วันที่ 17 พฤศจิกายน
เผยเชียนได้รับการติดต่อจากหวงซื่อปั๋วว่าเฟยหวงสตูดิโออยากยืนยันบทภาพยนตร์และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำ
ผ่านไปแล้วสองสัปดาห์หลังเผยเชียนร่างบทเสร็จ
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา จูเสี่ยวเช่อกับทีมนักเขียนบทของเฟยหวงสตูดิโอง่วนอยู่กับการเอาบทของบอสเผยมาพัฒนาต่อ พร้อมๆ กับเตรียมการต่างๆ สำหรับการเปิดกล้องถ่ายหนัง
ตอนนี้บทหนังเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ให้เผยเชียนที่เป็นสปอนเซอร์หลักอนุมัติก็ดำเนินการต่อได้เลย
แน่นอนว่า ถ้าเผยเชียนพบว่าจูเสี่ยวเช่อแก้บทมากเกินไปและลดองค์ประกอบชวนยี้ลง เขาก็จะติให้ไปแก้
เผยเชียนเริ่มปลงตกเรื่องการคิดหาไอเดียและตัดสินใจเรื่องต่างๆ
เพราะตระหนักแล้วว่าไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรไป ยังไงก็มีคนถือมีดมาแทงข้างหลังอยู่ดี!
ตอนทำเกมฐานทัพกลางทะเล เผยเชียนแค่วางแนวทางแล้วให้พนักงานไปลงรายละเอียดกันเอง สุดท้ายเกมก็เป็นที่นิยม
ตอนทำเกมนักออกแบบเกม เผยเชียนลงรายละเอียดทุกอย่างจนลู่หมิงเหลียงเป็นเหมือนเครื่องจักรทำตามคำสั่ง สุดท้ายเกมก็เป็นที่นิยมเหมือนเดิม
ตอนให้หม่าหยางเอาเงินไปลงทุนให้ เขาไม่ได้กำหนดว่าต้องลงทุนกับอะไร ปล่อยให้ไอ้หม่าได้ใช้ความคิดตัวเองเต็มที่ สุดท้าย…
บอสเผยก็น้ำตาตกในเหมือนเดิม
เผยเชียนตระหนักแล้วว่าไม่ว่าจะคุมงานคร่าวๆ หรือจัดการทุกอย่างเองหมด ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทุ่มเทอะไรมาก…
ให้คิดรายละเอียดทุกอย่างเหมือนตอนทำเกมนักออกแบบเกมให้ทุกโปรเจ็กต์ก็จะเป็นงานหนักเกินไป
ดังนั้นเผยเชียนจึงตั้งใจไว้ว่าจะตรวจสอบความคืบหน้างานของเฟยหวงสตูดิโอแบบไม่เคร่งเครียดนัก เขาคิดว่าจะเดินดูรอบๆ และพยายาม ‘ออกความเห็น’ ให้ได้มากที่สุด หลังจากติติงพอเป็นพิธีก็ถือว่าจบงาน
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า แผนอยู่ที่คน ผลอยู่ที่ฟ้า ของแบบนี้ควบคุมอะไรไม่ได้
พอเผยเชียนไปถึงเฟยหวงสตูดิโอ หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อก็เข้ามาต้อนรับแล้วพาไปที่ห้องรับรอง
สตูดิโอเปิดทำการมาได้พักใหญ่แล้ว ตอนนี้มีพนักงานมาทำตำแหน่งต่างๆ เกือบจะครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทีมกำกับ ทีมเขียนบท ทีมฉาก ทีมตัดต่อ ทีม CG และอื่นๆ ทำให้ตอนนี้สตูดิโอดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม ทุกคนทำงานกันเต็มที่เพื่อเตรียมการสำหรับโปรเจ็กต์ใหม่
เผยเชียนเข้าไปในห้องรับรอง ยกชาขึ้นจิบ จากนั้นก็สั่งงานหวงซื่อปั๋วทันที
“ตอนนี้เฟยหวงสตูดิโอกำลังไปได้สวย แต่อย่าลืมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋า ถึงการที่พนักงานตั้งใจทำงานกันอย่างขยันขันแข็งจะเป็นเรื่องดี แต่ก็อย่าให้พวกเขาทำงานล่วงเวลากันล่ะ เข้าใจมั้ย”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้าทันที “ไม่ต้องห่วงครับบอสเผย เฟยหวงสตูดิโอวางกฎเกณฑ์ เงินเดือน และสวัสดิการโดยอิงจากมาตรฐานของเถิงต๋า ผมปล่อยให้เรื่องน่าอายแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้หรอกครับ”
เผยเชียนพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าพอใจกับทัศนคติของหวงซื่อปั๋ว
จูเสี่ยวเช่อยื่นบทหนาเตอะให้เผยเชียน “บอสเผยครับ นี่คือบทฉบับสมบูรณ์ รบกวนช่วยตรวจสอบด้วยครับ ถ้าบอสไม่พอใจตรงไหนบอกได้เลยนะครับ พวกผมจะรีบแก้ไขทันที”
เผยเชียนมองบทปึกใหญ่แล้วหันไปมองชื่อเรื่อง
ก่อนหน้านี้เขาแค่วางโครงเรื่องคร่าวๆ ไม่ได้คิดชื่อหนังให้
นอกจากจูเสี่ยวเช่อกับทีมเขียนบทของเฟยหวงสตูดิโอจะลงรายละเอียดบทจนออกมาสมบูรณ์แล้ว ยังคิดชื่อหนังให้ด้วย
‘วันพรุ่งนี้ที่สดใส’
ชื่อภาษาอังกฤษคือ ‘Tomorrow Is Beautiful’
แค่เห็นชื่อเรื่อง เผยเชียนก็อยากจะยกนิ้วให้แล้ว
เยี่ยม!
ทำได้ดีมาก!
บทเต็มไปด้วยประเด็นชวนยี้เต็มไปหมด ใครได้ดูคงรู้สึกหดหู่กันถ้วนหน้า
แต่ชื่อหนังกลับไม่บ่งบอกถึงเรื่องนี้เลย ดูจะสร้างความสับสนได้สุดๆ
‘วันพรุ่งนี้ที่สดใส’ ฟังดูเหมือนชื่อหนังอบอุ่นหัวใจ น่าจะหลอกคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาดูได้เพียบ ไม่แน่คู่รักที่มาออกเดตก็อาจจะนึกอยากดูเรื่องนี้
ถ้าเป็นแบบนั้นก็การันตีได้ว่าหนังจะโดนด่าชัวร์ๆ ชื่อเสียงป่นปี้แน่!
เผยเชียนพยักหน้าเบาๆ พลางอ่านต่อ
จูเสี่ยวเช่อที่นั่งตรงข้ามบอสเผยชื่นใจขึ้นมาทันทีที่เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน้อย
บอสเผยยอมรับบทของฉัน!
ฉันเข้าใจบทของบอสถูกจริงๆ ด้วย!
เห็นได้ชัดว่าบอสเผยเข้าใจความล้ำลึกของชื่อหนัง อัจฉริยะย่อมเข้าใจความคิดของกันและกันจริงๆ!
เผยเชียนไม่ทันสังเกตเห็นท่าทีตื่นเต้นของจูเสี่ยวเช่อ เขาพลิกบทอ่านไปเรื่อยๆ และหยุดดูบทบางช่วงอย่างละเอียด
โครงเรื่องคร่าวๆ ในตอนแรกถูกขยายลงรายละเอียดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดฉากหลังของเรื่อง บทพูด การกระทำ และอื่นๆ จนสามารถเห็นภาพหนังตั้งแต่ต้นจนจบได้
เผยเชียนรู้สึกแค่อย่างเดียวคือรู้สึกยี้มากๆ!
โครงเรื่องตอนแรกก็ชวนยี้สุดๆ แล้ว แต่ตอนนั้นเป็นแค่โครงเรื่องคร่าวๆ ไม่มีอะไรมาก แต่บทตอนนี้มีทั้งบทสนทนา สีหน้าท่าทาง และรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ถ้าจินตนาการเพลงประกอบเข้าไป ความยี้ที่รู้สึก…
คงพุ่งเฉียดฟ้า
เผยเชียนทนอ่านต่อไม่ไหว เพราะมันแย่เกินไป!
เขาไล่ดูบทต่อเพื่อยืนยันว่าจูเสี่ยวเช่อกับทีมเขียนบทไม่ได้แก้เนื้อเรื่อง แค่ใส่รายละเอียดและยืดบทเพิ่มเฉยๆ
บทไม่ได้ชวนยี้น้อยลงเลย กลับกันรายละเอียดที่เพิ่มเข้ามายิ่งทำให้รู้สึกยี้มากขึ้นกว่าเดิม!
ตอนนี้เผยเชียนเริ่มสบายใจขึ้น
ถ้ายึดถือแนวทางนี้ หนังที่ออกมาจะต้องมีประเด็นชวนยี้เยอะที่สุดในประวัติการณ์!
“บทออกมาเยี่ยมเลย!
“ผมชอบมากๆ!”
เผยเชียนชมจูเสี่ยวเช่อกับทีมเขียนบทยกใหญ่ ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm
จูเสี่ยวเช่ออดยิ้มออกมาไม่ได้ “บอสเผยใจดีเกินไปแล้วครับ โครงเรื่องของบอสดีมากๆ อยู่แล้ว พวกผมแค่เติมรายละเอียดเพิ่มเข้าไปนิดหน่อย”
พวกเขาคุยกันต่ออย่างเบิกบานใจก่อนที่มือถือของเผยเชียนจะดังขึ้น
เขาเหลือบมองแล้วเห็นว่าเป็นสายจากฉางโหย่ว
“ฮัลโหล บอสเผยครับ ผมจะโทรมาแจ้งว่าตอนนี้เตรียมการทุกอย่างเกือบหมดแล้วนะครับ ได้ที่เหมาะๆ สำหรับตั้งออฟฟิศแล้ว ทีมงานเก่าก็เรียกมาครบแล้วครับ
“วันนี้เราตั้งใจจะวางแผนทิศทางมือถือรุ่นแรก ตอนนี้ได้แผนการผลิตขั้นต้นแล้ว ถ้าบอสมีเวลา ช่วยแวะเข้ามาให้คำแนะนำพวกเราหน่อยได้ไหมครับ”
ให้คำแนะนำเหรอ
เวลาไม่เหมาะเลย
เผยเชียนยังต้องคุยเรื่องบทกับจูเสี่ยวเช่อที่เฟยหวงสตูดิโอ เขากลัวว่าวันนี้ไม่น่าจะมีเวลาว่างเหลืออีก
เขาควรจะ ‘แนะนำ’ เฟยหวงสตูดิโอที่กำลังรุ่งสุดๆ หรือทีมทำงานในฝันที่เคยล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าดี
เลือกไม่ยากเลย
แน่นอนว่าเผยเชียนนัดพวกฉางโหย่ววันอื่นได้ แต่พอคิดดูอีกที จะให้ทุกคนเสียเวลาทั้งวันไปฟรีๆ เพื่อรอเขาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เผยเชียนคิดว่าตัวเองไม่ควรไปยุ่งกับกิจการบริษัท OTTO ส่วนหนึ่งก็เพราะกลัวจะไปกระทบการทำงานของทีมงานในฝัน อีกส่วนหนึ่งก็เพราะถ้าเขาช่วยเหลืออะไรไป แล้วมือถือรุ่นแรกไปไม่รอด บอสเผยก็จะกลายเป็นแพะรับบาปแทนหลินหวาน ซึ่งจะทำให้การไล่หลินหวานออกจากวงการแล้วกลับบ้านไปรับช่วงกิจการครอบครัวต่อยากขึ้นไปอีก
“พวกคุณคุยกันไปก่อนเลย วันนี้ผมยุ่งๆ ไม่น่าจะว่างแวะเข้าไป
“ไม่ต้องขอคำแนะนำผมก็ได้ พวกคุณตัดสินใจกันได้เลย”
ฉางโหย่ว “ได้ครับบอสเผย! วางใจพวกผมได้เลย!”
พอวางสายไป เผยเชียนก็หันไปคุยเรื่องบทกับจูเสี่ยวเช่อต่อ
จูเสี่ยวเช่อดูลังเลใจ “บอสเผยครับ มีปัญหาอีกเรื่องนึง
“บอสน่าจะสังเกตเห็นว่าในบทยังไม่ได้กำหนดชื่อตัวละคร เพราะพวกเราตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้ตัวละครเป็นคนชาติตะวันออกหรือตะวันตกดี
“บอสระบุมาว่าตัวละครเหล่านี้อาศัยอยู่ในโลกยุคอนาคต แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเชื้อชาติอะไร”
เผยเชียนพยักหน้า เป็นปัญหาจริงๆ ด้วย
“ในเมื่อฉากหลังของหนังเป็นโลกอนาคต แนวคิดเรื่องเชื้อชาติน่าจะคลุมเครือ
“แล้วก็เนื้อเรื่องจะไม่เกิดขึ้นที่ประเทศของเรา
“ตัวละครกับฉากหลังใช้เป็นภาษาอังกฤษ บทพูดก็เป็นภาษาอังกฤษด้วย
“ไปหาชาวต่างชาติมาแสดงบทหลักๆ ถ้าหาไม่ได้ ให้หาคนจีนที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง แต่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก คนดูน่าจะเข้าใจได้เองว่าตัวละครนี้แค่เป็นคนเชื้อชาติจีน”
เผยเชียนคิดว่าการจ้างนักแสดงต่างชาติน่าจะใช้เงินเยอะกว่าจ้างนักแสดงจีน!
เขาปล่อยโอกาสผลาญเงินเพิ่มให้หลุดมือไปไม่ได้
จูเสี่ยวเช่อรีบพยักหน้า “ได้ครับ ผมก็คิดเหมือนบอสเผย
“แต่น่าจะจัดการได้ค่อนข้างยาก… เราน่าจะจ้างนักแสดงต่างชาติที่ดังๆ ไม่ได้ แม้แต่นักแสดงต่างชาติที่ดังรองลงมาก็ไม่น่าจะจ้างได้เหมือนกัน
“เพราะนี่คือหนังเรื่องแรกของเฟยหวงสตูดิโอ เราไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ถึงจะเสนอค่าตัวให้สูง เราก็อาจจะชวนให้นักแสดงเดินทางมาถึงจิงโจวไม่ได้…
“พวกตัวประกอบจะง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นบทหลักอย่างตัวเอกกับกรรมการ…ก็ยากพอตัวเลยครับ
“สองบทนี้มีบทพูดเยอะกว่าตัวละครอื่นๆ เราต้องหาคนที่มีทักษะการแสดงสูง
“เพราะงั้นเราหานักแสดงจีนมาเล่นสองบทนี้จะดีกว่ามั้ยครับ”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “โอเค
“แต่…ถ้าเราจ้างนักแสดงชาวต่างชาติดังๆ ไม่ได้ คุณคิดว่าเราจะจ้างนักแสดงจีนดังๆ ได้มั้ย”
จูเสี่ยวเช่อยิ้มแหย “ก็ไม่ง่ายเหมือนกันครับ
“แต่อย่างน้อยถ้าเป็นนักแสดงชาวจีน เราจะเจรจาได้ง่ายกว่า โอกาสสำเร็จก็สูงขึ้นครับ”
เผยเชียนตั้งใจจะแนะนำให้จ้างนักแสดงหน้าใหม่จากโรงเรียนต่างๆ มารับบท แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าค่าตัวน่าจะไม่สูงมาก เฟยหวงสตูดิโอก็จะผลาญเงินได้ไม่เยอะ
พวกเขาต้องหานักแสดงสักคนสองคนที่เรียกค่าตัวสูงๆ ไม่อย่างนั้นเฟยหวงสตูดิโอจะผลาญงบที่ให้ไปได้ไม่หมด
แต่จะจ้างใครดีล่ะ นี่คือปัญหา
จู่ๆ ชื่อใครคนหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวเผยเชียน
ฉันรู้จักนักแสดงชาวจีนคนนึง แถมยังเคยร่วมงานกันมาก่อนด้วย!
จ๋าจูถี!
จางจู่ถิงโดนวิจารณ์หนักหลังเป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายโฆษณาให้เกมเพลงรบโลหิต แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้มีคนติดตามเพิ่มขึ้นมาก หลายคนหันมาสนใจเขาจนเจ้าตัวเริ่มยอมรับชื่อเล่น ‘จ๋าจูถี’
แน่นอนว่าเผยเชียนต้องจำเพื่อนเก่าคนนี้ได้อยู่แล้ว
คุณจางเป็นกัลยาณมิตรกับเถิงต๋า เพราะงั้นเถิงต๋าก็ต้องดูแลเขาให้ดี เหมือนคำพูดที่ว่าอะไรดีๆ ก็ต้องเก็บไว้ให้กันเอง ในเมื่อเฟยหวงสตูดิโอพร้อมเสนอค่าตัวแพง พวกเขาก็ต้องเสนอบทนี้ให้จางจู่ถิงก่อน
ถึงหนังจะเจ๊ง คนดูก็น่าจะโทษนักเขียนบท ไม่ใช่นักแสดง
คุณจางแค่ต้องโชว์ฝีมือการแสดงดีๆ เพื่อไม่ให้โดนคนดูติติง แถมยังมีบทนึงที่เหมาะกับคุณจางมากๆ นั่นก็คือ บทกรรมการผู้ชั่วช้า
ยิ่งคิดเผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมมาก “เดี๋ยวผมช่วยหานักแสดงด้วย
“ผมจะติดต่อจางจู่ถิงไปถามว่ามีคิวว่างถ่ายหนังมั้ย ถ้าเขาตกลงเล่นหนังให้ เราจะให้เขารับบทกรรมการ
“ส่วนตัวเอก…เราก็ช่วยๆ กันหา แล้วค่อยมาคุยกันว่าใครเหมาะ”
จูเสี่ยวเช่อตกใจ “จางจู่ถิงเหรอครับ ถ้าได้เขามาเล่นจะดีมากเลยครับ เขาเป็นนักแสดงเก่าที่มีฝีมือการแสดงยอดเยี่ยมมาก แถมภาษาอังกฤษก็ไม่แย่ น่าจะพูดบทภาษาอังกฤษได้ตลอดการถ่ายทำ
“บอสเผยช่างเป็นคนกว้างขวางจริงๆ ครับ!”