ในห้องน้ำอันแสนคับแคบ หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกได้ถึงร่างกายที่สั่นเทิ้ม ขาของเขาอ่อนเปลี้ย หัวใจเต้นระรัว เมื่อกี้ตกใจจนห้ามตัวเองไม่ให้แหกปากไม่ได้
ต้องยอมรับเลยว่าเขารู้สึกอินกว่าตอนเล่นเกมสยองขวัญแบบเทียบไม่ติด
ตอนหร่วนกวางเจี่ยนเล่นเกม BE QUIET เขาแหกปากลั่นไม่หยุด แต่มาอยู่ในบ้านผีสิงกลับร้องน้อยลง ไม่ใช่เพราะน่ากลัวน้อยกว่า แต่เป็นเพราะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้กรี๊ดต่างหาก
จนถึงตอนนี้หร่วนกวางเจี่ยนยังไม่เห็นผีหรือปีศาจน่าพรั่นพรึงสักตัว ถึงจะอยากแหกปากร้องก็หาจังหวะเหมาะๆ ไม่ได้
แต่บรรยากาศน่าขนหัวลุกก็ทำให้ในใจเขากดดันมากขึ้นตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา
ตอนที่เข้ามาข้างใน หร่วนกวางเจี่ยนเห็นห้องน้ำสกปรกภายใต้แสงจากหลอดไฟ
ตรงเงามืดที่แสงส่องไปไม่ถึง เขาเห็นบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นคราบเลือด แต่ก็ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า
พื้น ชักโครก และอ่างล้างมือมีคราบสกปรกเกาะเป็นชั้น ที่แห่งนี้ดูสกปรก โกโรโกโส และชวนสยองมาก
เขาปิดประตู
กดล็อก
ปิดไฟ
จุดเทียนแล้วเอาไปตั้งไว้หน้ากระจก
แต่ละขั้นต้องใช้ความกล้ามหาศาล แต่ละตอนท้าทายกึ๋นของตัวเองขนาดหนัก
การปิดประตูแล้วกดล็อกเป็นการบอกผู้เล่นเป็นนัยว่าจะถูกขังไว้กับภูตผีปีศาจ ทำให้ทวีความหลอนยิ่งขึ้น แถมการปิดไฟก็เป็นการจำกัดทัศนวิสัย ในความมืดมิดนี้มีแค่แสงรางๆ จากเปลวเทียนเท่านั้นที่ช่วยให้มองเห็นสิ่งรอบข้างได้
พอเห็นตัวเองในกระจก หร่วนกวางเจี่ยนก็แหกปากลั่นเพราะใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกเงาที่เกิดจากแสงเปลวเทียนทาบทับ ซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก
หลังกรี๊ดเสร็จ หร่วนกวางเจี่ยนก็ค่อยๆ สงบสติอารมณ์
“ต้องทำอะไรต่อ…
“อ๋อ ใช่ ปิดตา รอสามวินาที แล้วค่อยมองกระจก”
หร่วนกวางเจี่ยนสูดหายใจลึก หลับตา แล้วนับหนึ่งถึงสาม จากนั้นก็ลืมตาอีกครั้ง ดวงตาของเขาหรี่เล็กทันที!
เขามองไม่เห็นอะไรเลยในกระจก
แม้แต่ตัวเองก็ไม่เห็น!
เปลวเทียนยังคงส่องสว่าง แต่เงาสะท้อนของหร่วนกวางเจี่ยนกลับหายไป!
ก่อนหร่วนกวางเจี่ยนจะทันได้ทำอะไร ดวงตาสีแดงก่ำก็ปรากฏขึ้น ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง มีเลือดสดๆ ไหลลงมา
เลือดไหลออกจากดวงตามาที่ขอบกระจกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไหลลงอ่างล้างมือ!
“แว้ก!!!”
…
ด้านนอก ทุกคนได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวน
เผยเชียนได้แต่ยกมือทาบหน้าอก
เพราะเขาอยู่นอกตู้คอนเทนเนอร์เลยไม่ได้คิดว่าบ้านผีสิงนี้น่ากลัวขนาดนั้น เอาเข้าจริง เสียงกรี๊ดของหร่วนกวางเจี่ยนน่ากลัวกว่าเยอะ
เผยเชียนทนดูต่อไปไม่ได้อีกจึงพูดขึ้น “ถ้าเห็นเขาจะเป็นลมก็รีบไปช่วยออกมา”
ทุกคนพยักหน้าและรอเข้าช่วยเหลือหร่วนกวางเจี่ยนกันอย่างเคร่งเครียดราวกับกำลังเผชิญหน้าศัตรูสุดยิ่งใหญ่
…
หลังกรี๊ดเสร็จ หร่วนกวางเจี่ยนก็สงบสติอย่างรวดเร็ว
เขาเปิดก๊อกน้ำแล้วเริ่มล้างมือ
น้ำที่ไหลออกมาไม่ใช่น้ำสะอาด แต่เป็นของเหลวสีแดงสด
หร่วนกวางเจี่ยนร้องลั่นรีบชักมือกลับ
ที่แปลกก็คือพอมองผ่านแสงเทียน มือของเขากลับไม่ได้โดนย้อมไปด้วยสีแดงเลือด
หร่วนกวางเจี่ยนรีบปิดก๊อก หลังจากเตรียมใจได้ เขาก็ลงไปนอนในอ่าง
เขานอนอยู่ในนั้นสิบวินาที แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนั้นเองเขาก็นึกขึ้นได้ว่าข้ามขั้นตอนอะไรไป
ข้างๆ อ่างมีนาฬิกาปลุกสนิมเขรอะวางอยู่ หร่วนกวางเจี่ยนคลำมือหาแล้วแตะเบาๆ จากนั้นนาฬิกาก็ส่งเสียงดัง ‘ติ๊กต่อก’ เมื่อเริ่มเข้าสู่การนับถอยหลัง
ในห้องเงียบเชียบ เสียงดังซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเหมือนตะไบที่ถูไถกับสภาพจิตใจอันแสนเปราะบางของหร่วนกวางเจี่ยน
เขายกสองมือปิดตา คำสั่งที่บอกไว้ว่าห้ามส่งเสียงวนไปเวียนมาอยู่ในหัว
เวลาแต่ละวินาทีค่อยๆ ผ่านไประหว่างที่นาฬิกานับถอยหลัง
หร่วนกวางเจี่ยนคิดว่าแค่ต้องรอให้ผ่านไปสามนาทีจนเสียงนาฬิกาเงียบไป
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาคิดผิด
เขาได้ยินเสียงใครสักคนพยายามเปิดประตู แถมยังได้ยินเสียงเหมือนมีคนเสียบกุญแจเข้ามาในรูกุญแจ
คนที่อยู่ตรงประตูพยายามเปิดประตูแต่ก็ล้มเหลวเพราะประตูถูกล็อกไว้
หลังจากนั้นเสียงกระแทกประตูก็ดังขึ้น
“ปัง!”
“ปัง!”
หัวใจของหร่วนกวางเจี่ยนเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินเสียงกระแทกประตูแต่ละครั้ง ร่างกายเองก็สั่นเทิ้ม เขาทำได้แค่เอามือหนึ่งปิดตาและอีกมือปิดปาก นี่คือหนทางเดียวที่จะห้ามตัวเองไม่ให้ส่งเสียงได้
ตอนนั้นเองเสียงกระแทกประตูก็หายไป เหมือนกับว่าคนที่อยู่หน้าประตูยอมแพ้ไปแล้ว
ถึงจะรู้ว่าเป็นการแสดง แต่หร่วนกวางเจี่ยนก็อดหายใจยาวด้วยความโล่งอกไม่ได้อยู่ดี
แต่ขณะกำลังรู้สึกโล่งใจ เขาก็ได้ยินเสียงปลดล็อกดังก๊อกแก๊ก
จู่ๆ ประตูก็ถูกปลดล็อกแล้วเปิดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ!
หร่วนกวางเจี่ยนได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ฟังเหมือนว่าคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องน้ำแคบๆ นี้ใส่รองเท้าบูต!
เขาได้ยินเสียงหายใจถี่หนัก เหมือนว่าคนคนนั้นกำลังหาอะไรสักอย่างอยู่ รองเท้าบูตหนังส่งเสียงทุ้มหนักตอนย่ำลงพื้น แต่พอยกขึ้นเหนือพื้นกลับส่งเสียงหนืดหนาดเหมือนยกขึ้นจากบ่อเลือด
นอกจากนี้ยังได้ยินเสียงบางอย่างขูดไปมาด้านหลัง เหมือนมีใครกำลังครูดเหล็กไปตามพื้น
น่าจะเป็นขวานไม่ก็ค้อน
หร่วนกวางเจี่ยนปิดตาและปากแน่น ไม่กล้าให้เสียงเล็ดลอดออกไปแม้แต่นิดเดียว
“แป๊ก”
คนที่เข้ามากดเปิดไฟ แสงหลอดไฟส่องลงมาบนเปลือกตาผ่านช่องนิ้วมือของหร่วนกวางเจี่ยน ทำให้ทัศนวิสัยกระจ่างชัดขึ้นมา
เสียงฝีเท้าเงียบลง แต่เสียงหายใจยังอยู่ถัดไปไม่ไกล
ม่านอ่างเปิดออกช้าๆ เสียงหายใจถี่หนักค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้จนหร่วนกวางเจี่ยนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เป่าออกมาจากจมูกแล้วรดลงบนมือของเขา…
“ติ๊ก”
เสียงนาฬิกาหยุดลง หมายความว่าผ่านไปสามนาทีแล้ว nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm
ตามคำแนะนำของเกม หร่วนกวางเจี่ยนเล่นผ่านแล้ว ที่ต้องทำก็แค่ลืมตาขึ้น
แต่หร่วนกวางเจี่ยนไม่กล้าทำแบบนั้นเพราะยังไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินออกจากห้องไป ใครคนนั้นยังคงยืนถือขวานอยู่ข้างอ่างสังเกตเขาอยู่เงียบๆ
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาทีเต็ม หร่วนกวางเจี่ยนก็แอบมองลอดช่องระหว่างนิ้วมือแล้วเพ่งดูอย่างตั้งใจ
ภายใต้แสงจากหลอดไฟ ทุกอย่างดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ฆาตกรถือขวานที่จินตนาการในหัวไม่ได้อยู่ตรงนั้น
หร่วนกวางเจี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาปีนออกจากอ่างด้วยขาอันไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้ทำได้แค่ค่อยๆ เดินไปที่ประตูทีละก้าว
ประตูยังคงล็อกอยู่ ไม่มีใครเปิด
หร่วนกวางเจี่ยนรีบปลดล็อกแล้วดึงประตูเปิด เตรียมพร้อมที่จะออกจากตู้คอนเทนเนอร์
แต่ด้านนอกประตูกลับเป็นรอยมือเปื้อนเลือดสดใหม่และขวานที่โชกไปด้วยโลหิต!
“แว้ก!!!”
…
ทุกคนด้านนอกรู้สึกไม่ค่อยดี
เฉินคังทั่วกังวลอยู่ตลอดว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะกลัวจนเสียขวัญ
คุณหร่วนเป็นกัลยาณมิตรคนหนึ่งของบอสเผย เขาวาดคอนเซ็ปต์อาร์ตให้เถิงต๋ามาตั้งแต่เกมแม่ทัพผี ชายคนนี้เห็นเถิงต๋าเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
บอกได้เลยว่า งานภาพของหร่วนกวางเจี่ยนนั้นมอบจิตวิญญาณให้เกมของเถิงต๋าในระดับหนึ่ง!
ถ้าพวกเขาทำให้คนสำคัญกลัวจนขี้หดตดหาย แล้วคิดเอาเรื่องขึ้นมาคงไม่มีใครรับผิดชอบไหวแน่!
ขนาดเผยเชียนเองยังเริ่มคิดว่าเล่นแรงเกินไป
“โอ้ เมื่อไหร่วังวนการแก้แค้นนี้จะจบลงนะ กลัวหนักขนาดนี้คงต้องยกโทษให้แล้วละ
“ก็ถือว่าได้แก้แค้นแล้ว ฉันจะเอาชื่อนายออกจากบัญชีดำแล้วกัน”
ทุกคนรีบวิ่งไปรับหร่วนกวางเจี่ยนเมื่อเห็นว่าฉากสยองฉากสุดท้ายทำอีกฝ่ายกลัวจับจิต
“โอเคมั้ยครับคุณหร่วน”
“ไม่ได้กลัวจนจะเป็นลมใช่มั้ยครับ”
“เร็วๆ คุณหร่วน เชิญนั่งพักก่อนครับ”
พวกเขาพาหร่วนกวางเจี่ยนไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ ราวกับเป็นหมู่ดาวรายล้อมดวงจันทร์
เผยเชียนถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “เป็นไงบ้าง โอเคมั้ยครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนหน้าแดงเรื่อ เขาตอบอย่างตื่นเต้น “บอสเผยครับ บ้านผีสิงนี้…ยอดเยี่ยมมากครับ!”
เขายกนิ้วโป้งให้ “มีโปรเจ็กต์อื่นอีกมั้ยครับ ผมอยากเล่นอีก!”
เผยเชียนงงหนัก ในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
ว่าไงนะ
ดวงตาเป็นประกายของหร่วนกวางเจี่ยนทำให้เขาดูเป็นคนละคน ตอนวาดรูปไม่เห็นดูตื่นเต้นขนาดนี้เลย!
เผยเชียนรู้สึกเหมือนตัวเองโดนต้มจนสุก
ไหนบอกว่ากลัวบ้านผีสิงที่สุดไง ทำไมถึงบอกว่าอยากเล่นอีกล่ะ!
คนปกติลองครั้งเดียวก็ไม่กล้าเข้าไปอีก
อีกอย่างคนส่วนใหญ่ต้องหน้าซีดเซียว ขาอ่อนแรง แต่แกกลับหน้าแดงเรื่อ ดูมีชีวิตชีวา แถมยังดูเหมือนสภาพจิตใจจะสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมจัดต่ออีกสักรอบ!
เหตุการณ์ในตอนนี้ทำให้ทุกคนตะลึงงันไป
บอสเผยตั้งสติได้เร็วที่สุดเหมือนอย่างทุกครั้ง เขากัดฟันพูดออกไป “ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ จัดมาอีกสองโปรเจ็กต์!”
…
…
“บอสเผย ผมกำลังจะขึ้นเครื่องแล้วนะครับ
“ขอบคุณที่ดูแลผมเป็นอย่างดีตลอดช่วงที่ผ่านมา ทั้งรถไฟเหาะตีลังกาตอนมา ทั้งบ้านผีสิงตอนก่อนกลับ ทุกอย่างทำให้ผมประทับใจสุดๆ ผมไม่มีวันลืมช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่แน่นอน!
“บ้านผีสิงทำให้ผมได้อีกเหตุผลในการย้ายมาจิงโจว พอผมกลับไปจะรีบจัดการเรื่องย้ายสตูดิโอ หวังว่าบอสเผยจะเร่งการก่อสร้างบ้านผีสิงด้วยนะครับ ผมอดใจรอเล่นโปรเจ็กต์ที่สามแทบไม่ไหวแล้ว!
“เจอกันใหม่หลังตรุษจีนครับ!”
พอได้อ่านข้อความของหร่วนกวางเจี่ยน เผยเชียนก็เอนหลังพิงเก้าอี้ ทิ้งแขนสองข้างลงด้านข้าง
“หงุดหงิดฉิบเป๋ง!”
ในใจเผยเชียนคุกรุ่นไปด้วยความหงุดหงิด
ตั้งแต่อีกฝ่ายมาถึง เขาก็พยายามแสดงให้เห็นว่าที่นี่ใครใหญ่ แต่สุดท้ายกลับส่งอีกฝ่ายไปสนุกสุดเหวี่ยงซะได้
พอจะสั่งสอนอีกครั้งก่อนกลับก็ดันไปทำให้สนุกครื้นเครงใจอีก!
ตอนอาจารย์เฉียวมาจิงโจว บอสเผยยังไม่ได้พลาดท่าขนาดนี้…
ที่น่าหงุดหงิดที่สุดเลยคือ หร่วนกวางเจี่ยนกลัวจนตัวสั่นตอนเล่นโปรเจ็กต์ย่อยแรก ไหนจะร้องแหกปากลั่น ตัวก็สั่นเทิ้ม แต่พอเดินออกมากลับทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังขอลองเล่นโปรเจ็กต์ย่อยที่เหลืออีก!
ดังนั้นเผยเชียนจึงรีบอนุญาตให้หมอนั่นเล่นสองโปรเจ็กต์ย่อยที่เหลือ
หร่วนกวางเจี่ยนยังมีท่าทีตอบสนองเหมือนเดิม เขากลัวขี้หดตดหายตลอดตั้งแต่ต้นจนจบจนทุกคนคิดว่าจะเป็นลมเอาได้ทุกเมื่อ แต่พอเดินออกมา กลับดูสดใสร่าเริงและยังขอเล่นต่ออีก!
เผยเชียนรอมาหนึ่งเดือนเต็มกว่าสามโปรเจ็กต์ย่อยนี้จะเสร็จ แต่หร่วนกวางเจี่ยนกลับเอาชนะทั้งหมดได้ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง…
เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากปล่อยให้หร่วนกวางเจี่ยนได้ชัยชนะไป ไม่มีอะไรที่เผยเชียนทำได้อีก
เหมือนบอสเผยเตรียมเส้นทางแสนยาวนานที่เต็มไปด้วยขวากหนามนับไม่ถ้วน แต่อีกฝ่ายกลับเดินไปถึงปลายทางได้ในสามวันแล้วพูดว่า “แค่นี้เองเหรอ”
เกินจะทนได้จริงๆ!
“รอก่อนเถอะ รอให้โฮสเทลเขย่าขวัญสร้างเสร็จ แกได้กลัวฉี่ราดจนยืนแทบไม่ไหวแน่!”
เผยเชียนสาปอีกฝ่ายในใจด้วยความเกลียดชัง