แน่นอนว่าเชียนตู้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกครั้ง โดยแสดงหน้าเว็บสแปมที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อสงสัยที่ถามไป
เผยเชียนถอนใจเงียบๆ ถ้าที่เด้งมาเยอะๆ เป็นโฆษณาเขาก็คงไม่ว่าอะไร การยิงแอดเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ขยะที่เขาเจอนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถามเลย
แน่นอนว่าเขาก็โทษเชียนตู้ไม่ได้ เพราะบ้างก็ว่าเสิร์ชเอนจิ้นเว็บอื่นห่วยกว่านี้สิบเท่า
เผยเชียนอยากจะขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าปีฮู แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าปีฮูจะเปิดให้ใช้บริการในอีกสองปีให้หลัง
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงเขาจะเอาปัญหานี้ไปถามปีฮูก็คงจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการอยู่ดี
เผยเชียนได้แต่ถอนหายใจเงียบๆ และทำตัวเป็นผู้ชมโปร่งแสงเพียงคนเดียวในฝูงชน
บนหน้าจอโปรเจ็กเตอร์ ทั้งสองทีมทุ่มสุดฝีมือ ทั้งการยืนเลน ทีมไฟต์ เทคนิคต่างๆ รูปแบบการเล่นเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม
เผยเชียนตั้งใจดูและพบว่าจริงๆ แล้วก็น่าสนใจไม่เบา…
‘ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมเกมดุเดือดขนาดนี้ มันสามารถพลิกกลับไปกลับมาได้สองสามครั้งในหนึ่งเกมเลยเหรอ
‘อ๋อ เข้าใจแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเพราะจางหยวนจัดฉากให้ไม่ดูหนักไปทางทีมใดทีมนึง พยายามให้มีพลิกเกมกันไปมา เพราะยังไงก็เป็นการแข่งโชว์ ก็ต้องทำให้ดูสนุก
‘ทำเป็นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตอนเข้าทีมไฟต์ เจ้าพวกนั้นก็แสดงได้ดีไม่เบา
‘ไอ้จางหยวนไม่เคารพจิตวิญญาณของการแข่งเลย! ต้องด่าหน่อยแล้ว!’
สถานการณ์บนจอเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตอนจบทีมไฟต์ในแต่ละครั้งเรียกเสียงตื่นตะลึงได้จากผู้ชมทั้งในและนอกร้าน บรรยากาศตอนนี้คึกคักยิ่งกว่าเรียกแฟนบอลให้มารวมตัวที่ร้านอีก
ผ่านไปสามชั่วโมงกว่า การแข่งโชว์ก็จบลง พวกเขาเล่นไปห้ารอบ ไม่สำคัญเลยว่าสุดท้ายผู้ชนะจะเป็นใคร เพราะผู้ชมก็ไม่ได้รู้จักนักกีฬาเหล่านี้อยู่แล้ว แค่ให้เกมออกมาดูดีก็พอ
ตอนจบเกม นักกีฬาทั้งสิบมารวมตัวบนเวทีด้วยการนำของเสี่ยวเผิง สีหน้าของทีมที่ชนะเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มดีใจ ส่วนทีมที่แพ้ดูหมดอาลัยตายอยาก สีหน้าของทั้งสองทีมดูแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ชมดูแปลกใจกัน
“เอ๊ะ นี่แค่แข่งโชว์ไม่ใช่เหรอ ทำไมสีหน้าทุกคนถึงดูจริงจัง”
“ฉันรู้สึกได้เลยว่าทั้งสองฝั่งทุ่มสุดฝีมือ แทบไม่มีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เลย ไม่งั้นพวกเขาคงเล่นได้ไม่ดีขนาดนี้หรอก”
“นักแข่งพวกนี้หุ่นดีทีเดียว ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปหามาจากไหน หรือว่าไปหาคนทั่วไปที่แรงก์สูงๆ จากเกม Honor of Kings แล้วมากรองจากรูปร่าง คัดคนที่หุ่นไม่ดีออก”
“จะเป็นงั้นได้ไง ฉันว่าเขาร่วมมือกันดีมากๆ ดูไม่เหมือนทีมที่เพิ่งมารวมตัวกันเลย”
ผู้ชมบางคนอดใจอยากเข้าเกมไปอวดฝีมือหลังการแข่งโชว์จบแทบไม่ไหว พวกเขาอยากโชว์สเต็ปเทพแบบที่เห็นในการแข่งโชว์บ้าง
เหล่าผู้ชมจับตาดูนักกีฬาทั้งสิบคนต่อ
เพราะทั้งสิบคนดึงความสนใจจากผู้ชมด้วยฝีมือของพวกเขาได้อยู่หมัด ควรค่าแก่การปรบมือชมเชย
ตอนนี้ทีมห้าคนที่ชนะต่างปลาบปลื้มดีใจท่ามกลางความสนใจ
ส่วนห้าคนที่แพ้ต่างหมดอาลัยตายอยาก ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะความพ่ายแพ้เพียงอย่างเดียว
ในหัวพวกเขาตอนนี้คิดถึงแต่เรื่องที่ต้องฝึกเพิ่มในวันพรุ่งนี้!
เสี่ยวเผิงเดินขึ้นหน้าเวที “ต่อไปผมขอเชิญ CEO คนก่อนของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและผู้จัดการคนปัจจุบันของ สโมสรอีสปอร์ต DGE ผู้จัดการจางขึ้นมาแนะนำการร่วมมือกันระหว่างสโมสรอีสปอร์ต DGE และร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูครับ!”
หลายคนไม่รู้จักจางหยวน แต่ทุกคนก็เชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ได้เมื่อได้ยินว่าคนคนนี้เคยเป็น CEO คนก่อนของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เรื่องนี้สื่ออะไรได้บ้าง
สโมสรอีสปอร์ต DGE เป็นเป้าหมายต่อไปของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ดังนั้น CEO คนก่อนเลยต้องเข้าไปดูแล?
ไม่งั้นทำไมผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูต้องไปรับหน้าที่ผู้จัดการสโมสรอีสปอร์ต DGE ด้วย
หรือกำลังจะบอกใบ้ว่าเถิงต๋ามีแผนการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอีสปอร์ต
จางหยวนยิ้มบาง “สโมสรอีสปอร์ต DGE เป็นสโมสรที่ใช้วิธีการฝึกซ้อมแบบมืออาชีพ นักกีฬาทุกคนมีแรงก์สูงและผ่านการฝึกฝนอันเข้มงวดหลังเข้าร่วมสโมสร…
“ส่วนผลลัพธ์จากการฝึกซ้อม… ช่วยดูบนจอใหญ่ด้วยครับ”
จางหยวนแนะนำรูปแบบการฝึกซ้อมของสโมสรอีสปอร์ต DGE โดยเน้นว่านักกีฬาทุกคนผ่านการเทรนร่างกายทุกวันและนำเสนอภาพการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายที่โค้ชย่าหลิงถ่ายไว้ อีกทั้งยังพูดถึงความแตกต่างระหว่างสโมสรอีสปอร์ต DGE กับสโมสรอีสปอร์ตอื่นๆ
เผยเชียนใจกระตุกวูบ
เทียบการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายเหรอ
นั่นมันรูปที่ฉันขอให้โค้ชย่าหลิงถ่ายทุกวันเพื่อติดตามการซ้อมของพวกนักกีฬานี่!
รูปก่อนและหลังผ่านการฝึกที่แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านร่างกายของผู้เล่นปรากฏอยู่บนจอ ความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัดเจน
รูปร่างของนักกีฬาในสโมสรไม่ได้สมบูรณ์แบบเท่าเทรนเนอร์ฟิตเนส แต่พวกเขาก็ดูผอมและสุขภาพดีสุดๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าสุดยอดมากเมื่อเทียบกับรูปร่างเดิม
ผู้ชมฮือฮากันอีกครั้ง
“นี่แก๊งเด็กติดเกมจริงๆ รึเปล่าเนี่ย โดนบังคับให้กลายสภาพเป็นแบบนี้เลยเหรอ”
“เชี่ย พัฒนาการในรูปเห็นชัดมาก ใช่คนเดียวกันกับตอนก่อนฝึกจริงเหรอ”
“แนะนำให้เดบิวต์เลย!”
“ฟิตเนสไหนทำไมดีขนาดนี้ อยากลองไปเทรนบ้าง!”
“พวกเขาบอกแล้วนี่ ฟิตเนสฝากประจำที่เถิงต๋าเพิ่งเปิดใหม่ไง! ในจิงโจวตอนนี้มีหลายสาขาแล้ว!”
“ผลลัพธ์เห็นชัดเจนมาก! ฉันก็อยากลองเทรนบ้าง!”
สื่อเกมเจ้าต่างๆ เริ่มยกกล้องขึ้นรัวแฟลชจนบนเวทีกลายเป็นสีขาว ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงของเหล่าเด็กติดเกมสามารถเอามาทำเป็นข่าวได้
เผยเชียนที่นั่งอยู่ในโซนพักผ่อนขยำแก้วเปล่าในมือเงียบๆ
จะจัดแข่งโชว์ยังไงก็ได้ แต่ใครใช้ให้พวกแกโปรโมตฟิตเนสฝากประจำ!
อย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวายสิ!
พวกแก๊งเด็กติดเกมจะไปรู้เรื่องสุขภาพร่างกายได้ไง อย่าหลงเชื่อกันได้มั้ย!
แต่พอเห็นหลายคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป เผยเชียนก็พูดอะไรไม่ออก
ทำอะไรไม่ได้แล้ว ความแตกต่างมันเห็นชัดเจนเกินไป!
จางหยวนที่อยู่บนเวทีรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังโชว์ภาพได้อย่างชัดเจน
ผู้ชมดูเฉยๆ ตอนที่บอกว่านักกีฬาต้องเทรนร่างกายทุกวัน แต่พอแสดงภาพเปรียบเทียบสภาพร่างกายของนักกีฬาขึ้นบนจอ ผู้ชมก็รีบยกมือถือขึ้นมาถ่าย แฟลชกล้องจากบรรดาช่างภาพของสื่อรัวแสงระรัวโน!วลกูดoทคอม
เห็นได้ชัดว่าสิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น!
จางหยวนอดถอนหายใจไม่ได้
บอสเผยเป็นคนมองการณ์ไกลจริงๆ
ก่อนหน้าเขาเคยสงสัยว่าที่บอสเผยบอกให้โค้ชย่าหลิงถ่ายรูปนักกีฬาสวมชุดเทรนรัดติ้วทุกวันนั้นจำเป็นจริงๆ น่ะเหรอ
ตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ได้ผลลัพธ์ทันใจทั้งสโมสรอีสปอร์ต DGE กับฟิตเนสฝากประจำ!
แค่แปลงโฉมพวกเด็กติดเกม ผลลัพธ์ที่ได้จากการเทียบภาพก่อนและหลังนั้นเยี่ยมยอดเกินไปจริงๆ!
“สรุปแล้วในอนาคต ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างโมเดลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 และเปิดร้านอินเทอร์เน็ตเพื่ออีสปอร์ตโดยเฉพาะในทุกเมืองทั่วประเทศ จะทีมหรือโซโล่ ถ้าสร้างผลงานได้ดีพอก็มีโอกาสประชันฝีมือกับสโมสรอีสปอร์ต DGE หรืออาจจะได้รับเลือกเข้าร่วมสโมสรอีสปอร์ต DGE และก้าวขึ้นไปเป็นโปรเพลเยอร์!
“ความรุ่งเรืองสูงสุดของอีสปอร์ตเกม GOG ในจิงโจว ในจีน หรืออาจจะในโลกกำลังรอคุณอยู่!”
คำพูดของจางหยวนเป็นการเชื่อมโยงสุดท้ายของการแถลงข่าวครั้งนี้
มันคือการเชื่อมโยงระหว่างระบบนิเทศอีสปอร์ตสุดยิ่งใหญ่ งานแข่งโชว์มาตรฐานสูง สโมสรอีสปอร์ต DGE และฟิตเนสฝากประจำ…
ถึงพิธีเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะแบ่งออกเป็นหลายส่วน แต่แต่ละส่วนก็อัดแน่นไปด้วยหัวข้อและเนื้อหาที่เข้มข้นมากพอจะดึงความสนใจจากผู้คน
พอเห็นเสี่ยวเผิงกับนักกีฬาจากสโมสรอีสปอร์ต DGE ถูกห้อมล้อมด้วยสื่อและบรรดาลูกค้าอย่างคึกคัก เผยเชียนก็เงียบไป
ภาพลวงตา นี่มันภาพลวงหลอกตา!
กระแสต้องหายไปหลังผ่านไปสองวันแน่!
เผยเชียนแสนสับสนในใจ อยากจะกลับไปนอนหนีเรื่องราวทั้งหมด
แต่ระหว่างกำลังเดินไปทางประตู ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้สื่อข่าวจากสื่อเกมก็ปรี่เข้ามาหา ชัดเจนว่าเพราะมีสื่อเยอะเกินไปจนเข้าไปสัมภาษณ์เสี่ยวเผิงไม่ได้ เขาจึงเปลี่ยนมาสัมภาษณ์คนในงานก่อน
อีกทั้งเผยเชียนยังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เดินออกจากร้านแทนที่จะพยายามเบียดเสียดเข้ามา
“สวัสดีครับ ผมเป็นนักข่าวจาก Play Times รบกวนเวลาอันมีค่าของคุณสักครู่เพื่อสัมภาษณ์ได้ไหมครับ”
เผยเชียนมองฝูงชนด้านนอกที่กำลังเคลื่อนไหวราวกับคลื่นแล้วหันกลับมามองแววตาจริงใจของนักข่าวก่อนจะพยักหน้าเงียบๆ
“ไม่ทราบว่าให้เรียกคุณว่าอะไรดีครับ” นักข่าวถาม
“ผมแซ่หม่าครับ” เผยเชียนตอบไปตามความเคยชิน
นักข่าวพยักหน้า “โอเคครับ คุณหม่า คุณเห็นด้วยกับที่บอสเสี่ยวบรรยายถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับระบบนิเวศอีสปอร์ตสุดยิ่งใหญ่ไหมครับ”
เผยเชียนส่ายหัวทันที “ผมไม่เห็นด้วยครับ”
นักข่าวถามต่อ “แต่ก็มีเครื่องพิสูจน์ออกมามากมายว่าบอสเผยประสบความสำเร็จในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นความเก่งกาจและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของเขานะครับ”
เผยเชียนผงะไป “ผมไม่คิดว่านี่เป็นไอเดียของบอสเผยครับ”
นักข่าวรีบจดบันทึกและเปลี่ยนหัวข้อ “แล้วคุณคิดว่าเรื่องนี้จะสร้างผลกระทบสำคัญต่อชีวิตในอนาคตของคุณและกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณรึเปล่าครับ”
เผยเชียนหัวเราะอย่างขมขื่น “…มันกลายเป็นผลกระทบ ‘สำคัญ’ ในชีวิตผมไปแล้วครับ”
นักข่าว “คุณรู้สึกยังไงกับผลลัพธ์สุดมหัศจรรย์ของฟิตเนสฝากประจำครับ”
มุมปากของเผยเชียนกระตุก “ผมหวังว่ากิจการนี้จะไม่รุ่งเรืองเกินไปครับ”
นักข่าวพยักหน้า “โอเคครับ ขอบคุณมากครับที่ให้ความร่วมมือ”
แต่จังหวะที่กำลังจะหันหน้าไปทางอื่น เขาก็เห็นพนักงานวิ่งมาหยุดหน้า ‘คุณหม่าผู้ไม่อยากระบุชื่อ’ ที่เพิ่งสัมภาษณ์ไปเมื่อครู่
“บอสเผยครับ ต่อไปยังมี…”
พนักงานพูดยังไม่ทันจบ ‘คุณหม่าผู้ไม่อยากระบุชื่อ’ ก็โบกมือแล้วหายตัวไปในฝูงชน
นักข่าวรีบหยิบมือถือขึ้นมาระหว่างที่ยังตื่นตกใจอยู่ แต่ก็ถ่ายได้แค่ภาพแผ่นหลัง
“คนสวมหน้ากาก Modest เมื่อกี้คือบอสเผย
“บอสเผยอยู่ในงานมาตลอดเลยเหรอเนี่ย”
นักข่าวแสนตื่นตะลึง เขาแค่สุ่มเลือกคนที่เดินผ่านไปมาในงานมาสัมภาษณ์ โดยที่ทุกคนสวมหน้ากากอยู่ แล้วบังเอิญส้มหล่นเหรอ
เขานึกย้อนกลับไปถึงคำถามเมื่อครู่แล้วก็รู้สึกว่าคำตอบจาก ‘คุณหม่าผู้ไม่อยากระบุชื่อ’ จะสามารถตีความได้ใหม่…
“นี่ต้องเป็นข่าวใหญ่ที่ดังระเบิดระเบ้อแน่!”
