📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 542

บทที่ 542 - ต้องทำแบบนี้เราถึงเติมเต็มความคาดหวังที่บอสเผยมีต่อครัวส่วนตัวหมิงหยุนได้
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เจสซิก้าชิมกะหล่ำปลีสดๆ และซดน้ำซุปอร่อยๆ แล้วก็พูดอย่างจริงใจ “โอเคเอเลน่า ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันเห็นด้วยกับความคิดเธอ อคติที่ฉันมีต่ออาหารจีนมาจากความรั้นของฉันเอง

“อาหารจานนี้เปลี่ยนมุมมองของฉันที่มีต่ออาหารจีนไปจนหมด”

เอเลน่าพยักหน้าน้อยๆ “อาหารจานนี้ทำฉันประหลาดใจเหมือนกัน ฉันรู้ว่าร้านอาหารจีนไหนๆ ก็มีเมนูนี้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกที่จะทำได้ดีขนาดนี้

“ขอบคุณนะลูคัส คำอธิบายของคุณช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารจานนี้มากทีเดียว ความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่คุณมีต่ออาหารสร้างแรงบันดาลใจให้ฉันได้มากเลยค่ะ”

เจี่ยนั่วยิ้ม “อันที่จริงผมก็ไม่ได้รู้ลึกอะไรหรอกครับ ผมแค่ทำตามคำแนะนำของผู้จัดการ คอยแนะนำรายละเอียดต่างๆ ของอาหารให้ลูกค้าฟังก็เท่านั้นครับ

เห็นชัดว่านี่คือเหตุผลที่หลินชั่นหรงให้บริกรทุกคนอธิบายอาหารแต่ละจานในเมนู

นอกจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสาทสัมผัสเฉียบไวแล้ว คนส่วนใหญ่นั้นหากชิมรสอย่างเดียวก็แทบบอกถึงความอุตสาหะในการสร้างสรรค์อาหารแต่ละจานของพ่อครัวไม่ได้เลย

เอาเข้าจริงคนจำนวนมากอธิบายถึงอาหารได้จำกัด เช่นมันอร่อย มันสด และอื่นๆ

บริกรที่ทำหน้าที่อธิบายอาหารแต่ละจานเมื่อนำมาเสิร์ฟสามารถเผยแพร่ความรู้รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ต้องการให้ลูกค้า เมื่อเป็นแบบนี้ ‘ความรู้สึกร่วม’ ก็จะเกินขึ้นระหว่างพวกเขา

ภัตตาคารระดับสูงพยายามปรับปรุงรสชาติของอาหารอยู่ตลอด หากพวกเขาไม่อธิบายรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับอาหารจานนั้นๆ ก็จะไม่ทิ้งความรู้สึกประทับใจที่ลึกซึ้งไว้ให้ลูกค้า

เห็นได้ชัดว่าการวางแผนที่รอบคอบและพิถีพิถันของหลินชั่นหรงออกดอกออกผล ณ เวลานี้เอง

เอเลน่าเอ่ย “ลูคัส ฉันถามคุณเรื่องอาหารจีนและอาหารตะวันตกเพิ่มได้มั้ยคะ”

เจี่ยนั่วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมเกรงว่าตัวเองจะรู้ไม่ลึกพอตอบคำถามคุณ แต่ผมเชิญผู้จัดการมาพบได้นะครับ”

เอเลน่า “ถ้าไม่เป็นการรบกวนเวลาอีกฝ่าย ฉันก็ยินดีมากๆ ค่ะ”

เจี่ยนั่วเดินออกจากห้องส่วนตัวแล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมหลินชั่นหรง

หลินชั่นหรงยิ้มพลางเอ่ย “ผมแซ่หลินครับ เป็นผู้จัดการภัตตาคารแห่งนี้ ทั้งสองท่านชื่นชอบอาหารและบริการของทางเรามั้ยครับ”

แม้หลินชั่นหรงจะเคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อน แต่เขาก็มีอายุแล้วแถมวันๆ ยังเอาแต่ยุ่งอยู่กับงาน จึงเป็นเรื่องยากที่จะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างราบรื่น

ดังนั้นเขาจึงต้องกวนเจี่ยนั่วให้เป็นล่ามให้

เคราะห์ดีที่เจี่ยนั่วเคยทำงานเป็นล่ามพูดพร้อมมาก่อน ดังนั้นการแปลคำพูดของหลินชั่นหรงจึงเป็นเรื่องกล้วยๆ สำหรับเขา

เอเลน่าพยักหน้า “ชอบมากเลยค่ะ! นี่เป็นมื้ออาหารวิเศษสุดที่ฉันเคยกินมาเลย คุณใส่ใจเรื่องรายละเอียดมากๆ แถมยังตั้งมาตรฐานไว้สูงกับทั้งอาหารจีนและอาหารตะวันตก บอกตามตรงว่าฉันประทับใจมาก

“ฉันเป็นคนรักอาหารค่ะ มีบางเรื่องที่ฉันสับสนมาตลอดและอยากฟังคำอธิบายจากผู้จัดการหลิน อยากรู้จังค่ะว่าคุณจะไขข้อข้องใจให้ฉันได้รึเปล่า”

หลินชั่นหรงตอบอย่างถ่อมตัว “ผมไม่กล้าพูดหรอกครับว่าจะไขข้อข้องใจของคุณได้ แต่ก็ยินดีมากที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดกับคุณ

เอเลน่าถาม “เดี๋ยวนี้ร้านอาหารใส่เครื่องปรุงรสกันหนักมือขึ้น จนลูกค้าแทบจะไม่ได้รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบเลย ฉันสงสัยว่าคุณคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ”

หลินชั่นหรงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “แน่นอนว่านี่คือเทรนด์ใหม่ในโลกของอาหาร

“ผมว่าเรื่องนี้มีเหตุผลหลักๆ อยู่สองข้อ

“ข้อแรกคือการแข่งขันที่รุนแรง อุตสาหกรรมอาหารนั้นโหดร้ายมาก แม้แต่ร้านอาหารชั้นยอดของโลกยังต้องคิดค้นอาหารจานใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แถมต้องสรรหาความบันเทิงในร้านอาหารให้ลูกค้าด้วย หากไม่ทำให้บรรยากาศร้านดูดี ก็อาจถูกมองว่าไม่มีความพยายามในการปรับปรุง และความสนใจของลูกค้าก็อาจจะโดนร้านอาหารอื่นๆ ดึงดูดไปได้ง่ายๆ

“อีกข้อหนึ่งคือความต้องการของลูกค้า ภายใต้การกระตุ้นและชักจูงของร้านอาหารมากมาย ลูกค้าจึงมีตัวเลือกมากเกินไป พบเจอกับความต่างที่สุดขั้ว และถูกปลุกเร้ารุนแรงเกิน ผลก็คือลูกค้าจะทนกับกลิ่นรสบางอย่างไม่ได้ และคอยมองหากลิ่นรสที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

“เมื่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มใช้กลิ่นรสที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในการกระตุ้นต่อมรับรสของลูกค้า วงจรอุบาทว์ก็จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าลูกค้าจะได้กินอาหาร ‘ที่อร่อยกว่า’ เพิ่มเรื่อยๆ แต่…ผมว่าแบบนี้มันจะไม่ตรงกับปรัชญาของอาหารจีน

“อาหารจีนคือความเป็นกลาง แต่ละจานมีที่ยืนของมัน วัตถุดิบแต่ละอย่างมีรสชาติเฉพาะของตัวเอง มันพยายามแสดงรสชาติของตัวเองและผสานรวมกันเพื่อดึงรสชาติที่ขาดไปออกมา ไม่มีหรอกครับอาหารที่มีพร้อมทุกรสชาติในจานเดียว …”

“สรุปคือวัตถุดิบทุกอย่างมีรสชาติที่โดดเด่นของมันเอง ในการพยายามจับคู่วัตถุดิบที่หลากหลาย พ่อครัวต้องแน่ใจว่ากลิ่นรสตามธรรมชาติของมันจะผสานรวมกันได้อย่างดี และไม่ควรพยายามทำให้มันเข้ากันด้วยเครื่องปรุงรส แม้แต่อาหารเมนูเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องมีรสชาติเหมือนกัน เอาเข้าจริงพ่อครัวต้องดัดแปลงรสชาติอาหารให้เข้ากับความต้องการพิเศษของลูกค้าได้

“เพราะฉะนั้นร้านอาหารของเราจึงพยายามที่จะรักษาสมดุลของเหตุผลทั้งสองข้อ เราต้องการรักษารสชาติดั้งเดิมของอาหารไว้โดยไม่เสริมแต่งด้วยเครื่องปรุงรสหรือสารปรุงแต่งใดๆ เพื่อให้อาหารมีคุณค่าทางโภชนาการและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ในขณะเดียวกันเราก็พยายามปรับปรุงรสชาติอาหารอย่างต่อเนื่อง

“ดูอย่างกะหล่ำปลีนึ่งในสุดยอดน้ำซุปที่ทั้งสองท่านรับประทานกันไปวันนี้ มีคำพูดว่ากะหล่ำปลีเป็นผักที่อร่อยที่สุดในหมู่ผักทั้งมวล ถึงแม้มันจะเป็นวัตถุดิบพื้นๆ แต่หากปรุงด้วยความใส่ใจ คุณก็สามารถทำให้มันน่าพึงพอใจได้ไม่ต่างจากอาหารล้ำค่าและหายากจานอื่นๆ”

เจี่ยนั่วแปลสารที่หลินชั่นหรงต้องการจะสื่อได้อย่างถูกต้อง ทำให้หญิงสาวทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วยเป็นระยะ

เจสซิก้าฟังอย่างตั้งใจ

ถ้าเธอได้ฟังคำพูดเหล่านี้ก่อนหน้านี้ เธอคงเหยียดยิ้มพลางทำทีเป็นไม่ได้ยิน และมองว่าเป็นข้อแก้ตัวของอาหารจีนที่รสชาติไม่ได้ดีเท่าอาหารตะวันตก

แต่หลังจากได้กินอาหารของวันนี้แล้ว เธอก็เข้าใจปรัชญาที่รุ่มรวยของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

‘กะหล่ำปลีนึ่งในสุดยอดน้ำซุป’ ทำให้เห็นภาพสิ่งที่ผู้จัดการหลินพูดเกี่ยวกับรสชาติเรียบๆ ของอาหารได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่ได้ใส่เครื่องปรุงรสสมัยใหม่ลงไป แต่ซุปก็ยังรสชาติดีเยี่ยมอย่างถึงที่สุด แน่นอนว่ารสเรียบๆ ของมันเต็มไปด้วยความละเอียดพิถีพิถัน

เอเลน่าพยักหน้า “ผู้จัดการหลินคะ คำพูดของคุณฟังดูเป็นเหตุเป็นผลมาก และช่วยให้ฉันเข้าใจขึ้นมาก ขอบคุณมากนะคะ! แล้วคุณมองอาหารจีนกับอาหารตะวันตกยังไงคะผู้จัดการหลิน คุณชอบอาหารแบบไหนมากกว่ากัน”

หลินชั่นหรงยิ้ม “ความอร่อยขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล รสนิยมของคนเราไม่เหมือนกัน ผมว่าไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องชี้ชัดว่าอะไรดีกว่าอะไร

“อาหารแต่ละจานมีรากเหง้าทางวัฒนธรรมของตัวเอง นอกจากนี้ที่อาหารตะวันตกได้รับการยอมรับไปทั่วทุกมุมโลก ก็เป็นเพราะวัฒนธรรมตะวันตกแพร่หลายกว่า

“หลายคนมีความรู้เกี่ยวกับอาหารจีนแค่งูๆ ปลาๆ และตัดสินอาหารจากกลิ่นรสที่เข้มข้นเป็นหลักเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประเมินอาหารจีนด้วยวิธีผิดๆ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้บทสรุปที่ถูกต้อง

“ความละเอียดอ่อนของอาหารจีนต้องทำความเข้าใจบนพื้นฐานวัฒนธรรมที่เฉพาะเจาะจง ไม่ใช่แค่ตัวอาหารที่จะทำให้คนรู้สึกพึงพอใจ แต่ยังรวมถึงการนำเสนอแนวความคิดและปรัชญาด้วย

“ดูอย่างหมูตงพัว[1]เป็นตัวอย่าง ถ้าคุณไม่เข้าใจภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของอาหารจานนี้ ก็จะรู้สึกว่ามันไม่ต่างจากหมูตุ๋นทั่วๆ ไป แต่ถ้าคุณรู้เรื่องราวของซูตงพัว[2] รู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงสร้างสรรค์อาหารจานนี้ขึ้นมา และยิ่งได้เห็นวิวที่สวยงามของทะเลสาบซีหูในฤดูใบไม้ผลิ คุณก็จะมองอาหารจานนี้ต่างไปจากเดิม

“มีเพียงคนที่ได้อ่านบทกวีที่เขียนด้วยลายมือของซูตงพัวถึงจะรับรู้รสชาติของหมูตงพัวได้อย่างลึกซึ้ง ไม่อย่างนั้นก็จะมองว่ามันเป็นแค่หมูตุ๋นทั่วๆ ไป

“ชาวตะวันตกหลายคนไม่เข้าใจเรื่องนี้และวิจารณ์อาหารจีนตามมาตรฐานของตะวันตก ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาย่อมสรุปว่าอาหารจีนสู้อาหารตะวันตกไม่ได้ และเห็นได้ชัดว่านั่นคือความผิดพลาด

“ย้อนกลับไปที่คำถามแรกของคุณ

“ผมไม่ได้มองว่าการที่อาหารตะวันตกยุคใหม่ใช้วิธีควบคุมปริมาณเพื่อดึงรสชาติที่ยอดเยี่ยมออกมาเป็นเรื่องผิด และผมก็ไม่ได้มองว่าการที่อาหารจีนเน้นไปที่วัฒนธรรมเป็นเรื่องผิดเหมือนกัน ภัตตาคารของเราไม่ได้เลือกรับแค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่พยายามทำความเข้าใจอาหารทุกจานเพื่อแสวงหารสชาติที่ดึงดูดใจและเหมาะกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด”

เจี่ยนั่วถ่ายทอดคำพูดของหลินชั่นหรงด้วยถ้อยคำที่สละสลวยและกระชับแต่เก็บความได้ครบถ้วน

เอเลน่าพยักหน้าไม่หยุด novelgu.com

สุดท้ายเธอก็พูดออกมาอย่างจริงใจ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ! ผู้จัดการหลิน คุณมีความลุ่มลึกเรื่องอาหารมาก ฉันรู้สึกทึ่งจริงๆ!”

เจสซิก้าเองก็ตื้นตันไม่ต่างกัน “จากนี้ไปฉันจะไม่ตั้งแง่กับอาหารจีนแล้ว จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าอาหารจีนไม่อร่อย แต่เป็นเพราะอาหารจีนในร้านที่ฉันเคยกินมาก่อนหน้านี้ยังไม่ได้คุณภาพ”

หลินชั่นหรงยิ้ม “ไม่เลยครับ ในโลกของอาหารที่ทั้งลึกซึ้งและกว้างใหญ่ ผมก็แค่คนที่กำลังพยายามเรียนรู้อย่างหนักคนหนึ่งเท่านั้น”

เอเลน่าเอ่ย “ผู้จัดการหลินคะ จริงๆ ฉันเป็นบล็อกเกอร์อาหาร ฉันขอเขียนประสบการณ์วันนี้ลงในบล็อกได้มั้ยคะ ความรู้ความเข้าใจที่โดดเด่นที่คุณมีต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเปิดมุมมองใหม่ให้ฉันจริงๆ ค่ะ”

หลินชั่นหรงที่ยังยิ้มอยู่พยักหน้า “แน่นอนครับ”

หลังจากส่งแขกต่างชาติทั้งสองคนกลับไปแล้ว เจี่ยนั่วก็ปาดเหงื่อบนหน้าผาก

“ผู้จัดการครับ แขกสองคนเมื่อครู่ดูไม่ธรรมดาเลย โชคดีที่ผู้จัดการให้เราจำรายละเอียดของอาหารทุกจาน ไม่อย่าง

นั้นผมคงทำเรื่องน่าขายหน้าไปแล้ว

“แถมประโยคสุดท้ายของผู้จัดการเรื่องความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมอาหารจีนกับวัฒนธรรมอาหารตะวันตกก็เฉียบขาดไปเลยครับ ผมมองออกเลยว่าทั้งคู่เข้าใจแจ่มแจ้งเลย”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหลินชั่นหรงก็พูดขึ้น “ผมเองก็เพิ่งตระหนักเรื่องนี้ได้ด้วยความบังเอิญเมื่อไม่นานมานี้ บังเอิญจริงๆ ที่ได้เอามาใช้ประโยชน์วันนี้”

เจี่ยนั่วอึ้งไป “ตระหนักด้วยความบังเอิญเหรอครับ ผู้จัดการหลิน การตระหนักรู้ของคุณมาถูกเวลาจริงๆ”

สีหน้าของหลินชั่นหรงจริงจังขึ้น “มันดูเหมือนบังเอิญ แต่จริงๆ แล้ว…คือความตั้งใจ

“ก่อนหน้านี้ผมไปหาบอสเผยเพราะอยากเปิดสาขาใหม่ แต่บอสกลับปฏิเสธคำขอของผม หลังจากนั้นผมก็กลับมาคิดอย่างจริงจังว่าบอสเผยมองบทบาทหน้าที่ของครัวส่วนตัวหมิงหยุนยังไง

“จากนั้นผมถึงได้เข้าใจ ครัวส่วนตัวหมิงหยุนเป็นภัตตาคารมีเอกลักษณ์ที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณและมีหน้าที่จัดหาประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้เหล่าลูกค้า

“ประสบการณ์ที่ดีที่สุดโดยธรรมชาติแล้วเลียนแบบกันไม่ได้ บอสเผยเน้นย้ำตลอดว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่จำเป็นต้องมีสาขาอื่น แต่จำเป็นต้องลงเงินให้มากที่สุดเพื่อปรับปรุงทุกรายละเอียด

“ผมพยายามเติมทุกช่องว่างในทุกมุมมองเพื่อให้ภัตตาคารนี้สมบูรณ์แบบ ภัตตาคารของเราจะไม่ปฏิบัติต่อลูกค้าต่างชาติดีเป็นพิเศษ แต่ควรปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมและรังสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้ทุกคน

“วันนี้เราต้อนรับแขกต่างชาติที่ค่อนข้างพิถีพิถันแค่สองคนก็จริง แต่ก็ถือว่ามีความหมายมากเพราะแปลว่าเราผ่านการทดสอบ ถ้าเราทำทุกวันให้เหมือนเป็นวันแรก ปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนให้เหมือนเป็นลูกค้าคนแรก และรับฟังเสียงสะท้อนของลูกค้า เราก็จะเป็นร้านที่ยอดเยี่ยมที่สุด

“ผมเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตอนที่ทบทวนจุดมุ่งหมายของบอสเผย รวมถึงความแตกต่างระหว่างอาหารจีนกับอาหารตะวันตก และการพัฒนาของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในยุคนี้ด้วย

“ผมว่ามีแค่การทำงานหนักเพื่อให้บรรลุมาตรฐานนี้เท่านั้นถึงจะเติมเต็มความคาดหวังที่บอสเผยมีต่อครัวส่วนตัวหมิงหยุนได้!”

…………..

[1] Dongporou – อาหารประจำเมืองหางโจว เป็นหมูสามชั้นที่เอาไปทอดในกระทะก่อนแล้วค่อยเอาไปตุ๋น

[2] กวีและนักกินสมัยราชวงศ์ซ่ง ถูกเนรเทศไปอยู่ที่เมืองหางโจว และสร้างสรรค์เมนูหมูตงพัวขึ้นมา

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset