📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 703

บทที่ 703 - เริ่มพัฒนาแอปโหย่วย่ง
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม

โซนพักอาศัย มหาวิทยาลัยฮั่นตง

หยูผิงอันลงจากแท็กซี่แล้วหยิบมือถือออกมาดูที่อยู่และเลขห้อง

วันนี้เขาแวะมาหาข่งเจ๋อหมิ่น ศาสตราจารย์รุ่นใหญ่ที่ได้รับความนับถืออย่างสูงในคณะศิลปศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮั่นตง

ศาสตราจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นเกิดปีค.ศ. 1946 เป็นศาสตราจารย์ระดับหนึ่งด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยจีนศึกษาของมหาวิทยาลัยฮั่นตง หัวหน้าบรรณาธิการหนังสือเรียนภาษาจีนสำหรับโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา สมาชิกของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยฮั่นตง บรรณาธิการและประธานกลุ่มผู้เชี่ยวชาญการปรับปรุงมาตรฐานหลักสูตรจีน และยังมีตำแหน่งอื่นๆ อีก

สั้นๆ คือเขาเป็นอาจารย์ทรงคุณวุฒิในคณะศิลปศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮั่นตง และแม้แต่ในแวดวงวิชาการในประเทศทั้งหมด

หยูผิงอันเคยเจอผู้บริหารบริษัทร่ำรวยมามากมาย ซึ่งไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวล

แต่การได้พบปรมาจารย์ตัวจริงอย่างศาสตราจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นนั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

หยูผิงอันสงบใจตัวเองแล้วทบทวนการเตรียมการต่างๆ สำหรับแอปโหย่วย่ง ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป

ที่เขามาพบอาจารย์ข่งในวันนี้ก็เพื่อขอความร่วมมือ แต่ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย

หลังจากได้รับหน้าที่พัฒนาแอปโหย่วย่งจากบอสเผย หยูผิงอันก็เริ่มแก้แผนงานของทั้งแผนกใหม่หมด และปรับโครงสร้างพนักงาน

ส่วนหนึ่งได้พัฒนาและปรับปรุงฟังก์ชันของแอปชีวิตเถิงต๋าต่อ อีกส่วนได้รับเลือกให้ตั้งทีมค้นคว้าและพัฒนาแอปโหย่วย่ง

หยูผิงอันสับสนมากตอนที่ได้รับภารกิจจากบอสเผย

เพราะในความคิดเขา วงรอบการพัฒนาแอปโหย่วย่งนั้นนานเกินไป แถมยังยากมากที่จะทำกำไรได้ เรียกได้ว่าไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่ดีเลย

แต่เขาก็ทำตามแนวทางที่บอสเผยวางไว้ให้อย่างเคร่งครัด และเริ่มเตรียมงานอย่างจริงจัง

เพราะหยูผิงอันเห็นชัดว่าบอสเผยเน้นย้ำสิ่งหนึ่งในแอปนี้ ซึ่งก็คือ ‘การวนซ้ำ’!

การวนซ้ำสะท้อนให้เห็นจากกระบวนการพัฒนาของแผนก จากแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ สู่แอปชีวิตเถิงต๋า ตัวแอปผ่านการปรับปรุงหลายครั้ง เนื้อหาปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด และกลุ่มผู้ใช้งานของแอปก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน

ถือได้ว่าถ้าไม่มี ‘การวนซ้ำ’ ที่บอสเผยส่งเสริม ความสำเร็จในปัจจุบันของแอปชีวิตเถิงต๋าก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้!

ดังนั้นโปรเจ็กต์ใหม่อย่างแอปโหย่วย่งที่บอสเผยจะทำ ถึงตอนนี้อาจดูไม่น่าเชื่อถือ แต่เมื่อผ่านการวนซ้ำต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพัฒนาไปตามที่บอสเผยคาดหวังไว้ และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

หยูผิงอันเชื่อแบบนั้นหมดใจ

แต่พอเริ่มพัฒนาแอปโหย่วย่ง เขาก็พบปัญหามากกว่าที่คิดไว้

บอสเผยวางแนวทางพื้นฐานให้กับแอปนี้ไว้แล้ว โดยจะเป็นแพลตฟอร์มผลิตเนื้อหาที่มีโครงสร้างแบบต้นไม้

ส่วนลำต้นจะคล้ายเว็บไซต์สารานุกรม รากจะเป็นคีย์เวิร์ดและแนวคิดพื้นฐาน กิ่งก้านเป็นแนวคิดและคำอธิบายที่ได้จากคีย์เวิร์ด ส่วนใบเป็นคำถามและคำตอบของแนวคิดนั้นๆ  

นอกจากนี้ โครงสร้างของทั้งแอปจะเป็นเหมือนป่าที่มีต้นไม้มากมาย แนวคิดหลักพื้นฐานจะเชื่อมโยงกันและสนับสนุนการกระโดดเข้าหากันภายในรายการหรือภายในหมวดหมู่ขนาดใหญ่ (เช่น วรรณกรรม ฟิสิกส์ เกม ฯลฯ) เพื่อให้ค้นหาได้ด้วยหมวดหมู่ภายใน

พูดอีกอย่างคือ การรวมโมเดลสารานุกรมกับโมเดลถามตอบเข้าไว้ด้วยกันเป็นเพียงนวัตกรรมเล็กๆ รูปแบบหนึ่ง แต่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการรับข้อมูลของผู้ใช้ได้อย่างมาก

แต่ถ้าจะให้บรรลุตามกรอบโครงสร้างพื้นฐานที่บอสเผยต้องการ ก็ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการรวบรวมรายละเอียดและเนื้อหา

ตัวอย่างเช่น การออกแบบอินเทอร์เฟซย่อยแต่ละรายการในแอป การจัดเลย์เอาต์หน้าเว็บเพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว การอนุญาตให้ผู้พัฒนาเพิ่มและลบรายการหรือแก้ไขโครงสร้างต้นไม้ทั้งหมดได้อย่างอิสระ…

นี่คือประเด็นสำคัญที่ผู้พัฒนาแอปต้องคำนึงถึง

นอกจากนั้นยังมีประเด็นเรื่องการป้อนเนื้อหาให้กับแอปโหย่วย่งด้วย

เนื่องจากแอปโหย่วย่งเป็นแพลตฟอร์มผลิตเนื้อหา แอปจะเป็นที่นิยมหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อหาล้วนๆ

ประเด็นสำคัญมีอยู่สามจุด

เนื้อหาถูกต้องและไม่มีข้อมูลผิดหรือไม่

เนื้อหากระชับและปราศจากสแปมหรือไม่

สารบัญใช้ได้สะดวกและสามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วหรือไม่

การวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับผู้คน

ถ้าผู้ผลิตเนื้อหาบนแพลตฟอร์มจงใจใส่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและสแปมเพื่อให้ได้ปริมาณการเข้าถึงเนื้อหาสูงๆ แพลตฟอร์มย่อมไม่มีทางประสบความสำเร็จแน่นอน

ต่อให้จำเป็นต้องกำกับดูแล แต่ก็ทำได้แค่ใช้คนที่เก่งมากๆ มาควบคุมคนที่เก่งน้อยกว่า

พอมีเนื้อหาทางวิชาชีพเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนตัดสินว่าข้อมูลไหนถูกต้อง ไม่ถูกต้อง หรือเป็นสแปม

แล้วจะไปหาคนเก่งๆ แบบนั้นได้จากไหน

ที่แรกที่แวบเข้ามาในหัวหยูผิงอันคือมหาวิทยาลัย

แน่นอนว่าเป็นไปได้ที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญของแต่ละวงการมา เช่น ถ้าเป็นประเด็นเกี่ยวกับวงการอินเทอร์เน็ต ก็ไปเชิญผู้บริหารระดับสูงจากยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตมา ซึ่งคนที่จะเชิญมาต้องเป็นผู้รู้จริงโน!วลกูดoทคอม

แต่ปัญหาคือคนใหญ่คนโตเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ พวกเขายุ่งกับงานและหน้าที่ของตัวเองจนอาจไม่มีเวลามาจัดการเรื่องเล็กน้อยแบบนี้

อีกทั้งยังมีความแตกต่างระหว่างความเชี่ยวชาญในข้อมูลความรู้และการอธิบายข้อมูลความรู้

แอปโหย่วย่งเป็นเหมือนแพลตฟอร์มอธิบายข้อมูลความรู้ โมเดลสารานุกรมได้รับการพัฒนาไปสุดขั้นจนกลายเป็นหนังสือเรียนจริงๆ คำถามที่เกี่ยวข้องกับรายการสารานุกรมคือคำอธิบายโดยละเอียดในหนังสือเรียน

ดังนั้นบัณฑิตมหาวิทยาลัย อาจารย์รุ่นใหม่ ศาสตราจารย์ และอื่นๆ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดและเป็นเสาหลักของแอปนี้

ยักษ์ใหญ่ในวงการเป็นได้แค่ส่วนเสริม

อีกอย่างแอปโหย่วย่งก็เป็นงานใหญ่ระดับลุงโง่ย้ายภูเขา แล้วพวกเขาจะเริ่มตรงไหนดีล่ะ

สิ่งแรกที่หยูผิงอันคิดคือความรู้พื้นฐาน

บอสเผยบอกว่า แอปโหย่วย่งเป็นแผนงานระยะยาว ประเด็นบางอย่างที่คลุมเครือนั้นไม่ควรทำ ดีกว่าทำออกมาผิดๆ

เริ่มจากความรู้พื้นฐานด้านใดด้านหนึ่ง ค่อยๆ ทำทีละนิด ลองตลาดดู ถ้าได้ผลตอบรับดี ค่อยขยายไปยังแขนงอื่นๆ และขยายไปทีละขั้น

สิ่งที่เน้นไม่ใช่ปริมาณ แต่เป็นคุณภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าแอปนี้สมชื่อจริงๆ

เพราะงั้นเขาจึงมาที่มหาวิทยาลัยฮั่นตงเพื่อพบอาจารย์ข่ง

มหาวิทยาลัยฮั่นตง โดยเฉพาะคณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ ค่อนข้างสนับสนุนการร่วมมือนี้ เอาเข้าจริง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับองค์กรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากรัฐอย่างมาก ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสถาบันวิทยาศาสตร์ในการทำวิจัยร่วมกับองค์กรอื่น

คณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ไม่ค่อยได้ร่วมมือกับบริษัทอื่นเพราะเป็นแวดวงเฉพาะทาง ถ้าแอปโหย่วย่งประสบความสำเร็จก็จะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

อีกอย่างเถิงต๋าก็ตั้งอยู่ในจิงโจว และบอสเผยก็บริจาคเงินให้นักศึกษาอยู่หลายครั้ง พอมีความสัมพันธ์นี้ก็ช่วยให้เจรจาขอความร่วมมือได้ง่ายขึ้น

ปัญหาเดียวคือ ทางมหาวิทยาลัยตัดสินใจแทนอาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นไม่ได้

เพราะอาจารย์ข่งต้องสอนนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาตรี รวมถึงทำวิจัยด้วย คำถามคือ ชายแก่คนหนึ่งจะมีเวลาและพลังพอร่วมโปรเจ็กต์ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษรึเปล่า

ดังนั้น ถ้าหยูผิงอันอยากโน้มน้าวใจอาจารย์ข่งให้ได้ก็ต้องพยายามเต็มที่

หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้ หยูผิงอันก็เดินขึ้นไปบนตึกแล้วเคาะประตูชั้นสอง

ผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูรักษาความปลอดภัยก็เปิดออก อาจารย์สูงอายุผมขาวหน้าตาดูสดใสมองหยูผิงอันจากหัวจดเท้า “บอสหยูใช่มั้ย”

หยูผิงอันรีบตอบ “อาจารย์ข่ง ไม่ต้องเรียกบอสหยูก็ได้ครับ ขอโทษที่มารบกวนนะครับ”

อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นยิ้ม “ไม่ได้รบกวนอะไรเลย เข้ามาก่อนสิ”

หยูผิงอันเดินตามอาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นเข้าไปในห้องนั่งเล่น ซึ่งแทบจะเหมือนภาพที่คิดไว้ในหัว โซฟากับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำจากไม้ ดูเก่าแก่ทีเดียว มีภาพวาดและภาพอักษรแขวนอยู่ตามผนัง และชั้นหนังสือซึ่งอัดแน่นไปด้วยหนังสือวางเรียงรายอยู่ทั่วทุกมุม

อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นรินชาให้หยูผิงอัน ซึ่งหยูผิงอันก็ดูตระหนกเล็กน้อย

หลังจากทักทายกันเสร็จ หยูผิงอันก็ไม่กล้ารบกวนเวลาอาจารย์ข่งมากไปกว่านี้ จึงเข้าเรื่องทันที “อาจารย์ข่ง จุดประสงค์ที่ผมมาวันนี้ คณบดีคณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์น่าจะบอกอาจารย์ไปคร่าวๆ แล้ว ผมเลยจะมาลงลึกเรื่องรายละเอียดและเนื้อหาเฉพาะของแอปเรา

“เดิมผมรับผิดชอบดูแลแอปชีวิตเถิงต๋าของเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน และตอนนี้ได้มารับผิดชอบการพัฒนาแอปโหย่วย่ง ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้แบ่งปันความรู้โดยนำโมเดล ‘สารานุกรม’ กับ ‘ถามตอบ’ มารวมกัน…”

อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้าเป็นครั้งคราว ดวงตาของเขาฉายแววคลางแคลงใจเป็นพักๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดจังหวะหยูผิงอัน เขารอให้หยูผิงอันอธิบายทุกอย่างจนครบ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเฉพาะ โมเดลเก็บค่าบริการ โมเดลการให้ค่าตอบแทน และโมเดลอื่นๆ ทั้งหมดของแอปโหย่วย่ง จากนั้นก็เริ่มผสานข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกันและวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบ

หลังจากคิดอยู่ครู่ใหญ่ อาจารย์ข่งเจ๋อหมิ่นก็พูดขึ้น “คุณหยู หลังจากได้ฟังคำอธิบายจากคุณแล้ว ซอฟต์แวร์นี้ดูเหมือนจะวางตำแหน่งตัวเองคล้ายกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ค้นหาวรรณกรรมทางวิชาการและเอกสารทางวิชาการ สองอย่างนี้แตกต่างกันยังไงเหรอครับ”

หยูผิงอันตอบกลับทันที “แน่นอนว่าแตกต่างกันมากครับ

“พูดในภาษาคนทั่วไปคือ เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รวมถึงผลลัพธ์ที่เราต้องการก็แตกต่างออกไปด้วย

“เอกสารวิชาการและวรรณกรรมทางวิชาการ รวมถึงเอกสารประกอบการสอนสำหรับหลักสูตรต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ล้วนเป็นความรู้ที่จำเป็นและทันสมัยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่การจะอ่าน ทำความเข้าใจ และเชี่ยวชาญเนื้อหาเหล่านี้ได้นั้นมีกำแพงสูงมาก

“สำหรับคนธรรมดาส่วนใหญ่ ถึงจะเอาเนื้อหาเหล่านี้มาให้อ่าน พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้

“ถ้าเป้าหมายคือการส่งเสริมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ประสิทธิผลก็คงจะต่ำมาก

“ดังนั้นซอฟต์แวร์ที่เรากำลังสร้างจึงมุ่งเป้าไปที่คนทั่วไปเป็นหลัก และเรามุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ความรู้ทางวิชาชีพในสาขาเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยวิธีที่ค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย

“สิ่งที่เรากำลังทำคือการทำความเข้าใจเนื้อหาระดับมืออาชีพด้วยต้นทุนที่ต่ำ และเรามีแนวโน้มที่จะให้ผู้ใช้ ‘เข้าใจ’ มากกว่า ‘เชี่ยวชาญ’

“และความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างซอฟต์แวร์นี้กับแพลตฟอร์มถามตอบก็คือ เนื้อหาความรู้นั้นต้องผ่านการคัดกรองมาแล้ว เราจะพยายามหลีกเลี่ยงสแปมอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน เราก็มีกลไกการจัดทำดัชนีขั้นสูงขึ้นซึ่งจะปรับปรุงประสิทธิภาพในการรับความรู้ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น” 

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset