เฉินคังทั่วคิดว่าบอสเผยน่าจะไม่อยากให้ความคิดของเขาไปมีผลกับการตัดสินใจของคนอื่น
นักลงทุนทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัว ถ้าเฉินคังทั่วช่วยทำทุกอย่าง ทั้งวางแผนและเลือกทำเล ก็จะไม่มีใครใช้ความคิด ความสามารถเฉพาะตัวพวกนั้นก็ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
บอสเผยน่าจะมุ่งหมายให้นักลงทุนแต่ละคนใช้ความสามารถเฉพาะตัว เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดมากที่สุด
ทั้งหมดตีความโดยใช้จิตวิญญาณของเถิงต๋า
เฉินคังทั่วคิดว่าความจริงน่าจะไม่ห่างจากที่เขาคิดไว้เท่าไหร่
แต่… เขาก็บอกออกไปไม่ได้เพราะบอสเผยสั่งไว้
ทำให้เขาไม่รู้จะทำตัวยังไงดี
พอเห็นสีหน้าเฉินคังทั่วเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ยอมบอกอะไร หลี่สือก็รู้สึกท้อขึ้นมานิดหน่อย
เขาทำอะไรไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำแบบนี้เพราะอารมณ์ส่วนตัวไม่รู้บอสเผยบ่มเพาะลูกน้องยังไงถึงได้ซื่อสัตย์สุดๆ บอกซ้ายไม่มีไปขวา แถมยังยึดตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดเหมือนเป็นประกาศิต
คนคนนี้ต้องรู้เรื่องอะไรแน่
สถานการณ์เหมือนจะมาถึงทางตัน กลับไปก่อนแล้วค่อยมาใหม่ดีมั้ยนะ
ไม่ ทำแบบนั้นไม่ได้!
หลี่สือไม่มีทางเลือกอื่น เขายกมือขึ้นปรบ “โอเค เงียบก่อนทุกคน!
“ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ ทุกคนก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว เราต้องพึ่งตัวเอง ห้ามใครเอาความคิดตัวเองนำ! คนไหนที่ทำตัวแตกแยกจากกลุ่มและทำให้การลงทุนสูญเปล่าก็อย่าคิดว่าจะได้อยู่ในแวดวงการลงทุนเมืองจิงโจวต่อ!
“ทุกคนช่วยกันคิด!”
เหล่านักลงทุนต้องยอมรับความจริงเมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของหลี่สือ
หลายคนมาร่วมวงด้วยเพราะคิดว่าต้องได้กำไรสบายๆ ตอนคุยกันก็คิดกันอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาตั้งใจจะผลักทุกอย่างให้บอสเผยจัดการในขณะที่ตัวเองกอบโกยผลประโยชน์สุดหอมหวาน
แต่พอไม่มีบอสเผย แถมเฉินคังทั่วก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไร จึงไม่มีใครคิดจะรับภาระหนักอึ้งนี้
พอหลี่สือเดือดขึ้นมา ทุกคนก็เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ เงินพวกเขาต้องสูญเปล่าแน่ถ้าไม่ลงมือลงแรงอะไรเลย!
หลี่สือเปิดก่อน “ผมเริ่มก่อนแล้วกัน ผมจะเปิดร้านอาหารตีมสยองขวัญ วางแผนว่าจะทำให้เหมือนคุก ห้องส่วนตัวแต่ละห้องจะทำเป็นกรงขัง มีพนักงานสาวสวยแต่งตัวเป็นผู้คุมคอยเสิร์ฟอาหาร
“ลูกค้าจะโดนนำตัวไปเข้ากรงพร้อมสวมกุญแจมือปลอม ไม่มีรายการอาหารให้สั่ง อาหารจะเสิร์ฟตามจำนวนคนโดยหลีกเลี่ยงสิ่งที่ลูกค้าแพ้ อาหารจะดูน่ากลัวหน่อยๆ ส่วนเครื่องดื่มก็อาจจะเสิร์ฟให้ดูเหมือนถุงเลือด
“แล้วก็จะมีการแสดงแหกคุกเป็นพักๆ ให้ดูระหว่างกิน
“ส่วนเรื่องที่ตั้งก็… ตรงนี้”
หลี่สือชี้ไปตรงที่หนึ่งบนแบบแปลน
แต่ละคนแสดงออกแตกต่างกันไป บางคนพยักหน้า บางคนขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร
เห็นได้ชัดว่าบางคนไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องที่ตั้ง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองคิดถูกรึเปล่าเลยไม่กล้าพูดอะไรออกมา
หลี่สือมองทุกคน “ถ้าไม่มีใครเสนอความคิดเห็นอะไร โปรเจ็กต์นี้ก็จะเอาตามนี้”
ไม่มีใครพูดอะไร
หลี่สือรู้สึกอับจนหนทาง ดูเหมือนเขาจะหวังพึ่งอะไรกับคนพวกนี้ไม่ได้เลย
แต่พอจะพูดเรื่องโปรเจ็กต์ถัดไปก็มีคนกระแอมกระไอขึ้น
“แคกๆๆ”
ทุกคนหันไปหาเฉินคังทั่วที่กำลังป้องปากทำหน้าเจื่อน
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ไอจริง แต่เหมือนจะอยากบอกอะไรสักอย่าง
ทุกคนรอให้เขาพูด แต่หลังจากมองหน้ากันอยู่พักหนึ่งเฉินคังทั่วก็ยังไม่พูดอะไร
หลี่สือเองก็งงเหมือนกัน แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจ “อ๋อ! จะบอกว่าตรงนี้ไม่ดีเหรอครับ”
เฉินคังทั่วยิ้ม
นักลงทุนคนหนึ่งรีบพูดขึ้น “ผมก็คิดเหมือนกัน! ที่ตรงนี้อาจจะมีคนผ่านเยอะ แต่อยู่ติดกับทางเข้าเกินไป ลูกค้าไม่เข้ามาแล้วกินเลยหรอก น่าจะย้ายไปไว้ลึกๆ ให้ลูกค้าเล่นจนเหนื่อยแล้วค่อยไปกิน!”
หลี่สือพยักหน้าแล้วเปลี่ยนตำแหน่ง “ตรงนี้ล่ะ”
เฉินคังทั่วทำหน้าเจื่อนอีกรอบ
นักลงทุนอีกคนเสริม “ผมว่าลึกเกินไปแล้วก็จะไปขัดกับการขยายบ้านผีสิงในอนาคต”
หลี่สือย้ายไปอีกที่ “ถ้างั้นเปิดตรงนี้น่าจะไม่ติดปัญหาอะไร”
คราวนี้เฉินคังทั่วยิ้ม
“โอเค งั้นที่ตั้งร้านอาหารก็เอาเป็นตรงนี้แหละ!” ครั้งนี้หลี่สือพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ทุกคนเริ่มกระตือรือร้นขึ้นมาเมื่อจัดการไปได้หนึ่งโปรเจ็กต์ ก่อนจะเริ่มวางแผนโปรเจ็กต์อื่นๆ ของตัวเองต่อ
ตอนแรกหลายๆ คนคิดถึงตีมสยองขวัญ เช่น โรงแรมตีมสยองขวัญ ร้านขายเสื้อผ้าตีมสยองขวัญ ร้านขายของเล่นมายากลตีมสยองขวัญ ร้านขายพวกของแนวสยองขวัญ ร้านขนมตีมสยองขวัญ รถบัสตีมสยองขวัญ และอื่นๆ
แต่หลังจากช่วยกันคิดและถกกันเรื่องตีมสยองขวัญและภูตผีปีศาจจนเอียนแล้ว บางคนก็เริ่มเห็นต่าง
ตัวอย่างเช่น เปิดเมดคาเฟ่เพื่อปลอบประโลมจิตใจที่บอบช้ำของลูกค้า ถ้าแสดงตั๋วเข้าเล่นบ้านผีสิงก็จะได้รับกำลังใจจากเมดและเครื่องดื่มเยียวยาจิตใจ
สร้างน้ำพุรักษากลางลานกว้าง ดูผ่านๆ อาจมองเป็นน้ำพุธรรมดา แต่น้ำที่ไหลออกมาเป็นน้ำอุ่น เอาไว้บอกให้ลูกค้าล้างมือเพื่อไล่ภูตผีและรักษาอาการหวาดกลัว
ไม่นานพวกเขาก็คิดและสรุปแผนงานได้หลังเสนอความคิดเห็นกัน
เฉินคังทั่วยืนอยู่ข้างๆ คอยแสดงความคิดเห็นผ่านทางสีหน้า ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm
เขาคุมโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญมาหลายเดือน จึงพอจะมีความเห็นเรื่องทำเลและการเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่บ้าง
ถ้าเห็นโปรเจ็กต์ไหนมีปัญหาอย่างชัดเจน เขาก็จะเตือนด้วยการแสดงออกทางสีหน้า
เหล่านักลงทุนจะพยายามคิดว่าปัญหาคืออะไร จากนั้นก็จัดการกับปัญหาหลังไตร่ตรองกันอย่างละเอียด
แผนงานจึงสมบูรณ์ขึ้นมาผ่านการเดาสีหน้าไม่กี่ครั้ง
เหล่านักลงทุนไม่ได้ยึดตามความเห็นของเฉินคังทั่วอย่างเดียว แต่ช่วยกันระดมความคิดเห็นเพื่อให้ได้แผนงานที่ดีที่สุด
การคุยงานดำเนินไปเร็วกว่าที่พวกเขาคิดไว้
ผ่านไปไม่ถึงสามชั่วโมง แบบแปลนก็เต็มไปด้วยตัวหนังสือมากมาย บอสหลี่กับคนอื่นๆ แบ่งพื้นที่รอบโฮสเทลเขย่าขวัญแล้วจัดแจงวางสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ตรงที่ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม ร้านขนม ร้านของเล่น และทุกอย่างที่ควรมีที่นี่!
แน่นอนว่าทั้งหมดกินพื้นที่แค่ส่วนเล็กๆ ในโซนอุตสาหกรรม
แผนงานสรุปได้คร่าวๆ แล้ว
พอนักลงทุนคนหนึ่งเห็นแผนงานที่ลงรายละเอียดชัดเจนก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะวางแผนงานนี้ได้ภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง!”
หลี่สือยิ้ม เขาเองก็รู้สึกทึ่งอยู่หน่อยๆ “พวกคุณคิดว่าเราจะวางแผนงานนี้ออกมาได้มั้ย ถ้าบอสเผยไม่ใช่วิธีการสุดล้ำบังคับพวกเรา
“คิดว่าถ้าเสนอโปรเจ็กต์ขึ้นมามั่วๆ แล้วจะได้แบบนี้มั้ย”
ทุกคนรู้สึกละอายใจขึ้นมา
ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ!
พวกเขาไม่มีทางเค้นหัวคิดแน่ถ้าบอสเผยคิดให้ทั้งหมด
การให้บอสเผยคุมทุกอย่างคนเดียวไม่ใช่เป็นเรื่องไม่ดี แต่คนเรานั้นมีขีดจำกัดทางความคิด บอสเผยเองก็งานยุ่งมาก ให้มาทุ่มพลังวางแผนทั้งหมดนี้ก็คงไม่ได้ เพราะบอสเผยก็ไม่ได้รู้เป๊ะขนาดนั้นว่าแต่ละคนมีอะไรให้บ้าง
นักลงทุนทุกคนเอาสิ่งที่ตัวเองมีออกมา เค้นหัวคิดหาไอเดีย และคอยเช็กกับเฉินคังทั่วว่ามาถูกทางรึเปล่า นี่แหละคือการเอาทุกอย่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด!
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แผนงานนี้ดูน่าเชื่อถือขึ้นเรื่อยๆ
โชคดีจริงๆ ที่ผ่านบททดสอบของบอสเผยมาได้!
พวกเขาคงจะเสียดายมากถ้ายอมแพ้กลางทางแล้วพลาดโอกาสลงทุนดีๆ แบบนี้ไป!
เฉินคังทั่วยิ้มเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ภารกิจสำเร็จลุล่วง!
เขาช่วยเหล่านักลงทุนวางแผนโดยไม่เอาความคิดตัวเองไปยัดใส่หัวคนอื่นตามที่บอสเผยสั่งไว้
แบบนี้ก็มั่นใจเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกได้แล้ว!
เฉินคังทั่วเคยคิดว่าบอสเผยควรจะเอาเงินสี่สิบล้านหยวนไปลงกับการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อกลบข้อเสียที่มี
แต่บอสเผยกลับเอาเงินสี่สิบล้านหยวนไปทุ่มกับโฮสเทลเขย่าขวัญเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุด ขณะเดียวกันก็ให้นักลงทุนคนอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและใช้ความกระตือรือร้นของพวกเขาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทำแบบนี้ทั้งโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญและสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ก็จะดีขึ้นไปกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อเทียบกับวิธีแรก!
เฉินคังทั่วอดรู้สึกทึ่งขึ้นมาไม่ได้
สมแล้วที่เป็นบอสเผย บอสคิดวิธีที่สมบูรณ์แบบเอาไว้นานแล้ว!
แต่ฉันก็ทำได้ไม่เลวเหมือนกัน
ถ้าไม่ได้ทำงานที่เถิงต๋าและผ่านการฝึกฝนการตีความแนวคิดสุดล้ำลึกของบอสเผย ฉันคงคิดไม่ได้ขนาดนี้และคงไม่สามารถทำภารกิจที่บอสเผยบอกใบ้ให้สำเร็จได้
วันนี้ฉันแก้ปริศนาใหม่ที่บอสเผยมอบหมายให้ได้แล้ว ซึ่งก็หมายความว่าเริ่มเข้าใจวิธีคิดของบอสเผยมากขึ้นไปอีกขั้น
มีความสุขจริงๆ!