้มูลค่าของบริษัทพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเงินลงทุนไหลเข้ามามากเท่าไหร่ บริษัทก็ยิ่งเติบโตเร็วขึ้นเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เหล่านักลงทุนจึงเป็นฝ่ายลนลานแทน พวกเขาอยากเข้าไปตรวจสอบสถานที่ก่อนตัดสินใจว่าจะยอมผ่อนปรนเงื่อนไขการลงทุนมากขนาดไหน
เมิ่งชั่งตั้งใจว่าจะจัดการทุกอย่างแบบม้วนเดียวจบ วันนี้ เขาจะพยายามล่อลวงเหล่านักลงทุนและผลักดันมูลค่าของแบรนด์สาวหน้านิ่งเพื่อที่จะได้เริ่มเตรียมการสำหรับขั้นตอนต่อไป
ถึงอย่างนั้น คนใจใหญ่อย่างเมิ่งชั่งก็อดประหม่าขึ้นมาไม่ได้ เพราะถ้าวันนี้พลาดและนักลงทุนตัดสินใจดูสถานการณ์ต่อไป เงินที่มีอยู่ในมือตอนนี้จะใช้ผลาญต่อได้ไม่นาน มีความเสี่ยงที่ห่วงโซ่เงินทุนจะพังได้ทุกเมื่อ
แน่นอนว่าถึงจะมีปัญหาเล็กน้อยในห่วงโซ่เงินทุน แบรนด์สาวหน้านิ่งก็คงไม่ดับอนาถทันที เมิ่งชั่งยังมีอีกหลายวิธีในการหาเงินเพิ่ม
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็อาจหาเงินได้ไม่สะดวกนัก
ดังนั้นเมิ่งชั่งจึงต้องอวดเบ่งต่อหน้านักลงทุนต่อไป ส่วนหนึ่งก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสผ่านวาทศิลป์และโมเดลธุรกิจที่ยอดเยี่ยม อีกส่วนก็เป็นการพิสูจน์ว่าเขามีความสามารถในการทำอนาคตที่สดใสให้เป็นจริงด้วยการนำเสนอร้านที่สะอาดและเป็นที่นิยม
หลังตรวจสอบร้านอย่างละเอียดเหมือนคนหวาดระแวงจัด เมิ่งชั่งก็ซักซ้อมสิ่งที่เตรียมไว้พูดกับนักลงทุนวันนี้เพื่อให้มั่นใจว่าการนำเสนอในตอนเช้าจะไม่มีข้อผิดพลาด