วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม
โฮสเทลเขย่าขวัญ
เฉินคังทั่วยืนหน้าเครียดอยู่หน้าทางเข้าโซนอุตสาหกรรมเก่า
ตอนนั้นเองเขาก็เห็นแท็กซี่ขับมาจอดด้านนอก ก่อนที่ชายหนุ่มคนหนึ่งจะลงจากรถ
เฉินคังทั่วไม่กล้าเดินเข้าไปหาชาย-คนนั้น เขารู้ว่าวันนี้จะได้พบสถาปนิกแซ่เหลียงซึ่งค่อนข้างหนุ่มหน่อย แต่ชายตรงหน้าดูอ่อนวัยเกินไป
แต่พอมาคิดดูอีกที ทั้งสองก็ตกลงวันเวลากันไว้เมื่อวาน แถมโซนอุตสาหกรรมเก่าก็ไม่มีใครสัญจรผ่านอยู่แล้ว
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เฉินคังทั่วก็เดินเข้าไปหา “คุณเหลียงรึเปล่าครับ”
เหลียงชิงฟานพยักหน้า “ใช่ครับ บอสเฉินใช่มั้ยครับ”
“บอสเหลียงจริงๆ เหรอครับเนี่ย สวัสดีครับๆ!”
เฉินคังทั่วจับมือกับเหลียงชิงฟานอย่างตื่นเต้น ก่อนจะนำทางเข้าไปในออฟฟิศ
พอเข้าไปข้างใน สองคนที่นั่งรออยู่ก่อนบนโซฟาก็ลุกมาต้อนรับ
เฉินคังทั่วแนะนำสองคนนั้นให้เหลียงชิงฟานรู้จัก “คุณเหลียงครับ ขอแนะนำทั้งสองคนก่อนนะครับ นี่ห่าวฉยง เพื่อนร่วมงานที่ดูแลโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญคู่กันกับผม ส่วนคนนี้คือสื่อเจ๋อรุ่ย สถาปนิกคนปัจจุบันที่ดูแลเรื่องการปรับเปลี่ยนและรีโนเวตโฮสเทลเขย่าขวัญครับ”
เหลียงชิงฟานทักทายทั้งสองคน เขาคาดหวังว่าตนเองจะมีความสนใจหลายอย่างตรงกับสื่อเจ๋อรุ่ยที่เป็นสถาปนิกเหมือนกัน
สื่อเจ๋อรุ่ยเป็นสถาปนิกหนุ่มผู้มีความสามารถในจิงโจว เขาแก่กว่าเหลียงชิงฟานหนึ่งปี แต่ผลการเรียนและประวัติการทำงานไม่ได้เลิศหรูเท่าเหลียงชิงฟาน
ส่วนเหตุผลที่เผยเชียนเลือกเขามาดูแลโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญ… ก็ชัดเจนว่าเป็นเหตุผลเดียวกับที่เลือกเหลียงชิงฟานมา เขาไม่อยากได้สถาปนิกชื่อดังมาออกแบบโฮสเทลเขย่าขวัญ เพราะเดี๋ยวจะเรียกกระแสได้โดยไม่จำเป็น
เฉินคังทั่วรินชาใส่ถ้วย “คุณเหลียงเข้ามาได้จังหวะและช่วยผมแก้ปัญหาที่หนักใจที่สุดได้พอดีเลยครับ”
เหลียงชิงฟานผงะไป “หืม ทำไมถึงว่างั้นละครับ”
เฉินคังทั่ววางถ้วยชาไว้ตรงหน้าเหลียงชิงฟานอย่างนิ่มนวล “เรื่องมันยาวมากครับ โฮสเทลเขย่าขวัญเป็นโปรเจ็กต์บ้านผีสิงที่บอสเผยสร้างขึ้นเพื่อตอบรับเสียงเรียกร้องให้เปลี่ยนโซนอุตสาหกรรมเก่า คุณน่าจะรู้ใช่มั้ยครับว่าบอสเผยพานักลงทุนกลุ่มหนึ่งมาลงทุนในพื้นที่รอบๆ ด้วย
“นักลงทุนกลุ่มนี้เสนอให้สร้างห้างขนาดใหญ่ให้บอสเผยขายสินค้าเมอแชนไดซ์ภายใต้โปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญ เราเป็นคนวางแผน ส่วนพวกเขาเป็นคนออกเงิน
“เพราะงั้นผมเลยให้คุณสื่อออกแบบห้างตามแบบห้างทั่วไปให้และตั้งใจว่าจะสร้างโดยยึดตามแผนนี้
“แต่บอสเผยเป็นคนชอบยกระดับทุกอย่างขึ้นไปอีกขั้นเสมอ! เมื่อวานบอสส่งอีเมลมาบอกให้ผมออกแบบห้างให้เป็นเขาวงกต!”
สื่อเจ๋อรุ่ยพูดต่อจากเฉินคังทั่ว “ผมงงมากตอนที่ได้ยินบอสเฉินบอกแบบนั้น ตอนแรกผมคิดว่าห้างไม่มีอะไรให้เล่นมากมายนักเลยใช้แบบมาตรฐานทั่วไป ไม่คิดสักนิดว่าบอสเผยจะไม่ชอบ!
“ตอนนี้ผมยังดูแลการก่อสร้างโฮสเทลเขย่าขวัญอยู่ ต้องคอยจับตาดูอย่างละเอียด ถ้าเจอปัญหาอะไรก็ต้องแก้แผนหน้างานทันที เวลาก็กระชั้นเข้ามาแล้ว แต่บอสเผยยังมาขอให้ผมทำห้างเขาวงกตอีก ผมจะตายเอา
“ผมไม่มีทั้งประสบการณ์และความรู้เรื่องเขาวงกตเลย แถมตอนนี้ก็ยุ่งจนไม่มีเวลาพักหายใจด้วยซ้ำ! เพราะงั้น…เรื่องนี้เลยไม่คืบหน้าไปไหน บอสเฉินเองก็กังวลมาก”
เฉินคังทั่วพยักหน้า “ใช่ครับ แต่โชคดีที่คุณเหลียงแวะมา! คุณเหลียงมีไอเดียอะไรมั้ยครับ”
เหลียงชิงฟานเลิกคิ้ว
ทำห้างเป็นเขาวงกต?
ไอเดียโคตรบ้า!
บอสเผยน่าจะเป็นคนเดียวในโลกที่คิดแผนใจกล้าบ้าระห่ำและโคตรล้ำแบบนี้
เหลียงชิงฟานจิบชาแล้วถามออกไป “แล้วบอสเผยบอกอะไรมาบ้างครับ ผมพอจะมีไอเดียเรื่องเขาวงกตอยู่บ้าง แต่ก็ต้องเข้าใจความต้องการของบอสเผยก่อนจะได้ไม่ทำผิดๆ”
เฉินคังทั่วหัวเราะแล้วตอบอย่างภาคภูมิใจ “สบายใจได้ครับ ผมเคยทำงานในฝ่ายเกมเถิงต๋า พอจะรู้เรื่องการวิเคราะห์ความต้องการของบอสเผยอยู่บ้างเหมือนกัน!
“บอสเผยบอกมาสองเรื่องในอีเมล เรื่องแรกคืออยากให้ดูหรูหราฟู่ฟ่างดงามตระการตาและออกแบบยึดตามห้างหรู สองคืออยากให้ซ่อนร้านรวงที่ขายสินค้าเมอแชนไดซ์ไว้ในเขาวงกต เอาให้พอลูกค้าเข้ามาก็จะหลงไปทางออกซะส่วนใหญ่ หาร้านขายของไม่เจอเลยสักร้าน
“ผมขอตีความจุดประสงค์ของบอสจากมุมมองของผม ถ้าใครมีอะไรอยากเพิ่มเติมก็บอกได้เลยนะครับ
“ผมคิดว่าไอเดีย ‘เขาวงกต’ ของบอสเผยน่าจะเกี่ยวข้องกับเกม! เหมือนพวกไอเทมให้ตามเก็บที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ผู้เล่นต้องตามหาซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ยืดระยะเวลาการเล่นออกไปได้ยาวขึ้น
“ขณะเดียวกันพอผู้เล่นหาร้านที่ซ่อนอยู่เจอก็จะเกิดผลกระทบทางจิตใจ พวกเขาจะคิดว่าอุตส่าห์เสียเวลาหาร้านตั้งนาน ถ้าไม่ซื้ออะไรกลับไปหน่อยก็คงจะน่าเสียดาย ซึ่งก็ช่วยส่งเสริมให้ใช้จ่ายเงินได้มากขึ้น
“จะดีขึ้นไปอีกถ้าร้านต่างๆ คอยอัปเดตสินค้าและของที่ระลึกเพื่อเป็นหลักฐานว่าเคยมาร้านนี้แล้ว
“ส่วนทำไมถึงต้องรีโนเวตให้ออกมาแพงๆ ตรงนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน”
เหลียงชิงฟานพยักหน้าพลางคนถ้วยกาแฟด้วยมือขวา “ใช่ เราทำให้ผู้เล่นใช้เวลาในเกมเพิ่มขึ้นได้ด้วยการใช้การออกแบบเขาวงกต แต่ในมุมมองของสถาปนิกก็มีเรื่องอื่นๆ ให้ต้องพิจารณาด้วยเหมือนกันครับ
“บอสเผยบอกว่าอยากให้ลูกค้าหลงไปทางออก ชัดเจนว่าห้างนี้ต้องมีทางออกหลายจุด แสดงว่าลูกค้าจะกระจายกันไป ทำให้ได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันถ้าเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นมา ลูกค้าก็หนีออกมาได้อย่างรวดเร็วเหมือนกัน
“อีกอย่างการสร้างเขาวงกตต้องแบ่งห้างออกเป็นส่วนๆ ถ้ามองในมุมการออกแบบ การแบ่งส่วนจะทำให้บริหารพื้นที่ได้เกิดประโยชน์มากที่สุด ถึงเบื้องหน้าค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น แต่จริงๆ มีผลประโยชน์ในระยะยาว
“ผมว่าเราควรทำให้กำแพงหลักๆ บางส่วนเคลื่อนที่ได้ ถ้าเลื่อนมาปิดก็จะไม่มีทางไปต่อ ถ้าเปิดออกก็จะมีทางใหม่ขึ้นมา พอเราทำกลไกอัตโนมัติขึ้นมา เส้นทางในเขาวงกตก็จะสร้างขึ้นใหม่ได้ด้วยอัลกอริทึมคอมพิวเตอร์ โดยเส้นทางจะเปลี่ยนเป็นช่วงๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ความรู้สึกสดใหม่อยู่ตลอด
“แน่นอนว่าเพื่อความปลอดภัย เราต้องหาคนมาดูแลระบบอัตโนมัตินี้ตลอดเวลา ถึงไฟจะดับ เราก็ต้องมั่นใจว่าลูกค้าจะหาทางออกได้และไม่ติดอยู่ข้างใน
“ส่วนทำไมต้องทำออกมาให้แพง… ผมคิดว่าบอสเผยน่าจะอยากได้สไตล์ ‘วงกตทอง’ ซึ่งจะทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนถูกรายล้อมด้วยสมบัติมากมาย ทำให้ทุกคนสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความล้ำค่าของสินค้าที่ขายในห้าง
“ก็เหมือนพวกร้านหรู ทำไมพวกเขาต้องตกแต่งร้านออกมาให้เลิศหรูขนาดนั้นด้วย ก็เพราะจะสร้างบรรยากาศแฝงให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในพระราชวัง และคิดไปว่าเครื่องประดับตรงหน้าเป็นของที่มีแต่ราชวงศ์ที่สวมใส่ได้ ทีนี้ก็จะอดใจซื้อไม่ไหว
“กลายเป็นว่าถ้าอยากให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้ก็ต้องใช้สไตล์หรูหราฟู่ฟ่า
“ทำแบบนี้ตอนโฆษณาโฮสเทลเขย่าขวัญก็ใช้คำโปรยประมาณนี้ได้ ที่โฮสเทลเขย่าขวัญอันห่างไกล เมื่อผ่านประสบการณ์อกสั่นขวัญแขวนและหาทางออกจากวงกตทองอันงดงามและยิ่งใหญ่ได้ คุณก็จะพบกับขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่!”
เฉินคังทั่วตาลุกวาว “อย่างนี้นี่เอง!
“ผมวิเคราะห์แผนของบอสเผยด้วยมุมมองเกมอย่างเดียวและคิดว่าเป็นการออกแบบที่ไม่เลวเลย พอคุณเหลียงเล่าในมุมมองสถาปนิกและด้านจิตวิทยา ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที!
“หรือว่าบอสเผยจะคิดในมุมมองของสถาปนิกด้วย บอสช่างเป็นคนรอบรู้จริงๆ
“ถ้างั้นก็ตั้งชื่อห้างนี้ว่าวงกตทองแล้วกัน นอกจากจะเป็นห้างแล้ว ยังเป็นโปรเจ็กต์ให้เล่นได้ฟรีของโฮสเทลเขย่าขวัญด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย!
“คุณเหลียง งานนี้ด่วนมากครับ ผมยกงานออกแบบวงกตทองให้คุณ! เราจะจ่ายค่าออกแบบให้ตามมาตรฐานเถิงต๋าครับ!”
เฉินคังทั่วมองเหลียงชิงฟานด้วยสายตาคาดหวังโuเวลกูดoทคoม
เหลียงชิงฟานคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ได้ครับ ผมออกแบบให้ได้ แต่…อีกพักหนึ่ง บอสเผยจะให้ผมออกแบบอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยที่ใหม่ ผมกลัวว่าจะคอยดูแลโปรเจ็กต์ไปจนจบไม่ได้”
สื่อเจ๋อรุ่ยตบอกตัวเอง “ไม่ต้องห่วงครับคุณเหลียง คุณออกแบบให้เฉยๆ ก็พอ เดี๋ยวให้บอสหลี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ ช่วยหาทีมมาคุมงานก่อสร้างให้ ผมก็ช่วยดูให้ได้เหมือนกัน
“แต่..ถ้ามีปัญหาอะไรที่แก้ไม่ได้ เราก็ต้องขอให้คุณช่วยมาดูนะครับ”
เหลียงชิงฟานพยักหน้า “แบบนั้นได้เลยครับ ถึงผมจะดูโปรเจ็กต์บ้านจอมเฉื่อย แต่ก็อาศัยอยู่ที่จิงโจว แวะมาได้ตลอดเลย”
เฉินคังทั่วดีใจมาก “งั้นผมฝากงานนี้ด้วยนะครับคุณเหลียง!”
…
…
วันพุธที่ 25 พฤษภาคม
เผยเชียนเลื่อนดูเว็บอยู่เงียบๆ ด้วยสีหน้างุนงงสุดขีด
เรื่องราวพัฒนาไปไกลเกินจากที่เขาคิดไว้
วันพรุ่งนี้ที่สดใสเป็นกระแสว่อนอินเทอร์เน็ตอีกแล้ว!
ครั้งที่แล้วเป็นตอนที่วันพรุ่งนี้ที่สดใสออกฉายในประเทศแล้วดังขึ้นมา หนึ่งเดือนหลังหนังออกฉายก็ไปโผล่บนเว็บอ้ายลี่เต่าได้เดือนกว่า ซึ่งก็ถือเป็นการยืดชีวิตออกไปอีก
คนที่อยากดูก็ได้ดูหมดแล้ว เนื้อเรื่องและรายละเอียดต่างๆ ในหนังก็ผ่านการถกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ตามหลักแล้วไม่ควรมีกระแสอีก
แต่เผยเชียนก็ไม่คิดเลยว่ารางวัลเดียวจะทำให้หนังกลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง!
รอบนี้ชาวเน็ตจีนไม่ได้สนใจเรื่องตัวหนังอีก เพราะวิเคราะห์เนื้อหาต่างๆ ไปจนหมดแล้ว
พวกเขาสนเรื่องยอดขายตั๋วในต่างประเทศและรีวิวของชาวต่างชาติมากกว่า!
นอกจากนั้นยังมีการ ‘ขุด’ ครั้งใหญ่เกิดขึ้นด้วย
ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ที่สดใสออกฉาย คนที่เกลียดหนังเรื่องนี้ไม่เคยหยุดด่า
บ้างก็เป็นหน้าม้าแต่ส่วนใหญ่มีตัวตนจริงๆ
ไม่ว่าของบางอย่างจะดีขนาดไหนก็ไม่มีทางที่จะทำให้คนชอบได้ทุกคน อีกอย่างคนที่ชอบดูหนังง่ายๆ เน้นสนุกก็ไม่ได้สนใจที่จะวิเคราะห์เนื้อหาของวันพรุ่งนี้ที่สดใส
อีกทั้งกระแสอวยหนังยกใหญ่ในโลกออนไลน์ก็ให้ผลตรงกันข้ามกับบางกลุ่มที่คิดว่าหนังไม่ได้ดีขนาดนั้น สมควรโดนติมากกว่า
พอเวลาผ่านไปประเด็นติก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ตอนหนังออกฉายแรกๆ ก็ติว่าหนังพยายามยัดภูมิหลังตะวันตกเข้ามา เนื้อเรื่องไม่น่าสนใจ ชาวจีนกับชาวต่างชาติไม่ชอบหรอก
พอหนังเริ่มทำเงินได้ก็พากันบอกว่าเป็นกระแสปลอม มีกระแสขึ้นมาก็เพราะทำการตลาด ยอดขายตั๋วก็โกงเอา สักหนึ่งสัปดาห์ความจริงน่าจะเปิดเผย
ผ่านไปสักพักยอดขายตั๋วเริ่มคงที่และตรงกับช่วง Flying Star Journey ออกฉายพอดี ก็พากันบอกว่าเดี๋ยวหนังใหญ่จริงๆ มา วันพรุ่งนี้ที่สดใสก็จะตกกระป๋อง
พอ Flying Star Journey ตกม้าตายก็อ้างว่า Flying Star Journey เป็นหนังขยะ ไม่ได้มาตรฐานจริงๆ ของหนังตะวันตก วันพรุ่งนี้ที่สดใสแค่ปล่อยมาถูกจังหวะ ไม่งั้นคงไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้
พอวันพรุ่งนี้ที่สดใสเข้าฉายที่ต่างประเทศแล้วไปได้ไม่สวย พวกแอนตี้ก็โผล่หัวมาอีกรอบแล้วบอกว่า เห็นมั้ยล่ะ บอกแล้วว่าหนังไม่ได้น่าสนใจเลย หลอกตาผู้ชมชาวจีนได้แต่หลอกชาวต่างชาติไม่ได้หรอก!
แฟนหนังวันพรุ่งนี้ที่สดใสต่างเก็บความหงุดหงิดใจไว้อยู่นาน ประเด็นคือพวกแอนตี้หน้าด้านหน้าทนและสวนกระแสเก่งมาก แถมมีความเคลื่อนไหวอะไรนิดหน่อยก็โผล่มาตลอด ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย
ยิ่งวันพรุ่งนี้ที่สดใสไปได้ไม่สวยในตลาดต่างชาติ พวกแอนตี้ก็เอาจุดนี้มาขยี้อยู่นานจนเกิดไฟสุมในทรวง
แต่ตอนนี้วันพรุ่งนี้ที่สดใสคว้า Jury Prize มาได้เป็นครั้งแรกในรอบสิบเอ็ดปี สถานการณ์จึงพลิกผัน!
เหล่าแฟนๆ จะปล่อยโอกาสโอ้อวดความสำเร็จนี้ไปได้ยังไง
พวกแอนตี้เอาจุดด่างพร้อยมาขยี้อยู่นาน ตอนนี้ได้โอกาสตอบโต้กลับ พวกเขาเตรียมหลุมไว้ให้เหล่าแอนตี้เรียบร้อยแล้ว
ไฟแค้นที่สุมอยู่ในทรวงถูกปลดปล่อยออกมาทันที ทำให้วันพรุ่งนี้ที่สดใสเป็นกระแสไปทั่วอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง!
หนังออกฉายไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นกระแสอยู่…
เผยเชียนสบถในใจ เฮงซวยจริงจริ้ง!