หลังจากคิดอย่างจริงจัง อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นก็ถามขึ้น “ก็คือจะเข้าใจได้ง่ายเหมือนตำราวิทยาศาสตร์ยอดนิยมสำหรับคนทั่วไปเหรอ”
หยูผิงอันพยักหน้า “ใช่ครับ จะว่าแบบนั้นก็ได้
“เราอยากใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นได้ดูเนื้อหาเหล่านี้และจัดหาวิธีการดึงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ขณะเดียวกัน ในแง่ของการรวบรวมเนื้อหา เราจะไม่เน้นหนักไปในทางวิชาการซึ่งยากเกินไปที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ แต่ก็จะไม่ให้เนื้อหามีแต่น้ำ หรือคลุมเครือ หรือไร้ประโยชน์
“ผมเลยมาที่นี่เพื่อเชิญให้อาจารย์มาทำงานร่วมกับโปรเจ็กต์ของเรา
“นอกจากอาจารย์จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการแล้ว ยังเป็นอาจารย์ที่นักศึกษารักใคร่และมีประสบการณ์คร่ำหวอดในด้านการเขียนแบบเรียน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่าอาจารย์มีคุณสมบัติเกินพอสำหรับการตรวจสอบเนื้อหาในแอปครับ”
อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นดูแปลกใจเล็กน้อย
“ฟังดูเป็นสิ่งที่ดีสำหรับอนาคตข้างหน้านะ
“แต่ก็ดูจะเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่มาก
“หลักสูตรต่างๆ ของวิชาเอกภาษาจีนมีประเภทแยกย่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วรรณกรรมโบราณ วรรณกรรมสมัยใหม่ วรรณกรรมต่างประเทศ และอื่นๆ ถึงจะรวบรวมเนื้อหาและนำมาย่อยใส่สารานุกรม เนื้อหาก็มีมากเกินกว่าจะจินตนาการได้
“อีกอย่าง เนื้อหาที่ขยายได้จากส่วนของการถามตอบนั้นไร้ที่สิ้นสุด ไม่ใช่สิ่งที่จะทำสำเร็จได้ในเวลาราวสิบปี
“ผมต้องสอนนักศึกษาปริญญาโทด้วย คงไม่มีเวลามากพอ
“ถ้ามีคนจำนวนมากร่วมมือกันทำ คุณจะจ่ายค่าตอบแทนยังไง จะแบกค่าใช้จ่ายไหวรึเปล่า… คุณพิจารณาประเด็นเหล่านี้ดูรึยัง”
หยูผิงอันเตรียมตัวไว้แล้วจึงรีบอธิบาย “ไม่ต้องห่วงครับอาจารย์ข่ง เราพิจารณาเรื่องนี้กันไว้แล้ว
“บอสเผยแห่งเถิงต๋าคอร์เปอเรชันเป็นคนตัดสินใจทำโปรเจ็กต์นี้ เราสามารถระดมทรัพยากรทั้งหมดของกิจการในเครือมาช่วยในส่วนนี้ได้
“ผมถามบอสเผยเรื่องภาระงานดูแล้ว บอสตอบว่า เวลาที่ดีสุดในการปลูกต้นไม้คือสิบปีที่แล้ว รองจากนั้นก็คือตอนนี้ เนื่องจากเป็นงานหนักเราจึงต้องลงมือทำเลย ถ้าปล่อยให้ล่าช้าไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีอะไรเสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน
“ถึงเนื้อหาในช่วงแรกจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์มากพอก็สามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้ครับ
“เรื่องกำลังคนไม่ต้องห่วงเลย อาจารย์จะเป็นเหมือนผู้ดูแลของสาขาวิชานี้ มีหน้าที่วางแผนภาพรวมและกำกับดูแลขั้นสูงสุดเท่านั้น เราจะเชิญนักวิชาการรุ่นใหม่ อาจารย์ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มีผลงานโดดเด่นมาร่วมงานด้วย โดยจะอยู่ในรูปแบบของการแบ่งงานกันทำ
“เราจะปกป้องสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของครีเอเตอร์อย่างเต็มที่ และขณะเดียวกันก็จัดตั้งทีมกฎหมายเพื่อปราบปรามการลอกและแก้ไขเนื้อหา รวมถึงสิทธิ์ของครีเอเตอร์ด้วย
“ครีเอเตอร์จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือนตามระดับดาวและปริมาณงาน
“ส่วนเรื่องวิธีการแบ่งรายได้และจ่ายค่าตอบแทน สมาชิกทุกคนต้องจ่ายเงินเพื่อดูข้อมูลบนแอปโหย่วย่งตามเวลาการใช้งานและจำนวนการดูหน้าเพจ เราจะเก็บ 10% ของรายได้ไว้เป็นค่าดำเนินการ ส่วนอีก 90% จะแจกจ่ายให้กับครีเอเตอร์ตามสัดส่วน
“แน่นอนว่า ช่วงแรกน่าจะมีสมาชิกที่จ่ายค่าใช้บริการไม่มากพอ เราจึงจะการันตีค่าตอบแทนให้ครีเอเตอร์ ขอแค่มีเนื้อหาผ่านการตรวจและอนุมัติในเดือนนั้นๆ เกินหนึ่งหมื่นคำ ครีเอเตอร์จะได้ค่าตอบแทนสองพันหยวนครับ”
อาจารย์ข่งผงะไปชั่วครู่ “ค่าตอบแทนไม่ได้ปรับสัดส่วนตามจำนวนคำเหรอ”
หยูผิงอันพยักหน้า “ใช่ครับ
“เพราะเป็นข้อมูลความรู้ที่ไม่มีความตายตัว ถ้าให้ค่าตอบแทนตามจำนวนคำ อาจจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงได้
“ค่าตอบแทนที่กำหนดไว้เป็นแค่การการันตีค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน เพื่อที่ครีเอเตอร์จะได้ไม่เสียผลประโยชน์มากเกินไปในช่วงแรก
“แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่การส่งเสริมให้กินข้าวหม้อใหญ่[1]หรือส่งเสริมพวกอู้งาน
“เมื่อแอปโหย่วย่งมีสมาชิกมากพอ รายได้ย่อมเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เราจะกำหนดสัดส่วนรายได้ของแต่ละส่วนและครีเอเตอร์แต่ละคนตามชุดของอัลกอริทึมที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยจะคำนวณรวมจากระดับดาวของครีเอเตอร์ ยอดการชมหน้าเพจที่มีการเขียนหรือแก้ไขเนื้อหา การสร้างรายการเนื้อหาใหม่ช่วงแรก จำนวนไลก์กับสัดส่วนของเนื้อหา และอื่นๆ มาใช้คำนวณการแบ่งปันรายได้ให้แต่ละส่วนและแต่ละคน
“รายได้จะเป็นระบบค่าตอบแทนจูงใจ”
อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นพยักหน้าเบาๆ “ก็สมเหตุสมผลดีนะ”
อาจารย์มหาวิทยาลัยในจีนถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีความแปรปรวนของรายได้มากที่สุด แต่อาจารย์มหาวิทยาลัยกว่า 90% ไม่มีรายได้พิเศษมากนักนอกเหนือจากเงินเดือนและผลงานพื้นฐาน
อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฮั่นตงมีรายได้ต่อปีไม่ถึงหนึ่งแสนหยวน ส่วนรองศาสตราจารย์มีรายได้ต่อปีไม่ถึงหนึ่งแสนสามหมื่นหยวน
ยิ่งอาจารย์สาขาศิลปศาสตร์ที่ทุ่มเทกับงานวิชาการยิ่งมีรายได้ค่อนข้างแย่
ถึงสองพันหยวนจะไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่ถ้าเขียนเนื้อหาให้แอปโหย่วย่งได้เดือนละหนึ่งหมื่นคำก็สามารถได้รับเงินจำนวนนี้แล้ว ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว ยังไงก็ไม่ได้ยากเท่ากับการเขียนวิทยานิพนธ์ เพราะเป็นการเรียบเรียงความรู้ที่มีอยู่แล้ว
อีกอย่างเนื้อหาต้องผ่านการตรวจและอนุมัติก่อน เพื่อเป็นการยืนยันว่าเนื้อหาไม่ได้มีแต่น้ำ และไม่เกิดเหตุการณ์ ‘ใช้เงินซื้อขยะ’
อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นพิจารณาอย่างละเอียด “คุณหยู ผมเชื่อใจเถิงต๋าและรู้สึกได้ถึงความจริงใจในองค์ประกอบทุกด้านของเงื่อนไขต่างๆ
“อีกทั้งยังถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับอนาคต ผมอยู่ในแวดวงการศึกษามาตลอดทั้งชีวิต และผมคงจะรู้สึกเป็นเกียรติมากถ้าได้มีส่วนช่วยเหลือในการทำสารานุกรมบนอินเทอร์เน็ต
“แต่ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากถาม…
“บริษัทของคุณน่าจะทำเงินจากโปรเจ็กต์นี้ได้ยาก นี่เป็นโปรเจ็กต์เพื่อการกุศลหรือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ครับ”
แววตาอาจารย์ข่งฉายแววสงสัย
เงื่อนไขฟังดูค่อนข้างดีทุกแง่จริงๆ
แต่ปัญหาคือมันฟังดูดีเกินไป เป็นเงื่อนไขที่ดีทั้งกับครีเอเตอร์และผู้ใช้งาน แต่ไม่ดีกับบริษัท
แบ่งเงินไว้สำหรับค่าดำเนินงานแค่ 10% แบบนั้นก็ขาดทุนถล่มทลายสิ
ถึงจะเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะและสร้างชื่อเสียงให้บริษัท แต่ยังไงก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพอยู่ดี
แอปโหย่วย่งในปัจจุบันต้องใช้เวลาพัฒนานาน ใช้เงินสูง และเห็นผลลัพธ์ช้า และย่อมมีอิทธิพลไม่มากจนกว่าจะเห็นผลลัพธ์เป็นที่ประจักษ์ เพราะงั้นผลประโยชน์จะอยู่ตรงไหน
ต่อให้พิจารณาจากกรณีดีที่สุด และดังขึ้นมาได้ภายในไม่กี่ปีหรืออาจจะเกินสิบปีไปอีก ใครจะคิดถึงเรื่องระยะยาวขนาดนั้นกัน
เพราะงั้นอาจารย์ข่งจึงรู้สึกสับสนและมองว่าแปลกอยู่หน่อยๆ
หยูผิงอันเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “อาจารย์ข่งครับ ผมเองก็เคยถามคำถามนี้กับบอสเผย
“บอสเผยบอกว่า… ต้องมีคนลุกขึ้นมาทำ
“บอสอยากสร้างดินแดนบริสุทธิ์ที่ปราศจากขยะให้โลกอินเทอร์เน็ตครับ”
อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะพยักหน้า “ครับ ผมเอาด้วย
“เรื่องนี้… จะทำเงินได้หรือไม่ก็ไม่สำคัญ จะประสบความสำเร็จได้ไหมก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“ความสำคัญของตัวมันเองต่างหากที่สำคัญมากๆ”
หยูผิงอันตาเป็นประกาย “ขอบคุณมากครับอาจารย์ข่ง! ถ้ามีอาจารย์ช่วยก็จะง่ายขึ้นหลายเรื่องเลยครับ!”
ข่งเจ๋อหมิ่นยิ้ม “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณ มีบริษัทแบบเถิงต๋าแค่ไม่กี่แห่งที่คำนึงถึงสังคมมากขนาดนี้
“บอสเผยเป็นผู้ประกอบการที่ไม่เหมือนใครจริงๆ”
หยูผิงอันได้แต่ถอนหายใจ มนต์เสน่ห์ส่วนตัวของบอสเผยช่างแข็งแกร่งจริงๆ!
เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าคำพูดของบอสเผยกินใจอาจารย์ข่งมาก
อาจารย์รุ่นใหญ่แบบนี้เลิกสนใจโลกมานาน เพราะประสบความสำเร็จแล้ว ทุกวันมีแต่สอนหนังสือกับทำวิจัย ถ้าไม่ใช่สิ่งที่สนใจจริงๆ เงินก็ไม่สามารถซื้อตัวได้
แต่คำพูดของบอสเผยจับใจอาจารย์ข่งได้! пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ
การได้อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นมาร่วมโปรเจ็กต์ไม่ใช่แค่ได้ผู้เชี่ยวชาญในส่วนวรรณกรรมมาช่วย แต่ยังช่วยรับประกันความเป็นมืออาชีพและคุณภาพของเนื้อหาต่างๆ ได้ด้วย ที่สำคัญกว่านั้น ตอนที่แอปโหย่วย่งขยายไปยังสาขาอื่นในอนาคต การเชิญผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ มาร่วมโปรเจ็กต์ก็จะทำได้ง่ายขึ้น
เมื่อผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ มารวมตัวกัน แอปก็จะเติบโตขึ้น เนื้อหามีคุณภาพสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ได้คนดูแลเนื้อหาดีๆ มากขึ้น และจำนวนผู้ใช้งานก็จะมากขึ้นตาม
ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี!
…
…
วันพุธที่ 26 ตุลาคม
บริษัท OTTO
ทีมพัฒนา AEEIS กำลังขะมักเขม้นกับงานของตัวเอง
เทคโนโลยีผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันแบ่งออกเป็นสองส่วนคือส่วนหน้าและส่วนหลัง
ส่วนหน้าหลักๆ เป็นเทคโนโลยีการจำเสียงและการสังเคราะห์เสียงพูด ซึ่งจะแปลงภาษาพูดของผู้ใช้เป็นข้อความ จากนั้นจึงแปลงผลลัพธ์ข้อความกลับไปเป็นเอาต์พุตเสียงพูด
โปรแกรมจะประมวลผลคำขอของผู้ใช้และส่งผลลัพธ์ที่ตรงกันมากที่สุดในเบื้องหลังกลับไป
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันบนโทรศัพท์มือถือมีหน้าที่หลักสี่มิติ ได้แก่ การควบคุมอุปกรณ์และการเรียกใช้ฟังก์ชันระบบ การสนับสนุนแอปพลิเคชันบุคคลที่สาม บทสนทนาและระดับสติปัญญา และความสามารถในการเรียนรู้ทักษะ
เทคโนโลยีเริ่มต้นของผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ขอรับได้จากบริษัทซวิ่นเคอ ผู้ผลิตหลายๆ เจ้ากำลังพัฒนาและปรับปรุงผู้ช่วยอัจฉริยะของตัวเองให้เหมาะสมบนพื้นฐานนี้
แต่การที่ผู้ช่วยอัจฉริยะจะมีประโยชน์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตเพิ่มพูนประสิทธิภาพทั้งสี่มิตินี้ได้ดีขนาดไหน
ฉางโหย่วตัดสินใจทุ่มความพยายามไปกับระบบการเรียกใช้ฟังก์ชัน กับบทสนทนาและระดับสติปัญญาในวงรอบการพัฒนานี้
การสนับสนุนแอปพลิเคชันบุคคลที่สามและความสามารถในการเรียนรู้ทักษะถือเป็นมิติที่สำคัญ แต่สองมิตินี้มีเนื้อหามากกว่า แถมยังมีผู้ใช้งานแค่บางส่วนเท่านั้นที่มีความต้องการเฉพาะนี้ ลำดับความสำคัญจึงต่ำกว่า
การเรียกใช้ฟังก์ชันระบบคือการที่ผู้ใช้งานใช้เสียงเพื่อควบคุมการทำงานระบบของโทรศัพท์มือถือ
ตัวอย่างเช่น ถ้าพูดว่า ‘สภาพอากาศ’ ผู้ช่วยอัจฉริยะจะแสดงหน้าสภาพอากาศบนหน้าจอและอ่านสภาพอากาศกับการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ
ในทำนองเดียวกัน เครื่องคิดเลข ปฏิทิน การโทรออก ข้อความ และฟังก์ชันอื่นๆ สามารถควบคุมได้ด้วยผู้ช่วยอัจฉริยะ ซึ่งจะมอบความสะดวกให้ผู้ใช้งานได้ในระดับหนึ่ง
บทสนทนาและระดับสติปัญญาคือวิธีที่ผู้ช่วยอัจฉริยะจะตอบสนองเมื่อผู้ใช้งานถามคำถามที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ถ้าถามว่า ‘พ่อเธอคือใคร’ ผู้ช่วยอัจฉริยะบางตัวอาจตอบว่า ‘พ่อของฉันคือผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของทีมพัฒนา’ ในขณะที่ผู้ช่วยอัจฉริยะบางตัวจะตอบว่า ‘คือกลุ่มคนที่ฉลาดที่กล้าคิดค้นสิ่งใหม่ๆ’
ว่ากันตามตรงแล้ว ประเด็นนี้ไม่มีความสำคัญในทางปฏิบัติมากนัก แต่จะทำให้ AEEIS เป็นที่จดจำได้มากขึ้น
เนื่องจากบอสเผยวางแนวทางไว้ให้ AEEIS เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก ดังนั้นถ้าผู้ช่วยเสียงตัวอื่นๆ ใช้เสียงมนุษย์กันหมด AEEIS จะใช้เสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่ไร้อารมณ์
ตอนนี้พวกเขาวางแนวทางไว้แล้วว่าไม่ให้มี ‘บุคลิกนิสัย’ เพราะงั้นก็ต้องยืนในแนวทางนี้และพัฒนาแง่มุมอื่นๆ เพิ่ม
มีแค่การปรับแต่งเฉพาะและจับคู่อักขระและเสียงของ AEEIS เท่านั้นที่สามารถแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มีความสมบูรณ์สูง
ก่อนหน้านี้ วันถัดจากวันที่สรุปชื่อ AEEIS ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อติดต่อเข้ามาหาฉางโหย่วเพื่อขอชื่อปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในการถ่ายทำและพัฒนาเกม
ทั้งสองกิจการเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ตอนถ่ายทำวันพรุ่งนี้ที่สดใส จึงเป็นธรรมดาที่ครั้งนี้จะตกลงร่วมมือกันอีก ฉางโหย่วเล่าเรื่อง AEEIS ให้จูเสี่ยวเช่อฟัง ซึ่งจูเสี่ยวเช่อก็ตอบตกลงทันที และนำชื่อนี้ไปใช้ในการถ่ายทำและพัฒนาเกม
ถ้าใช้กระแสของหนังหรือเกมมาโปรโมต AEEIS ได้ ทำไมจะไม่ทำล่ะ
ฉางโหย่วเดินออกจากห้องประชุม เขาเพิ่งตรวจสอบฟังก์ชันหลักกับสมาชิกหลักเสร็จ
หลังจากยกชาขึ้นจิบ ฉางโหย่วก็พบว่ามีข้อความใหม่ในกลุ่มที่พวกผู้จัดการกิจการตั้งขึ้นเป็นการส่วนตัว หนึ่งในข้อความเหล่านั้นมาจากหยูผิงอัน
กลุ่มนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อคุยเล่น แต่มีไว้ให้แต่ละกิจการแชร์ความคืบหน้าของกิจการตัวเอง
หยูผิงอัน “แอปโหย่วย่งขอความร่วมมือจากอาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นได้สำเร็จ!”
ฉางโหย่ววางถ้วยชาลง เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย
แอปโหย่วย่ง?
อะไรกันล่ะนั่น