“หวงซื่อปั๋วเป็นพนักงานผู้ครบเครื่อง เขาวางแผนการทำงานและนำทางคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี มีทักษะการทำงานครบครัน เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของพนักงานที่ยอดเยี่ยม
“เปาซวี่เป็นคนที่มีบุคลิกโดดเด่น มีใจรักในเรื่องเกม แม้จะทำงานเก่ง แต่ก็เป็นคนที่เข้าสังคมไม่เก่งเท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยเก่งเรื่องการวางแผนและการเป็นผู้นำ
“หลินหวานเป็นคนที่ยึดถือในอุดมคติ ถึงจะเป็นคนที่ไม่ค่อยละเอียดรอบคอบนัก แต่ถ้าตั้งเป้าหมายไว้แล้ว ก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถจนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย
“ลู่หมิงเหลียงไม่ค่อยหนักแน่นในความคิดเห็นของตัวเองและมักจะมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจ แต่ก็เป็นคนที่ทำตามคำสั่งได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อได้รับภารกิจมาแล้ว เขาก็จะทำให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างไร้ที่ติ
“ทั้งสี่คนมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ พวกเขาต่างเคยสับสนและไม่สามารถหาทางเดินที่ถูกต้องให้ตัวเองได้
“แต่ที่เถิงต๋า พวกเขาแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่
“หวงซื่อปั๋วผู้เก่งรอบด้านดูแลกิจการเฟยหวงสตูดิโอ เขากลายเป็นผู้นำได้ในเวลาไม่นาน
“เปาซวี่ที่คอยพัฒนาเกมให้ดีขึ้นอยู่ตลอดยังทำงานอยู่ที่เถิงต๋า เขาใช้ประสบการณ์การเล่นเกมที่สั่งสมมานานนำทางทุกโปรเจ็กต์สู่ความสำเร็จ
“หลินหวานผู้ยึดมั่นในอุดมคติย้ายไปฉางหยางเกมส์ เธอเปลี่ยนเกมที่คอยสูบเงินให้กลายเป็นเกมที่เป็นมิตรต่อผู้เล่นและเชื่อมโลกเกมเล่นบนเว็บและเกมมือถือเข้าไว้ด้วยกัน
“ลู่หมิงเหลียงที่โดดเด่นเรื่องการทำงานหยุดเส้นทางวงการเกมหลังความสำเร็จของเกมนักออกแบบเกม เขาย้ายไปดูแลนี่เฟิงโลจิสติกส์ของเถิงต๋าที่ต้องมีพร้อมทั้งความอดทนและความใส่ใจในรายละเอียด
“ดาวเด่นทั้งสี่ดวงมีบุคลิกแตกต่างกันไป พวกเขาจะส่องแสงได้ก็ต่อเมื่อได้อยู่ในตำแหน่งที่จะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่
“สิ่งนี้อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เถิงต๋าประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว!”
…
ถึงหม่าหยางจะเป็นมือขวาของเผยเชียน หรือก็คือพนักงานที่บอสเผยวางใจที่สุด แต่เขาไม่ได้ให้สัมภาษณ์
เหตุผลก็เพราะเผยเชียนกลัวว่าหม่าหยางจะฉลาดไม่พอแล้วหลุดพูดอะไรออกไป อีกอย่างถ้าคนอื่นรู้ว่าหม่าหยางกับเผยเชียนเป็นรูมเมตกัน ตัวตนของเขาอาจโดนเปิดโปงได้
แต่บทสัมภาษณ์ของพนักงานทั้งสี่คนก็ทำให้เผยเชียนต้องปวดหัวหนักอยู่ดี!
ในที่สุดเผยเชียนก็เข้าใจแผนการของซย่าเจียง
ทั้งสี่บทสัมภาษณ์ไม่มีการพูดถึง ‘บอสเผย’ ก็จริง แต่ถ้าตั้งใจฟังการสัมภาษณ์ดีๆ ก็จะรู้ว่ามี ‘ผู้อยู่เบื้องหลัง’ อยู่ทุกๆ ประโยค
ใครเป็นคนชี้ทางที่ถูกต้องให้พนักงานผู้โดดเด่นกลุ่มนี้
ใครเป็นคนมอบตำแหน่งที่เหมาะสมให้พนักงานกลุ่มนี้
ใครเป็นคนสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและมีอิสระ
ใครเป็นคนวางทิศทางการดำเนินงานของเถิงต๋าและกลยุทธ์การทำธุรกิจ
แน่นอนว่าก็ต้องเป็นบอสของเถิงต๋า!
ดังนั้นถึงเบื้องหน้าบทสัมภาษณ์จะฟังดูเหมือนกำลังยกย่องพนักงานของเถิงต๋าอยู่ แต่จริงๆ แล้วกำลังยกย่องบอสของเถิงต๋าอยู่ต่างหาก!
ก็เหมือนเรื่องราวของเหล่าคนสำคัญในสมัยราชวงศ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เหล่าขุนนางผู้กล้าเตือนสติในราชสำนัก แม่ทัพผู้เก่งกาจกล้าหาญและเป็นที่เคารพในหมู่คนเถื่อนสี่ทิศ
เรื่องราวเหล่านี้เป็นการสรรเสริญขุนนางผู้ปราดเปรื่องและแม่ทัพมากความสามารถหรือเปล่า
ทั้งใช่และไม่
สุดท้ายความสำเร็จของพวกเขาก็มาจากความปรีชาสามารถของฮ่องเต้!
ฮ่องเต้เป็นคนดูแลส่งเสริมขุนนางและแม่ทัพเหล่านี้ และมอบตำแหน่งที่เหมาะสมให้พวกเขาได้รับใช้และนำพาประเทศสู่ความรุ่งเรือง
ถ้าฮ่องเต้เป็นคนเขลา ถึงมีคนเก่งอยู่ในประเทศมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ สุดท้ายก็จะโดนพวกเหลี่ยมจัดแย่งโอกาสไป จากนั้นราชวงศ์ที่รุ่งเรืองก็จะพลิกผัน!
บทสัมภาษณ์นี้ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จลุล่วง
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น
ช่วงท้ายบทสัมภาษณ์มีเนื้อหาอีกเล็กน้อย
“ผู้เขียนได้ใช้เทคนิค ‘ช่องว่าง’ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นถึงตัวตนของนักออกแบบเกมดาวเด่นที่เป็นตัวเอกของบทสัมภาษณ์นี้
“ผู้อ่านน่าจะพอเห็นภาพคร่าวๆ ของบุคคลนี้แล้ว
“ผู้เขียนตั้งใจจะสัมภาษณ์บุคคลดังกล่าวในเบื้องลึกเพื่อนำเสนอจิตวิญญาณของเขา
“แต่เขากลับบอกว่าพนักงานของเถิงต๋าควรจะได้รับการยกย่อง
“เขายกความดีความชอบทั้งหมดให้ความขยันขันแข็งของพนักงาน ตัวเขานั้นแค่ทำตามหน้าที่ของตัวเอง
“เพื่อสื่อให้เห็นความคิดของบุคคลนี้ได้ถูกต้องยิ่งขึ้น เราขอยกบางช่วงบางตอนของบทสัมภาษณ์มานำเสนอ หวังว่าผู้อ่านจะเห็นภาพของบุคคลท่านนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“‘ผมด่วนตัดสินใจไปหน่อย ผมเสียดายมากๆ ที่ตัดสินใจไปอย่างนั้น ถ้าเป็นไปได้อยากเลือกวงการอื่นมากกว่า’
‘จริงๆ แล้วผมไม่สนเรื่องทำกำไรเลย ผมไม่เคยคิดเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างชื่อเสียงกับกำไรด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้เพราะอะไร พอชื่อเสียงของเถิงต๋ามากขึ้น ยอดขายก็สูงขึ้นตาม เราเลยทำกำไรได้ พวกเราได้กำไรจนถือว่ามากเกินพอแล้วครับ’
‘เป้าหมายของผมไม่เคยเปลี่ยน ผมอยากสร้างเกมที่ขาดทุนมาตลอด’
‘ผมไม่คิดว่าเกมจะถูกตีความไปไกลขนาดนั้น ผมแค่อยากทรมานผู้เล่นเฉยๆ ผมมีนิสัยเสียชอบเห็นผู้เล่นทรมาน’
“นี่คือคำพูดที่ออกมาจากใจจริงระหว่างสัมภาษณ์โดยไม่ได้แต่งเติมอะไร
“แต่เราพบว่าเขาเองก็เล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งจนจบเหมือนกัน พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าเบื้องหลังการวางตัวที่เฮฮาและเป็นกันเองนั้นมีจิตวิญญาณที่ขยันหมั่นเพียรพร้อมอุทิศตนอยู่
“นอกจากนั้นบุคคลท่านนี้ยังเป็นคนที่ยุ่งมากๆ มีตารางงานที่แน่นเอี้ยดทุกวัน แต่ยังหาพลังมาทำงานอย่างตั้งใจได้ไม่ลดละ
“สิ่งเหล่านี้อาจมีรากฐานมาจากความชื่นชอบกิจกรรมผาดโผน
“เขาไม่เคยอวดอ้างความสำเร็จของตัวเอง แต่กลับคอยท้าทายตัวเองให้ก้าวผ่านขีดจำกัดที่มีไปเรื่อยๆ
“สุดท้ายนี้ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคหนึ่ง
“เมืองจิงโจวและอุตสาหกรรมเกมในประเทศนั้นโชคดีมากๆ ที่ได้อ้าแขนต้อนรับนักออกแบบเกมผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ผู้ประกอบการที่เก่งกาจ และบอสผู้จิตใจดีงามท่านนี้!”
…
…
เผยเชียนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว
อวยไส้แตกฉิบหายเลยโว้ย!
เผยเชียนไม่คิดเลยว่าบทสัมภาษณ์จะออกมาแบบนี้ มันเกินจากที่คิดไปมาก!
ถึงเผยเชียนจะเค้นหัวคิดแค่ไหนก็ไม่มีทางนึกได้ว่าซย่าเจียงจะเขียนบทสัมภาษณ์แบบนี้ขึ้นมา!
บทสัมภาษณ์นี้ลงในหน้าหลักของแพลตฟอร์มเกมทางการ เนื่องจากไม่ได้ลงในเว็บอ้ายลี่เต่าจึงไม่มีคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอ
แต่ยังมีช่องคอมเมนต์ด้านล่าง ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
“แพลตฟอร์มเกมทางการมาจิงโจวบ้านฉันด้วยเหรอ”
“พวกเขาได้สัมภาษณ์เถิงต๋าจริงๆ! ไหนดูซิว่าผู้สร้างเกมกลับใจคือฟากฝั่งหน้าตาเป็นยังไง!”
“โห พนักงานเถิงต๋ามีแต่คนเก่งๆ บางคนไปขุดมาจากบริษัทอื่น บางคนเข้ามาสมัครเอง มีถึงขนาดไปลากตัวเด็กติดเกมมาจากร้านอินเทอร์เน็ตด้วย!”
“ขอให้เด็กติดเกมมาช่วยวางคอนเซ็ปต์เกมให้เหรอ เป็นวิธีหาพนักงานที่ไม่เหมือนใครสุดๆ!”
“เชี่ย เบิ้ลเงินเดือนเริ่มต้นให้หวงซื่อปั๋วเลยเหรอ ในโลกนี้มีบริษัทที่เสนอเงินเดือนเพิ่มให้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ด้วยเหรอ ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย”
“ให้หัวหน้าฝ่ายวางแผนที่ทำเกมดังเป็นพลุแตกไปเปิดกิจการใหม่เหรอ! ปกติต้องเร่งให้ไปพัฒนาเกมใหม่สิ!!!”
“พนักงานดีเด่นของเถิงต๋าได้ทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนกับทริปเที่ยวฟรีหนึ่งเดือนเต็มเหรอ โคตรโหด นี่มันบริษัทอะไรกันเนี่ย! ถ้าไม่ใช่บทสัมภาษณ์ของแพลตฟอร์มเกมทางการ ฉันคงคิดว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทลวงโลก!”
“ไอ้เกมมือถือเพลงรบโลหิตเถิงต๋าก็เป็นคนทำเหรอเนี่ย! ก็ว่าอยู่ว่าทำไมเป็นมิตรกับผู้เล่นเหมือนเกมแม่ทัพผีเลย!”
“แสดงว่าโฆษณาจ๋าจูถี เถิงต๋าก็เป็นคนทำสิ ตายแล้ว ตอนแรกฉันยังล้อเกมนี้อยู่เลย ไม่คิดเลยว่าเถิงต๋าจะเป็นคนสร้าง!”
“เกมเพลงรบโลหิตกลับมาเกิดใหม่ได้เพราะเถิงต๋า! ทำไมนักออกแบบเกมคนนึงถึงทำอะไรได้ขนาดนี้นะ!”
“แบบนี้บอสผู้อยู่เบื้องหลังพนักงานเถิงต๋าก็ยิ่งลึกลับกว่าเดิมน่ะสิ สังเกตกันรึเปล่าว่าเขาเป็นคนชี้นำแนวทางให้เกมและกิจการต่างๆ แถมยังเป็นคนวางเงินเดือนกับสวัสดิการดีๆ อีก บอสของเถิงต๋าคือจิตวิญญาณของบริษัท!”
“อย่าห้ามฉัน ฉันจะไปสมัครงานที่เถิงต๋า!”
“ไม่คิดเลยว่าองค์กรดีๆ แบบนี้จะตั้งอยู่ในเมืองระดับสองอย่างจิงโจว ฉันคิดมาตลอดว่ากิจการเล็กๆ ในเมืองระดับสองตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกลวงคนอื่น ”
“อิจฉาชาวจิงโจวมาก มีนี่เฟิงโลจิสติกส์ส่งพัสดุถึงหน้าบ้าน อยากเล่นเกมบนคอมสเป็กสูงในที่บรรยากาศดีๆ ก็ไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แถมยังสั่งอาหารเฮลตี้จากโมหยูเดลิเวอรี่ได้อีก…เฮ้อ ย้ายไปจิงโจวตอนนี้ยังทันมั้ยนะ”
“แทนที่จะให้ความสำคัญกับเกมอย่างเดียว แต่บริษัทนี้กลับลงทุนในอุตสาหกรรมหน้าร้านด้วย นี่ตั้งใจจะผลาญเงินทุนให้หมดเหรอ ไม่กลัวขาดทุนเลยรึไง”
“เขาก็บอกอยู่ว่าเป้าหมายคือสร้างเกมที่ขาดทุน เหอะๆ”
“ตอนฟังสัมภาษณ์เปาซวี่ ฉันคิดว่าเขาน่าจะพูดเอาหน้าเฉยๆ ใครมันจะ ‘ไม่อยากได้ทริปเที่ยวฟรี’ กัน แต่พอได้ฟังคำพูดของบอสเถิงต๋าก็เข้าใจว่าไปได้ทัศนคตินี้มาจากไหน เรื่องพูดเอาหน้าเนี่ย เปาซวี่สิบคนยังสู้บอสเขาไม่ได้เลย!”
“เสียใจที่เข้าสู่วงการเกม ยอดขายพุ่งขึ้นได้ไงไม่รู้ นิสัยไม่ดีคือชอบทรมานผู้เล่น… ไอ้เชี่ยนี่มันเป็นจักรกลคนอวดเบ่งทำงานเต็ม 24 ชั่วโมง!”
“เสียดายไม่เห็นหน้าไอ้ขี้โม้”
“นี่คือการโม้ความสำเร็จที่ล้ำมากๆ เพราะชื่อเสียงอยู่ไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่ตลอดไป”
“จำได้ว่ามีบทสัมภาษณ์คล้ายๆ กันของ Playtime หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ เห็นว่าบอสบริษัทนี้ชื่อบอสเผย ชื่อเดียวกับบอสในซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยเลย ซีรีส์นั่นก็น่าจะสร้างจากเรื่องของหมอนี่”
“จริงด้วย บทสัมภาษณ์นี้เหมือนบทสัมภาษณ์ของ Playtime มาก เนื้อหาเดียวกันเลย แต่มีรายละเอียดเยอะกว่าและน่าเชื่อถือมากกว่า”
“ตอนนั้นฉันคิดว่าบริษัทเอาเงินยัดใต้โต๊ะให้ Playtime เขียนบทสัมภาษณ์ให้ แต่แพลตฟอร์มเกมทางการกลับออกมาพูดเหมือนกัน สรุปคือเรื่องจริงเหรอ”
“สรุปแล้วถึงจะยังถกเถียงกันอยู่ว่าใครคือนักออกแบบเกมที่ดีที่สุดในประเทศ แต่ถ้าเป็นนักออกแบบเกมที่ขี้โม้ที่สุดก็ไม่ต้องเถียงกันเลย เพราะตำแหน่งนี้ต้องให้บอสเผยเขาแหละ!”
…
…
เผยเชียนนิ่งไปหลังจากได้อ่านคอมเมนต์ด้านล่าง
พวกแกเข้าใจฉันผิดไปแล้ว!
เผยเชียนไม่คิดเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นคนขี้อวดไปได้
ฉันพยายามไม่ทำตัวเด่น ทำไมคนยังเข้าใจฉันผิดอีก
แถมที่พูดไปก็เรื่องจริง ทุกคำกลั่นกรองออกมาจากใจ ถึงซย่าเจียงจะไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมพวกแกกลับไม่เชื่อฉันเหมือนกันล่ะ
ถึงจะเคยมีบทสัมภาษณ์คล้ายๆ กันออกมาก่อน แต่รอบนี้ไม่เหมือนกัน!
Playtime ไม่ได้ดังมาก
บทสัมภาษณ์รอบก่อนไม่มีรูปหรือคลิป ไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื้อหามาจากแหล่งข้อมูลไม่ทราบที่มา
ดังนั้นถึงจะปล่อยบทสัมภาษณ์ออกไปก็สร้างกระแสอะไรไม่ได้มาก หลายคนแค่หัวเราะแล้วก็ลืมไปว่าเคยอ่าน ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร
แต่รอบนี้ไม่เหมือนกัน
ทีมสัมภาษณ์รอบนี้มีแพลตฟอร์มเกมทางการอยู่เบื้องหลัง แสดงว่าบทสัมภาษณ์ที่ปล่อยออกมานั้นมีความน่าเชื่อถือสูง!
แถมในบทสัมภาษณ์ยังมีทั้งคลิปและรูป คลิปคือตัวช่วยทำให้บทสัมภาษณ์น่าเชื่อถือมากขึ้น!
เผยเชียนนึกภาพบทสัมภาษณ์แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วกลัวขึ้นมาว่าจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น
เขาเอนตัวพิงเก้าอี้แล้วยกมือวางบนหน้าผาก
“นี่ฉันทำอะไรลงไป…”