เผยเชียนค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าออร่าความซวยของถังอี้ซู่ไม่ได้จู่ๆ ก็สร้างบั๊กขึ้นจากอากาศให้มาปรากฏในเกมที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ถึงเธอจะมีออร่าพิเศษที่แผ่ความซวยให้สิ่งรอบตัวซึ่งดูเป็นเรื่องงมงาย แต่ความงมงายนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่
ตัวอย่างเช่น การเหยียบเชือกรองเท้าแล้วสะดุดล้มเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ถ้าอยู่ใกล้ถังอี้ซู่ เหตุการณ์ที่ว่าก็มีโอกาสเกิดสูงขึ้น
แต่ถ้าสวมรองเท้าไม่มีเชือก เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้น
พูดอีกอย่างคือ ออร่าความซวยของถังอี้ซู่ทำได้แค่เพิ่มโอกาสเกิดเรื่องซวยๆ ให้มากขึ้น บั๊กในเกมเองก็เหมือนกัน
หลายเกมที่ผ่านมาของเถิงต๋ามีบั๊ก บั๊กพวกนี้ไม่ได้จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น แต่มีมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแค่มีโอกาสปรากฏออกมาไม่มาก และปกติก็ไม่น่าจะโผล่มาให้เห็น
แต่พอมีออร่าความซวยของถังอี้ซู่ บั๊กก็โผล่ออกมาทันที
มองเผินๆ ดูเหมือนจู่ๆ เกมก็มีบั๊ก แต่จริงๆ แล้วบั๊กพวกนี้มีมาตั้งแต่แรก ถังอี้ซู่แค่ช่วยเพิ่มโอกาสที่พวกมันจะโผล่ออกมาเท่านั้น
เกมตัวเดโม่ของเยว่จือโจวเองมีบั๊กมากมายซ่อนอยู่ แต่ในเวลาปกติไม่ได้โผล่ออกมาให้เห็น
พอเจอออร่าความซวยของถังอี้ซู่เข้า เกมตัวเดโม่ก็ถึงกับเล่นไม่ได้เลยทีเดียว
เผยเชียนพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก
ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่ไปตรวจงานที่ฉางหยางเกมส์ เขามักจะได้ยินแต่ข่าวดีจนทำใจยอมรับได้ยาก
ในที่สุดก็มีอุปสรรคบ้างสักที เยี่ยมจริงๆ!
ถ้าต่อไปมีความสุขแบบนี้ได้ทุกวันก็คงดี
พอเจอเรื่องดีๆ จิตใจก็มีแต่ความปรีดา
เผยเชียนส่งข้อความไปหาเสี่ยวซุนคนรถของเขา “หลังพักเที่ยงมารับผมไปดูโรงงานโซนอุตสาหกรรมเก่า
“ผมจะวางแผนเรื่องบ้านผีสิง”
…
…
ตอนบ่าย
โซนอุตสาหกรรมเก่า เมืองจิงโจว
ความคิดแรกของเผยเชียนหลังลงจากรถคือโคตรไกล!
จากออฟฟิศใช้เวลาขับรถมาถึงที่นี่เกือบชั่วโมง
โซนอุตสาหกรรมเก่าตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองจิงโจว ที่ฝั่งตะวันตกและฝั่งใต้เจริญมากกว่า
หมิงหยุนวิลล่าตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจิงโจว ซึ่งมีโอกาสเติบโตในอนาคตมากกว่า แต่โซนอุตสาหกรรมเก่านั้นไม่น่าจะเติบโตได้
เผยเชียนมองไปรอบๆ แล้วพบว่าที่นี่แตกต่างจากที่คิดไว้ในตอนแรก
เขาคิดว่าโซนอุตสาหกรรมเก่าจะโล่งและไม่ค่อยมีอะไร
แต่ตอนนี้เขาเห็นหญ้าขึ้นรกไปทั่วทั้งโซน
หน้าตาของโรงงานรอบๆ เหมือนหลุดมาจากศตวรรษที่แล้ว อย่างกับว่าอยู่กันคนละโลกกับเมืองจิงโจว
แถมโรงงานเกือบทุกหลังยังถูกทิ้งร้าง บางหลังยังมีคนอยู่ แต่เป็นเพราะกำลังจะย้ายออกจึงมาจัดการเก็บกวาดกัน
รอบข้างแทบไม่มีบ้านพักอาศัยเลย ที่มีก็เก่าจนเหมือนจะทลายลงมาได้ทุกเมื่อ ดูแล้วน่าจะเหลือคนอาศัยอยู่แค่ไม่กี่คน
ตอนนี้ยังกลางวันแสกๆ
ถ้าให้มาตอนกลางคืน เผยเชียนคงไม่กล้ามาคนเดียว
“บอสเผย ระวังทางด้วยนะครับ”
เสี่ยวซุนออกเดินนำ
ระหว่างสำรวจรอบๆ เผยเชียนก็เหลือบไปเห็นโรงงานหลังโตสองสามหลัง
ไม่แปลกว่าทำไมค่าเช่าถึงถูกมาก ถ้าจะปรับปรุงใหม่ ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์อะไร ยังไงก็เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่ต้องใช้เงินก้อนโต
ถ้าหาเงินคืนทุนไม่ได้ก็เท่ากับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ จึงไม่แปลกที่จะไม่มีใครมาเช่าโรงงานพวกนี้
เผยเชียนมองออกไปจนสุดสายตา แต่ก็ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดของโซนอุตสาหกรรมเก่า
พื้นที่ของโซนอุตสาหกรรมเก่าใหญ่มาก ถ้าเช่าโรงงานทุกหลังมาทำเป็นบ้านผีสิงขนาดใหญ่คงต้องทุ่มเงินหลักร้อยล้านหยวน ซึ่งไม่น่าจะทำได้จริง
ดังนั้นเผยเชียนจึงตั้งใจจะเช่าโรงงานใหญ่ๆ สักสองสามหลัง เอาพื้นที่สักสองสามพันตารางเมตรมาทำเป็นบ้านผีสิง
ถ้าทำเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่เกินไปจะไม่ดี
บ้านผีสิงหลายๆ แห่งทำให้แฟนหนังผีและแฟนเกมสยองขวัญแห่แหนมาจากทั่วโลกเพราะมีขนาดใหญ่โตและน่ากลัวมาก
เผยเชียนหวังแค่ว่าบ้านผีสิงของเขาจะไม่โด่งดังและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว ถ้าทำอย่างที่คิดได้เขาก็จะผลาญเงินได้มากเท่าที่ต้องการ
ดังนั้นเผยเชียนจึงต้องคุมขนาดของบ้านผีสิงให้ดี
เขาจะทำใหญ่เกินไปจนเป็นที่รู้จักไม่ได้ แต่ก็ต้องน่ากลัวพอที่จะหลอกหร่วนกวางเจี่ยนให้ฉี่รดกางเกงเพื่อชำระหนี้แค้นที่มีในใจ
โซนอุตสาหกรรมห่างไกลผู้คนมาก เดินทางมาไม่สะดวก ขอแค่บ้านผีสิงไม่ดัง เผยเชียนก็มั่นใจว่าไม่น่าจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศแวะเวียนมามากนัก
รายได้จากนักท่องเที่ยวในเมืองจิงโจวเพียงแหล่งเดียวไม่น่าจะพอจ่ายค่าใช้จ่ายประจำวันของบ้านผีสิง
ดังนั้นบ้านผีสิงแห่งนี้จะกลายเป็นเหมือนห้องดำของเผยเชียน ถ้าอยากแก้แค้นคนที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำก็แค่ส่งมาที่นี่
นอกจากจะขาดทุนได้แล้ว ยังช่วยแก้แค้นได้อีกด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว สุดยอดไปเลย
เผยเชียนกับเสี่ยวซุนเดินต่อไปอีกหน่อยเพื่อดูสภาพด้านในของโรงงานต่างๆ
สรุปคือด้านในเละเทะ ไม่จำเป็นต้องสำรวจอะไรต่อ
“กลับกันเถอะ”
เผยเชียนเดินดูสถานที่อยู่ประมาณห้านาทีก็หันหลังเตรียมกลับไปขึ้นรถ
เสี่ยวซุนรีบเดินตามไปถาม “บอสเผยอยากไปดูที่อื่นมั้ยครับ ยังมีอีกหลายที่ที่บอสเช่าทำบ้านผีสิงได้”
เผยเชียนชะงักไป “ทำไมต้องดูที่อื่นด้วยล่ะ ผมเลือกที่นี่แล้ว”
เสี่ยวซุน “เอ่อ…”
เขาเข้าใจอีกฝ่ายผิดไป
ตอนแรกเขาคิดว่าที่บอสเผยรีบกลับเพราะไม่พอใจที่นี่
ถ้าชอบก็คงเดินดูต่ออีกสักหน่อย
เพราะงั้นเสี่ยวซุนจึงสงสัยว่าตัวเองต้องขับรถพาบอสเผยไปหาสถานที่ตั้งบ้านผีสิงเพิ่มอีกรึเปล่า
ดันกลายเป็นว่าเขาเข้าใจผิด
ที่บอสเผยตัดสินใจกลับก็เพราะชอบที่นี่มาก
แต่…
นี่เป็นโปรเจ็กต์หลายล้านหยวน งบอาจจะพุ่งไปถึงหลักสิบล้าน แต่บอสเผยกลับใช้เวลาแค่ห้านาทีในการตัดสินใจ จะหุนหันพลันแล่นเกินไปรึเปล่า
เสี่ยวซุนรีบปัดความคิดนั้นออกจากหัว
ปกติบอสเผยก็ตัดสินใจอะไรรวดเร็วอยู่แล้ว
บอสน่าจะรู้ข้อมูลของที่นี่ตั้งแต่ก่อนมา ก็เลยใช้เวลาแค่ห้านาทีในการยืนยันข้อมูลที่มี
เป็นการวางแผนมาอย่างถี่ถ้วนแล้วค่อยลงมือทำ เพราะการวางแผนกลยุทธ์ในกระโจมค่ายก็สามารถเอาชนะข้าศึกที่อยู่ห่างไกลนับพันลี้ได้
…
พอกลับถึงออฟฟิศ เผยเชียนก็เริ่มคิดเรื่องโปรเจ็กต์สร้างบ้านผีสิง
กิจการบ้านผีสิงน่าจะขาดทุนได้ง่ายๆ
ยิ่งเป็นบ้านผีสิงที่ตั้งถาวรอยู่ที่เดิมยิ่งแล้วใหญ่
เพราะบ้านผีสิงเป็นการซื้อประสบการณ์ครั้งเดียว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเที่ยวแค่หนเดียวไม่แวะมาอีก
เว้นแต่จะมีกิจกรรมพิเศษอย่างจัดให้คู่รักมาเดต หรือปรับปรุงใหม่เพื่อเปลี่ยนตีมและรูปแบบการเล่น
แต่การปรับปรุงบ้านผีสิงมีค่าใช้จ่ายสูง แถมระหว่างปรับปรุงก็ต้องปิดทำการ ผลที่ได้เทียบกับเงินที่ลงทุนไปไม่ได้เลย
ดังนั้นจึงมีอยู่สามวิธีในการเปิดกิจการบ้านผีสิง
วิธีแรกคือ ทำเหมือนบ้านผีสิงขนาดใหญ่ของต่างประเทศ ด้วยขนาดที่ใหญ่จึงทำให้เป็นที่รู้จัก เรียกนักท่องเที่ยวให้แห่มาเล่นได้จากทั่วโลก
พอมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ก็จะหาเงินได้จากการขายตั๋วและสินค้าต่างๆ กอบโกยกำไรได้มหาศาล
วิธีที่สองคือ ทำบ้านผีสิงแบบย้ายสถานที่ โดยไปเปิดที่ห้างใหญ่ๆ ในเมืองหนึ่งจากนั้นก็ย้ายไปอีกเมือง ทำแบบนี้ก็การันตีได้ว่าจะเรียกลูกค้าใหม่ๆ ได้ตลอด
บ้านผีสิงหลายๆ เจ้าในประเทศใช้วิธีนี้ novelgu.com
วิธีที่สามคือ สร้างบ้านผีสิงในสวนสนุกขนาดใหญ่ ขอแค่สวนสนุกมีลูกค้าเข้าเรื่อยๆ บ้านผีสิงก็จะมีคนแวะมาเรื่อยๆ เหมือนกัน
แต่เผยเชียนไม่เลือกสักวิธีที่ไล่มา
เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำเงิน
จากบทเรียนของบ้านผีสิงหลายๆ แห่งที่เจ๊งไม่เป็นท่า เผยเชียนตั้งใจจะเปิดบ้านผีสิงที่ตั้งถาวรอยู่ที่เดียว บ้านผีสิงนี้จะต้องใหญ่โตพอจะทำให้คนกลัวจนฉี่ราด แต่ก็ต้องไม่เป็นที่รู้จักในประเทศด้วย
ถ้าทำแบบนี้ ถึงคนในจิงโจวจะแห่มาเล่น ก็น่าจะไปได้สวยแค่แป๊บๆ ในระยะยาวยังไงก็ขาดทุนยับ
ตอนนี้เผยเชียนยังคิดไม่ออกว่าจะให้บ้านผีสิงออกมาเป็นยังไง
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร เขาต้องหาคนมารับผิดชอบโปรเจ็กต์นี้ก่อน
เผยเชียนยุ่งเกินกว่าจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้
อีกอย่างเขาเองก็ไม่อยากจะมีส่วนร่วมในกิจการบ้านผีสิง
ส่วนหนึ่งเพราะเขาขี้กลัวเลยมองว่าบ้านผีสิงน่ากลัวเกินไป อีกส่วนก็เพราะกลัวว่าบ้านผีสิงที่ตัวเองออกแบบจะน่ากลัวไม่พอสำหรับคนอื่น
ถึงบ้านผีสิงที่ไม่น่ากลัวจะมีโอกาสขาดทุนมากกว่า แต่เผยเชียนก็อยากให้บ้านผีสิงของตัวเองออกมาน่ากลัวมากกว่าจะอยากขาดทุน
เพราะบ้านผีสิงนี้สร้างมาเพื่อจุดประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ เผยเชียนจะใช้บ้านผีสิงเป็นเครื่องมือแก้แค้นพวกที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำ
ถ้าบ้านผีสิงออกมาไม่น่ากลัว ก็เท่ากับเขาพ่ายแพ้ให้เหล่าศัตรูในบัญชีดำ ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก
หลังจากคิดสักพัก เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าจะจัดการกับตัวปัญหาในบริษัทที่เพิ่งจับตัวได้ก่อน
เฉินคังทั่ว เตรียมตัวไว้เถอะ!
แกจะได้เป็นคนรับผิดชอบโปรเจ็กต์บ้านผีสิง!
ทำแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการยิงปืนนัดเดียวเก็บนกสองตัว
เฉินคังทั่วเป็นคนขยันทำงาน ถ้าจัดการได้ ออฟฟิศก็จะกลับมาเรียบร้อยอีกครั้ง
และด้วยความที่คนคนนี้เป็นคนตั้งใจทำงาน ถ้าให้รับผิดชอบโปรเจ็กต์บ้านผีสิงก็น่าจะการันตีได้ว่างานจะออกมาดี
นอกจากนั้นเผยเชียนยังคิดหนทางใช้ประโยชน์กับบ้านผีสิงได้เพิ่มอีก
ระบบคัดที่หนึ่งออกช่วยจัดการพวกพนักงานที่มีผลงานโดดเด่นในออฟฟิศได้ แต่ใช้จัดการพนักงานผลงานดีที่ชอบแอบทำงานล่วงเวลาไม่ได้
ตอนนี้เผยเชียนจับพนักงานพวกนี้ไปทำโปรเจ็กต์บ้านผีสิงแทนได้!
ยังไงโปรเจ็กต์นี้ก็ต้องเจ๊ง ถึงพวกนั้นจะทำงานหนักแค่ไหน เผยเชียนก็ไม่จำเป็นต้องกังวล
ยิ่งคิดเผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกพอใจ บอกได้เลยว่านี่แหละคือโชคชะตานำพา!
ถ้าไม่บังเอิญเจอถังอี้ซู่ เขาก็คงไม่รู้ว่ามีคนแอบทำงานล่วงเวลา และไม่มีทางจับเฉินคังทั่วได้
โชคชะตาช่างเป็นสิ่งประเสริฐนัก
เฉินคังทั่วจะเหงามั้ยนะถ้าให้จัดการโปรเจ็กต์บ้านผีสิงคนเดียว
หาคนไปช่วยจะดีมั้ย เดี๋ยวหาพวกพนักงานขยันๆ ในฉางหยางเกมส์ไปช่วยโปรเจ็กต์นี้ด้วย
ถือเป็นความคิดที่ดี
พนักงานฉางหยางเกมส์เล่นเกมสยองขวัญมาเดือนกว่า พวกเขาน่าจะได้บทเรียนดีๆ จากประสบการณ์ครั้งนี้
เผยเชียนต้องส่งพนักงานมือฉมังไปจัดการสร้างบ้านผีสิง เพื่อที่จะได้น่ากลัวพอจะหลอกให้หร่วนกวางเจี่ยนกลัวจนฉี่ราด
คิดได้แบบนั้นเผยเชียนก็ส่งข้อความไปหาหลินหวาน
“คัดพนักงานธรรมดาๆ ที่มีทัศนคติด้านการทำงานเยี่ยมยอดให้ผมที
“ผมมีโปรเจ็กต์ใหม่”
…
…
เช้าวันต่อมา
เปาซวี่เข้าออฟฟิศตรงเวลาเหมือนเคย ก่อนจะตรงไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง
เขาเปิดเว็บจงเตี่ยนจงเหวินกับไฟล์งานขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มแก้อย่างตั้งอกตั้งใจ
แก้งานไปได้สักพัก เขาก็พบว่ามีบางอย่างแปลกๆ
เปาซวี่มองไปรอบออฟฟิศเพื่อหาว่าอะไรกันที่ทำให้เขารู้สึกอย่างนั้น
สุดท้ายสายตาของเขาก็เลื่อนไปหยุดที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งว่างอยู่
เฉินคังทั่วไม่ได้มาทำงานวันนี้
แถมไม่ใช่แค่นั้น ข้าวของต่างๆ บนโต๊ะก็ถูกเก็บออกจนเกลี้ยง!
จำเป็นต้องเก็บข้าวของออกจากโต๊ะขนาดนั้นมั้ยนะถ้าแค่ลาป่วย
เปาซวี่เสียวสันหลังวาบขึ้นมา
เกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่นกันนะ
อยู่ๆ ก็หายตัวไปจากโลกเหรอ