วันเสาร์ที่ 22 มกราคม
เมื่อคืนเผยเชียนอารมณ์ดีมาก แถมได้จิบไวน์กับชุยเกิ่งนิดหน่อยด้วย เลยหลับสบายสุดๆ
เขาตื่นเองตอนเก้าโมงเช้า
พอเหลือบมองมือถือหลังตื่นก็เห็นโน้ตแจ้งเตือน ‘ไปเช็กตู้โทรศัพท์ให้เช่าที่ห้างหวนยู่เทียนเจี่ย’
เผยเชียนเดินลงไปซื้อซาลาเปาเป็นอาหารเช้าก่อนไปห้าง
พอได้ซาลาเปาก็ได้รับแจ้งข่าวอีกเรื่องด้วย
“บอสเผยครับ หนังตัวรัฟคัตเสร็จแล้ว อยากแวะมาตรวจดูมั้ยครับ”
หืม รัฟคัตเหรอ
เหมือนตอนกินเลี้ยงที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุน ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อจะพูดเรื่องนี้ไว้
หนังเวอร์ชันรัฟคัตคือการตัดต่อหยาบๆ เอาแต่ละซีนมาวางรวมกัน ยังไม่ได้ใส่เอฟเฟกต์พิเศษ ต้องจินตนาการเนื้อหาเพิ่มเติมค่อนข้างมาก
แต่ก็ถือเป็นหนังเต็มเรื่องที่เห็นอะไรได้หลายๆ อย่าง
เผยเชียนคิดๆ ดูแล้วก็มองว่าเรื่องนี้สำคัญกว่า ไว้ค่อยไปดูตู้โทรศัพท์ให้เช่าตอนบ่ายแทนก็ได้ เลยตอบกลับไป “โอเค เดี๋ยวผมแวะไป”
ตอนที่จะเก็บมือถือเข้ากระเป๋า เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ
“วันนี้วันเสาร์ พวกคุณทำงานล่วงเวลาเหรอ”
หวงซื่อปั๋วตอบกลับทันที “ใช่ครับบอสเผย แต่เราจ่ายค่าล่วงเวลา”
เผยเชียนวางท่าทีเข้มงวด “ถึงจะจ่ายค่าล่วงเวลาก็ทำงานล่วงเวลาตามอำเภอใจแบบนี้ไม่ได้! ต่อไปเลี่ยงได้ให้เลี่ยง!”
หวงซื่อปั๋ว “เข้าใจแล้วครับบอสเผย”
เฟยหวงสตูดิโอเป็นบริษัทลูกของเถิงต๋า ไม่ใช่ฝ่ายย่อยในบริษัท เผยเชียนไม่สามารถกวดขันเรื่องการทำงานล่วงเวลาได้ ทำได้แค่ดุแล้วให้หวงซื่อปั๋วไปจัดการต่อเอง
ถึงเผยเชียนจะไม่ได้อะไรมากมายกับเฟยหวงสตูดิโอ แต่ในเมื่อหนังเวอร์ชันรัฟคัตเสร็จแล้ว เขาก็ต้องแวะไปดูเพื่อให้ตัวเองสบายใจ
…
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
หลินฉางสั่งกาแฟร้อนหนึ่งแก้วมาจิบและถือไว้ให้อุ่นมือ เพราะรู้สึกเมื่อยล้าจากการเดินทาง
เขาเพิ่งมาจากสนามบิน ก้นยังไม่ทันหายอุ่น
สิ่งแรกที่ทำเมื่อถึงจิงโจวคือตรงดิ่งมาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง ด้วยความหวังว่าจะนัดเจอบอสเผยเพื่อคุยเรื่องความคืบหน้าของแผนที่วางไว้
โชคร้ายที่พอทักไปถึงได้รู้ว่าบอสเผยเพิ่งแวะไปเฟยหวงสตูดิโอเพื่อดูหนังเวอร์ชันรัฟคัต
กว่าจะดูหนังจบแล้วเดินทางมาก็ใช้เวลาอย่างต่ำสามชั่วโมง
แถมบอสเผยยังบอกว่ามีธุระตอนบ่ายที่คั่งค้างมานาน เลื่อนออกไปอีกไม่ได้แล้ว
หลินฉางคิดว่าน่าจะได้เจอบอสเผยประมาณสามสี่โมงเย็น
ก็เคว้งอยู่หน่อยๆ
หลินฉางรู้ว่าตารางงานของบอสเผยมักยุ่ง เขาเข้าใจดี แต่ก็ไม่ได้คิดจะนั่งรออยู่แบบนี้
เขาตัดสินใจนัดหลินหวานเพื่อเช็กดูความคืบหน้า
ก่อนหน้านี้หลินฉางกับเผยเชียนวางแผนให้หลินหวานรับผิดชอบเกมสยองขวัญของฉางหยางเกมส์ กับดูแลกิจการมือถือไปพร้อมๆ กัน
ทั้งสองกิจการมีความยุ่งยากซับซ้อนหลายจุด ซึ่งก็เพิ่มโอกาสล้มเหลวให้โปรเจ็กต์ที่หลินหวานดูแลไม่น้อย
ตอนแรกพวกเขาวางแผนสำรองไว้เพิ่ม
พวกเขาคิดจะปล่อยมือถืออีกรุ่นเพื่อแข่งขันในตลาดมือถือ
หลินหยูจะออกมือถือรุ่นรองของเฉินฮว่าที่คุณภาพดีกว่า ราคาถูกกว่า และทำการตลาดดีกว่าเล็กน้อย
การประจันกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้จะกำจัดอันตรายแอบแฝงในช่วงเริ่มแรก เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ต่อกรไม่ได้
แต่พอพัฒนามือถือไปได้ครึ่งทาง บอสเผยก็ส่งข้อความมาหาหลินฉางว่า ‘ไม่ต้องใช้แผนสำรองแล้ว’
มือถือที่จะทำวางราคาไว้แปดพันหยวน ยังไงซะมือถือรุ่นเรือธงของเฉินฮว่าก็จะ ‘มีคุณภาพดีกว่า ราคาถูกกว่า และทำการตลาดได้ดีกว่า’ เพราะงั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำมือถือรุ่นรอง
ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้แผนสำรอง
ระหว่างที่กำลังคิดๆ อยู่ หลินหวานก็มาถึงพอดี
เธอสั่งกาแฟแล้วนั่งลงตรงข้ามหลินฉาง ก่อนจะขมวดคิ้วพร้อมถามขึ้น “พี่มาที่นี่อีกทำไมเนี่ย”
หลินฉางเบ้ปาก “‘มาอีก’ นี่หมายความว่าไง พี่มาเจอน้องสาวตัวเองไม่ได้เหรอ”
หลินหวานมองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ “หนูรู้สึกว่าพี่มาบ่อยเกินไป มีเหตุผลอะไรแอบแฝงรึเปล่า”
“จะเป็นงั้นได้ไง! พี่แค่ชอบบรรยากาศความเป็นอยู่ของเมืองจิงโจว!” หลินฉางยิ้มอย่างเป็นกันเอง “แล้วพี่มาเจอน้องบ่อยๆ ไม่ได้รึไง เป็นไงบ้าง ทุกอย่างราบรื่นดีมั้ย”
หลินหวานคนกาแฟ “ก็ยังดีอยู่ค่ะ”
หลินฉางแอบดีใจที่เห็นหลินหวานดูไม่ค่อยกระตือรือร้น
นี่อาจจะเป็นโอกาส!
หลินหวานน่าจะคุยโม้แล้วถ้าสองโปรเจ็กต์ที่ดูแลอยู่กำลังไปได้สวย
ถ้าเธอไม่ได้โม้อะไรก็แสดงว่าทั้งสองโปรเจ็กต์ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่
ถึงภายในจะรู้สึกดีใจ แต่จะแสดงออกมาทางสีหน้าไม่ได้ novelgu.com
หลินฉางจึงตีหน้าเป็นกังวลแทน “ทำไมล่ะ เจอปัญหาอะไรเหรอ อยากให้ช่วยอะไรมั้ย บอกพี่ได้เลย เดี๋ยวพี่จะช่วยเต็มที่!”
หลินหวานเหลือบมองอีกฝ่าย “แหม โปรเจ็กต์นึงคือเกมสยองขวัญ อีกโปรเจ็กต์คือมือถือ พี่จะช่วยอันไหนล่ะ
“สองโปรเจ็กต์นี้ยังอยู่ในขั้นพัฒนา ถึงจะคืบหน้าไปบ้างแล้ว แต่หนูก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“เกมสยองขวัญไม่ได้มีปัญหาอะไรในส่วนแผนงานภาพรวม แต่ก็มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกเยอะที่ต้องปรับ ถึงจะปรับรายละเอียดพวกนี้ได้ ก็ยังตัดสินได้ยากว่าเกมเมอร์จะยอมรับเกมสยองขวัญแนวใหม่มั้ย…
“หนูเลยกังวลหน่อยๆ
“โชคดีที่ได้นักวาดฝีมือเทพมาช่วยปรับสไตล์และเสริมรายละเอียดให้เกม ตอนนี้เลยดูดีขึ้นมาก
“ส่วนเรื่องมือถือ… เฮ้อ เอาจริงๆ หนูทำไม่ได้
“แค่เกมสยองขวัญอย่างเดียวหนูก็ปวดหัวหนักแล้ว ไม่มีเวลาดูแลมือถือเลย รอบก่อนที่แวะไปก็ได้ตัวต้นแบบกลับมา แค่นั้นหนูก็รู้สึกว่ามีปัญหาใหญ่แล้ว
“แต่ตัวต้นแบบก็ทำออกมาแล้ว แถมหนูก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในขั้นตอนการพัฒนาด้วย จะไปบอกให้ทิ้งแล้วทำใหม่ก็คงไม่ได้
“หนูทำได้แค่รอให้มือถือผลิตออกมาแล้วไปขอสิทธิประโยชน์จากกิจการต่างๆ ของเถิงต๋าเพิ่ม หนูน่าจะช่วยได้แค่นี้
“แต่หนูก็คิดว่ามือถือรุ่นนี้ไม่น่าจะไปรอด”
หลินหวานมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ชายมาตลอดเลยไม่ได้คิดอะไรมาก และบอกทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟัง ทั้งความสับสนและความกังวลใจ
ในเบื้องหน้า หลินฉางเหมือนจะขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความเป็นห่วง แต่ภายในใจกลับลิงโลด
‘สุดยอดเลย บอสเผย แผนนี้ไร้ที่ติจริงๆ!
‘จนถึงตอนนี้ น้องหวานก็ยังไม่สงสัยอะไร
‘ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พอเกมสยองขวัญกับมือถือปล่อยออกมา น้องหวานต้องรับไม่ไหวแน่!’
คิดได้แบบนั้น หลินฉางก็ดีใจจนเผลอพึมพำออกมา “สงสัยต้องหาทางขอบคุณบอสเผยแล้ว”
หลินหวานขมวดคิ้ว “หืม พี่ว่าอะไรนะ ทำไมต้องขอบคุณบอสเผยด้วย”
หลินฉางตกใจ ได้ยินพูดด้วยเหรอ
พอเห็นสายตาสงสัยของหลินหวานที่ส่งมา เขาก็รีบอธิบาย “คือพี่จะบอกว่าบอสเผยเชื่อใจในตัวน้องมากๆ ถึงให้รับผิดชอบโปรเจ็กต์สำคัญแบบนี้ ในฐานะพี่ชาย คงต้องหาโอกาสไปขอบคุณบอสเผย!”
สีหน้าของหลินหวานผ่อนคลายลง “ก็จริง”
หลินฉางคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไปขอให้พี่รองยกเว้นค่าเช่าให้ดีมั้ย
“หรือให้พี่เข้าไปช่วยกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดี”
หลินหวานส่ายหน้า “ดูไม่จริงใจเลย บอสเผยไม่สนใจเงินเล็กน้อยแบบนั้นหรอก”
หลินฉางเห็นด้วย “ก็จริง เรื่องแค่นี้ตอบแทนความจริงใจที่บอสเผยมีให้ไม่ได้หรอก งั้น…มีอะไรที่บอสเผยต้องการเร่งด่วนมั้ย ถ้ามีเรื่องที่พี่ช่วยได้จะดีมาก”
หลินหวานขมวดคิ้ว คิดอยู่สองนาที
“จริงด้วย!
“พี่รู้เรื่องหนังของเฟยหวงสตูดิโอที่เพิ่งถ่ายทำเสร็จใช่มั้ย”
หลินฉางคิดอยู่พักหนึ่งแล้วนึกขึ้นได้ว่าบอสเผยบอกว่าจะไปดูหนังเวอร์ชันรัฟคัตจึงพยักหน้าตอบ
หลินหวานพูดต่อ “หนังเรื่องนี้เป็นไอเดียของบอส บอสเผยเป็นคนเขียนโครงเรื่องทั้งหมด แค่นี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าหนังเรื่องนี้สำคัญกับบอสขนาดไหน
หลินฉางงงเล็กน้อย “แล้วยังไง ถ้าบอกเร็วกว่านี้ พี่คงช่วยหาผู้กำกับฝีมือดีๆ หรือนักแสดงดังๆ ให้แล้ว แต่ตอนนี้ถ่ายทำเสร็จแล้วนี่”
เขาหยุดพูดเมื่อคิดอะไรขึ้นได้ “อ๋อ เข้าใจแล้ว อยากให้พี่ช่วยติดต่อโรงหนังกับผู้จัดจำหน่ายให้เหรอ”
หลินหวานพยักหน้า “ใช่ เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับพี่ แต่เป็นเรื่องที่บอสเผยต้องการมากตอนนี้”
ขนาดภัตตาคารดีๆ ยังไม่กล้าไปตั้งอยู่สุดซอยเลยหลินฉางคิดๆ ดูแล้วก็มองว่าเป็นอย่างนั้น
ถึงเถิงต๋ากรุ๊ปของบอสเผยจะยิ่งใหญ่ แต่นี่ก็เป็นหนังเรื่องแรกของเฟยหวงสตูดิโอ พวกเขาไม่มีเส้นสายและทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง
แต่กับหลินฉางไม่เหมือนกัน เขาดูแลกิจการสื่อโทรทัศน์และความบันเทิงของเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน จึงมีทรัพยากรมากมายในมือ
“โอเค จัดไป!
“เดี๋ยวพี่บอกบอสเผยเลย!” หลินฉางดีใจสุดๆ เขาคิดว่าของขวัญแทนคำขอบคุณของตัวเองดูจริงใจมาก
หลินหวานโบกมือไม่เห็นด้วย “เอ่อ… หนูว่าไม่ต้องบอกบอสเผยหรอก ช่วงนี้บอสเผยยุ่งมาก อย่าไปกวนด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลย
“เดี๋ยวหนูให้เบอร์ผู้จัดการเฟยหวงสตูดิโอ พี่จะได้ติดต่อโดยตรงเลย
“ให้บอสเผยเซอร์ไพรส์เองตอนหนังออกฉายจะไม่ดีกว่าเหรอ”
หลินฉางคิดตามแล้วก็เห็นด้วย
วันนี้บอสเผยต้องแวะไปอย่างน้อยสามที่ แถมยังมีงานคั่งค้างที่ต้องจัดการ เห็นได้ชัดว่าตารางงานแน่นเอี้ยด
พอมาคิดดู เรื่องจำพวกติดต่อผู้จัดจำหน่าย เจรจากับเครือโรงหนัง ทีมงานของเฟยหวงสตูดิโอน่าจะเป็นคนรับผิดชอบ บอสเผยไม่น่าจะดูแลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้เอง
ถ้าคุยกับทีมงานเฟยหวงสตูดิโอแล้วจัดการให้เรียบร้อยเพื่อเซอร์ไพรส์บอสเผยทีหลังน่าจะดีกว่า
คิดได้แบบนั้น หลินฉางก็พยักหน้า “โอเค ขอเบอร์ติดต่อผู้จัดการเฟยหวงสตูดิโอหน่อย เดี๋ยวพี่คุยเอง”