วันพุธที่ 9 มีนาคม…
OTTO E1 พร้อมขายล็อตที่สองแล้ว!
เผยเชียนตั้งใจเดินทางมาไกลถึงบริษัท OTTOเพื่อสำรวจหน้างานด้วยตัวเอง
มือถือจะเปิดขายตอนสิบโมงเช้า เผยเชียนมาถึงตั้งแต่เก้าโมงเพื่อตรวจดูสถานการณ์ล่วงหน้า
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ เขาก็ตัดสินใจให้คำแนะนำฉางโหยว
“รองประธานฉาง ตั้งแต่วันนี้ไปเราจะทำระบบขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าพรีออเดอร์และมัดจำเครื่องได้ พวกเขาต้องจ่ายค่ามัดจำหนึ่งร้อยหยวนต่อเครื่อง จากนั้นเราค่อยสั่งผลิตมือถือตามยอดพรี”
ฉางโหยวมีสีหน้าลำบากใจ “บอสเผยครับ ผมรู้จักวิธีนี้ดี
“มีบริษัทมือถือเยอะแยะที่ทำแบบนี้นั้นตอนสต๊อกเหลือน้อย แต่ตอนนี้เรามีเงินไม่เยอะขนาดนั้น ถ้าเกิดมีลูกค้าพรีมาหมื่นเครื่องละครับ เงินทุนเราไม่พอนะครับ…”
เผยเชียนโบกไม้โบกมือ “ไม่เป็นไร ถ้าเงินไม่พอก็ขอผมเพิ่มได้ เราใช้เงินของเถิงต๋าแก้ปัญหาเรื่องกระแสเงินสดได้ ยังไงก็อยู่ใต้หลังคาเดียวกัน
“ยังไงก็ต้องสต๊อกของให้พอ แฟนๆ ของเถิงต๋าทุกคนต้องได้ใช้มือถือของเรา”
น้ำเสียงของเผยเชียนดูจริงจังมากจนทำให้ฉางโหยวตื้นตันใจ
แต่ความจริงแล้วเผยเชียนกลับคิดไปอีกอย่าง
เขาแนะนำให้ลูกค้าพรีออเดอร์มือถือเพราะสามเหตุผลหลักด้วยกัน
อย่างแรก เขาต้องการกำจัดพวกพ่อค้าหน้าเลือด เขาอยากเพิ่มสต๊อก เพื่อขัดขวางไม่ให้คนที่ได้มือถือไปเอาไปขายต่อทันที ถ้าทำแบบนี้ ก็จะมีแค่คนที่อยากได้มือถือจริงๆ ซื้อไป
ข้อสอง เขาอยากรู้ให้ชัดๆ ว่ามีกี่คนที่อยากซื้อมือถือรุ่นนี้
ถ้ามีสักห้าพันคน เผยเชียนก็จะสั่งผลิตแปดพันเครื่อง อีกสามพันเครื่องเก็บไว้ในคลัง แบบนี้ก็จะได้ผลาญเงินเพิ่ม!
ข้อสุดท้าย เผยเชียนได้อ่านฟีดแบ็กของชาวเน็ตแล้ว และสรุปได้ว่ามีคนไม่กี่คนที่อยากได้มือถือรุ่นนี้
ยังไงซะราคาของมันก็แพงมาก แพงกว่ามือถือรุ่นเรือธงของเฉินฮว่าและ Pineapple เสียอีก แม้สิทธิประโยชน์ที่ได้จะดูดี แต่ส่วนใหญ่ใช้ได้เฉพาะในเมืองจิงโจวเท่านั้น สรุปคือแล้วคนส่วนใหญ่ยังรอดูท่าทีอยู่
หนึ่งพันคนแรกที่ได้มือถือไปส่วนใหญ่เป็นแฟนของเถิงต๋าที่อาศัยอยู่ในจิงโจว เผยเชียนคิดว่าทันทีที่คนเหล่านี้ได้มือถือกันหมดแล้ว ยอดขายจะตกลงอย่างรวดเร็ว!
ส่วนความคิดของบอสเผยจะถูกต้องหรือเปล่า ก็ต้องรอดูว่ายอดขายวันนี้จะเป็นยังไง
ฉางโหยวสั่งงานลูกน้องให้ออกแบบระบบเพื่อให้คนเข้ามาพรีออเดอร์มือถือ
ตอนสิบโมงตรง เผยเชียนปัดหน้าจอมือถือแล้วสำรวจดูว่ามีคนกี่คนที่เข้ามาซื้อ OTTO E1
เป็นไปตามที่เผยเชียนคาดไว้ พอมีสต๊อกมือถือก็ไม่ได้ขายออกหมดในทันที ตอนแรกจำนวนมือถือถูกขายออกไปอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ช้าลง
ตอนนี้พวกพ่อค้าหน้าเลือดล้มเลิกความคิดที่จะซื้อมือถือแล้ว เพราะตอนซื้อต้องผูกแอ็กเคานต์เกมของเถิงต๋าและบัตรประชาชนด้วย ถ้าพวกเขาเอาไปบวกราคาเพื่อขายต่อ คนที่ซื้อไปก็จะใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ของเถิงต๋าไม่ได้ ดังนั้นพวกพ่อค้าหน้าเลือดจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาแย่งซื้อมือถืออีก
แน่นอนว่าพวกพ่อค้าหน้าเลือดยังเลือกใช้กลยุทธ์อย่าง ‘พรีออเดอร์ในนามของ’ หรือ ‘ซื้อในนามของ’ ได้ แต่ก็ยังดีกว่าให้คนพวกนั้นซื้อได้โดยไร้เงื่อนไขใดๆ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ยังเหลือมือถืออยู่หนึ่งพันหนึ่งร้อยเครื่อง
เผยเชียนกินมื้อกลางวันที่บริษัท OTTO แล้วจับตาดูมือถือที่ขายออกไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งบ่ายสองโมงถึงค่อยขายหมด!
ทันทีที่สัญลักษณ์ ‘หมดแล้ว’ ปรากฏขึ้น ฉางโหยวกับเผยเชียนก็ปาดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกัน
ฉางโหยวปาดเหงื่อเพราะโล่งใจที่ในที่สุดมือถือก็ขายหมด!
บอสเผยอุตส่าห์มาถึงนี่เพื่อจับตาดูยอดขายโดยเฉพาะ ถ้าพวกเขาขายไม่หมดสองพันเครื่อง ฉางโหยวคนเหมือนโดนตบหน้าและไม่รู้จะอธิบายให้บอสเผยฟังยังไง
ในทางกลับกัน เผยเชียนปาดเหงื่อเพราะโล่งใจที่พวกเขาต้องใช้เวลาขายจนถึงบ่ายสอง!
ถ้าขายหมดเลยทันทีต้องเป็นสัญญาณของปัญหาที่ใหญ่กว่านี้แน่
เผยเชียนสบายใจได้ในที่สุด
ความจริงที่ปรากฏพิสูจน์แล้วว่าความคิดของเขาถูกต้อง มือถือเครื่องนี้โด่งดังก็จริง แต่คนส่วนมากไม่คิดจะซื้อ
ลูกค้าส่วนใหญ่ในจิงโจวมีข้อจำกัดเรื่องความเร็วในการกระจายข้อมูลข่าวสาร ทั้งยังไม่เชื่อมั่นในแบรนด์ใหม่ สองปัจจัยนี้ทำให้พวกเขาไม่รีบร้อนซื้อมือถือตั้งแต่ช่วงแรกๆ
ขั้นตอนต่อไปก็คือรอดูว่าภายในวันอาทิตย์จะมีลูกค้าพรีออเดอร์มือถือสักกี่คน
ถ้ายอดพรีออเดอร์ไม่ผิดจากที่เผยเชียนคาดการณ์ไว้ เขาจะสั่งผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อผลาญเงินให้ได้มากที่สุด และขาดทุนให้ได้ก่อนวันปิดบัญชี!
วันพฤหัสที่ 10 มีนาคม
ช่วงบ่าย
เผยเชียนหยิบมือถือขึ้นมาเช็กว่ามีคนพรีออเดอร์ OTTO E1 มากน้อยขนาดไหน
เมื่อวานโปรแกรมเมอร์ของบริษัท OTTO ทำงานล่วงเวลาเพื่อใส่ฟังก์ชันพรีออเดอร์มือถือเข้าไปในเว็บไซต์บริษัท แน่นอนว่าฉางโหยวจ่ายโอทีให้พวกเขาเต็มจำนวน
จนถึงตอนนี้ มีคนเข้ามาพรีออเดอร์มือถือทั้งหมดหนึ่งพันแปดร้อยเครื่อง จำนวนยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้รวดเร็วนัก
วันอาทิตย์พวกเขาเตรียมมือถือไว้อีกสี่พันเครื่อง
เผยเชียนครุ่นคิด เขาแน่ใจว่ายอดจองมือถือจะต้องมากกว่าสี่พันเครื่องในวันอาทิตย์แต่ไม่น่าจะถึงห้าพัน
พูดอีกอย่างคือ ถ้าสั่งผลิตมากกว่าห้าพันเครื่อง เครื่องที่เหลือก็จะถูกเก็บไว้ในคลัง
ถ้าเขาใช้กำไรทั้งหมดที่ได้มาจากการขายมือถือไปผลิตมือถือเพิ่มเพื่อเก็บไว้ในคลัง
แบบนี้ก็จะจัดการเงินส่วนเกินทั้งหมดของบริษัท OTTO ได้ถูกไหม
ฟังดูเป็นไอเดียที่ดีทีเดียว
หลังจากนั้นก็ให้เป็นเรื่องของสวรรค์กำหนดก็แล้วกัน
ขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนี้อยู่มือถือก็สั่น
เผยเชียนหยิบขึ้นมาแล้วก็เห็นว่าเป็นเฮ่อเต๋อเซิ่ง
เขาขมวดคิ้วทันที
เกิดอะไรขึ้นอีก หรือแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ จะเกิดปัญหาอีกแล้ว!
ไม่น่าจะเป็นไปได้ พวกเขาเพิ่งซื้อหุ้นทั้งหมดมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่น่าจะเกิดปัญหาเร็วขนาดนี้ถูกไหม
เผยเชียนรีบรับสายอย่างรวดเร็ว
“เกิดอะไรขึ้นกับแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เหรอ” เผยเชียนถามราวกับว่ากำลังเผชิญศัตรูที่ทรงพลังอยู่
เฮ่อเต๋อเซิ่งอึ้งไป “เอ่อ… บอสเผยครับ แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ไม่เป็นอะไรครับ แต่จางหวั่งมีเรื่องจะรายงานบอสเลยมารอที่บริษัทหยวนเมิ่ง บอสมีเวลามาพบเขาไหมครับ ถ้าไม่มีเขาจะได้โทรหา”
เผยเชียนขมวดคิ้ว
จางหวั่ง? นักประดิษฐ์รากหญ้าจอมเพี้ยนบ้ากิจการให้เช่าเจ้าของโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่านั่นน่ะเหรอ
แค่ได้ยินชื่อหมอนี่เผยเชียนก็รู้สึกเคืองแล้ว
หมอนี่ยังมีหน้ามาพบฉันอีก!
ตอนนั้นฉันอุตส่าห์ตกลงใจร่วมทุนกับโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าของนาย แล้วสุดท้ายดูซิว่านายทำอะไรออกมา
แน่สิ นายพูดได้ว่านายทำตู้โทรศัพท์เพราะว่าในตู้มีโทรศัพท์ พูดแบบนั้นก็ไม่ผิด แต่นายสร้างกำไรเก่งเกินไปแล้ว!
จางหวั่งกับหร่วนกวางเจี่ยนร่วมมือกันแทงเผยเชียนข้างหลัง ทำให้เผยเชียนหมดความเชื่อมั่นในตัวจางหวั่งและโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าของเขา ตอนนี้เผยเชียนทิ้งให้จางหวั่งตะเกียกตะกายเพียงลำพัง
หลังจากสั่งให้จางหวั่งใช้เงินที่ได้มาผลิตตู้โทรศัพท์ให้เช่าเพิ่ม เผยเชียนก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายอีก
ตั้งแต่ที่เขาแทบบ้าเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนัง เขาก็ไม่ได้ติดตามข่าวของโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าอีกเลย
เผยเชียนสงบอกสงบใจลงแล้วถามขึ้น “เขาอยู่ข้างคุณเหรอตอนนี้” เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบ “ใช่ครับบอสเผย”
“โอเค ส่งโทรศัพท์ให้เขา ผมจะถามความคืบหน้าเรื่องโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่ากับเขาสักหน่อย” เผยเชียนพูด
“ได้ครับ”
ครู่ต่อมา เสียงของจางหวั่งก็ดังขึ้นที่ปลายสาย เขาดูตื่นเต้นไม่น้อยขณะพูดทักทายเผยเชียน “บอสเผยครับ!”
พอได้ยินเสียงของชายคนนี้เผยเชียนก็รู้สึกเจ็บปวดใจ
คนคนนี้กับโปรเจ็กต์ของเขาดูน่าเชื่อถือในตอนต้น ทุกอย่างก็ดูเป็นไปได้สวย แล้วจู่ๆ มันเกิดทำกำไรขึ้นมาได้ยังไง
โคตรเสียของเลย!
“ครับ มีเรื่องอะไรเหรอ” เผยเชียนถาม
จางหวั่ง “บอสเผยครับ ตอนนี้ผมไม่ได้โฟกัสที่โปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าแล้วครับ! โปรเจ็กต์นี้ดำเนินได้เองด้วยกำลังคนพื้นฐาน ผมจะปล่อยให้มันพัฒนาไปตามจังหวะของมันเอง”
ดวงตาของเผยเชียนเป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น
“อ้อ แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ เกิดข้อผิดพลาดเรื่องการดำเนินงานเหรอ”
เสียงของเผยเชียนฟังดูรื่นเริงมาก
จางหวั่งหัวเราะคิกคัก “ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้นหรอกครับ ตอนนี้ผมติดตั้งตู้โทรศัพท์ให้เช่าในห้างทุกห้างของจิงโจวแล้ว ต่อให้ติดตั้งมากไปกว่านี้มันก็ไม่ทำเงินเพิ่ม ตอนนี้ในเมืองจิงโจว โปรเจ็กต์นี้อยู่ในจุดสูงสุดของมันแล้ว ผมเลยคิดว่าจะพักมันไว้ก่อนแล้วหาเรื่องน่าสนใจอื่นๆ ทำ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้เผยเชียนก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมโนเวลกูดอทคoม
ดีเลย พักไว้ก่อน! เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก ความคิดของฉันถูกต้องมาตลอดจริงๆ!
ตู้โทรศัพท์ให้เช่าจะทำกำไรได้ก็ต่อเมื่อติดตั้งไว้ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านอย่างในห้าง แถมในเมืองจิงโจวยังมีห้างไม่มากนัก ติดตั้งห้างละเครื่องหรือสองเครื่องก็ถือว่าดีถมเถไปแล้ว
อีกอย่างคือ พอคนเข้าไปลองใช้งานตู้โทรศัพท์ให้เช่ามากขึ้น ความสนใจของพวกเขาก็จะลดน้อยลง สุดท้ายแล้วโปรเจ็กต์นี้ในเมืองจิงโจวก็จะจบเห่ในที่สุด
แน่นอนว่าเผยเชียนอยากถามว่าทำไมพวกเขาถึงไม่คิดไปติดตั้งตู้โทรศัพท์ให้เช่าในเมืองหลูโจว หลินเฉิง หรือแม้แต่ปักกิ่งไม่ก็เซี่ยงไฮ้ ตลาดในเมืองเหล่านั้นยังว่างอยู่ไม่ใช่เหรอ
แต่เขาก็ต้องอดกลั้นไว้
จางหวั่งสำนึกผิดได้ถูกเวลาจริงๆ แบบนี้ต้องฉลอง!
เผยเชียนที่รู้สึกสบายใจขึ้นพยักหน้า “ดีแล้วครับ”
จางหวั่งถาม “บอสเผยครับ ถ้าในอนาคตผมมีฝันอื่นอีก ผมมาหาบอสเผยเพื่อขอเงินลงทุนได้ไหมครับ”
เผยเชียน “…”
“แน่นอน แต่ผมต้องขอประเมินข้อเสนอของคุณก่อน”
สัญชาตญาณแรกของเผยเชียนคือต้องปฏิเสธจางหวั่ง แต่เขาก็ไม่กล้าทำแบบนั้น เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตัวมีมารยาทไปก่อน
แน่นอนว่าเพราะความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย ทำให้เผยเชียนไม่คิดที่จะลงทุนในโปรเจ็กต์ของจางหวั่งแล้ว
นอกจากว่าอีกฝ่ายจะมากับโปรเจ็กต์ในตำนานที่ดูเหมือนจะทำให้เผยเชียนสูญเสียทุกอย่างได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะลองพิจารณาร่วมทุนอย่างจริงจังอีกที
“โอเคครับ ผมไม่กวนเวลาบอสแล้ว! สวัสดีครับบอสเผย!”
จางหวั่งส่งโทรศัพท์คืนเฮ่อเต๋อเซิ่ง
“มีอะไรอีกมั้ย” เผยเชียนถาม
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบกลับ “ก็ไม่เชิงครับบอสเผย แต่ว่า… ผมมีบางเรื่องที่ต้องเตือนบอส ตอนนี้เรายังมีเงินทุนในบัญชีเหลืออยู่อีกยี่สิบล้านหยวน บอสคิดได้หรือยังครับว่าจะเอาไปใช้กับอะไรดี”
เผยเชียนนึกขึ้นได้ว่าเคยบอกให้เฮ่อเต๋อเซิ่งเตือนเขาเรื่องเงินในบัญชีของบริษัทหยวนเมิ่ง
เขาไม่ลืมเรื่องเงินก้อนนี้ ถ้าไม่ใช้ให้หมดก่อนวันปิดบัญชี ผลลัพธ์ที่ตามมาจะต้องเลวร้ายมากแน่
แล้วจะใช้เงินยี่สิบล้านหยวนไปกับอะไรดี
หืม?
ยี่สิบล้านหยวน!
จู่ๆ เผยเชียนก็นึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
บริษัทหยวนเมิ่งใช้เงินไปห้าล้านหยวนในการซื้อหุ้นแอปมาสี่เด็กหัวกะทิคืนมา ตอนนี้เงินในบัญชีก็ควรมีไม่ถึงสิบล้านหยวนสิ
แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นยี่สิบล้านหยวนไปได้!
“เดี๋ยวก่อนนะ เงินยี่สิบล้านหยวนนี่มาจากไหน” เผยเชียนรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
เฮ่อเต๋อเซิ่งอธิบายเสียงนิ่ง “เป็นกำไรที่เราได้จากโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าครับ”
ในใจของเผยเชียนเต็มไปด้วยคำถาม
ห่าอะไรวะเนี่ย
ไหนจางหวั่งบอกว่าตู้โทรศัพท์ให้เช่าในเมืองจิงโจวอยู่ในจุดสูงสุดของมันแล้ว
เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกเองว่าจะพักงานตู้โทรศัพท์ให้เช่าแล้วพักผ่อนสักระยะไง
แล้วทำไมโปรเจ็กต์ถึงได้กำไรตั้งสิบล้านในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้!
เผยเชียนเริ่มเหงื่อตก แต่ก็บังคับตัวเองให้ตั้งสติ “ตู้โทรศัพท์ให้เช่าทำกำไรได้ถึงสิบล้านหยวนในจิงโจวอย่างเดียวเลยเหรอ”
เฮ่อเต๋อเซิ่งหัวเราะ “อ๋อ บอสเผยยังไม่รู้ใช่ไหมครับ
“แน่นอนว่าโปรเจ็กต์นี้ไม่มีทางทำกำไรได้ถึงสิบล้านหยวนแค่ในจิงโจวอย่างเดียวเหมือนอย่างที่บอสพูด ตอนนี้โทรศัพท์ให้เช่าของเราทำกำไรได้มากก็จริง แต่เงินลงทุนตั้งต้นก็สูงมาก แถมกำไรก็เอาไปใช้ผลิตตู้โทรศัพท์ให้เช่าเพิ่ม กำไรที่ได้ในตอนแรกเลยไม่ได้เยอะแยะอะไร
“แต่พอเราติดตั้งตู้โทรศัพท์ให้เช่าทั่วทุกห้างของจิงโจวแล้ว จางหวั่งก็ตั้งใจจะพัฒนาโปรเจ็กต์ไปอีกขั้น เขาเลยคิดจะขายแฟรนไชส์เพื่อที่จะได้ทำกำไรได้สูงสุด
“เขาไม่ได้ไปดูความเป็นไปได้ในการทำโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในเมืองอื่นๆ ด้วยตัวเอง แต่ติดต่อไปยังห้างในเมืองต่างๆ จากนั้นก็นำเสนอพวกเขาในรูปแบบของโมเดลธุรกิจ
“ห้างเหล่านั้นเห็นว่าตู้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทำกำไรได้ ดังนั้นพวกเราเลยขายตู้โทรศัพท์เคลื่อนที่ให้พวกเขาเป็นแพกเกจและให้พวกเขาดูแลเรื่องการซ่อมบำรุงเอง ที่เราต้องทำก็แค่ให้พวกเขายืมชื่อ และแบ่งกำไรมาส่วนหนึ่ง
“ทำแบบนี้ก็จะช่วยลดต้นทุนทางฝั่งเราไปได้มาก เพราะไม่ต้องจ้างคนเข้าไปซ่อมบำรุงเอง แถมยังไม่ต้องสนใจด้วยว่าตู้โทรศัพท์เคลื่อนที่จะทำกำไรได้หรือเปล่า
“เราก็แค่ต้องขายแพกเกจตู้โทรศัพท์ให้เช่าและรับส่วนแบ่งกำไรมาจากพวกเขา! ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว โมเดลธุรกิจนี้การันตีกำไรได้แน่นอนครับ!
“ตอนนี้พวกเราแค่ต้องจ้างคนไม่กี่คนมาดูเรื่องการเงิน แล้วก็จัดการงานรายวันของบริษัท เรื่องนี้จางหวั่งเองก็ไม่ต้องเข้ามาร่วมด้วยเป็นการส่วนตัว
“เราได้เงินจากการขายแพกเกจตู้โทรศัพท์ให้เช่ามาอีกสิบล้านหยวน ก็เลยมีเงินลงทุนมากขึ้น เพราะงั้นบอสคิดว่าเราควรจะใช้เงินยี่สิบล้านหยวนไปกับโปรเจ็กต์อะไรดีครับ
“บอสเผยครับ?
“บอสเผย?”