📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 5 ตอนที่ 308

บทที่ 308 - ฟื้นกลับในอาณาวายุ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เมื่อหนึ่งปีก่อน เย่หวูเฉินเคยเป็นคนพิการจริงๆ พลังในร่างเหือดแห้งจนแทบไม่อาจดูดซับจิตปราณจากธรรมชาติได้ ราวตะเกียงไฟที่ไร้น้ำมัน ทว่าในอาณาวายุต้องห้ามใต้หุบเหวปลิดญาณ เมื่อเขาเดินเข้าไป วายุธาตุที่อัดแน่นก็ไหลทะลักเข้าสู่ร่างของเขาอย่างบ้าคลั่ง วายุเป็นหนึ่งในจิตวิญญาณแห่งสวรรค์และปฐพี ด้วยความหนาแน่นถึงขีดสุด ทำให้ความเร็วในการดูดซับน่ากลัวอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับการดูดซับพลังอัคคีจากมังกรเพลิงฟ้าก่อนหน้านั้น นับว่าครั้งนี้รวดเร็วกว่าถึงร้อยเท่า ดังนั้น ภายใต้พลังอันมหาศาล ร่างกายของเขาจึงไม่อาจแบกรับพลังและเกิดการทะลวง เพียงพริบตาวายุธาตุก็ไหลรวมอยู่ในร่างกาย ทำให้พลังหวูเฉินที่นิ่งงันมานานเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เขาค่อยๆรู้สึกกลายเป็นหนึ่งเดียวกับวายุที่รายล้อมอยู่ในอาณาต้องห้าม

ดังนั้น พลังที่เสื่อมสูญจึงฟื้นกลับอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงพลังที่ฟื้นฟูเท่านั้น หากยังทำให้เขาทะลวงผ่านพลังหวูเฉินขั้นที่สาม ก้าวเข้าสู่ขอบเขตพลังขั้นที่สี่ ด้วยพลังหวูเฉินที่ฟื้นกลับคืนมา พลังอัคคีที่รับมาจากมังกรเพลิงฟ้าจึงได้ตื่นขึ้น ตอนนี้เขาทรงพลังเพราะพลังหวูเฉินอันแกร่งกล้า ขณะเดียวกัน พลังแห่งวายุธาตุที่เคยฝืนใช้ก็ได้ตื่นขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยพลังหวูเฉินในร่างตอนนี้ถูกสร้างจากพลังวายุ ทำให้เขาสามารถเคลื่อนพลังวายุได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในควบรวม , ความบริสุทธิ์หรืออานุภาพ สิ่งเหล่านี้ล้วนเหนือล้ำกว่านักเวทย์ลมที่อยู่ในระดับเดียวกัน

ความน่ากลัวของขอบคมวายุคือสามารถสังหารผู้คนได้ในพริบตา เป็นประดุจดั่งหัตถ์มัจจุราช ผลลัพธ์จึงกลายเป็นข่าวลือที่ว่าใต้น้ำมือจักรพรรดิมารย่อมไร้เศษซาก

เมื่อครั้งที่เซียงเซียงต่อสู้กับทงซิน ตอนนั้นเย่หวูเฉินกับหนิงเสวี่ยถูกส่งไปยังมิติวิญญาณอันประหลาด พลังของเซียงเซียงถูกใช้ไปหมดสิ้น นางผูกชะตาเข้ากับเย่หวูเฉินด้วยวิธีลึกลับ ยอมรับเขาเป็นเจ้านาย พลังของนางจึงเชื่อมโยงและพัฒนาขึ้นพร้อมเขา เมื่อสามปีก่อน หายนะครั้งนั้นทำให้พลังของเย่หวูเฉินสิ้นสูญ เซียงเซียงที่พลังต่ำเตี้ยอยู่แล้วไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทว่าเมื่อเย่หวูเฉินได้รับพลังคืนกลับและยังเพิ่มขึ้นอีกขอบเขตใหญ่ พลังของนางจึงเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน ที่จริงการเชื่อมโยงทางพลังนั้นไม่อาจเป็นไปได้ ทว่าด้วยอำนาจไร้สิ้นสุดของพลังหวูเฉินทำให้เรื่องลึกลับนี้เกิดขึ้นกับเซียงเซียง

ธาตุพลังของนางคือมิติ เมื่อเซียงเซียงสำแดงพลังออกมา เย่หวูเฉินก็จำได้ทันทีว่านางเคยใช้การเคลื่อนตัดมิติตอนที่หลบเลี่ยงการโจมตีของทงซิน รวมถึงการนำเขากับหนิงเสวี่ยเข้าสู่มิติวิญญาณ

ทว่าน่าผิดหวังเล็กน้อย พลังมิติของนางไม่อาจใช้จู่โจม ทำได้เพียงการเคลื่อนย้ายเท่านั้น และแม้ตอนนี้นางจะเป็นอสูรสวรรค์ แต่การโจมตีของนางก็ทำได้เพียงใช้ร่างกายปะทะ เหมือนเช่นตอนที่นางสู้กับทงซิน

ฟังคำอธิบายสรุปของเย่หวูเฉิน ฉู่จิงเทียนใช้สมองกล้ามเนื้อเค้นคิดตามก็ยังไม่อาจเข้าใจ เขาถามคำถามเพิ่ม “อยากไปไหน ก็ไปได้เลยอย่างงั้นเหรอ?”

เย่หวูเฉินยิ้มตอบอย่างสงบ เขาสั่นศีรษะกล่าว “พลังมิติของเซียงเซียง กล่าวโดยสรุปคือการสับเปลี่ยนตำแหน่ง จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งในพริบตา เพิกเฉยต่อระยะทางและสิ่งขวางกั้น ดังนั้น สถานที่ที่จะไปได้นั้นเซียงเซียงต้องเคยไปมาก่อน มิเช่นนั้นก็ไม่อาจไปถึง และพลังมิตินี้ยังสูบกลืนพลังอย่างมาก ด้วยพลังของเซียงเซียงในยามนี้ การสลับตำแหน่งไปยังสถานห่างไกลมากๆ ทำให้นางต้องพักฟื้นพลังเป็นเวลานานทุกครั้ง”

การเคลื่อนผ่านมิตินั้นยากที่จะควบคุม หากเป็นเพียงตัวนางย่อมไม่นับเป็นปัญหา แต่ถ้ามีคนอื่นด้วย ตอนนี้เซียงเซียงสามารถเคลื่อนย้ายได้ราว 20 – 30 คน

“เอาละๆ พี่นายท่าน อย่ามัวแต่พูดกับเจ้าวัวถึกโง่เง่านี่อีกเลย สีหน้าของท่านดีขึ้นแล้ว พวกเราไปเล่นกับพี่หญิงกันดีมั้ย? ฮิ ฮิ” เหยียนกงรั่วเขย่าแขนเย่หวูเฉินเบาๆ ขณะยิ้มกล่าว

ฉู่จิงเทียนพอถูกเรียกว่า “วัวถึกโง่เง่า” ก็หน้าแดงก่ำ ทว่าเขาไม่อาจโกรธได้ สำหรับคนที่เพิ่งออกมาเผชิญโลก สตรีนับเป็นสิ่งที่รับมือยากที่สุดสำหรับเขา

“อืม พวกเราไปหาพี่หญิงเอ้อหยากัน”

ทางใต้ของเมืองเทียนฟง สถานที่งดงามใกล้กับเขตรอยต่อระหว่างอาณาจักรต้าฟงกับอาณาจักรเทียนหลง

“พี่หญิงเยว่ ท่านปล่อยข้าไปเถอะนะ ท่านพ่อต้องเป็นห่วงข้ามากๆแน่”
(โน๊ต : เอ้อหยา ชื่อจริงว่า เหยียนกงเยว่)

คำตอบที่ได้รับจากสตรีที่เรียกว่า “พี่หญิงเยว่” ยังคงเป็นการส่ายศีรษะอย่างนุ่มนวล

นี่คือห้องที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมหวานของสตรีและผงธูป เป็นหญิงสาวที่สง่างามและอ่อนโยนผู้หนึ่งนั่งบนเตียงเคียงข้างอีกหนึ่งสตรีผู้มีใบหน้าเว้าวอนเหมือนจะร้องไห้ นางสวมชุดกระโปรงแดงถือแปรงชาดจุ่มลงในน้ำยาดอกไม้หอมวาดเล็บให้อีกคน กระทำอย่างอ่อนโยนและใส่ใจ แม้นางจะนั่งอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความสง่างามและวงโค้งของเรือนกายรวมทั้งแขนขาวนิ่มนวลราวกับหยก กลีบฝีปากนุ่มเนียมราวกับมุกทำให้อดไม่ได้ที่จะสัมผัส นางคือเหยียนกงเยว่ที่มาอยู่ที่นี่ได้นานแล้ว ส่วนหญิงสาวอีกคนคือเยว่ซือฉี ที่เย่หวูเฉินพาตัวมาให้นาง

สำหรับเหยียนกงเยว่แล้ว เย่หวูเฉินเป็นดั่งสวรรค์ ไม่ว่าเขาจะพูดหรือสั่งสิ่งใด นางจะฟังคำและทำตามโดยไม่อิดออด ทว่าคราวนี้เห็นได้ชัดว่านางเข้าใจผิดไปมาก เมื่อเย่หวูเฉินพาเยว่ซือฉีมาที่นี่และให้นางดูแล นางเข้าใจว่าไม่อาจปล่อยให้ซือฉีหนีไป และจิตนาการเอาเองว่าเขาอยากรวบรวมสาวสวยไว้เป็นของตัวเอง เป็นสัตว์เลี้ยงส่วนตัว ดังนั้นนางจึงพิถีพันพิถันดูแลซือฉีเหมือนพี่สาว คอยจัดการแต่งกายให้สวยงามเพื่อให้เย่หวูเฉินพึงพอใจ มีความสุขกระทั่งกับการผูกผมและทาสีเล็บให้กับนาง ไม่ว่าหญิงสาวผู้นี้จะเป็นใคร หรือถูกเขาลักตัวมาก็ล้วนไม่ใช่เรื่องสำคัญ

พอทาเล็บเสร็จ เหยียนกงเยว่ก็วางกล่องน้ำยาดอกไม้หอมลง เยว่ซือฉีไม่มีอารมณ์เพลิดเพลินกับสีเล็บตนเอง นางกุมชายเสื้อตัวเองและอ้อนวอนอีกครั้ง “พี่หญิงเยว่ หากไม่อาจปล่อยข้าออกไปได้ โปรดส่งคนไปบอกตระกูลข้า ว่าข้าปลอดภัยดี ข้าขอร้องนะพี่หญิงเยว่ ท่านพ่อจะต้องเป็นห่วงข้าแทบตายแน่”

เหยียนกงเยว่ดีต่อนางมาก ไม่เพียงไม่รังแกนาง แต่ยังช่วยเหลือในทุกสิ่ง คอยอยู่ดูแลเหมือนเป็นพี่สาว ไม่ว่านางอยากทานหรือต้องการสิ่งใดนางก็จะหามาให้ ทว่ามีเพียงการปล่อยนางไปเท่านั้น ที่เหยียนกงเยว่จะปฏิเสธโดยไม่ลังเล

เหยียนกงเยว่ไม่ตอบคำนาง ถือกล่องน้ำยาดอกไม้หอมขึ้นมาใหม่และกล่าวอ่อนโยน “ฉีฉี เจ้าหิวหรือยัง? อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม?” ขณะที่กล่าวคำสายตาก็เหลือบไปด้านข้าง มองไปยังทางเข้าเล็กน้อย

ประตูที่ไม่ได้ลงกลอนถูกผลักเปิด เผยให้เห็นจักรพรรดิมารในชุดเงินและหน้ากากเงิน เหยียนกงรั่วยืนอยู่ด้านข้างเขา เกาะหนึบยิ้มแฉ่งเหมือนร้อยบุปผาเบ่งบาน คั้นคิ้วโค้งเรียวขณะส่งยิ้มให้เหยียนกงเยว่

“เจ้านาย” หัวใจของเหยียนกงเยว่เต็มไปด้วยความสุขลึกซึ้ง ก้าวเท้าเบาเข้าไปหาและเรียกเขา หากนางกลับต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเยว่ซือฉีเดินมาอยู่ด้านหน้าจักรพรรดิมารอย่างรวดเร็ว นางรวบรวมความกล้าและกล่าวอย่างกังวล “ท่านจะปล่อยข้ากลับไปเมื่อไหร่?”

ที่แห่งนี่นางไม่ได้รับความทุกข์ทรมานใดๆ เหมือนกับที่จักรพรรดิมารได้กล่าวในวันนั้น ทำให้ความกลัวของนางต่อจักรพรรดิมารลดลงอย่างมาก

“โอ้?” จักรพรรดิมารเคลื่อนสายตามองนาง “ดูเจ้างดงามกว่าวันแรกๆที่มาถึง ในเมื่ออยู่ที่นี่สุขสบาย เหตุใดถึงรีบกลับนัก?”

สายตาของเขาทำให้นางรู้สึกเย็นเยือกไปทั่วร่างด้วยความกลัว เป็นความรู้สึกราวกับว่านางยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา นางยกแขนสองข้างขึ้นป้องอกโดยไม่รู้ตัว ขยับเท้าถอยไปเล็กน้อยก้าวหนึ่ง ด้วยความอับอายและคับข้องใจ ตอนนี้ดวงตานางเริ่มมีม่านน้ำบางๆ

คุณหนูแห่งตระกูลชั้นสูง ถึงจุดนี้ย่อมมีความคับข้องใจ….จักรพรรดิมารได้แต่ลอบยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขากล่าว “เจ้าวางใจเถอะ ในวันที่บิดาเจ้านำทัพบุกสู่อาณาจักรเทียนหลง จักรพรรดิผู้นี้จะปล่อยเจ้ากลับในสภาพสมบูรณ์”

“นี่….ท่านจะทำอะไรกับพ่อข้า?” เยว่ซือฉีเป็นคนฉลาด ถ้อยคำของจักรพรรดิมารไม่เพียงทำให้นางไม่อาจผ่อนคลาย ทั้งยังทำให้นางหัวใจแตกตื่น จิตใต้สำนึกบอกนางว่าเป้าหมายที่จักรพรรดิมารพาตัวนางมาที่นี่ คือเพื่อใช้นางรับมือกับบิดาตน

“ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่…. เจ้าช่างไร้เดียงสาจริงๆ หากจักรพรรดิผู้นี้ต้องการเอาชีวิตของบิดาเจ้า เขาคงตายไปแล้วนับร้อยครั้ง จักรพรรดิผู้นี้รู้ว่าผู้คนล้วนแต่มีจุดอ่อนเป็นของตัวเอง และจักรพรรดิผู้นี้เพียงใช้เขาเป็นตัวหมากสำคัญโดยใช้จุดอ่อนของเขา” จักรพรรดิมารกล่าวราบเรียบ

“ท่านจะให้พ่อข้าทำอะไร….หากท่านกล้าทำร้ายพ่อของข้าละก็ ข้า…. ข้า….”

“เจ้าจะทำอะไร?” จักรพรรดิมารมองใบหน้างดงามที่กระวนกระวายและแดงฝาด เขากล่าวอย่างนึกสนุก

“ข้า….ข้าจะไม่มีวันให้อภัยท่าน” เยว่ซือฉีเม้มริมฝีปาก ตะโกนกล่าวคำที่ไร้ความคุกคามแม้แต่น้อย

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” จักรพรรดิมารหัวเราะร่วน จากนั้นเดินผ่านนางอย่างไม่สนใจไปที่เหยียนกงเยว่ “เราทั้งสองคือคนที่อยู่ต่างโลกกัน เมื่อเจ้ากลับบ้านไปแล้ว เจ้ากับข้าจะไม่ได้พบกันอีก ฉะนั้น เจ้าจะอภัยข้าหรือไม่ล้วนไม่สำคัญต่อข้า”

เขายื่นมือออกลูบสัมผัสใบหน้าเหยียนกงเยว่ ทว่าเพียงยื่นออกไปได้กึ่งหนึ่งก็พลันหยุด เขาใช้มือซ้ายถอดถุงมือขวาออก จากนั้นลูบใบหน้างดงามอย่างอ่อนโยน เขากล่าว “อย่าปล่อยให้ตัวเองเหน็ดเหนื่อย ไม่งั้นข้าจะไม่สบายใจ รู้มั้ย?”

“อืม ทุกวันนี้ข้าไม่เหนื่อยเลย” เหยียนกงเยว่ก้าวมาข้างหน้าเล็กน้อย พิงกายอยู่ที่อกเขา

เยว่ซือฉีประหลาดใจ ข้างนอกนั่นจักรพรรดิมารมีชื่อเสียงน่ากลัวกว่าปีศาจ ทว่าตอนนี้ทั้งน้ำเสียงและการกระทำของจักรพรรดิมาร….กลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ทำให้นางแทบไม่อาจรับได้ ความรู้สึกต่อจักรพรรดิมารที่คล้ายซ้บซ้อน ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก ตอนนี้ในใจได้แต่ถามซ้ำๆ….เขาเป็นใคร และเป็นคนแบบไหนกันแน่?

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset