ถึงเสี่ยวเผิงจะพูดกันไว้ว่าทุกอย่างที่จะอธิบายเกี่ยวกับ ‘ระบบนิเวศอีสปอร์ตสุดยิ่งใหญ่’ เป็นแค่มุมมองส่วนตัว ไม่ได้ถือเป็นเครื่องแสดงจุดยืนของเถิงต๋าคอร์เปอร์ชัน แต่ก็ไม่มีใครจริงจังกับคำพูดนั้นมาก
ไม่มีใครคิดว่าจะมีสุนทรพจน์ทางการอะไรในพิธีเปิด
คนส่วนใหญ่อยากฟังเฉยๆ ว่าเสี่ยวเผิงจะพูดอะไร ถ้าฟังเข้าเค้าก็ยึดถือตามนั้น ถ้าไม่ก็ปล่อยผ่าน ไม่มีใครจริงจังกับสิ่งที่เขากำลังจะพูด
ผู้บริหารระดับสูงหลายคนมักชอบคุยโวกันไปเรื่อย โดยเฉพาะในแวดวงมือถือ ทุกคนชินกับเรื่องนี้กันหมดแล้ว
ถ้าหลงเชื่อตามที่เสี่ยวเผิงพูดทั้งหมดก็คงโง่สุดๆ
แน่นอนว่าเสี่ยวเผิงค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้มาก
บอสเผยไม่ได้บอกเขาเป็นคำพูดชัดเจน แต่จากแนวทางการเปิดกิจการต่างๆ ของบอส ก็เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปในทางเดียวกัน!
เสี่ยวเผิงรู้สึกว่าตัวเองแค่เปลี่ยนแนวคิดเหล่านั้นให้เป็นคำพูดที่ฟังดูดีเท่านั้น
“ต่อไป ผมขออธิบายระบบนิเวศอีสปอร์ตสุดยิ่งใหญ่ผ่านสามแง่มุมหลัก
“ถ้าเรามองอุตสาหกรรมอีสปอร์ตเป็นพีระมิด การแข่งขันรายการชั้นแนวหน้าย่อมอยู่บนสุด การแข่งขันรายการระดับกลางๆ กับสโมสรอีสปอร์ตอยู่ตรงกลาง และวัฒนธรรมคอมมูนิตี้อีสปอร์ตที่ดีนั้นเป็นฐาน
“ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป อุตสาหกรรมอีสปอร์ตก็จะพังลง
“ชัดเจนว่าจุดสำคัญที่สุดในสามส่วนนี้คือฐาน เพราะเป็นตัววางรากฐานให้กับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตและหล่อเลี้ยงวงการอีสปอร์ตโดยตรงด้วยการป้อนผู้เล่นหน้าใหม่ฝีมือเยี่ยม ผู้ชมกับลูกค้ากลุ่มใหญ่ รวมถึงอาชีพอื่นๆ ภายในวงการ
“ถ้าในอนาคตวงการอีสปอร์ตพัฒนากลายเป็นลีกเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่เหมือนวงการฟุตบอล ร้านอินเทอร์เน็ตก็จะกลายเป็นเหมือนบาร์ให้แฟนๆ มารวมตัวกันและเป็นสนามฝึกสำหรับเด็กๆ
“ดังนั้นร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 จึงมุ่งหมายที่จะสร้างร้านเพื่ออีสปอร์ตโดยเฉพาะ ดึงตัวนักแข่งอีสปอร์ตระดับต้น และพาหน้าใหม่เข้าสู่วงการอีสปอร์ต ขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่หัวใจรักอีสปอร์ตมารวมตัวกันด้วยความชอบที่เหมือนกัน คอมมูนิตี้นี้จะกลายเป็นแพลตฟอร์มสังคมและส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา!”
ระหว่างที่เสี่ยวเผิงกำลังพูดอยู่บนเวที ทุกคนก็พยักหน้าตาม เห็นได้ชัดว่าทุกคนเชื่อภาพเว่อร์วังที่เสี่ยวเผิงวาดขึ้นมาด้วยคำพูดของเขา
กลับกันเผยเชียนแทบห้ามตัวเองไม่ให้ยกมือป้องปากตะโกนออกไปว่า ‘ทุกคนอย่าไปเชื่อที่เขาพูด เขาโม้หลอกคุณอยู่!’
เสี่ยวเผิงกดรีโมตอีกครั้งเพื่อเลื่อนไปสไลด์ถัดไป
“ต่อไป ผมอยากให้ทุกคนได้ดูสิ่งที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพยายามทำ เพื่ออ้าแขนต้อนรับระบบนิเวศอีสปอร์ตสุดยิ่งใหญ่
“ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทุกสาขา ชาวเกมเมอร์จะได้ทดลองเล่นสกินส่วนหนึ่งของ GOG และ IOI แบบฟรีๆ นอกจากนั้นยังได้ส่วนลดค่าชั่วโมงตามเวลาที่ใช้เล่นทั้งสองเกมด้วย
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 จะจัดแข่งประจำสำหรับเกม GOG เพื่อส่งเสริมให้เกมเมอร์ตั้งทีมห้าคนมาเล่นเกม การแข่งขันจะถูกไลฟ์สตรีมให้ชมภายในร้าน ขณะเดียวกันทีมที่ชนะก็จะได้สิทธิ์ใช้ห้องฝึกซ้อมในร้าน
“ทีมที่แกร่งที่สุดจะได้ฝึกฝีมือบนที่นั่งที่สูงที่สุดในร้าน พวกเขาจะเป็นตัวแทนมาตรฐานสูงสุดในสังเวียน GOG ซึ่งถือเป็นเกียรติสุดยิ่งใหญ่!”
เสี่ยวเผิงยกนิ้วชี้ไปทางแถวที่นั่งห้าตัวที่เชื่อมกันเป็นรูปตัว V ซึ่งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดในร้าน เรียกเสียงฮือฮาได้ยกใหญ่
ชัดเจนว่าส่วนใหญ่กำลังจินตนาการว่าถ้าได้นั่งบนนั้นจะรู้สึกยังไง
แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่พากันล้อเลียน
เพราะไอเดียนี้ดูโลกสวยเกินไป
ตอนนี้อีสปอร์ตถือเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มทั้งในจีนและทั่วโลก ถึงปัจจุบันจะมีร้านอินเทอร์เน็ตมากมาย และยังคงผุดขึ้นทั่วทุกที่ แต่ก็มีส่วนน้อยที่ตามการแข่งขันอีสปอร์ต
อีกอย่างงานแข่งอีสปอร์ตแทบทุกงานมักจัดที่เมืองระดับหนึ่งอย่างเซี่ยงไฮ้หรือปักกิ่ง เกมเมอร์เองก็รู้จักงานแข่งแค่ไม่กี่งานที่ดังๆ หน่อย
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคิดจะทำให้อีสปอร์ตยิ่งใหญ่เท่าฟุตบอลเลยเหรอ คิดจะสร้างสภาพแวดล้อมอันดีเยี่ยมสำหรับอีสปอร์ตในเมืองระดับสองและสามเนี่ยนะ
ดูจะฝันใหญ่ไปหน่อย
ถ้าไม่มีผู้เล่นให้การสนับสนุนไอ้ ‘ร้านเพื่ออีสปอร์ตโดยเฉพาะ’ ก็คงไม่มีใครมาดูการแข่งขัน ฝันสุดสวยก็จะพังทลาย ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะกลายเป็นแค่ร้านอินเทอร์เน็ตที่แพงกว่าร้านอื่นนิดหน่อย
เสี่ยวเผิงยิ้มราวกับคิดเอาไว้แล้วว่าทุกคนต้องมีท่าทีแบบนี้
โชคดีที่เขามีแผนสำรองเตรียมไว้แล้ว!
“ผมรู้ว่าส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ที่นี่ไม่เคยดูการแข่งสเกลใหญ่มาก่อน และไม่เข้าใจว่าความตื่นเต้นที่ได้ดูการแข่งขันอีสปอร์ตเป็นยังไง เพราะงั้นผมขอพาทุกคนไปพบกับการแข่งขันระหว่างทีมชั้นแนวหน้าของเกม GOG ไปพร้อมๆ กับสัมผัสประสบการณ์ร้านเพื่ออีสปอร์ตโดยเฉพาะ ซึ่งก็คือร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 แห่งนี้ เราจะมาสัมผัสไปด้วยกันว่าร้านอินเทอร์เน็ตแห่งนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงกับชีวิตเรายังไงได้บ้าง”
พอเสี่ยวเผิงพูดจบ สมาชิกทีมจากสโมสรอีสปอร์ต DGE ก็เดินขึ้นเวทีจากทางด้านข้าง จากนั้นก็ทยอยเข้าห้องเก็บเสียงทีละคน
จางหยวนเดินไปข้างเสี่ยวเผิงแล้วคว้าไมโครโฟนขึ้นมา เหมือนว่าจะเตรียมรับบทผู้พากย์การแข่งขัน
จอภาพไม่ได้แสดงหน้าสไลด์อีกต่อไป แต่แทนที่ด้วยภาพเกมการแข่งที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น
มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นจากล่างเวที
“มีโชว์ด้วย!”
“ไปหาทีมมาจากไหนเนี่ย”
“ดูไม่เหมือนโปรเพลเยอร์เลย ดูหล่อเกินไปหน่อย”
“จะเล่นเกม GOG กันสดๆ เลยเหรอ”
“อ้าว แล้วเขาพูดถึง IOI มั้ยล่ะ เหมือนร้านนี้จะจัดแข่งแค่ GOG นะ”
“ช่างปะไร ฉันว่าคนเล่น IOI ตอนนี้ก็มีไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว”
ขณะเดียวกัน ข้างนอกก็มีเสียงโหวกเหวกดังขึ้น
“ขอทางหน่อยครับๆ! ตั้งเก้าอี้ตรงนี้แหละ!”
เก้าอี้พับมาถึงแล้ว
ผู้ชมด้านนอกที่กำลังจ้องจอขนาดยักษ์อยู่ต่างดีใจขณะพากันจับจองที่นั่ง
หลายคนในร้านพากันเปิดเครื่องและเข้าเล่นเกม GOG
ตอนส่งบัตรเชิญ เสี่ยวเผิงจงใจเลือกผู้เล่นหน้าเก่าของ GOG ไม่งั้นคนบนเวทีและล่างเวทีจะเล่นเกมคนละเกมกัน เกิดเป็นภาพยุ่งเหยิง
ถึงจะอนุญาตให้คนในงานเล่นเกมได้ แต่เขาก็อยากให้มีคนเล่น GOG เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะทำให้ภาพในวิดีโอออกมาดูดีกว่า
แต่คนกลุ่มนี้ดูไม่สนใจการแข่ง GOG ที่กำลังจะเริ่มขึ้น พวกเขาอยากเล่นเกมเองเพื่อจะได้เห็นว่าเอฟเฟกต์ไฟ RGB แบบพิเศษเป็นยังไง
เหล่าเด็กติดเกมแห่งสโมสรอีสปอร์ต DGE เทรนร่างกายกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็จัดการได้แค่บุคลิกท่าทางแปลกๆ ที่เคยมี กล้ามเนื้อภายใต้เสื้อยืดและกางเกงยีนยังไม่เห็นเด่นชัดเท่าไหร่
พวกเขาไม่ได้ดูสะดุดตาเท่ากับกลุ่มเทรนเนอร์ฟิตเนส เหล่าคนดูแค่รู้สึกว่าคนพวกนี้ดูร่างกายแข็งแรงกว่านักกีฬาอีสปอร์ต ภาพจำของนักกีฬาอีสปอร์ตในหัวทุกคนคือพวกผอมแห้งไม่ก็อ้วนไปเลยแต่รัวคีย์บอร์ดไฟลุก ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm
ไม่นานทุกคนในร้านก็เปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มเล่นเกมโดยที่ผู้ชมด้านนอกร้านรอดู โดยคิดไว้ว่าถ้าการแข่งไม่สนุกก็จะกลับ
ส่วนเผยเชียน… เขาไม่รู้จะอธิบายความรู้ตัวเองยังไงดี
พิธีเปิดแตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง!
ปกติแล้วพิธีเปิดก็แค่มีประธานขึ้นพูดแล้วตัดริบบิ้น จากนั้นทุกคนก็กินดื่มสรวลเสเฮฮากันไม่ใช่เหรอ
ทำไมร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 ถึงมีตัวอย่างสดๆ ให้ดูว่าการแข่งขันในอนาคตจะเป็นยังไง
ทั้งสองทีมบนเวทีนั้นไต่แรงก์กันมาอย่างหนักจนแรงก์สูงลิ่ว!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจางหยวนกับโค้ชย่าหลิงถึงไม่จัดให้มีการฝึกร่างกาย พวกเขาอยากให้ทีมพักผ่อนเพื่อจะได้แสดงฝีมือได้เต็มที่นั่นเอง!
…
การแข่งขันบนจอใหญ่เปิดฉากขึ้น
การแข่งเป็นแบบ Bo5 ที่ทั้งสองทีมจากสโมสรอีสปอร์ต DGE คุ้นชินจากการฝึกเป็นอย่างดี
เครื่องคอมพิวเตอร์ด้านล่างเวทีส่องแสงหลากสีเรียกความสนใจจากคนดู
“นั่น First Blood เหรอ”
“เอ๊ะ เอฟเฟ็กต์ไฟไม่เหมือนกันนี่ น่าสนใจแฮะ!”
“ไฟตอนได้ Legendary ดูค่อนข้างยาวเลย”
“โห เท่เกิ๊น!”
ชาวเกมเมอร์ในร้านสังเกตเห็นความสุดยอดของเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที ว่ามีไฟ RGB พิเศษที่เปลี่ยนไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม!
เอาจริงๆ ก็ไม่ได้จัดการยากอะไรขนาดนั้น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าทำไว้ให้ใครดู
ถ้าอยู่บ้าน ต่อให้เครื่องแสดงไฟถี่ขนาดไหน ก็มีแค่เจ้าของเครื่องที่เห็น ไม่นานก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ ไฟที่เคยดูเท่ในตอนแรกก็จะกลายเป็นไฟรบกวนสายตา
แต่ถ้ามาอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ต ผลลัพธ์จะแตกต่างออกไป!
เพราะร้านอินเทอร์เน็ตนั้นคึกคักวุ่นวายอยู่แล้วเป็นทุนเดิม แถมทุกคนก็เล่นเกม GOG มีเครื่องคอมพิวเตอร์แสดงสีสันแวบวับก็เหมือนกับเป็นการอวดฝีมือให้ทุกคนรู้ เอาจริงๆ เด่นสะดุดตาขนาดนั้นไม่ให้สังเกตเห็นได้ยังไงไหว
แม้กระทั่งคนเดินผ่านไปผ่านมา พอเห็นเอฟเฟ็กต์ไฟ RGB ด้านในร้านก็คงนึกอยากจะลองเล่นกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นดูบ้าง
ผู้เล่นในร้านจะรู้สึกเหมือนเอฟเฟ็กต์ไฟ RGB ให้บัฟอะไรบางอย่างเพิ่ม ไฟในการเล่นของพวกเขาจะลุกโชนและทวีความแรงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเล่น เหล่าเกมเมอร์จะกระหายอยากฆ่าศัตรูให้ได้เยอะๆ และฆ่าต่อเนื่องให้ได้มากที่สุด เพื่อที่เครื่องจะได้แสดงไฟเรียกความสนใจจากคนอื่น
ถ้ามีสาวสวยบังเอิญมานั่งข้างๆ… เรื่องราวอาจจะไปไกลเกินควบคุม
หลายคนมาเป็นกลุ่ม ตอนแรกทุกคนก็ตั้งสมาธิกับเกมตัวเอง ไม่มีใครสนใจการแข่งขันบนหน้าจอยักษ์ แต่ไม่นาน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป
“ดักแกงค์ตั้งแต่เลเวลหนึ่งเลยเหรอ”
“ดูตำแหน่งการยืนก็รู้แล้วว่ามืออาชีพ!”
“อีกทีมก็เตรียมตัวมาดี ไม่พลาดท่าหลงกล”
“เชี่ย ดูนั่น! Ruan เคลื่อนที่อย่างเฉียบ โคตรเจ๋ง!”
“ทุกคนฝีมือดีและเล่นเกมเร็วมาก ไม่ใช่ทีมทั่วไปแน่นอน อย่างต่ำก็น่าจะแรงก์ Grand Master ขึ้นไป!”
“เป็นไปไม่ได้ ฉันก็แรงก์ Grand Master ขนาด Grand Master ยังเล่นไม่ได้ขนาดนี้เลย”
ผู้คนเริ่มถกกันเรื่องการแข่งมากขึ้น
เกมเมอร์หลายคนตั้งใจจะเพ่งสมาธิกับเกมตัวเอง แต่พอโดนขัดสมาธิด้วยเสียงโห่เชียร์และเสียงปรบมือจากรอบข้างก็อดเงยหน้าดูจอเป็นพักๆ ไม่ได้
สุดท้ายพอเห็นว่าศึกบนจอใหญ่เข้มข้นขนาดไหน พวกเขาก็อินจัดจนจ้องไม่วางตา พอหันกลับมามองจอตัวเองก็พบภาพขาวดำและเพื่อนร่วมทีมกดปิงใส่บนศพพวกเขา
ตอนจบการแข่งรอบแรก มีคนเล่นเกมประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์
พอจบการแข่งรอบสอง เหลือคนเล่นเกมอยู่ราวยี่สิบคน
พอเริ่มการแข่งรอบสามก็ไม่มีใครในร้านเล่นเกมอีก ทุกคนต่างจิบเครื่องดื่มและจับจ้องไปที่หน้าจออย่างใจจดใจจ่อ ทุกครั้งที่มีจังหวะชวนตื่นเต้นเกิดขึ้น พวกเขาก็หลุดตะโกนเชียร์กันยกใหญ่
ช่วงพัก ทุกคนถกกันเรื่องเกม ในใจหวังอยากให้ร้านฉายซ้ำจังหวะน่าตื่นเต้นในการแข่งอีกครั้ง
กล้องสามตัวในร้านอินเทอร์เน็ตเก็บภาพอาการตอบสนองของเหล่าคนดูไว้ได้หมด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักสุดๆ
แม้แต่ฝูงชนด้านนอกก็เริ่มเยอะขึ้น!
ตอนแรกมีแค่คนที่ได้ยินเรื่องร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 เปิดวันนี้ที่มายืนอออยู่ด้านนอก ตอนนี้คนพวกนี้ได้นั่งบนเก้าอี้พับตรงหน้าทางเข้าร้านกันหมดแล้ว แต่ก็มีคนอื่นๆ ในห้างสนใจเข้ามาดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอถามว่ามีอะไรกัน พวกเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรอบๆ
คนที่แค่นึกสงสัยเฉยๆ ทยอยเดินออกไป แต่พวกที่เล่น GOG หลายคนยังยืนดูต่อ ทำให้มีคนมายืนออหน้าร้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เผยเชียนที่นั่งอยู่หลังสุดในโซนพักผ่อนรีบหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าเว็บเชียนตู้
‘ร้านอินเทอร์เน็ตของฉันดูจะมีกระแสเยอะเกินไป ควรตัดกำไรยังไงดี!’
