เผยเชียนไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไงดี
เป็นแฟนคลับฉันเหรอ
ฉันไปมีชื่อเสียงในวงการการลงทุนได้ยังไง
เฮ่อเต๋อเซิ่งดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด “บอสเผยครับ ผมเคยเป็นผู้ช่วยด้านการลงทุนของบอสหลี่ ก็เลยได้ยินเรื่องบอสเผยบ่อยๆ
“ทั้งร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ทั้งภัตตาคารไร้ชื่อที่หมินหยุนวิลล่า การลงทุนของบอสเป็นความสำเร็จที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง! ควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้ไปสักสองสามปี!
“ทุกครั้งที่บอสหลี่พูดถึงคุณ เขาดูเหมือนจะมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับคุณ
“พอได้ยินว่าที่นี่กำลังมองหาที่ปรึกษาด้านการลงทุน ผมก็สมัครอย่างไม่ลังเล
“ผมไม่ได้มาสมัครตำแหน่งนี้เพื่อเงิน แต่เพื่อศึกษาความสามารถด้านการลงทุนอันลึกล้ำของบอสเผยครับ!”
ในที่สุดเผยเชียนก็เข้าใจ
หมอนี่ได้รับอิทธิพลมาจากบอสหลี่นี่เอง!
แต่พอคิดดูดีๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
ถ้าเฮ่อเต๋อเซิ่งมาสมัครตำแหน่งนี้เพื่อเรียนรู้งาน เขาก็ไม่น่าจะถามคำถามหรือเสนอความคิดเห็นอะไรมาก
เผยเชียนกระแอมกระไอ “เลิกพูดเรื่องที่ผ่านมาดีกว่า
“ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะโชคช่วยล้วนๆ
“งานของคุณคือช่วยดูแลกระบวนการต่างๆ ตามที่บอสหม่าบอก
“แล้วก็ คุณไม่ควรขัดขวางวิธีคิดและการตัดสินใจลงทุนของบอสหม่า”
เฮ่อเต๋อเซิ่งรีบพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ! แค่ได้เรียนรู้วิธีการลงทุนจากบอสใหญ่ทั้งสองคน ผมก็ดีใจมากแล้ว ผมรู้เรื่องการลงทุนไม่มาก คงไม่กล้าอวดดีแนะนำอะไรพวกคุณหรอกครับ”
เผยเชียนพอใจกับทัศนคติของเฮ่อเต๋อเซิ่งมาก
เยี่ยม เจ้านี่รู้จักจุดยืนของตัวเองดี
ทำตัวเป็นแค่เครื่องมือให้ฉันใช้งานก็พอ แล้วฉันจะจ่ายให้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ดีจริงๆ
เผยเชียนคิดว่าผู้สมัครคนนี้ไม่เลวเลยและกำลังจะรับเข้าทำงาน
แต่หม่าหยางที่กำลังเปิดดูเรซูเม่ของเฮ่อเต๋อเซิ่งอยู่กลับหันมากระซิบข้างหู “พี่เชียน จะรับคนนี้เข้ามาเป็นผู้ช่วยผมเหรอ ตำแหน่งตอนนี้ยังไม่ถึงระดับผู้จัดการการลงทุนเลย อ่อนประสบการณ์เกินไป หาคนใหม่ได้มั้ยพี่”
เผยเชียน “…”
ไอ้เชี่ยหม่า!
แกเหม่อ หาว แถมตอนผู้สมัครแนะนำตัวก็ไม่ได้ถามอะไร นี่ฉันกำลังจะรับเขาเข้าทำงานแล้ว แกเพิ่งจะมาเปิดเรซูเม่อ่านเนี่ยนะ!
แต่เผยเชียนก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาอยากให้ไอ้หม่าได้แสดงความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ จึงไม่อยากไปบังคับ
ถ้าไอ้หม่าไม่ชอบเฮ่อเต๋อเซิ่งก็จะไม่ไว้วางใจ สุดท้ายอาจจะแอบไปหาที่ปรึกษาการลงทุนคนอื่นให้มาช่วยงาน ถ้าเป็นแบบนั้นเรื่องคงจะยุ่งยากกว่าเดิม
ผู้ชายคนนี้จะมาเป็นผู้ช่วยเรื่องการลงทุนของหม่าหยาง เผยเชียนต้องนึกถึงความรู้สึกของไอ้หม่าด้วย
แต่เขาก็ไม่รู้จะพูดกล่อมหม่าหยางยังไง เลยได้แต่หันไปถามเฮ่อเต๋อเซิ่ง “คุณเก่งเรื่องอะไรบ้าง ช่วยอธิบายจุดแข็งให้ฟังหน่อย”
เฮ่อเต๋อเซิ่งคิดว่าตัวเองได้งานแล้วแน่ๆ ตอนที่เห็นสีหน้าเผยเชียน เขาไม่คิดว่าจะกลับมาอยู่จุดนี้อีก
เขารีบอธิบายเหตุผลที่ได้เข้าทำงานที่บริษัทลงทุนฟู่หุยและผลงานที่เคยทำมา
เผยเชียนไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง เขาเหลือบมองหม่าหยางแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะยังไม่พอใจอยู่ดี
แน่นอนว่าหม่าหยางต้องไม่เข้าใจที่เฮ่อเต๋อเซิ่งพูดแน่ๆ ที่ไม่พอใจก็เพราะคิดว่าตำแหน่งผู้ช่วยด้านการลงทุนเป็นแค่ตำแหน่งระดับล่าง
เผยเชียนนึกเสียใจขึ้นมา ถ้ารู้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ เขาจะแอบเปลี่ยนคำว่า ‘ผู้ช่วยด้านการลงทุน’ ในเรซูเม่ของเฮ่อเต๋อเซิ่งเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้นอย่าง ‘ผู้จัดการการลงทุน’ แทน
พอเห็นว่าหม่าหยางยังคงไม่พอใจ เผยเชียนก็รีบหาทางช่วยเฮ่อเต๋อเซิ่ง “คุณเล่าความสนใจหรือจุดแข็งอื่นๆ เพิ่มเติมได้นะ อย่างร้องเพลง เต้น เขียนนิยาย ปกติชอบเล่นเกมแนวไหน…”
เฮ่อเต๋อเซิ่งเกาหัวด้วยความงุนงง
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง เฮ่อเต๋อเซิ่งก็ถามขึ้น “แต้ม MMR 1900 ในเกม Gods Rising นี่นับมั้ยครับ”
หม่าหยางตัดสินใจทันที “สุดยอด! พี่เชียน เอาคนนี้แหละ!”
เผยเชียน “…”
เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้จะทำให้หม่าหยางเปลี่ยนใจได้
คะแนน MMR ในเกม Gods Rising มีไว้บ่งบอกความสามารถของผู้เล่น คนที่มีแต้ม 2000 ขึ้นไปถือว่ามีฝีมือระดับโปรเพลเยอร์
ถ้าเฮ่อเต๋อเซิ่งมีแต้ม MMR 1900 ก็เท่ากับว่าเขาหลับตาเล่นก็สามารถเอาชนะผู้เล่นทั่วไปได้
ผู้เล่นฝีมือเทพระดับแต้ม MMR 1900…ก็ต้องเอาชนะใจหม่าหยางได้เป็นธรรมดา
จึงไม่แปลกที่หม่าหยางจะตกลงปลงใจทันที เขาโดนตกไปด้วยแต้ม MMR 1900
ถึงเหตุผลจะบ้าบอไปหน่อย แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาตามที่เผยเชียนต้องการ
แค่ไอ้หม่าพอใจกับผู้ช่วยการลงทุนที่เขาอยากได้ เผยเชียนก็จะไม่ยุ่งเรื่องการทำงานของอีกฝ่าย
ขอแค่หม่าหยางผลาญเงินบริษัทลงทุนไปจนหมดได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่น
เผยเชียนพอใจมาก “โอเค งั้นผมฝากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งไว้กับพวกคุณด้วย ถ้าต้องการอะไรให้โทรหาผมได้ ต้องการเงินเพิ่มก็บอกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ
“หม่าหยาง อย่าลืมเคล็ดลับการลงทุนที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ล่ะ”
หม่าหยางพยักหน้ารัว “สบายใจได้เลยพี่เชียน ผมจะทำตามที่บอก!”
เผยเชียนหันไปหาเฮ่อเต๋อเซิ่ง “บริษัทลงทุนฟู่หุยให้เงินเดือนคุณเท่าไหร่”
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบบ่ายเบี่ยง “บอสเผยครับ ผมบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าผมมาที่นี่เพื่อเรียนรู้วิธีการลงทุนอันลึกล้ำของคุณ เรื่องเงินเดือน…ให้เท่าไหร่ก็ได้ครับ ผมไม่ติดอะไร”
เผยเชียนโบกมือ “บอกมาเถอะ เขาให้คุณเท่าไหร่”
เฮ่อเต๋อเซิ่ง “ประมาณแปดพันหยวนครับ เรตนี้เป็นเรตตำแหน่งผู้ช่วยด้านการลงทุน ส่วนตำแหน่งผู้จัดการด้านการลงทุน…”
เผยเชียนพูดขัดขึ้น “ผมให้คุณหมื่นหก บวกเพิ่มสี่พันเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ รวมแล้วคุณจะได้เงินสองหมื่นหยวนต่อเดือน”
เฮ่อเต๋อเซิ่งอึ้งไป “มากไปแล้วครับบอสเผย! อีกอย่างคุณไม่จำเป็นต้องให้เงินพิเศษผมด้วย…”
เผยเชียนตบบ่าอีกฝ่าย “ถือเป็นค่าชดเชยที่ต้องทนปวดหัวตอนเล่นเกมกับบอสหม่าแล้วกัน”
…
…
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เผยเชียนไม่มีอะไรทำ
เขาเปิดดูบ้านในอินเทอร์เน็ต ตั้งใจว่าจะหาบ้านดีๆ สักหลัง ซื้อสด แล้วให้พ่อแม่ย้ายไปอยู่
ส่วนที่พักของตัวเอง…
เผยเชียนเริ่มคิดเรื่องย้ายที่อยู่บ้างแล้วเหมือนกันโuเวลกูดoทคอม
แต่ที่อยู่ปัจจุบันก็สะดวกสบายอยู่แล้ว ตอนนี้เขาขี้เกียจย้ายของ เลยเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน
วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน
เลขาซินติดต่อฉางโหย่วแล้วซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับให้เสร็จสรรพ
เผยเชียนให้ความสำคัญกับการเจอกันครั้งนี้มาก
ถ้าจ้างคนเหมาะๆ มาช่วยงานได้ ในอนาคตเขาก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก!
จะว่าไป เรื่องที่ทำให้เผยเชียนหงุดหงิดใจที่สุดคือ เขามีพนักงานมากมายแต่ไม่มีใครใช้การได้เลย
บางคนตอนแรกดูเหมือนจะไว้ใจได้ แต่ผ่านไปไม่กี่เดือนก็เริ่มออกลายซ่ากันหมด
คนที่ใช้การได้จริงๆ คือหม่าหยาง แต่เจ้านั่นก็ครึ่งผีครึ่งคน
บอสเผยทุกข์ใจสุดๆ
ถ้าได้ใครสักคนที่ไว้ใจได้ เขาจะรีบโยนหน้าที่หนักๆ ให้และมอบหมายให้ดูแลทุกกิจการ!
เผยเชียนตั้งความหวังไว้มาก เขาหวังว่าฉางโหย่วจะเป็นคนคนนั้นที่ตามหามาเนิ่นนาน
…
บ่ายสอง เผยเชียนไปพบฉางโหย่วที่ห้องรับแขก
เขาได้ฟังข้อมูลรองประธานฉางมาจากเลขาซินก่อนแล้ว
ฉางโหย่วเคยเป็นรองประธานบริษัทหงเฉิงเทคโนโลยี เป็นตำแหน่งระดับสูง แต่ก็ไม่ใช่บอสบริษัท
พอบริษัทหงเฉิงเทคโนโลยีล้มละลาย บอสบริษัทก็กลายเป็นลูกหนี้ แต่ชีวิตกับหน้าที่การงานอื่นๆ ของฉางโหย่วไม่ได้รับผลกระทบ
แต่ฉางโหย่วก็ไม่ได้ดีใจ เพราะเขากลายเป็นคนตกงาน
จากที่เลขาซินเล่า รองประธานฉางเป็นคนทะเยอทะยานมาก หลังจากบริษัทหงเฉิงเทคโนโลยีล้มละลาย รองประธานฉางได้รับข้อเสนอจากหลายบริษัท แต่ก็ปฏิเสธไปหมด
เหตุผลก็เพราะไม่มีข้อเสนอไหนถูกใจเขาเลย
บางที่เป็นแค่บริษัทผู้พัฒนามือถือขนาดเล็ก ส่วนที่อื่นๆ เป็นบริษัทผลิตมือถือของเก๊
ฉางโหย่วปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดเพราะอยากทำงานในบริษัทมือถือที่เชื่อถือได้ แต่บริษัทเหล่านั้นกลับไม่สนใจเขา
ด้วยเหตุนี้ฉางโหย่วจึงยังว่างงานอยู่
เผยเชียนคิดว่าเป็นเรื่องดีทีเดียว
ปล่อยให้คนฝีมือดีแบบนี้ไปอยู่ในบริษัทผลิตมือถือเก๊ก็เสียของแย่!
นายจะแสดงความสามารถได้เต็มที่ถ้ามาทำงานให้บริษัทของฉัน!
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ประตูห้องรับแขกก็เปิดออก
เผยเชียนได้พบกับฉางโหย่วตัวจริงเป็นครั้งแรก
เขาไม่ได้สูง คร่าวๆ น่าจะไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรด้วยซ้ำ รูปร่างก็ผอมบาง ดูไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แต่รอบตัวกลับมีพลังงานบางอย่าง
“สวัสดีครับบอสเผย”
ฉางโหย่าวจับมือกับเผยเชียน เรียกได้ว่าเป็นการจับมือที่ค่อนข้างหนักแน่นเลยทีเดียว
รวมๆ แล้วหลังได้เจอฉางโหย่ว เผยเชียนคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นพวกขาลุย นอกจากนี้ยังดูเป็นคนหัวรั้นและยึดมั่นในความคิดของตัวเอง
เป็นพวกขาลุยนี่แหละเยี่ยมเลย!
จริงๆ เผยเชียนอยากได้คนอู้งานมากกว่า แต่พวกขาลุยคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งระดับบริหารจัดการแบบนี้
พวกอู้งานอาจจะผลิตสินค้าออกมาล่าช้า ส่งผลกระทบไปถึงวันปิดบัญชี
แต่พวกขาลุยจะมุ่งหน้าทำงานไม่ลืมหูลืมตา ช่วยให้เขาผลาญเงินได้เร็วขึ้น
บอสเผยรักพนักงานที่ผลาญเงินให้ได้เร็วๆ
อีกอย่างถ้าเป็นคนหัวรั้น เขาก็น่าจะทำอะไรตามความคิดตัวเอง ถ้าหนักหน่อยก็อาจจะตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ ถ้าไม่หนักมากก็อาจจะทำให้เกิดความแตกแยกในทีมบริหาร
สรุปแล้วรองประธานคนนี้นี่แหละที่เป็นคนทำให้บริษัทหงเฉิงเทคโนโลยีล้มละลาย เขาต้องมีฝีมือมากแน่ๆ ถึงทำเรื่องยิ่งใหญ่แบบนั้นได้สำเร็จ
เผยเชียนตั้งความหวังกับอีกฝ่ายไว้มาก
ทั้งสองนั่งลงในห้องรับแขก จากนั้นก็มีคนยกชามาเสิร์ฟ
เนื่องจากเป็นการพบกันครั้งแรก ทั้งคู่จึงเริ่มต้นคุยกันเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะเข้าประเด็น
“คุณฉาง ตรงๆ เลยนะครับ ผมชื่นชมความสามารถคุณมากๆ
“เถิงต๋ามีแผนจะเปิดบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยเริ่มจากการผลิตมือถือ
“ผมคิดว่าประสบการณ์อันช่ำชองของคุณมีความสำคัญมาก เข้ามารวมทีมกับผมเถอะครับ!”
ฉางโหย่วอึ้งไป เขาไม่คิดว่าบอสเผยจะตรงไปตรงมาขนาดนี้
ฉางโหย่วเป็นคนมาสมัครงาน ส่วนบอสเผยเป็นคนจ้างงาน ตามหลักแล้วฉางโหย่วต้องเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องนี้
เห็นได้ชัดว่าบอสเผยไม่ได้สนใจ-ขั้นตอน จึงแสดงออกว่าต้องการตัวเขาทันที แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ
เขาประทับใจมาก
แต่ฉางโหย่วก็ไม่ได้ด่วนตอบตกลง เขาดูลังเลใจ “บอสเผยครับ ลองคุยกันก่อนดีกว่าว่าเราคิดเห็นไปในทางเดียวกันมั้ย
“ผมมีวิสัยทัศน์ต่อความก้าวหน้าของวงการนี้เป็นของตัวเอง ผมไม่อยากให้วิสัยทัศน์ของเราไปขัดแย้งกันทีหลัง ถึงตอนนั้นจะสายเกินไป”
เผยเชียนพยักหน้า “จริงครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
“งั้นเรามาคุยกันเรื่องรายละเอียดดีกว่า
“ถ้าจะเปิดบริษัท เป้าหมายสูงสุดควรเป็นอะไรดีครับ”
ฉางโหย่วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ปัดเฉินฮว่าออกจากตลาดครับ!”