ระหว่างการสัมภาษณ์พนักงานของเถิงต๋ากรุ๊ป
ที่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
วันนี้บอสหม่าก็ไม่เข้าบริษัทอีก
ปกติบอสหม่ามักจะอยู่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่งอยู่แล้ว และทางบริษัทเองก็ไม่มีเงินทุนสำหรับลงทุนเพิ่ม แต่พอบอสหม่าไม่เข้าบริษัทแบบนี้ พวกเฮ่อเต๋อเซิ่งก็เริ่มหวั่นใจ
ถ้าบอสหม่าเบื่อเล่นเกมที่พวกเขาจัดฉากแล้ว หลายคนอาจจะเสียงานได้!
ถึงจะไม่ได้โดนให้ออกจากงาน แต่ความก้าวหน้าทางการงานก็ริบหรี่
ดังนั้นเหล่าผู้เล่นระดับสูงที่ทำหน้าที่เล่นเกมเป็นเพื่อนบอสหม่า และช่วยเรื่องการลงทุนจึงรู้สึกหวั่นใจกันหน่อยๆ
สิ่งแรกที่เฮ่อเต๋อเซิ่งทำหลังจากเข้าบริษัทคือเช็กอีเมล
เขาส่งแบบเสนอปรับแก้เกมไปวันศุกร์ วันนี้วันจันทร์ บริษัท Finger Games น่าจะตอบอีเมลกลับมาแล้ว
แล้วก็เป็นอย่างนั้น มีอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านจาก Finger Games จริงๆ
เฮ่อเต๋อเซิ่งเปิดอ่านคร่าวๆ
บอกได้แค่ว่า ก็สมแล้วที่เป็นผู้ถือหุ้น
บริษัท Finger Games ตอบอีเมลตั้งแต่วันเสาร์ บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งหยุดงานวันเสาร์อาทิตย์ ไม่มีใครทำงานล่วงเวลา เฮ่อเต๋อเซิ่งเองก็ไม่ได้เช็กอีเมลในวันหยุด เลยไม่มีใครเปิดอ่านจนถึงวันนี้
การที่บริษัท Finger Games ตอบอีเมลกลับภายในวันเดียวแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นและผู้ให้บริการเกมในประเทศจีนขนาดไหน
เนื้อหาในอีเมลยาวมาก แถมยังเขียนตอบกลับอย่างสุภาพ
แต่ถึงจะเขียนตอบมาอย่างสุภาพนอบน้อม ประเด็นที่จะสื่อก็ชัดเจนมาก
หลังจากแปลๆ ดูแล้วมีประเด็นหลักอยู่สามอย่าง
ขอบคุณที่ใส่ใจและให้การสนับสนุนเกม IOI
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์และช่วยจุดไอเดียเรื่องการออกแบบเกมให้
แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่สื่อสารผ่านอีเมลได้ยาก พวกเขาไม่สามารถรับปากได้ว่าจะปรับแก้ตัวเกมตามข้อเสนอทั้งหมด แน่นอนว่าถ้าเงื่อนไขผ่าน การปรับแก้บางอย่างก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว
หลังจากอ่านอีเมลตอบกลับตามมารยาทแล้ว เฮ่อเต๋อเซิ่งก็กดปิดอีเมลพลางถอนหายใจ
ทำอะไรไม่ได้แล้ว อีกฝ่ายสื่อสารมาชัดเจนว่าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
ถึงบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งจะถือหุ้นบริษัท Finger Games และได้สิทธิ์เป็นตัวแทนให้บริการเกมแต่เพียงผู้เดียวในประเทศจีน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถชี้นิ้วสั่งการบริษัท Finger Games ได้
แถมบริษัท Finger Games ก็ไม่ได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อผู้ให้ทุน พวกเขายังยึดมั่นในการทำงานอย่างเป็นอิสระของตัวเอง
แค่ได้รับการตอบกลับอย่างสุภาพก็ถือว่าดีมากแล้ว ถ้าเป็นบริษัทอื่นส่งมา บริษัท Finger Games อาจจะไม่แยแสเลยด้วยซ้ำ
แต่มาคิดๆ ดูก็จะพบว่าไม่มีอะไรแปลก บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งเป็นบริษัทลงทุน จะให้บริษัท Finger Games ปรับเนื้อหาเกมตามคำแนะนำของบริษัทลงทุนได้ยังไง
ถึงบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งจะมีเถิงต๋าหนุนหลัง แต่เถิงต๋าก็ไม่ได้มีอิทธิพลในต่างประเทศมาก บริษัท Finger Games คงตอบสนองเหมือนเดิมอยู่ดี
สรุปแล้วถนนสายนี้มุ่งไปสู่ทางตัน
ถ้าเป็นเรื่องอื่นพวกเขาคงยอมแพ้ไปแล้ว
แต่พอคิดถึงความมั่นคงทางการงานของตัวเอง เฮ่อเต๋อเซิ่งก็คิดว่าต้องใช้เกมเท่านั้นในการเรียกความเชื่อมั่นจากบอสหม่า
มีเกมคล้ายๆ IOI อีกมั้ย
เฮ่อเต๋อเซิ่งคิดอยู่นานก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“ไม่ใช่ว่าเถิงต๋ากำลังพัฒนาเกมคล้ายๆ กันอยู่เหรอ
“คุยกับบริษัทแม่ตัวเองน่าจะง่ายกว่าคุยกับบริษัท Finger Games”
เฮ่อเต๋อเซิ่งไม่มีช่องทางติดต่อหลี่หย่าต๋า แต่เขาติดต่อเลขาซินได้
พอได้ช่องทางการติดต่อหลี่หย่าต๋าจากเลขาซิน เขาก็ส่งแผนปรับแก้เกมไปให้อีกฝ่าย
หลี่หย่าต๋าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของเถิงต๋าจะยอมรับแผนนี้มั้ย
เฮ่อเต๋อเซิ่งก็ไม่ค่อยแน่ใจ
ถึงจะเป็นบริษัทแม่ แต่เถิงต๋าก็สร้างเกมออกมาทำเงิน
ถ้าแผนที่ส่งไปไม่ตรงกับทิศทางที่เถิงต๋าวางไว้ หัวหน้าฝ่ายวางแผนก็ไม่น่าจะทิ้งแนวทางของตัวเองแล้วแก้เกมครั้งใหญ่ตามใจพวกเขาหรอก
แต่ถามไปก่อนก็ไม่เสียหายอะไร
ใครจะไปรู้ ไม่แน่หัวหน้าฝ่ายวางแผนอาจจะสนใจแผนนี้ก็ได้
…
…
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
“บอสเผย ขอโทษที่ทักมารบกวนนะครับ
“คือเรื่องบ้านผีสิงน่ะครับ บอสช่วยเล่าให้ฟังได้มั้ยครับว่าอยากให้ออกมาแบบไหน
“ห่าวฉยงกับผมพอมีไอเดียบ้างแล้ว แต่ก็กลัวว่าจะไม่ตรงกับภาพที่บอสวางเอาไว้”
เผยเชียนครุ่นคิดหลังได้อ่านข้อความจากเฉินคังทั่ว
ปล่อยเบลอไม่สำเร็จแฮะ
เจ้าพวกนี้ถามมาเองเลย ทำไงดีทีนี้
เผยเชียนไม่อยากจะ ‘ชี้ทาง’ ให้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองปากพระร่วง พูดอะไรก็เป็นไปตามที่ปากว่าหมด
ไอเดียแย่ๆ ที่ให้ไปกลายเป็นไอเดียสุดล้ำเลิศ
ทำเอาเผยเชียนทั้งงงทั้งปวดหัว
เพราะงั้นเขาเลยไม่ได้บอกอะไรเฉินคังทั่วกับห่าวฉยงมากนัก อยากให้ทั้งคู่คิดหาไอเดียกันเอง
แต่สุดท้ายทั้งสองก็เอะใจแล้วเข้ามาถามหลังผ่านช่วงสุดสัปดาห์ไป
เผยเขียนไม่อยาก ‘ชี้ทาง’ ให้พวกเขา แต่ก็คงดูไม่เหมาะถ้าไม่บอกอะไรเลย
ถ้างั้นบอกอะไรไปสักหน่อยแล้วกันโนเวลกูดอทคoม
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพิมพ์ตอบ “ทำให้พวกใจกล้าไม่ต้องใช้จ่ายอะไรมาก ส่วนพวกขวัญอ่อนได้แต่มองไม่กล้าเข้า”
ผ่านไปประมาณสองนาที เฉินคังทั่วก็ตอบกลับ
“ช่วยอธิบายเพิ่มได้มั้ยครับบอสเผย…”
ชัดเจนมากว่าหลังจากได้อ่านคำตอบ เฉินคังทั่วก็เค้นหัวคิดอยู่สองนาที
แต่เขาก็ไม่เข้าใจความหมายของคำตอบ เลยได้แต่ถามกลับไป
ถามไปแบบนี้ บอสเผยอาจจะมองว่าเขาเป็นคนใช้การไม่ได้ แต่นี่ก็เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่มีทุนถึงสิบล้านหยวน เฉินคังทั่วไม่กล้าทำอะไรเองโดยไม่มีแนวทางที่ชัดเจน
เผยเชียนหัวเราะ
ให้อธิบายเพิ่มเหรอ
ไม่มีอะไรมากเลย ก็แค่ปล่อยให้พวกใจกล้าเข้ามาเล่นโดยขายตั๋วถูกๆ จนแทบไม่ได้กำไร ส่วนพวกขวัญอ่อนต้องไม่กล้าเข้ามาเล่น จะได้ไม่สร้างรายได้ให้บ้านผีสิง
พวกขวัญอ่อนไม่กล้าเข้า พวกใจกล้าไม่ต้องเสียเงินเยอะ แบบนี้บ้านผีสิงก็ต้องขาดทุนยับเยิน
แต่จะให้บอกไปตรงๆ แบบนั้นก็ไม่ได้
เผยเชียนไม่กล้าอธิบายอะไรเพิ่มเติมเพราะกลัวจะทำให้เจ้าสองคนนั้นคิดกันไปมั่วซั่ว
เพราะงั้นต้องเงียบเท่านั้นถึงจะชนะ
เผยเชียนจึงตอบไปแค่สั้นๆ “ทำความเข้าใจกันเอง”
เฉินคังทั่ว “…โอเคครับ ได้ครับบอสเผย”
เขายื่นมือถือให้ห่าวฉยงดู
ทั้งสองมองประโยค ‘ทำความเข้าใจกันเอง’ ของบอสเผยบนหน้าจอแล้วเงียบไปพักหนึ่ง
ทำความเข้าใจกันเองเหรอ…
คำแนะนำมีแค่นี้ แต่ให้ทำความเข้าใจเองจะยากเกินไปรึเปล่า
ห่าวฉยงเคยได้ยินมาว่าแนวทางของบอสเผยมักจะมีประมาณสามสี่ข้อ นอกจากนี้แต่ละข้อก็ค่อนข้างชัดเจน
แต่นี่กลับมีแค่ข้อเดียว แถมยังโคตรจะงง!
อาจารย์ครับ คำถามข้อนี้ยากเกินไปแล้ว!
เฉินคังทั่วเวียนหัวขึ้นมา “จะเข้าใจได้ยังไงเนี่ย…”
ห่าวฉยงสูดหายใจลึก “ใจเย็นๆ
“ผู้อำนวยการหลินเคยบอกวิธีวิเคราะห์จุดประสงค์ของบอสเผย เดี๋ยวนะ ขอนึกก่อน
“ขั้นแรกคือต้องเชื่อมั่นก่อน ไม่ว่าคำแนะนำของบอสเผยจะประหลาดแค่ไหน ยังไงก็ถูกเสมอ…”
ห่าวฉยงเริ่มวิเคราะห์ความหมายที่แอบแฝงอยู่ในคำพูดของบอสเผยด้วยวิธีของหลินหวาน
คนใจกล้ากับคนขวัญอ่อน
คนสองกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต
ทัศนคติของลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีต่อบ้านผีสิงจะเป็นตัวกำหนดว่ากิจการจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
ตามปกติแล้วควรจะออกแบบให้ไม่ว่าจะเป็นคนใจกล้าหรือคนขวัญอ่อนก็เล่นได้สนุก เพื่อที่จะได้เงินจากลูกค้า
แต่ลูกค้าสองกลุ่มนี้มีความต้องการที่แตกต่างกัน
กลุ่มลูกค้าใจกล้าจะมองหาประสบการณ์สุดระทึกใจ เช่น มีพนักงานรับบทบาทเป็นผีโผล่มาหลอกระยะเผาขน
ลูกค้าขวัญอ่อนไม่ชอบประสบการณ์ระทึกขวัญแบบนั้นและอาจจะไม่กล้าเข้า ซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาจะไม่ยอมเสียเงินเข้ามาเล่น
แล้วจะเชื่อมความต้องการของลูกค้าทั้งสองกลุ่มเข้าด้วยกันได้ยังไง
เฉินคังทั่วคิดว่าคำตอบต้องซ่อนอยู่ในคำแนะนำของบอสเผย!
ทำให้พวกใจกล้าไม่ต้องใช้จ่ายอะไรมาก ส่วนพวกขวัญอ่อนได้แต่มองไม่กล้าเข้า
ก็คือสร้างบ้านผีสิงให้น่ากลัวสุดๆ แล้วตั้งราคาถูกๆ เหรอ
ทำแบบนั้น กลุ่มลูกค้าขวัญอ่อนก็ได้แต่มองไม่กล้าเข้า ส่วนลูกค้าใจกล้าก็เข้าไปเล่นซ้ำๆ ได้จนกว่าจะหนำใจ…
ก็ดูจะตรงกับคำแนะนำของบอสเผยนะ
แต่ปัญหาคือไม่น่าจะทำกำไรได้ ดูไม่สมเหตุสมผลเลย
ทำไมต้องขู่ให้ลูกค้าขวัญอ่อนไม่กล้าเข้าด้วย ให้พวกเขาเสียเงินเข้ามาเล่นไม่ดีกว่าเหรอ ทำไมต้องพยายามไล่ล่ะ
มันไม่น่าจะเรียบง่ายแบบนั้น
เพราะงั้นแนวคิดนี้จึงใช้ไม่ได้
พวกเขาต้องหาความหมายที่แท้จริงเบื้องหลังคำพูดของบอสเผยให้เจอ!
ทั้งสองคิดอยู่นาน
เฉินคังทั่วนึกบางอย่างขึ้นได้ เขาตบหน้าขาตัวเองก่อนจะพูดขึ้น “อ๋อ! ผมเข้าใจแล้ว!
“เดี๋ยวผมลองเล่าคร่าวๆ คุณลองฟังดูว่าเข้าท่ามั้ย”
ห่าวฉยงพยักหน้าและรอฟังอย่างตั้งใจ
เฉินคังทั่วเล่าอย่างตื่นเต้น “ที่เราคิดกันคือทำบ้านผีสิงออกมาให้น่ากลัวสุดๆ และตั้งราคาตั๋วถูกๆ แต่ทำแบบนั้น บ้านผีสิงของเราขาดทุนแน่นอน ยังไงก็ไม่น่าไปรอด
“แปลว่าเราน่าจะตีความคำพูดบอสเผยผิดไป
“ผมคิดว่าเราน่าจะมองข้ามข้อมูลสำคัญอะไรไป
“บอสเผยจงใจซ่อนข้อมูลสำคัญไว้เพื่อทดสอบเรา
“บอสไม่ได้บอกว่าบ้านผีสิงต้องมีแค่โปรเจ็กต์เดียว”
ห่าวฉยงถึงบางอ้อ เขาเบิกตากว้าง
ใช่แล้ว คำแนะนำของบอสไม่จำเป็นต้องหมายถึงแค่โปรเจ็กต์เดียว!