📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 646

บทที่ 646 - บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิหมิงหลิง ชิ่งหยวน!
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ภายในเกี้ยวถูกตกแต่งอย่างหรูหราและประณีต

หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามและบุคลิกสูงส่งซึ่งอยู่ในชุดกระโปรงสีเหลืองนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง

ขณะนี้นางยกมุมม่านหน้าต่างขึ้นและก้มตัวมองลอดออกไป ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายแสงสีม่วงจาง ๆ

“นายท่าน คนผู้นั้นที่อยู่ในขอบเขตรวบรวมดาราไม่ธรรมดาเลย”

ใบหน้าสวยของหญิงสาวแสดงความประหลาดใจ

ที่นั่งอีกข้างหนึ่งของเกี้ยวมีชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินกำลังนอนเอนกายอยู่บนที่นั่งเบาะนุ่มอย่างเกียจคร้าน ในมือพลางเล่นกระดูกสัตว์สีดำ

เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาจึงเอ่ยถ้อยคำอย่างช้า ๆ ว่า “ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตัวตนขอบเขตรวบรวมดาราจะสามารถสังหารผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ ข้าเคยได้ยินมาว่าผู้ร้ายกาจยุคโบราณบางคนในต้าเซี่ยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน”

พูดถึงประโยคนี้เขาก็ยิ้มออก ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงและกล่าวต่อ “โดยเฉพาะคนรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งแห่งต้าเซี่ยที่ชื่อซูอี้ผู้นั้น เขาเองก็ทำแบบนี้ได้เช่นกัน”

“ข้าเคยได้ยินมาว่าในเกาะเซียนพระสุเมรุ เมื่อตอนนั้นซูอี้มีระดับการฝึกตนอยู่ในขอบเขตรวบรวมดารา แต่เขากลับสามารถสังหารกลุ่มผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณซึ่งอยู่ในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณได้นับสิบ ความแข็งแกร่งของเขาเหนือจินตนาการและสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนทั้งทวีปคังชิง”

“ก่อนหน้านี้ข้าวางแผนที่จะไปต้าเซี่ยเพื่อพบเจอกับซูอี้ผู้นั้นเสียหน่อย ข้าอยากจะเห็นกับตาตนเองว่าเขานั้นเก่งกาจสมคำร่ำลือหรือไม่”

“แต่น่าเสียดายที่อาจารย์และบิดาของข้าปฏิเสธที่จะให้ข้าไปต้าเซี่ย โดยบอกว่าสถานที่นั้นเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในทวีปคังชิง การไปเยือนโดยไม่เตรียมพร้อมอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นได้”

พูดจบชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

“ซูอี้…”

หญิงสาวในชุดกระโปรงสีเหลืองอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าคาดหวัง “ข้าล่ะอยากเห็นนักว่าเขาพิเศษขนาดไหน”

เพียะ!

หญิงสาวในชุดกระโปรงสีเหลืองถูกตบที่ก้น ทำให้นางร้องคร่ำครวญและขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ฮวนเอ๋อร์ เจ้ากล้าคิดถึงผู้ชายคนอื่นขณะที่นั่งอยู่ต่อหน้าข้าผู้นี้อย่างนั้นหรือ การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างจากเจ้ากำลังวอนขอให้ข้าเฆี่ยนตีแล้ว!”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินแสร้งทำเป็นโกรธ

หญิงสาวชุดเหลืองกัดริมฝีปากแดงเล็กน้อย นัยน์ตาสวยวาวโรจน์ นางหัวเราะคิกคัก “เมื่อเรื่องราววันนี้จบลง บ่าวอยากถูกนายท่านเฆี่ยนตีสักเล็กน้อย”

หญิงสาวผู้นี้งดงามอยู่เป็นทุนเดิม แต่เมื่อนางแสดงท่าทีเอียงอายและหยอกล้อเช่นนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มในชุดสีเงินรู้สึกหัวใจสั่นไหวและร้อนรุ่มขึ้นในอกทันที

แต่ในขณะเดียวกันเสียงอันไม่แยแสก็ดังขึ้น

“เมิ่งจิ้งไห่ กู้ซานตู พวกเจ้าสองคนถอยออกมา นับจากนี้ข้าจะลงมือเอง”

ชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินขมวดคิ้ว คนผู้นี้วาจาใหญ่โตนัก!

หญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองหันศีรษะไปโดยไม่รู้ตัวและมองออกไปนอกหน้าต่างของเกี้ยว

เหนือหน้าผาซงเทา

เมื่อได้ยินเสียงของซูอี้ ทั้งเมิ่งจิ้งไห่และกู้ซานตูต่างก็ลังเล

ถอยไป?

ควรรู้ว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาขณะนี้คือผู้ฝึกปีศาจขอบเขตสยายวิญญาณ!

แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในขั้นต้นของขอบเขตสยายวิญญาณ แต่ก็ไม่ควรประเมินความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายต่ำไป!

แม้วิธีการต่าง ๆ ที่ซูอี้แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้จะพิสูจน์แล้วว่าเพียงพอที่จะฆ่าตัวตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

แต่ใครจะแน่ใจได้ว่าซูอี้จะสามารถรับมือกับตัวตนขอบเขตสยายวิญญาณถึงสองคนได้พร้อมกัน?

เหล่าตัวตนยิ่งใหญ่ที่รับชมเหตุการณ์อยู่ที่หน้าผาซงเทาต่างสูดหายใจลึก

ไม่มีใครคิดว่าซูอี้จะกล้าท้าทายผู้ฝึกปีศาจจากลัทธิหมิงหลิงเพียงลำพังเช่นนี้!

มันบ้ามากจนใคร ๆ ก็ไม่อาจนึกออก

“โง่เง่าสิ้นดี!”

ซั่วเหมิงอดหัวเราะไม่ได้

ชายหนุ่มที่อยู่ในขอบเขตรวบรวมดารากล่าวว่าจะต่อสู้กับพวกเขาสองคนซึ่งอยู่ในขอบเขตสยายวิญญาณ เช่นนี้หากไม่เรียกว่าโง่เขลาแล้วจะเรียกว่าอย่างไร?

อีกด้านหนึ่งผู้เฒ่าเครายาวก็ออกคำสั่งอย่างชัดคำ “มาร่วมกันสร้างค่ายกลสังหารไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมผู้นี้!”

“รับทราบ!”

บนอากาศ เหล่าผู้ฝึกปีศาจที่กำลังปิดล้อมบริเวณด้วยค่ายกลทั้งหมดต่างตอบตกลงอย่างพร้อมเพรียง

ทันใดนั้น เจตจำนงสังหารอันน่าหวาดหวั่นพลันพุ่งเป้าไปที่ซูอี้เพียงผู้เดียว

ผู้ฝึกปีศาจเหล่านี้มีจำนวนถึงสามสิบสามคน

ในหมู่พวกเขา ห้าคนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ และอีกยี่สิบแปดคนอยู่ในขอบเขตรวบรวมดารา

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือพวกเขาผสานพลังกันเพื่อสร้างค่ายกลสังหารอันทรงพลัง

ใช้ห้าคนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณเป็นแกนหลัก แต่ละคนวางตนเปรียบดั่งตัวแทนแห่งห้าธาตุหลัก

ส่วนที่เหลืออีกยี่สิบแปดคนที่อยู่ในขอบเขตรวบบรวมดารานั้น แต่ละคนแยกย้ายไปยืนประจำจุดทั้งสี่ทิศบนอากาศ โดยจัดเรียงเป็นหมู่ดาวยี่สิบแปดดวง!

เมื่อค่ายกลสังหารนี้สร้างผสานกันสมบูรณ์ มันจะแผ่แรงกดดันมากมหาศาล ท้องฟ้าแปรปรวนเป็นมืดครึ้มพลังปีศาจปะทุรุนแรงปกคลุมไปทั่วทุกทิศทาง

เมื่อสัมผัสได้ถึงอำนาจของค่ายกลสังหารนี้ เหล่าตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลายต่างตัวสั่นด้วยความกลัว

แต่ทว่าซูอี้กลับเมินเฉยต่อมันโดยสิ้นเชิง

“สังหาร!”

ในค่ายกลสังหาร ชายผมสีเงินชุดดำตะโกนอย่างเย็นชา

ตูม!

ค่ายกลสังหารปะทุพลังเสียงคำรามดังลั่น และอำนาจมวลพลังปีศาจลุกโหมราวกับเปลวเพลิงพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า

ผู้ฝึกปีศาจทั้งหมดต่างทำมือมุทรา

กลางอากาศ มวลพลังจำนวนมหาศาลหลากสีสันถูกดึงดูดเข้ามาผสานรวมกันจนกลายเป็นรูปลักษณ์ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่มีความกว้างหลายสิบฉื่อ

ฝ่ามือนี้ดูน่าเกรงขามราวกับหัตถ์ของเทพอสูรในตำนาน มันมีสีดำสนิทเหมือนหมึก ห้านิ้วเหยียดตรงประหนึ่งเสาศิลาและทั่วพื้นผิวฝ่ามือเต็มไปด้วยสายฟ้าสีเลือดปะทุรุนแรง

ทันทีที่มันปรากฏขึ้นกลางอากาศ สิ่งนี้ราวกับถูกส่งลงมาจากฟากฟ้า ท้องฟ้าโดยรอบถูกปกคลุมโดยมวลพลังดำมืดคล้ายหมึก และสายฟ้าสีเลือดบิดม้วนไปมาเหมือนงูเหลือมอยู่ตามหมู่เมฆ อำนาจกดดันที่ปลดปล่อยออกมานั้นไร้ขอบเขตและไม่อาจต้านทาน

ฝ่ามือเทพอสูรโลหิต!

การผสานพลังกันของห้าคนในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณและยี่สิบแปดคนในขอบเขตรวบรวมดารา พลังระดับนี้สามารถทำให้ผู้ฝึกตนขอบเขตสยายวิญญาณผู้ใดก็ตามในโลกนี้รู้สึกสิ้นหวังได้อย่างง่ายดาย

ในเวลานี้ การโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ได้ถูกปลดปล่อยเข้าหาซูอี้!

ทว่าซูอี้ไม่ได้ให้ค่ากับมันเลย เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แขนเสื้อสะบัดพลิ้วตามสายลม และนิ้วชี้ขวาของเขาเหยียดออกประหนึ่งดาบฟาดฟันไปด้านบนยังฝ่ามือยักษ์ที่ลอยอยู่

ฮึ่ม!

ปราณดาบอันพร่างพรายยาวสิบฉื่อปรากฏออก มันพุ่งผ่านกรีดอากาศจนเกิดเสียงคล้ายฟ้าร้องเสียดหู จนแม้แต่เหล่าตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่รับชมอยู่ต่างต้องเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนในหู และหัวใจของพวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกกรีดแทง

ทว่าก่อนที่ใครจะทันได้คืนสติ เสียงระเบิดดังสนั่นลั่นไปทั่วทุกทิศโนเวลกูดอทคoม

ตูม!!

เกิดการปะทะกันจนฟ้าดินสั่นสะเทือน

ปราณดาบสิบฉื่อแหวกผ่านมวลพลังสีดำที่เต็มฟากฟ้าและบดขยี้สายฟ้าสีเลือดที่บิดม้วนอยู่ตามหมู่เมฆ หลังจากนั้นมันพุ่งเข้าฟาดฟันอย่างดุเดือดเข้าใส่ฝ่ามือเทพอสูรโลหิต

เคร้ง!!

ฝ่ามือเทพอสูรโลหิตสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และรอยแตกตรงที่น่าตกใจปรากฏขึ้นบนพื้นผิว จากนั้นอึดใจต่อมามันระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

ปราณดาบนี้เลิศล้ำจนแม้แต่ท้องฟ้ายังไม่อาจหยุดยั้ง!

“นี่…”

บนหน้าผาซงเทา ผู้คนทั้งหลายต่างตกตะลึง

พลังของปราณดาบนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!

นี่แข็งแกร่งกว่าดาบที่ซงจั่งเฮ่อเผชิญก่อนหน้านี้เสียอีก!

“เป็นไปได้อย่างไร???”

“นี่เป็นวิชาดาบประเภทใดกัน!?”

เหล่าผู้ฝึกปีศาจที่อยู่ในค่ายกลสังหารในระยะไกลต่างก็ตกตะลึงใจกับพลังของปราณดาบนี้

ดาบกรีดผ่านท้องฟ้าทำลายฝ่ามือเทพอสูรโลหิตของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ใครจะจินตนาการได้ว่านี่คือพลังที่ขอบเขตรวบรวมดาราครอบครอง?

ทว่าซูอี้ไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาได้มีเวลาคิดฟุ้งซ่านมากนัก เขาโบกแขนอีกครั้งปลดปล่อยปราณดาบมากกว่าสิบเล่มปะทุออกไป

เคร้ง! เคร้ง!

ปราณดาบอันเจิดจ้าและแหลมคมอย่างหาที่เปรียบมิได้พุ่งผ่านอากาศรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าเข้าหาค่ายกลสังหารที่ยังคงผสานกันอยู่อย่างรุนแรง

สับ เสย กวาด แทง ตวัด…

ปราณดาบเหล่านั้นคล้ายว่าเคลื่อนที่อย่างยุ่งเหยิงไร้แบบแผน

แต่อันที่จริงปราณดาบทุกเล่มเต็มไปด้วยทำนองเต๋าอันล้ำลึกและคาดเดาไม่ได้

ตูม! ตูม! ตูม!

การระเบิดทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือน คลื่นทำลายล้างพาดผ่าน

ปราณดาบทั้งสิบ ทำให้ค่ายกลสังหารที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มผู้ฝึกปีศาจได้รับความเสียหายอย่างหนักในชั่วพริบตา

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นออกจากปากทีละคน

จากนั้นผ่านไปอีกไม่กี่อึดใจ ค่ายกลสังหารพลันแตกสลาย เหล่าผู้ฝึกปีศาจตกตายลงภายใต้พลังจากปราณดาบอันดุเดือดคล้ายกระดาษที่ถูกฉีก

เลือดสาดกระจายหลั่งรินลงที่พื้นปฐพี เศษชิ้นส่วนอวัยวะและสมบัติวิเศษทั้งหลายร่วงหล่นปนเปด้วยกันคล้ายกับฝนที่โปรยปรายกระจายไปทั่วบริเวณ

ฉากฝนโลหิตเช่นนี้ไม่มีผู้ใดเคยคิดว่าวันนี้จะได้เห็น!

“สวรรค์!!”

ฟู่อวิ๋นคงและตัวตนยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ บนหน้าผาซงเทาต่างสั่นกลัว

คนผู้เดียวทำลายค่ายกลสังหาร สังหารผู้ฝึกปีศาจทั้งหมด ปราณดาบเลิศล้ำราวกับคงกระพัน!

แน่นอนว่าฉากที่น่าสะพรึงกลัวและนองเลือดนี้ทำให้ผู้เฒ่าเครายาวและซั่วเหมิงหวาดกลัวจนหนังศีรษะชา พวกเขาถอยกลับทันที!

นี่… เป็นไปได้อย่างไร!?

ค่ายกลสังหารที่ถูกตั้งชื่อเรียกขานว่า ‘ห้าดาวเคราะห์’ ซึ่งสามารถสังหารตัวตนขอบเขตสยายวิญญาณได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้มันกลับถูกทำลายด้วยการโจมตีซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจอีกทั้งกลุ่มผู้ผสานค่ายกลต่างถูกกวาดล้างทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง!

ทั้งเมิ่งจิ้งไห่และกู้ซานตูต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

“พวกเจ้ายังทำอะไรอยู่ ถอยออกมา”

ซูอี้ลอยร่างออกจากหมอกโลหิต

นับตั้งแต่ที่ซูอี้สังหารชายชุดแดงโม่ชิงได้ เขาก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะทำลายค่ายกลสังหารและเข่นฆ่ากลุ่มผู้ฝึกปีศาจทั้งหมด ซูอี้ใช้เวลายังไม่ถึงครึ่งก้านธูปด้วยซ้ำ

เขาทำทุกอย่างง่ายดายเหมือนเดินในลานบ้าน

ในเวลานี้เมื่อเห็นร่างของเขาปรากฏ ทุกคนต่างแสดงสีหน้าราวกับเห็นเทพสวรรค์!

เมิ่งจิ้งไห่และกู้ซานตูต่างมองหน้ากันก่อนจะโค้งกายให้ซูอี้ จากนั้นพวกเขาจึงรีบผละตัวออกไป

ก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่แน่ใจว่าซูอี้จะรับมือกับผู้ฝึกปีศาจขอบเขตสยายวิญญาณทั้งสองได้หรือไม่…

แต่ทว่าตอนนี้ความกังวลนั้นได้มลายหายไปสิ้นแล้ว!

ผู้เฒ่าเครายาวและซั่วเหมิงไม่ได้หยุดทั้งสองไว้

ทั้งคู่มองไปที่ซูอี้ที่อยู่ไม่ไกลด้วยแววตาตื่นตระหนกและเคียดแค้น นี่เป็นเพียงตัวตนที่อยู่ในขอบเขตรวบรวมดาราจริง ๆ หรือ!?

อสูรสิงโตทองคำนั้นเริ่มกระสับกระส่าย ขนทั่วร่างของมันชูชันและมันกรีดร้องว่า “นายท่าน คนหนุ่มผู้นั้นมันผิดปกติยิ่ง!!!”

“ตื่นตระหนกให้ได้บ้าอะไร!”

ร่างหนึ่งเดินออกจากเกี้ยวพร้อมกับเสียงตวาด

แน่นอนเขาคือชายหนุ่มผู้สวมเสื้อคลุมสีเงิน ใบหน้าของเขาหล่อเหลาและเรียบเนียนดุจหยก รูปร่างของเขาสมส่วนไร้ที่ติและดวงตาสีน้ำตาลแดงคู่นั้นเย็นชาราวกับสามารถสะกดวิญญาณผู้คนได้ด้วยเพียงการมองธรรมดา

เขากำลังเล่นกับกระดูกสัตว์สีดำในมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งไพล่อยู่ที่หลัง เขายืนเดินเป็นสง่าอยู่หน้าเกี้ยวโดยมีแส้แสงสีแดงซึ่งเกิดจากมวลพลังอันเปี่ยมล้นล้อมรอบอยู่ทั่วร่างกายอย่างสงบ

ราวกับราชาเสด็จทอดพระเนตรโลกา!

ที่ข้างหลังชายหนุ่มในอาภรณ์สีเงินมีหญิงสาวในชุดกระโปรงเหลืองเดินออกมา ผิวของนางขาวงามยิ่งกว่าหิมะ ดวงตาคู่สวยของนางมีประกายสีม่วงจาง ๆ ฉายแววเย้ายวนอย่างไม่อาจปฏิเสธ

เมื่อคนทั้งคู่ปรากฏขึ้น อสูรสิงโตทองคำจึงเงียบปากลงทันทีราวกับว่ามันพบกับที่พึ่งพาแล้ว

เช่นเดียวกัน ผู้เฒ่าเครายาวและซั่วเหมิงที่ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จิตใจของพวกเขากลับมาสงบได้อีกครั้ง

ทุกสายตาของผู้ชมที่อยู่บนหน้าผาซงเทามองไปยังชายหนุ่มที่สวมชุดสีเงินและหญิงสาวกระโปรงสีเหลืองบนเกี้ยว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายหนุ่มสวมชุดเงินคือนายท่านของผู้ฝึกปีศาจเหล่านี้

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิหมิงหลิง ชิ่งหยวน!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset