📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 647

บทที่ 647 - สามหมัด
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เหนือทะเลหมอก

ด้วยการปรากฏตัวของชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงิน ผู้เฒ่าเครายาวและซั่วเหมิงจึงถอยกลับไปอยู่ที่ด้านข้างของรถม้า

ซูอี้ไม่สนใจการกระทำของทั้งสอง

เขามองไปยังชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินแล้ว และรับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าอีกฝ่ายคือตัวตนซึ่งอยู่ในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นกลาง

แต่ทว่ากลิ่นอายของอีกฝ่ายกลับคลุมเครือและแปลกประหลาดอย่างยิ่ง

เช่นเดียวกับภูเขาไฟที่ยังเงียบสงบ ไม่มีใครสามารถแน่ใจได้ว่ามันจะระเบิดปะทุขึ้นเมื่อใดและก่อให้เกิดการทำลายล้างมากน้อยเพียงใด

จากนั้นเมื่อเบนสายตาไปมองหญิงสาวในชุดกระโปรงสีเหลืองที่อยู่ข้างชายหนุ่มชุดสีเงิน ซูอี้ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ตาสีม่วง หูแหลม กลิ่นอายอันมีเสน่ห์เย้ายวน นี่มันจิ้งจอกม่วงชัด ๆ!

ในบรรดาตระกูลจิ้งจอก ตระกูลจิ้งจอกจันทราม่วง ตระกูลจิ้งจอกบรรพตขจี และตระกูลจิ้งจอกเพลิงพิสุทธิ์ถูกเรียกว่า ‘สามเชื้อสายจิ้งจอกอมตะ’ พวกเขาคือสามอันดับแรกของตระกูลจิ้งจอกทั้งหมด

ในหมู่พวกเขา กลุ่มจิ้งจอกจันทราม่วงเกิดมาพร้อมกับดวงตาสีม่วง หูแหลม มีเสน่ห์เย้ายวนตั้งแต่แรกกำเนิดและเชี่ยวชาญการใช้ทักษะมายาชั้นสูง เช่น ‘สุคนธ์มารกร่อนกระดูก’ ซึ่งมีอำนาจมหาศาล

หากประมาทแม้เพียงเล็กน้อย แม้แต่หลวงจีนผู้ซึ่งบำเพ็ญเพียรมาช้านาน มีหัวใจพุทธะแน่วแน่แข็งแกร่งดุจหินผาก็อาจจะตกเข้าไปในมายาแห่งความปรารถนาอันไร้ขอบเขต หลงระเริง สับสนจนกลายเป็นเหยื่อของเผ่าจิ้งจอกจันทราม่วงไม่ต่างจากหุ่นเชิด

‘ขนของเผ่าจิ้งจอกจันทราม่วงนั้นเนียนนุ่มและนุ่งห่มสบายกายยิ่ง แต่น่าเสียดายที่มันมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งไม่อาจลบล้าง ไม่เช่นนั้นข้าคงจะนำมันมาวางคลุมเก้าอี้หวายของข้าเสียหน่อย’

ซูอี้รู้สึกเสียดาย

หากทุกคนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้ คงจะอ้าปากค้างเบิกดวงตากว้างกันเป็นแน่

“ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นท้าทายสวรรค์ยิ่ง แต่ทว่าข้ากลับไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเจ้ามาก่อนเลย ขอบังอาจถามได้หรือไม่ว่าเจ้ามีชื่อแซ่ว่าอันใด?”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินเอ่ยถามเสียงดังจากระยะไกล

แม้ผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากของเขาจะเพิ่งถูกสังหารไป แต่ในขณะนี้บนใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มสบาย ๆ

ทว่าการแสดงออกเช่นนี้มันทำให้ได้รู้ว่าชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินผู้นี้เย็นชาและโหดเหี้ยมยิ่งนัก

ซูอี้ไม่เคยชอบเรื่องไร้สาระ ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงคร้านเกินกว่าจะพูดอ้อมค้อมให้เปลืองน้ำลาย

เขาพูดตรง ๆ ว่า “ข้าพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว จงมอบสิงโตทองนั่นมาให้ข้าเสียและข้าจะปล่อยให้เจ้าได้มีชีวิตอยู่ต่อไป”

ชายหนุ่มที่สวมชุดสีเงินเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ ก่อนจะอดหัวเราะไม่ได้และก้มศีรษะไปที่อสูรสิงโตทองคำและกล่าว “ดูเถิด ในสายตาของคนผู้นั้น เจ้ามีค่ามากกว่าชีวิตของเราผู้นี้เสียอีก”

อสูรสิงโตทองคำสั่นสะท้านด้วยโทสะ “นายท่าน! ไอ้เจ้านั่นดูหมิ่นท่านอย่างชัดเจน ท่านอย่าได้ให้อภัยมันเด็ดขาด!”

“อย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นลองบอกข้ามาทีว่าข้าควรทำอย่างไร?”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินถามกลับ

อสูรสิงโตทองคำพูดในทันทีด้วยแววตาอำมหิต “ท่านควรถลกหนัง เฉือนเนื้อ ควักหัวใจ ขุดตับ ดื่มเลือด กินเนื้อ และบดขยี้ดวงวิญญาณของมันให้สลายสิ้น!”

เมิ่งจิ้งไห่และคนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้วเมื่อพวกเขาได้ยินเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้พูด

ความคิดของมันโหดร้ายเหลือเกิน!

“เป็นความคิดที่ดี!”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินชมเชย จากนั้นเขาหันไปมองซูอี้ในระยะไกลและกล่าวว่า “แต่ทว่าข้าสามารถให้ทางเลือกอื่นแก่เจ้า ตราบที่เจ้าเลือกที่จะยอมจำนนต่อข้า…”

ยังไม่ทันจะได้พูดจบ ซูอี้ก็ส่ายหัวและขัดจังหวะ “เรื่องไร้สาระแบบนี้อีกแล้ว ช่างน่ารำคาญหูเสียจริง”

หลังจากพูดจบ ซูอี้ก็ยกมือขึ้นแล้วสับสันมือประหนึ่งดาบ

เคร้ง!

ปราณดาบปะทุออกตัดผ่านมวลเมฆส่องประกายเจิดจ้าน่าเกรงขาม!

เมิ่งจิ้งไห่และคนอื่น ๆ “…”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินและคนอื่น ๆ “…”

ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู พวกเขาไม่คิดเลยว่าซูอี้จะด่วนตัดสินใจลงมือเร็วขนาดนี้ราวกับกำลังรีบไปทำธุระต่อที่ใดสักแห่ง

หรือจะให้พูดอีกอย่าง คือซูอี้ไม่ได้สนใจชายหนุ่มในชุดคลุมสีเงินผู้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิหมิงหลิงที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย!

เมื่อแลเห็นเช่นนี้ สีหน้าของชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินก็มืดหม่นทันที ชายผู้นี้มันบ้าไปแล้ว!!

“บังอาจนัก!”

ผู้เฒ่าเครายาวตะโกนเสียงดัง จากนั้นจึงตวัดไม้ตีกลองของเขาและทุบลง

ไม้ตีกลองของเขายาวสามฉื่อ หนาพอ ๆ กับแขนเด็กและมีสีขาวเหมือนหิมะและใสดุจผลึกแก้ว เมื่อทุบออกมันก็เกิดเสียงสนั่นเลือนลั่นคล้ายกับผีสางและเทพยดาโห่ร้อง

เมื่อผสานรวมกับอำนาจพลังของขอบเขตสยายวิญญาณขั้นต้นของผู้เฒ่าเครายาว การโจมตีครั้งนี้จึงรุนแรงเสียจนอากาศโดยรอบสั่นสะท้านจนเกิดกระแสความปั่นป่วนรุนแรง

แต่ทว่าเมื่อถึงจังหวะที่ดาบของซูอี้ปะทะกับไม้ตีกลองนี้…

ปัง!!!

มันคล้ายเสียงฟ้าร้อง ทำให้ผู้เฒ่าเครายาวรู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งโดนภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณชนเข้าใส่ แรงปะทะอันน่าสะพรึงกลัวทำให้ร่างของเขากระเด็นถอยไปข้างหลังอย่างไม่อาจควบคุม

ทว่าที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือไม้ตีกลองในมือของเขาส่งเสียงแตกร้าว และมีรอยดาบที่น่าตกใจบากอยู่บนไม้ตีกลองอีกทั้งยังมีบางเศษส่วนที่หลุดหายไป!

ความเสียหายต่อศาสตราวิถีวิญญาณเช่นนี้ ทำให้ผู้เฒ่าเครายาวกระอักเลือดเนื่องจากความทุกข์ทรมานทางจิตใจทันที ลมปราณและโลหิตของเขาย้อนตีกลับอย่างรุนแรง!

เพียงดาบเดียว ผู้ฝึกปีศาจขอบเขตสยายวิญญาณได้รับบาดเจ็บ!!

เสียงสูดหายใจลึกดังไปทั่วหน้าผาซงเทา

เมิ่งจิ้งไห่ กู้ซานตู และผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง

ความสามารถของซูอี้ในการสังหารตัวตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณทำให้พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อมากแล้ว แต่ทว่าตอนนี้ต่อหน้าปราณดาบที่ฟันออกไปส่ง ๆ แม้แต่ผู้ฝึกปีศาจขอบเขตสยายวิญญาณก็ยังได้รับบาดเจ็บ!

ผลลัพธ์เช่นนี้ผู้คนจะไม่ตกใจได้อย่างไร!?

“แข็งแกร่งเหลือเกิน!!”

สีหน้าของซั่วเหมิงแปรเปลี่ยนเป็นมืดหม่น หญิงสาวในชุดกระโปรงสีเหลืองพูดอย่างประหม่าว่า “นายท่าน ชายผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป เรา… ถอยออกไปดีหรือไม่?”

“ฮึ่ม!”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและเอ่ยว่า “พวกเจ้าถอยกลับมา ข้าจะจัดการกับเรื่องนี้เอง!”

ขณะที่เขาพูด ร่างของเขาก็ลอยห่างจากรถม้า

ตูม!

มวลพลังสีดำแผ่ออกจากร่างของชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินและจากนั้นมันก็ควบแน่นกลายเป็นรูปลักษณ์คล้ายงูเลื้อยวนเวียนอยู่รอบกาย ผมยาวสะบัดพลิ้วไหว เช่นเดียวกับดวงตาสีน้ำตาลแดงของเขาที่เย็นชาและลึกล้ำยิ่ง ในทันใดนั้น กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างน่าเกรงขามจนฟ้าดำมืดครึ้มพลันปรากฏออกมา!

แม้ว่าทุกคนจะสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินผู้นี้มีระดับการฝึกฝนอยู่ในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นกลางเท่านั้น…

แต่พลังที่อีกฝ่ายแผ่ออกมา กลับทำให้แม้แต่เมิ่งจิ้งไห่และกู้ซานตูผู้ซึ่งอยู่ในขอบเขตสยายวิญญาณยังรู้สึกถึงภัยคุกคามอันตรายต่อชีวิต สีหน้าของพวกเขาจึงแปรเปลี่ยนในทันที!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิหมิงหลิงเป็นตัวตนที่น่ากลัวอย่างยิ่ง!

“ข้าเพิ่งฟื้นจากการหลับใหลเมื่อเดือนที่แล้ว ดังนั้นตั้งแต่ตื่นมาข้าจึงยังไม่เคยสังหารใครด้วยมือของตนเอง”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินจ้องไปที่ซูอี้ “ข้าคงต้องขอบอกว่าเจ้าช่างโชคดียิ่งที่ได้ตายด้วยน้ำมือของข้า การตายเช่นนี้มันเพียงพอให้เจ้าสามารถนอนยิ้มในโลงได้แล้ว”

มุมริมฝีปากของซูอี้กระตุกอย่างไม่อาจควบคุม ไอ้เด็กคนนี้… พูดจาไร้สาระได้ไม่หยุดหย่อนเลย!

เคร้ง!

ซูอี้ฟันปราณดาบออกไปอีกรอบ

ปราณดาบสีใสดุจผลึกแก้วพุ่งปราดเข้าหาชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด!

“ขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์!”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินกำหมัดแน่นก่อนจะชกออก!

พร้อมกับการออกหมัด มวลพลังสีดำควบแน่นเป็นรูปลักษณ์หมัดยักษ์พุ่งเข้าหาปราณดาบสีใสดุจผลึกแก้วของซูอี้อย่างอหังการโuเวลกูดฺอทคอม

อากาศโดยรอบสั่นสะเทือนรุนแรงราวกับว่าไม่อาจต้านทานพลังของหมัดนี้ได้

ปัง!!

ปราณดาบของซูอี้ถูกทำลายโดยหมัดสีดำจนแตกออกเป็นสองส่วน

ทุกคนต่างตกตะลึง

นี่เป็นครั้งแรกที่การโจมตีของซูอี้ถูกแก้ไข!

“มีพลังเพียงเท่านี้น่ะหรือกล้ามากำแหงกับข้า?”

ชายหนุ่มชุดเงินมองที่ซูอี้แล้วพูดช้า ๆ

เมิ่งจิ้งไห่และคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกประหม่า

พวกเขามั่นใจว่าถ้าซูอี้ไม่อยู่ที่นี่วันนี้ ต่อให้พวกเขาทั้งหมดร่วมมือกันก็คงไม่อาจต่อกรกับชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินผู้นี้ได้

ผลสุดท้ายคงถูกบังคับให้ยอมแพ้!

ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงฝากความหวังเอาไว้ที่ซูอี้เพียงเท่านั้น ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินกลับแสดงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัว สามารถทำลายการโจมตีของซูอี้ได้ เมิ่งจิ้งไห่ และคนอื่น ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะเริ่มกังวล

หากซูอี้พ่ายแพ้ขึ้นมาจริง ๆ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญกับหายนะเช่นใดบ้างหลังจากนั้น?

“สหายเต๋าหยวนเหิง… คุณชายซู… จะรับมือไหวใช่หรือไม่?”

หลานซัวรู้สึกประหม่ามากกว่าที่เคย

ความแข็งแกร่งที่ซูอี้แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างมาก

แต่ตอนนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิหมิงหลิงแสดงพลังของเขาซึ่งดูคล้ายจะเหนือกว่าซูอี้ ใครเล่าจะสงบได้เหมือนก่อนหน้านี้?

“รับมือไม่ไหว?”

หยวนเหิงพ่นลมหายใจด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “ก่อนหน้านี้มีชายผู้หนึ่งชื่อชิงลั่ว เขาหยิ่งผยองยิ่งกว่าไอ้บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิหมิงหลิงผู้นี้เสียอีก แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ถูกนายท่านของข้าฆ่าตายอย่างน่าสังเวช!”

หลานซัว “???”

คนอื่น ๆ “???”

“พลังของข้าไม่พออย่างนั้นหรือ?”

ลอยอยู่เหนือมวลเมฆ ซูอี้ยิ้มและพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “เช่นนั้นต่อไปข้าจะชกอีกเพียงสามหมัดเท่านั้น หากภายในสามหมัดนี้ข้าปราบเจ้าไม่ได้ให้ถือว่าข้า… แพ้!”

ขณะที่คำพูดนี้ยังดังก้องกังวาน

ซูอี้กำนิ้วให้เป็นหมัดก่อนจะง้างแขนขวา

ตูม!!

ระหว่างที่ง้างแขนขวา อำนาจของเจตจำนงแห่งหมัดที่ซูอี้รู้แจ้งแผ่ออกจากร่าง จนอากาศโดยรอบม้วนบิดเบี้ยวเนื่องจากไม่อาจทานทนต่อการกดขี่ของอำนาจนี้ได้!

หืม?

ดวงตาของชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินหรี่ลง เนื่องจากรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่พุ่งเข้ามาหา

ดวงตาของเขาเป็นประกาย ปราณวิญญาณในร่างเดือดพล่าน เขาเตรียมรับการโจมตีนี้อย่างเต็มกำลัง

จากนั้นเมื่อซูอี้ชกหมัดนี้!

ตูม!

หมัดยักษ์สีใสพร่างพราวปะทุออก มันพุ่งเข้าหาชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินราวกับสายรุ้งสีขาวที่ทะลุผ่านดวงอาทิตย์!

จิตใจของเหล่าผู้ชมที่อยู่ห่างไกลราวกับถูกค้อนยักษ์ฟาด ปราณและเลือดที่ไหลเวียนในร่างของพวกเขาปั่นป่วน สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนล้วนแปรเปลี่ยน

ช่างเป็นหมัดที่เลิศล้ำยิ่ง!

แค่มองจากระยะไกลจิตใจของพวกเขาสั่นคลอนอย่างไม่อาจควบคุม!

ที่ข้างเกี้ยว ผู้เฒ่าเครายาวและซั่วเหมิงต่างก็หน้าซีดและหวาดกลัว

แค่เพียงมองหมัดนี้ ตัวตนขอบเขตสยายวิญญาณเช่นพวกเขาถึงกับรู้สึกไร้สิ้นหนทาง ไม่อาจหนีและไม่อาจต่อต้าน!

หมัดนี้น่ากลัวอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

สีหน้าของชายหนุ่มในชุดสีเงินเปลี่ยนไปในฉับพลัน และไม่สามารถสงบลงได้

พลังของหมัดนี้เกินประมาณ และเขาไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไป จากนั้นจึงรีบโคจรพลังทั้งหมดทันที

“ง้าวอัสนีนิลกาฬ!”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินตะโกน

สายฟ้าสีดำที่เหมือนงูเหลือมซึ่งหมุนรอบตัวเขาอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมา… ในทันใดนั้นมันพลันพุ่งออกและควบแน่นเป็นง้าวสายฟ้าที่มีความยาวสิบฉื่อ ปลดปล่อยรัศมีแห่งการทำลายล้างและฟาดฟันไปทั่วท้องฟ้า

เมื่อหมัดและง้าวปะทะกัน

ตูม!!

การระเบิดใหญ่หลวงบังเกิดขึ้น ส่งผลให้ฟ้าดินปั่นป่วนอย่างรุนแรง คลื่นปะทะแผ่กระจายออกเป็นวงกว้างไม่มีหยุดยั้ง ผู้ชมทั้งหลายต่างรู้สึกคล้ายฟ้ากำลังจะถล่มและสู่พื้นปฐพี

ทันทีหลังจากนั้น ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของผู้คน ง้าวสายฟ้าระเบิดออกทีละคืบ!

มันถูกหมัดของซูอี้ทุบทำลาย!

สีหน้าของชายหนุ่มชุดสีเงินเปลี่ยนไปในทางแย่ยิ่งกว่าเดิม เขารีบสร้างม่านพลังเพลิงอัสนีออกมาขวางเขาไว้อย่างรวดเร็ว

แต่น่าเสียดาย การดิ้นรนต่อต้านของเขาขณะนี้ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาที่ต้องการจะหยุดรถม้าซึ่งห้อมาเต็มความเร็วด้วยแขนของตัวเอง

จากนั้นเสียงระเบิดดัง ‘ปัง’ ก็บังเกิดขึ้น เป็นม่านพลังเพลิงอัสนีที่ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินเพิ่งสร้างระเบิดสลายไปอย่างอนาถ

ราวกับถูกทุ่มด้วยภูเขาโบราณ ร่างของชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินกระเด็นเคว้งอยู่ในอากาศ เขากระอักเลือดออกมามากมาย และกว่าจะทรงตัวสมดุลได้ก็กระเด็นไกลไปถึงหลายสิบฉื่อ

เมื่อได้เห็นฉากนี้ ผู้ชมทั้งหลายต่างตกตะลึงจนไม่อาจพูดออก

แค่หมัดแรกบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิหมิงหลิงได้เลือดเสียแล้ว!

ฉากที่เพิ่งบังเกิดไปนั้นทำให้จิตใจของทุกคนที่เฝ้ามองอยู่ตกใจอย่างสุดขีด

และเมื่อมองดูชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินอีกครั้ง ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขากลายเป็นซีดขาวเสียแล้ว อีกทั้งยังเต็มไปด้วยโทสะและแววตาไม่อยากจะเชื่อ!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset