เผยเชียนอึ้งไป ก่อนจะกวักมือเรียกเฉินคังทั่ว “เล่าให้ทุกคนฟังคร่าวๆ เกี่ยวกับโปรเจ็กต์หน่อย”
เผยเชียนจำใจเน้นย้ำคำว่า ‘คร่าวๆ’ ตอนที่พูด
เฉินคังทั่วเข้าใจทันที
เขาเรียบเรียงข้อมูลเกี่ยวกับโฮสเทลเขย่าขวัญไว้รายงานบอสเผยแล้ว แต่บอสไม่ยอมฟัง
เขาก็เลยเอาข้อมูลนี้แหละมาใช้
เนื่องจากบอสเผยอยากให้เล่าแค่คร่าวๆ เขาก็ต้องเล่าให้คร่าวเข้าไว้ เพราะการทำตามคำสั่งของบอสเผยอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งหนึ่งที่รู้กันดีในจิตวิญญาณของเถิงต๋า
เฉินคังทั่วเริ่มแนะนำโฮสเทลเขย่าขวัญ
ผ่านไปห้านาทีเขาก็เล่าจบ
เฉินคังทั่วรวบการแนะนำโปรเจ็กต์ให้คร่าวที่สุด ข้อมูลและรายละเอียดหลายๆ อย่างไม่ได้ถูกพูดถึง รายละเอียดเบื้องลึกของสามโปรเจ็กต์ย่อยก็เล่าอย่างครอบคลุมในประโยคเดียว
เขาเล่าแค่ภาพรวมคร่าวๆ เท่านั้น
เฉินคังทั่วหันมองบอสเผยหลังจากพูดจบ
เผยเชียนแอบยกนิ้วให้ในใจอย่างพึงพอใจ
นักลงทุนงงเป็นไก่ตาแตก
แค่นี้เหรอ
ชายังไม่ทันหมดแก้วแต่เล่าจบแล้วเนี่ยนะ
ไม่เห็นจะได้รู้ข้อมูลอะไรเลย!
ทุกคนหันมองหลี่สือที่กำลังครุ่นคิดอีกรอบ
ผ่านไปครู่หนึ่งหลี่สือก็พยักหน้า “อืม เป็นโปรเจ็กต์ที่ดีจริงๆ ด้วยครับ!”
คนอื่นๆ ที่ผงะไปชั่วครู่ได้สติทันที
อย่างนี้นี่เอง บอสเผยทดสอบพวกเขาอยู่ตลอด!
เกือบจะโดนหลอกอีกแล้วมั้ยล่ะ!
พอมาคิดดูดีๆ ถึงเฉินคังทั่วจะอธิบายแบบรวบรัด แต่ก็พอมีรายละเอียดซ่อนอยู่บ้าง
ตัวอย่างเช่น บอสเผยเป็นคนเลือกทำเลตรงนี้เอง มีการเพิ่มเงินทุนสองครั้ง และเป็นโปรเจ็กต์ที่เชื่อมโยงกับโปรเจ็กต์เกมสยองขวัญของเถิงต๋า…
แค่รู้ว่าบอสเผยเป็นคนตัดสินใจเรื่องโปรเจ็กต์นี้เองก็น่าเชื่อถือมากแล้ว ยังจะต้องการข้อพิสูจน์อะไรอีก
ทุกคนรีบกล่าวชมโปรเจ็กต์ทันที
“โปรเจ็กต์ดีมากๆ เชื่อถือได้จริงๆ!”
“แค่อธิบายคร่าวๆ ก็นำเสนอข้อดีหลักทั้งหลายของโปรเจ็กต์นี้ได้ บอสเฉินนี่เก่งจริงๆ ครับ! บอสเผยเลือกคนมาได้ถูกแล้ว!”
เผยเชียน “…”
เข้าสู่วงจรอุบาทว์อีกแล้ว
“โอเคครับ จบการแนะนำเท่านี้ เชิญกลับได้เลยครับ”
เผยเชียนพร้อมส่งแขกกลับ
เหล่านักลงทุนตกใจกันหมด อย่าเพิ่งเซ่ ยังไม่ทันได้รู้เรื่องอะไรเลย!
หลี่สือรีบลุกยืน “บอสเผยครับ! อย่ารีบเลยครับ
“เอ่อ เราพอจะเข้าใจเกี่ยวกับโปรเจ็กต์แล้วก็จริง แต่ยังต้องคุยเรื่องรายละเอียดการดำเนินงานกับน้องเฉิน
“บอสเผยครับ ไหนๆ พวกผมก็มาแล้ว จะให้กลับกันเลยก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่”
เขาพูดหน้าตาจริงจัง เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกว่าคำขอเรียบง่ายนี้ดูไม่มากเกินไป
“โอเคครับ งั้นเชิญคุยกันต่อก็ได้”
เผยเชียนพยักหน้าให้เฉินคังทั่ว เฉินคังทั่วเข้าใจความหมายทันทีจึงพยักหน้าตอบ
บอสเผยส่งข้อความมาบอกเขาก่อนแล้วว่าให้พูดถึงแค่สถานการณ์ปัจจุบัน ห้ามพูดเรื่องอื่นนอกจากนั้น
เฉินคังทั่วตัดสินใจทำตามคำสั่งบอสเผยอย่างเคร่งครัด เขาจะพูดแค่ข้อมูลตามจริง ไม่แนะนำอะไรเพิ่มเติม
บอสหลี่หันไปหาทุกคนก่อนจะพูดเสียงเบา “ห้ามใครกลับจนกว่าจะวางแผนเสร็จ!”
เหล่านักลงทุนพยักหน้า สีหน้าบ่งบอกว่าเป็นไงเป็นกัน
พอโปรเจ็กต์นึงมีคนร่วมงานหลายคนก็ง่ายต่อการระดมความคิดเห็น
ที่สำคัญที่สุดคือต้องห้ามช้า เพราะยากมากกว่าจะมารวมกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ได้ พวกเขาจึงต้องรีบสรุปแผนงาน
ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อออกไปจะไม่ได้ความอะไรเลย
ดังนั้นพวกเขาต้องล้วงข้อมูลจากบอสเผยให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม!
ยังไงก็ต้องทำให้สำเร็จ!
ถึงจะบอกว่าไม่กลัวขาดทุน แต่มีใครบ้างที่ไม่กลัวจริงๆ ที่บอกไปแบบนั้นก็เพื่อหลอกบอสเผย พวกเขาแต่ละคนฉลาดไม่แพ้กัน ยังไงก็ไม่มีทางทุ่มเงินไปกับโปรเจ็กต์ที่ตัวเองไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย
แม้จะเป็นโปรเจ็กต์ของบอสเผย ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องระเบียบแบบแผนและรายละเอียดเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดอยู่ดี
เฉินคังทั่วกางแบบแปลนของโปรเจ็กต์ลงบนโต๊ะ
ทุกคนเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นหลี่สือก็ลุกขึ้นพูด “งั้นผมเริ่มก่อนแล้วกัน ผมวางแผนไว้ว่าจะเปิดร้านอาหารเพื่อแก้ปัญหาเรื่องอาหารให้นักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องที่ตั้ง… เอ่อ… น้องเฉินคิดว่าตรงนี้เป็นไง”
เขาชี้ไปตรงจุดหนึ่งบนแบบแปลนแล้วหันไปมองเฉินคังทั่ว
เฉินคังทั่วยิ้มให้อย่างสุภาพ “เรื่องนั้นคุณตัดสินใจเองจะดีกว่าครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ให้คำแนะนำไม่ได้”
เผยเชียนยกนิ้วให้อีกรอบในใจ
ดีมาก ไว้ใจได้จริงๆ!
ค่อยสมกับที่เลือกมาหน่อย!
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพวกนี้ก็ยอมแพ้เอง!
เหล่านักลงทุนงงกันใหญ่
ปฏิเสธกันตรงๆ แบบนี้ได้เลยเหรอ
อย่างน้อยก็ต้องถามความเห็นจากบอสเผยก่อนแล้วค่อยปฏิเสธไม่ให้คำแนะนำรึเปล่า
แต่เฉินคังทั่วกลับปฏิเสธทันทีโดยไม่หันไปมองบอสเผยด้วยซ้ำ!
ชัดเจนมากว่าบอสเผยสั่งห้ามไม่ให้เขาให้คำแนะนำไว้ล่วงหน้าแล้ว!
หืม… นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบเหรอ
ดูจะเยอะแยะเกินไปรึเปล่า
เหล่านักลงทุนผู้ฉลาดเฉลียวเค้นหัวคิดแล้วเดาความจริงออกส่วนหนึ่ง
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนเดินมาถึงทางตัน
นักลงทุนคนหนึ่งกระแอมกระไอ “ผมว่าจะเปิดโรงแรมตรงนี้ คิดว่าตรงนี้เป็นยังไงครับ”
เขามองเฉินคังทั่วขณะที่ชี้นิ้วไปยังจุดหนึ่งบนแผนที่ รอบนี้เฉินคังทั่วไม่ตอบอะไร เขายิ้มและแสร้งทำเป็นว่าเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเขาเลย
เผยเชียนเอ่ยชมเขาในใจอีกครั้ง เยี่ยมมาก!
สถานการณ์เริ่มกระอักกระอ่วนขึ้นมาอีกรอบ
หลี่สือทนไม่ไว้จึงพูดขึ้น “ดูไม่ค่อยเหมาะนะ ที่ตรงนี้ค่อนข้างสำคัญเลย โรงแรมไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ขนาดนั้น”
นักลงทุนอีกคนเสนอ “งั้นตรงมุมฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ”
“ไม่ได้ๆ ตรงมุมฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ดีกว่า”
กลุ่มนักลงทุนเริ่มถกกันเอง
เผยเชียนฟังอยู่เงียบๆ ด้วยความโล่งใจโนlวลกูดอทคoม
เห็นได้ชัดว่าต่างคนก็ต่างคิดกันไว้แล้ว ทุกคนอยากได้ทำเลที่ดีที่สุดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับตัวเองที่สุด เอ๊ะ หรือจะบอกว่าหาทำเลที่ดีที่สุดในที่รกร้างนี่ดี
ถ้าจะเอาให้ตรงใจตัวเอง ไม่ยอมตัดสินใจกันสักที ถกกันแบบนี้ไปเป็นสัปดาห์ก็ตกลงกันไม่ได้หรอก
บอสหลี่หันไปมองเผยเชียนอีกครั้งเมื่อหาข้อสรุปไม่ได้ “บอสเผยคิดว่ายังไงครับ”
เผยเชียน “…”
ตอนนี้ดูไม่เหมาะที่จะออกความเห็นอะไร
ถ้าเกิดเขาหาข้อสรุปให้โดยบอกไปว่า ‘งั้นเอาตรงนี้’ แล้วมันดันกลายเป็นทำเลที่ดีที่สุดขึ้นมาจะทำยังไง
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรื่องแบบนั้นก็ดูมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แถมมีโอกาสมากด้วยสิ
ถ้าบอกไปว่า ‘อย่าเอาตรงนี้’ พวกเขาก็ต้องถามตรงอื่นต่อแน่ แบบนั้นก็ไม่จบไม่สิ้นกันสักที
จะไม่ตอบก็ดูไม่เหมาะอีก เพราะพวกเขาน่าจะถามต่อไปเรื่อยๆ แล้วพากันตีความสีหน้าเขาไปต่างๆ นานา ไปๆ มาๆ อาจจะได้แผนดีๆ ขึ้นมาก็ได้
พวกพนักงานของเขาเก่งเรื่องนี้มาก ทำให้เขาต้องทรมานอยู่บ่อยๆ
ตอบก็ไม่ได้ ไม่ตอบก็ไม่ได้อีก
งั้นหนีเลยแล้วกัน!
ปล่อยให้ถกกันเอาเอง ถ้าเฉินคังทั่วไม่เสนออะไรตามที่เขาบอก ทุกอย่างก็จะโอเค!
เผยเชียนรีบหยิบมือถือขึ้นมา “โอ้ ลืมไปเลยว่าต้องไปประชุมอีกที่ ขอโทษครับทุกคน ผมต้องขอตัวก่อน
“เชิญคุยกันต่อได้เลย ไม่ต้องไปส่งผม!
“คังทั่ว ห่าวฉยง ดูแลบอสหลี่และคนอื่นๆ ให้ดีนะ อย่าลืมที่ผมบอกล่ะ!”
เผยเชียนย้ำเฉินคังทั่วอีกครั้งก่อนจะรีบกลับออกไป
หลี่สืออ้าปากเตรียมขอให้บอสเผยอยู่ต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
“เอ่อ…”
เขาเห็นคนขับรถเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็วราวกับมีเรื่องเร่งด่วนสักอย่าง
ทุกคนหันมองกันอย่างหมดหวัง
จบแล้ว!
บอสเผยกลับออกไปโดยไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลย แล้วพวกเขาจะทำยังไงดี
หลี่สือและคนอื่นๆ รู้ว่าทุกคนเป็นนักลงทุนมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในหลายอุตสาหกรรม แต่ยังไงก็จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวางแผนอยู่ดี!
พวกเขาจะมั่นใจได้ว่าทุกหยวนลงทุนไปถูกต้อง ก็ต่อเมื่อได้แผนงานดีๆ ที่มาจากความเข้าใจในโปรเจ็กต์บ้านผีสิงอย่างถ่องแท้
ถ้าลงทุนไปโดยไม่มีแผนงานก็คงออกมาเละเทะแน่!
ทุกคนท้อแท้จนไม่พูดอะไรกันไปพักหนึ่ง
“ตึง!”
พวกเขาตกใจเมื่อได้ยินเสียงหลี่สือตบโต๊ะ
“อะไรกัน ติดขัดเล็กน้อยแค่นี้ก็จะยอมแพ้กันแล้วเหรอ
“ถึงบอสเผยจะกลับแล้ว แต่ก็ทิ้งผู้เชี่ยวชาญไว้ให้เรา
“ใช่มั้ยน้องเฉิน”
ทุกคนหันไปมองเฉินคังทั่ว
เฉินคังทั่วได้แต่ยิ้มให้อย่างสุภาพ
นักลงทุนคนหนึ่งถอนหายใจ “เปล่าประโยชน์ครับบอสหลี่ น้องเฉินคือผู้เชี่ยวชาญก็จริง แต่ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าบอสเผยสั่งไม่ให้แนะนำอะไรพวกเรา! แบบนี้จะไปทำอะไรได้”
ทุกคนเริ่มพูดสิ่งที่ตัวเองคิดหลังบอสเผยกลับ
หลี่สือหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองเฉินคังทั่ว “น้องเฉิน พูดกันตรงๆ เลยนะ พวกผมมาที่นี่ก็เพื่อช่วยบอสเผยเรื่องการก่อสร้าง
“พวกผมรับผิดชอบเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โฮสเทลเขย่าขวัญ
“เพราะงั้นเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว รุ่งหรือร่วงก็ต้องกอดคอกันไป!
“บอสเผยต้องการจะบอกอะไรกันแน่ ช่วยบอกใบ้หน่อยได้มั้ย”
เฉินคังทั่วยิ้มโดยไม่พูดอะไร
จริงๆ เขาก็สังเกตเห็นจุดนี้เหมือนกัน
บอสเผยอัดเงินทุนให้บ้านผีสิงอีกสี่สิบล้านหยวนโดยไม่ลังเล แต่ไม่ให้เอาทุนไปสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแม้แต่หยวนเดียว
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ
บอสไม่รู้เหรอว่าสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ สำคัญขนาดไหน
บอสต้องรู้อยู่แล้ว!
พอได้เห็นบอสหลี่และนักลงทุนคนอื่นๆ ในที่สุดเฉินคังทั่วก็เข้าใจเหตุผลอันล้ำลึกของบอสเผยที่ตัดสินใจอย่างนั้น
เหล็กดีเอาไว้ตีดาบ เอาเงินทั้งหมดไปทุ่มกับโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญเพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่สุดยอดและสมบูรณ์แบบที่สุด!
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ นั้นให้เป็นหน้าที่ของคนอื่น
การผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวไม่ใช่เรื่องดี ถึงโปรเจ็กต์จะเสร็จสมบูรณ์ก็จะมีศัตรูมากมาย
กลับกันถ้านักลงทุนกลุ่มนี้ได้มีส่วนร่วมด้วย พวกเขาก็จะใช้เส้นสายและทรัพยากรที่มีช่วยสนับสนุนการพัฒนาบ้านผีสิงอย่างเต็มที่ ช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้โปรเจ็กต์ประสบความสำเร็จ
เพราะงั้นบอสเผยต้องสนับสนุนให้พวกเขาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ แน่นอน
แต่… ทำไมบอสถึงห้ามไม่ให้แนะนำอะไรล่ะ