เฉินคังทั่วลังเล
คนที่ฉลาดหน่อยจะรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่ ‘สิ่งตอบแทนเล็กน้อย’
ถ้าโฮสเทลสยองขวัญดังขึ้นมา ธุรกิจและผลิตภัณฑ์เมอแชนไดซ์ก็จะทำกำไรได้เยอะขึ้น
สำหรับสวนสนุกส่วนใหญ่ในประเทศตอนนี้ ธุรกิจและผลิตภัณฑ์เมอแชนไดซ์และช่องทางทำกำไรต่างๆ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การขายตั๋วยังถือว่าเป็นกำไรหลักอยู่
แต่สวนสนุกดังๆ ของต่างประเทศนั้นต่างออกไป ดูจากโมเดลที่โตกว่า ตั๋วเข้าสวนสนุก รายได้จากสินค้าและบริการ และรายได้อื่นๆ แบ่งสัดส่วนกำไรได้อย่างละหนึ่งส่วนสาม
รายได้อื่นๆ คือ อาหารและเครื่องดื่ม ที่พัก การลงทุนจากแหล่งอื่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สปอนเซอร์เพื่อจัดเทศกาลท่องเที่ยว การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว และอื่นๆ
บอสหลี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ ตัดสินใจแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งที่ได้จากธุรกิจและผลิตภัณฑ์เมอแชนไดซ์ภายใต้โปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญให้เถิงต๋า ซึ่งถือว่าใจกว้างมากเลยทีเดียว
พอเห็นเฉินคังทั่วลังเล หลี่สือก็ยิ้ม “ไม่ต้องเกรงใจหรอกน้องเฉิน
“เดิมทีโฮสเทลเขย่าขวัญก็เป็นโปรเจ็กต์ของบอสเผย ดูจากอำนาจทางการเงินของเถิงต๋าแล้ว บอสเผยรวบกำไรทั้งหมดของพื้นที่โดยรอบโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญไว้เองได้ แต่ก็ไม่ทำ ยอมแบ่งกำไรก้อนโตให้พวกพี่ เขาเป็นคนใจกว้างกับพวกพี่ก่อน
“ตอนนี้ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ถ้ารุ่งก็รุ่งไปด้วยกัน ถ้าเจ๊งก็เจ๊งไปด้วยกัน ไม่ควรแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน พี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ ลงทุนทำห้างนี้ก็เพื่อตอบแทนความใจดีของบอสเผย
“ถ้าน้องเฉินรู้สึกไม่ดีก็บริหารโฮสเทลเขย่าขวัญให้ดีและเป็นที่นิยม แค่นั้นก็ถือเป็นการตอบแทนพวกพี่แล้ว”
เฉินคังทั่วคิดอยู่พักใหญ่ พอเห็นความแน่วแน่ของบอสหลี่ เขาก็ตกที่นั่งลำบาก สุดท้ายก็พยักหน้า “โอเคครับ ผมขอขอบคุณทุกคนแทนบอสเผยด้วยนะครับ”
บอสหลี่ยิ้ม “พี่เตรียมสัญญาไว้แล้ว รบกวนน้องเฉินช่วยเช็กดูด้วย ถ้าไม่มีปัญหาอะไรจะได้รีบคิดแผนและเริ่มการก่อสร้างให้เร็วที่สุด เวลาไม่คอยท่านะ”
…
หลังเดินออกจากออฟฟิศของเฉินคังทั่ว บอสหลี่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา
ค่อยโล่งใจได้หน่อย!
ช่วงนี้ หลี่สือคอยจับตาดูการปรับปรุงร้านอาหารที่เปิดใกล้กับโฮสเทลเขย่าขวัญอย่างใกล้ชิด ถึงโปรเจ็กต์จะคืบหน้าไปอย่างราบรื่น แต่เขาก็วางใจไม่ได้
ความรู้สึกไม่สบายใจนี้เกาะติดเขาอยู่นาน
หลังจากไตร่ตรองประสบการณ์การร่วมงานกับบอสเผย บอสหลี่ก็เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกอย่างนั้น
เกวียนของบอสเผยกับเหล่านักลงทุนยังผูกติดกันไม่แน่นพอ!
พูดอีกอย่างคือ เหล่านักลงทุนยังมีความเสี่ยงที่จะโดนคว่ำเกวียน
ก่อนหน้านี้พวกเขาลงทุนในโปรเจ็กต์เด็กหัวกะทิให้เช่า บอสเผยเป็นคนทำลายความเชื่อมั่นของพวกเขาเพื่อไล่กลุ่มนักลงทุนให้ถอนตัว จากนั้นก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อยกำจัดผู้ถือหุ้นทั้งหมดแล้วโกยส่วนแบ่งกำไรก้อนโตที่สุด
หลังจากนั้นหลี่สือก็มาย้อนคิดดูแล้วพบว่าที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะทุกคนตามติดบอสเผยได้ไม่ใกล้ชิดพอ
พอเป็นเรื่องธุรกิจ บอสเผยจะมองผลประโยชน์ของเถิงต๋าไว้เป็นอันดับแรก
บอสหลี่มองว่าทัศนคติที่บอสเผยมีต่อนักลงทุนทุกคนคือ ถ้าอยากซดซุปก็ตามมาสิ แต่อย่าหวังนะว่าจะได้กินเนื้อ เพราะเนื้อทั้งหมดเป็นของเถิงต๋า
ถ้าพวกเขาลุกจากโต๊ะตามลำดับ เถิงต๋าจะเป็นคนลุกคนสุดท้ายและกินเยอะที่สุด
เพราะงั้นบอสหลี่จึงคิดว่าต้องผูกเกวียนของตัวเองให้ติดกับเกวียนของบอสเผยมากที่สุด ถึงจะกันไม่ให้ตัวเองถูกสลัดทิ้งได้!
การเสนอยกส่วนแบ่งกำไรของเหล่านักลงทุนให้เถิงต๋ามาจากการไตร่ตรองอย่างหนักของเขา ถึงเบื้องหน้าจะดูเหมือนใจกว้าง แต่จริงๆ แล้วมาจากความงก
พวกบอสหลี่เปิดร้านอาหารกับโรงแรมซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โฮสเทลเขย่าขวัญ ถึงรายได้จะน้อยกว่าการขายตั๋ว แต่ก็ถือว่ามั่นคง
บอสเผยเป็นคนฉลาดและมองการณ์ไกล เขาต้องวางแผนจะทำให้โฮสเทลเขย่าขวัญเป็นสวนสนุกชั้นหนึ่งของประเทศ หรืออาจจะของโลก ซึ่งก็หมายความว่าโครงสร้างรายได้จะเหมือนสวนสนุกชั้นหนึ่งทั่วโลกที่แบ่งเป็นรายได้จากการขายตั๋ว รายได้จากสินค้าและบริการ และรายได้อื่นๆ อย่างละหนึ่งส่วนสาม
จากส่วนแบ่งนี้ เถิงต๋าจะเก็บรายได้ทั้งหมดที่ได้จากการขายตั๋ว รายได้อื่นๆ จะแบ่งครึ่งระหว่างเถิงต๋ากับเหล่านักลงทุน ส่วนรายได้จากสินค้าและบริการยังไม่มีการแบ่งชัดเจน
พอโฮสเทลเขย่าขวัญเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการจะมีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง
อย่างแรกคือ กลายเป็นเหมือนสวนสนุกอื่นๆ ในประเทศที่ทำเงินได้จากการขายตั๋วอย่างเดียว อย่างอื่นทำเงินไม่ได้เลย
อย่างที่สองคือ ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำทั้งจากการขายตั๋วกับธุรกิจและผลิตภัณฑ์เมอแชนไดซ์
ถ้าเป็นอย่างแรกแล้วธุรกิจและผลิตภัณฑ์เมอแชนไดซ์ทำเงินไม่ได้ การแบ่งกำไรครึ่งนึงกับเถิงต๋าก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไร
ถ้าเป็นอย่างหลังแล้วทุกคนได้กำไรกันหมด เถิงต๋าก็จะได้ส่วนแบ่งจากธุรกิจและผลิตภัณฑ์เมอแชนไดซ์ เพราะงั้นก็เป็นธรรมดาที่จะมีแรงจูงใจในการบริหารสวนสนุกให้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้นหลังจากปรึกษาหารือกัน บอสหลี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ จึงตัดสินใจแบ่งกำไรของตัวเองให้เถิงต๋า ทำแบบนี้จะเป็นการผูกติดผลประโยชน์ของตัวเองไว้กับบอสเผยอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะได้รุ่งไม่ก็ร่วงไปด้วยกัน
พอมีผลประโยชน์เพิ่มขึ้นมา บอสเผยก็จะทุ่มเทให้กับธุรกิจและผลิตภัณฑ์เมอแชนไดซ์มากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับการบริหารพัฒนาโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญด้วย
จนถึงตอนนี้ถึงนักลงทุนทุกคนจะเชื่อมั่นในตัวบอสเผยมาก แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าโฮสเทลเขย่าขวัญจะประสบความสำเร็จรึเปล่า
เพราะงั้นพวกเขาต้องใส่ใจโปรเจ็กต์นี้เป็นพิเศษและเดิมพันกับอัจฉริยภาพด้านธุรกิจของบอสเผยว่าจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้อีกครั้ง
หลี่สือกลับออกจากออฟฟิศของเฉินคังทั่วเพื่อไปตรวจความคืบหน้าของการรีโนเวตร้านอาหาร จากนั้นค่อยขับรถกลับออฟฟิศตัวเอง
แต่ตอนนั้นเอง มือถือเขาก็ดังขึ้น เป็นสายที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา
“สวัสดีครับบอสหลี่ ผมอู๋ปิน ฝ่าย HR ของเถิงต๋า
“ช่วงนี้ผมกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบอสเผยอยู่ ไม่ทราบว่าบอสพอจะมีเวลาว่างตอบคำถามง่ายๆ ไม่กี่ข้อมั้ยครับ”
หลี่สืออึ้งไป สายนี้ทำให้เขาแปลกใจ
แต่ในเมื่อเป็นลูกน้องของบอสเผย หลี่สือก็ต้องเกรงใจหน่อย
แถมเขาเองก็สงสัยมากว่าอีกฝ่ายกำลังรวบรวมข้อมูลอะไรอยู่
“ได้ครับ ไปเจอกันที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู สาขามหาวิทยาลัยฮั่นตงแล้วกันครับ”
…
ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู หลี่สือ อู๋ปิน และชุยเกิ่งสั่งกาแฟคนละแก้ว
อู๋ปินอธิบายความตั้งใจของตัวเองให้หลี่สือฟังเรียบร้อยแล้ว เรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณเถิงต๋าทำให้หลี่สือสนใจทีเดียว
ทุกคนรู้ว่าบอสเผยเก่งเรื่องการดูแลจัดการลูกน้องมาก
พนักงานของเถิงต๋ากรุ๊ปทุกคนยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง แถมยังทำตามคำสั่งของบอสเผยอย่างเคร่งครัด ไม่กล้าทำอะไรขัดคำสั่ง
ไม่ว่าจะเป็นร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง หรือโฮสเทลเขย่าขวัญ ทุกครั้งที่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกน้องของบอสเผย หลี่สือจะสัมผัสได้ว่าพวกเขาเคารพบอสเผยในแบบที่ต่างออกไป
จิตวิญญาณของเถิงต๋าคืออะไร มีผลลัพธ์ยังไง ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
ถ้าหลี่สือได้เรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณนี้ พนักงานที่บริษัทลงทุนฟู่หุยจะเป็นเหมือนพนักงานของเถิงต๋าได้รึเปล่า
อาวุธทางจิตวิญญาณนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักธุรกิจ
หลี่สือจิบกาแฟ “ไม่มีปัญหา อยากถามอะไรถามได้เลย ผมขอแค่อย่างเดียวคือถ้าเขียนคู่มือจิตวิญญาณเถิงต๋าเสร็จแล้วผมขอด้วยเล่มนึง”
อู๋ปินลังเล
จิตวิญญาณเถิงต๋าถือเป็นความลับที่รู้กันภายในบริษัท บอกต่อกันได้แค่ในหมู่พนักงานด้วยกัน ไม่สามารถเอาไปโพสต์ลงเว็บบอร์ดภายในหรือบนอินเทอร์เน็ตได้
และเอกสารเกี่ยวกับจิตวิญญาณเถิงต๋าเองก็ไม่ได้ส่งให้พนักงานทุกคนด้วย
หลี่สือรู้ว่าอู๋ปินคิดอะไรอยู่จึงผุดยิ้มบาง “ไม่ต้องห่วง ผมไม่แพร่งพรายข้อมูลออกไปแน่นอน
“ข้อมูลล้ำค่าแบบนี้ ยิ่งมีคนรู้น้อยๆ ยิ่งดี
“อีกอย่างบริษัทลงทุนฟู่หุยกับเถิงต๋ากรุ๊ปก็ไม่เคยขัดกันเรื่องผลประโยชน์ เป็นคู่ค้าทางธุรกิจกันมาตลอด”
หลังจากคิดดู อู๋ปินก็รู้สึกว่าที่อีกฝ่ายพูดฟังขึ้น
จิตวิญญาณเถิงต๋าเป็นบทสรุปแนวคิด ไม่ใช่ความลับทางธุรกิจ ที่รู้ๆ กันว่าต้องเก็บเป็นความลับก็เพราะไม่อยากให้ใครก็ไม่รู้สอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าผ่าน ขณะเดียวกันก็เพราะอยากให้พนักงานพยายามตั้งใจวิเคราะห์และศึกษาเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าด้วยตัวเอง
บอสหลี่เองก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะแพร่งพรายข้อมูลนี้ตามที่บอก
ในเมื่อบอสหลี่จะช่วยให้ข้อมูลเพื่อตีความจิตวิญญาณเถิงต๋าเพิ่มและจะเก็บเป็นความลับ ให้คู่มืออีกฝ่ายไปสักเล่มคงจะไม่สร้างความเสียหายอะไรให้บริษัท
คิดได้แบบนั้นอู๋ปินก็พยักหน้า “โอเคครับบอสหลี่ รบกวนช่วยให้ข้อมูลเพื่อทำคู่มือเล่มนี้ด้วยนะครับ
“ก่อนอื่นผมอยากถามว่าบอสคิดยังไงกับบอสเผย
“จากมุมมองของพนักงาน เราเห็นบอสเผยแค่มุมเดียว
“แต่ถ้ามองในมุมคู่ค้าทางธุรกิจ คุณน่าจะเห็นอีกด้านของบอสเผย ซึ่งจุดนี้เป็นส่วนสำคัญในการทำคู่มือจิตวิญญาณของเถิงต๋า”
หลี่สือยกกาแฟขึ้นจิบและคิดอยู่ครู่หนึ่ง “จากมุมมองของผม ความประทับใจแรกที่มีต่อบอสเผยคือความนิ่งแต่ไร้ความปรานี
“เขานิ่งขนาดที่ว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ยังจัดการกับปัญหาได้อย่างมีเหตุผลและไม่ลำเอียง ทำให้ตัดสินใจได้ถูกต้องทุกครั้ง
“พอไปผนวกเข้ากับการมองการณ์ไกลอันยอดเยี่ยมและความรู้ลึกด้านธุรกิจก็บอกได้เลยว่าเขาคือนักกลยุทธ์
“เวลาจัดการกับธุรกิจ เขาจะมองผลประโยชน์ของเถิงต๋าเป็นอันดับแรก ถ้าบริษัทไหนทำอะไรกระทบกับผลประโยชน์ของเถิงต๋า บอสเผยจะจัดการอย่างเด็ดขาด
“เมื่อร่วมงานกับคนอื่น บอสเผยพร้อมจะเตะทุกคนออกจากเรือเพื่อผลประโยชน์ของเถิงต๋า แน่นอนว่าบอสเผยไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมชั้นต่ำ แต่มักจะจัดการอย่างจริงใจและยุติธรรมอยู่เสมอ ถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่องที่สุดในตัวเขา
“ถ้ามองจากมุมอื่น บอสเผยเป็นคนใจดีและมีความอดทนอดกลั้นมากๆ
“เขามีมุมมองเรื่องการทำงานร่วมกันในแบบฉบับของตัวเอง
“บอสเผยจะร่วมงานกับคนที่มั่นใจในตัวเขาเต็มที่ ก่อนที่จะร่วมงานกัน เขาจะหาสารพัดหนทางมาทดสอบเพื่อไล่คนที่มุ่งมั่นไม่พอออกไป
“ถ้าเป็นคู่ค้าที่ร่วมลงหัวจมท้ายจนถึงที่สุดหรือแบ่งผลประโยชน์ให้ บอสเผยก็จะใจกว้างด้วยสุดๆ
“บุคลิกที่ขัดกันนี้ผสมกันอย่างลงตัวในตัวบอสเผย ผมเห็นทั้งความเป็นจอมเจ้าเล่ห์ดุจจิ้งจอกและเด็กหนุ่มผู้มีอุดมคติในตัวเขา ซึ่งเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
“อัจฉริยะด้านธุรกิจอย่างบอสเผยน่าจะเกิดมาบนโลกนี้เพื่อทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ”
อู๋ปินจดตามที่หลี่สือพูดทุกคำก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความประทับใจ “ขอบคุณมากครับบอสหลี่ มุมมองของบอสให้แรงบันดาลใจกับผมสุดๆ!”
ชุยเกิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังคิดหามุมมองที่เหมาะสมในการถ่ายทอดข้อมูลเหล่านี้
อู๋ปินถามต่อ “บอสหลี่ครับ ช่วยเล่าประสบการณ์การทำงานกับบอสเผยเพิ่มได้ไหมครับ แล้วรบกวนช่วยยกตัวอย่างที่แสดงถึงนิสัยของบอสเผยที่บอสเล่ามาด้วยครับ”
หลี่สือที่ถือแก้วกาแฟอยู่นึกย้อนกลับไป “ถ้าจะให้เล่าตั้งแต่แรกก็คงต้องเริ่มจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก
“ตอนนั้นผมบังเอิญไปเจอร้านอินเทอร์เน็ตร้างลูกค้า ถึงจะไม่มีลูกค้าเลย แต่ก็มีศักยภาพไร้ที่สิ้นสุด ผมเลยคิดอยากลงทุน…”
อู๋ปินฟังอย่างตั้งใจ ภาพบอสเผยในหัวค่อยๆ ถูกเติมเต็มด้วยหลายแง่มุม