📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 697

บทที่ 697 - ลงทุนในสตูดิโออิงเถา
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เหลียงชิงฟานผงะไป 

มีใครบ้างที่จะเลือกอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีโอกาสในการเพิ่มมูลค่า

หรือว่า…

บอสเผยจะบอกให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ยอดนิยมใจกลางเมืองจริงๆ?

ราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่นิยมนั้นประเมินไว้สูงมาก ดังนั้นจึงแทบไม่มีช่องให้เพิ่มมูลค่าขึ้นไปอีก ซึ่งก็ถือว่าเข้าข่ายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีโอกาสในการเพิ่มมูลค่า

เหลียงชิงฟานเข้าใจทันทีจึงรีบพยักหน้า “ได้เลยครับบอสเผย!”

เขาสังเกตเห็นชัดเจนว่าทัศนคติเรื่องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของบอสเผยนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมมาก 

ที่ผ่านมาบอสเลือกแต่ขยะ ทั้งตึกผังห้องห่วย อาคารทำเลห่างไกลผู้คน และอาคารพาณิชย์กึ่งที่พักอาศัย

แต่ตอนนี้บอสให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าน้อย ซึ่งก็คืออสังหาริมทรัพย์ยอดนิยมใจกลางเมือง 

ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ 

เหลียงชิงฟานผนวกเรื่องนี้เข้ากับโมเดลอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 แล้วคิดว่าน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกลยุทธ์

บอสเริ่มจากการเลือกขยะเพราะต้องการเน้นย้ำถึงแนวคิดหลักของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 

ตัวอย่างเช่น ในคลิปโปรโมตของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย สองอาคารในคอมมูนิตี้ปินหูรีโนเวตจากอาคารขยะที่ไม่มีใครสนใจมาเป็นอาคารที่พักอาศัยได้จริง เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่เรียกความสนใจได้จำนวนมาก

ในเมื่อตอนนี้อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยเรียกความสนใจได้มากแล้ว พวกเขาก็ต้องออกสำรวจและสร้างมูลค่าแบรนด์ให้สูงขึ้นต่อไป 

ดังนั้นเหลียงชิงฟานจึงสนับสนุนความคิดของบอสเผยสุดใจ 

พอเห็นสีหน้าประมาณว่า ‘คนเก่งย่อมคิดเหมือนกัน’ ของเหลียงชิงฟาน เผยเชียนก็รู้สึกผิดขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล 

แต่พอคิดดู เลือกเก็บแต่ขยะต่อไปก็ไร้ประโยชน์ พอถึงเวลา มูลค่าก็พุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด แล้วก็ต้องไปตกใจเอาตอนสรุปบัญชีอีก 

ยังไงก็ต้องเลือกทางที่เลวร้ายน้อยกว่า เผยเชียนคิดอยู่พักใหญ่แล้วตัดสินใจยึดความคิดปัจจุบัน

ลองโมเดลอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 ดูก่อน ถ้าไม่รอดค่อยคิดหาทางอื่น

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 

ปักกิ่ง สตูดิโออิงเถา 

“เร็วเขา ทุกคนรีบจัดโต๊ะตัวเองให้เป็นระเบียบ ห้ามทำลายความประทับใจแรก”

ชายสูงผอม อายุไม่น่าจะเกินสามสิบกำลังเก็บกวาดโต๊ะรกรุกรังที่มีหนังสือกองพะเนิน ปากก็บอกให้อีกสามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำตาม

อีกสามคนดูเด็กกว่าเขา ชายคนหนึ่งหน้ากลม ดูไร้เดียงสาหน่อยๆ ชายอีกคนตัวอ้วนเล็กน้อย และหญิงสาวอีกคนสวมแว่นไว้ผมหางม้า 

ในปักกิ่งมีสตูดิโอเกมอินดี้เล็กๆ แบบนี้มากมาย 

ถ้ามีที่ให้สิงสถิต คนแค่สามสี่คนก็สามารถพัฒนาเกมอินดี้ได้แล้ว 

ชายสูงผอมคือเจ้าของและผู้อำนวยการสร้างของสตูดิโออิงเถา ชื่อเจี่ยงฟาน 

ชายคนที่ดูไร้เดียงสาชื่อหยางเลี่ยง เป็นนักออกแบบเกมหลัก ชายร่างท้วมเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบระบบ ส่วนสาวผมหางม้าเป็นนักออกแบบงานศิลป์ 

นอกจากนั้นคนอื่นๆ เป็นนักออกแบบระบบพาร์ตไทม์ สามารถใช้เครื่องมือพัฒนาเกมกันได้ทุกคน 

สาวผมหางม้ารับผิดชอบเรื่องงานศิลป์ แต่วาดทรัพยากรงานภาพด้วยตัวเองได้แค่บางส่วน ส่วนใหญ่จะติดต่อกับคนบนเว็บไซต์ บอกความต้องการ และยืนยันรับงาน 

ทีมงานขนาดเล็กสี่คนเป็นมาตรฐานปัจจุบันของสตูดิโอเกมอินดี้ในจีน 

ถ้าคนน้อยกว่านี้ วงรอบการพัฒนาจะนานขึ้น นอกจากนี้ยังการันตีเรื่องคุณภาพของเกมที่สร้างได้ยากด้วย ต้องหวังพึ่งดวงล้วนๆ แต่ถ้าคนเยอะกว่านี้ บริษัทก็อาจจะเอาตัวไม่รอด 

บริษัทเกมอินดี้มีข้อจำกัดเรื่องเงินทุน ทุกหยวนมีค่าสุดๆ 

ถึงจะมีเครื่องมือพัฒนาเกมและแพลตฟอร์มทางการในการหาทรัพยากรงานภาพมาจับคู่กับระบบ แต่การพัฒนาเกมอินดี้ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอยู่ 

ต้องจ่ายค่าเช่า เงินเดือนพนักงาน ค่าทรัพยากรงานภาพ 

ถึงแพลตฟอร์มเกมทางการจะมีนโยบายสิทธิพิเศษมากมายสำหรับผู้พัฒนาเกมอินดี้ แต่ถ้าเกมขายไม่ได้ ทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์ กลายเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า 

หยางเลี่ยง หัวหน้าฝ่ายออกแบบผู้ไร้เดียงสาเก็บกวาดโต๊ะอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “พี่ฟาน ไม่ต้องทำความสะอาดหรอก ผมว่าเปล่าประโยชน์ มีนักลงทุนหลายคนเข้ามาถามนั่นถามนี่ แต่ก็ไม่มีใครอยากลงทุนกับความเสี่ยงอย่างพวกเรา 

“เพราะยังไงเกมอินดี้ก็มีโอกาสล้มเหลวสูง ไม่มีใครอยากมาลงทุน

“เอาเวลาทำความสะอาดไปแก้บั๊กดีกว่า”

เจี่ยงฟานเองก็อับจนหนทาง “ไม่มีทางอื่นแล้วน้องเลี่ยง สถานการณ์การเงินของสตูดิโอเราเลวร้ายมาก ถ้าไม่มีใครยอมลงทุน อย่างมากก็อยู่ต่อไปได้แค่เดือนเดียว ถึงตอนนั้นก็จะไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง พี่ให้ทุกคนทำงานฟรีๆ ไม่ได้ มาลองดูกันอีกสักครั้งเถอะ

“พี่ลองถามเพื่อนในวงการดูแล้ว เห็นว่าบอสชิวที่จะมาวันนี้เป็นที่รู้จักดีในวงการ ถึงจะยังไม่ได้ลงทุนกับบริษัทไหนเลย แต่ก็มีติดต่อไปบ้าง แสดงว่ามีความตั้งใจที่จะลงทุน”

หยางเลี่ยงจัดแจงข้าวของต่อ “จริงเหรอ พี่ฟานคิดว่าเรามีโอกาสได้เงินทุนมั้ย”

เจี่ยงฟานส่ายหน้า “พี่ก็ตอบไม่ได้

“บอสชิวเคยทำแต่เกมเน้นระบบเติมเงิน ไม่รู้ทำไม ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนจู่ๆ ก็เริ่มติดต่อบริษัทเกมสแตนด์อโลน โดยเฉพาะสตูดิโอเกมอินดี้แบบเรา ในปักกิ่งเห็นติดต่อไปสามที่แล้ว

“ว่ากันว่าเขาเหมือนอยากลงทุนในเกมสแตนด์อโลนกับเกมอินดี้ สำหรับเราแล้ว โอกาสได้เงินทุนน่าจะสูงกว่าบริษัทลงทุนทั่วไป

“แต่ทั้งสามที่ที่ได้รับการติดต่อไปไม่ได้เงินทุนเลยสักที่ 

“ก็เข้าใจได้ว่าทำไมสองที่แรกถึงไม่ได้เงินทุน พวกเขาดูไม่น่าเชื่อถือเกินไป แต่อีกที่น่าเชื่อถือมาก เค้าโครงเกมสมบูรณ์แล้ว เนื้อหาเกมก็ค่อนข้างดีเลย เหลือแค่ทุ่มเต็มที่กับการพัฒนาช่วงสุดท้ายก็ปล่อยเกมได้เลย แต่บอสชิวก็ไม่ได้ร่วมลงทุน

“พี่ไม่รู้เลยว่าเขามีแนวทางยังไง

“แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับเรา มาพยายามคว้าไว้กันเถอะ”

ทั้งสี่คนในสตูดิโอเก็บกวาดโต๊ะทำงานระหว่างรอบอสชิวมาถึง

เจี่ยงฟานมองเวลาในมือถืออย่างเป็นกังวล 

สองนาทีก่อนบ่ายสองโมง มือถือของเจี่ยงฟานก็ดังขึ้น

เขารีบรับทันที “บอสชิวถึงแล้วเหรอครับ สักครู่นะครับ เดี๋ยวผมลงไปรับ”

เจี่ยงฟานมองทุกคนก่อนจะออกจากสตูดิโอ ทุกคนรีบนั่งหลังตรงประจำโต๊ะแล้วเริ่มทำงานอย่างจริงจัง รอคอยบอสชิวมา

ไม่กี่นาทีต่อมา เจี่ยงฟานก็พาชิวหงมาที่สตูดิโอโนlวลกูดอทคoม

ตั้งแต่ชิวหงรับหน้าที่ดูแลโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานของบอสเผย ชิวหงก็จัดแจงธุระส่วนตัวแล้วรีบตรงมาปักกิ่ง 

ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจวเป็นศูนย์รวมบริษัทเกม ชิวหงจึงแวะมาที่ปักกิ่งเป็นที่แรก

ภารกิจของชิวหงคือลงทุนในบริษัทเกมสแตนด์อโลนและสตูดิโออินดี้ทั่วประเทศ แต่ไม่จำเป็นต้องบินกลับไปกลับมาทุกวัน 

วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคืออยู่ปักกิ่งไปเลยหนึ่งเดือน แล้วเข้าไปเยี่ยมบริษัทละวัน พอเลือกบริษัทที่ปักกิ่งได้แล้วก็บินไปเมืองถัดไป 

ชิวหงแวะไปมาแล้วห้าบริษัท แต่ลงทุนแค่บริษัทเดียว 

สามที่ดูเป็นสตูดิโอเล็กๆ ที่ไม่น่าไว้ใจสุดๆ เจ้าของบริษัทรู้เรื่องเกมไม่มาก กลายเป็นเหมือนคนพอรู้งานมานำทางคนรู้งาน แถมชิวหงยังรู้สึกเจ้าของบริษัทพวกนี้มีแนวโน้มที่จะโกงนักลงทุนสูง 

บอสเผยบอกว่าถ้าไม่น่าเชื่อถือก็ห้ามลงทุน 

มีอยู่บริษัทหนึ่งที่ดีทุกด้านและมีโอกาสทำเกมจนเสร็จสูง ชิวหงลองเล่นดูแล้วก็พบว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จสูงทีเดียว

แต่บอสเผยบอกว่าไม่ให้ลงทุนในบริษัทที่ดูน่าเชื่อถือมากเกินไป 

เพราะงั้นก็เหลืออยู่ที่เดียวที่เข้าเกณฑ์และได้รับเงินลงทุนจากโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานของชิวหง 

วันนี้ชิวหงแวะมาเยี่ยมชมสตูดิโออิงเถา

เอาเข้าจริง งานของเขาทั้งง่ายและแบกรับความเครียดน้อยมาก ตอนรับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างเกม เขาต้องเค้นหัวคิดเรื่องระบบการเล่น และต้องเป็นกังวลว่าหากตัดสินใจพลาดครั้งเดียวจะทำให้ทั้งโปรเจ็กต์ล่มได้ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องพวกนั้นแล้ว ที่ต้องทำมีแค่ตรวจดูว่าสถานการณ์ภาพรวมของบริษัทเป็นยังไง แล้วตัดสินใจว่าจะลงทุนดีรึเปล่า 

อีกอย่างโบนัสที่เขาได้ก็ไม่ได้วัดจากกำไรของโปรเจ็กต์ที่ลงทุน แต่ยิ่งลงทุนมาก โบนัสที่ได้ก็มากตามไปด้วย จะไปหาข้อตกลงดีๆ แบบนี้ได้จากไหนอีก 

พอไม่มีแรงกดดัน ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกำไรขาดทุน ทำให้มีเหตุผลและมีสติมากขึ้นในการตัดสินใจ 

เจี่ยงฟานเลื่อนเก้าอี้จากด้านข้างมาให้ชิวหงก่อนจะกดน้ำร้อนจากตู้กดน้ำมาเสิร์ฟให้ จากนั้นก็อธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ของสตูดิโออิงเถาให้อีกฝ่ายฟัง

ชิวหงนั่งฟังพลางจิบน้ำ 

ตามที่ฟังจากเจี่ยงฟาน สตูดิโออิงเถาเป็นเรื่องราวตามแบบฉบับ ‘ทำด้วยใจรัก’

เจี่ยงฟานเคยทำงานในบริษัทกฎหมายมาก่อน หน้าที่การงานไม่มีความเกี่ยวข้องกับเกมเลย เขาเริ่มสร้างเกมเพราะแพลตฟอร์มทางการและเครื่องมือพัฒนาเกมถือกำเนิดขึ้น ซึ่งช่วยลดกำแพงในการสร้างเกมลง และทำให้เขาเกิดความคิดอยากลองสร้างเกมนอกเวลางาน 

เจี่ยงฟานเป็นคนทำงานช้า จึงแบ่งเวลาสำหรับการทำเกมในเครื่องมือพัฒนาเกมได้แค่หนึ่งชั่วโมงต่อวัน

ด้วยวิธีนี้ เขาใช้เวลาสองปีเต็มในการทำเกมนวนิยายเชิงโต้ตอบภายใต้ตีมทนายจำเลย ซึ่งเมื่อปล่อยออกมาก็ได้กระแสตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว 

ถึงยอดขายจะไม่ได้สูงมาก แต่เกมอินดี้ก็ไม่ได้มีต้นทุนการผลิตสูง เกมขายไปได้เกือบสองแสนก๊อบปี้ในราคาห้าหยวน พอเอาไปรวมกับนโยบายสิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับเกมอินดี้ของแพลตฟอร์มเกมทางการ เขาก็มีรายได้เกือบหกแสนหยวน 

ดังนั้นเจี่ยงฟานจึงตัดสินใจครั้งสำคัญชีวิต เขาลาออกจากงานทนายและตั้งสตูดิโออิงเถาขึ้นมาเพื่อทำเกมอินดี้เต็มเวลา 

เจี่ยงฟานได้พนักงานอีกสามคนมาจากกลุ่มผู้เล่นเกมของตัวเอง หลังจากได้พูดคุยและสัมภาษณ์ง่ายๆ ทั้งสามก็ลาออกจากงานเก่าตัวเองมาทำงานกับสตูดิโออิงเถาโดยได้ค่าจ้างในอัตราที่การันตีได้ว่าเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐาน

ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนขี้งก แต่ประเด็นสำคัญคือมีเงินอยู่แค่หกแสนหยวน ซึ่งเขาต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่สำนักงานและทรัพยากรงานภาพด้วย เพราะงั้นเลยจ่ายเงินเดือนสูงกว่านี้ไม่ได้

เกมที่พวกเขากำลังพัฒนาชื่อว่า ‘แนวทางการเอาตัวรอดสำหรับวัยทำงาน’ เป็นเกมสเกลใหญ่กว่าเกมที่เจี่ยงฟานเคยพัฒนา แต่ก็เพราะสเกลของเกมที่ใหญ่เหนือการควบคุมของเจี่ยงฟานนี่เอง ที่ทำให้สตูดิโออิงเถามีเงินไม่พอที่จะดำเนินงานต่อไปได้ 

ในอีกเดือนกว่าๆ เขาอาจไม่สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ และตัวเกมเองก็ไม่ได้อยู่ในขั้นที่จะปล่อยวางจำหน่ายได้ด้วย

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset