📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 598

บทที่ 598 - ไม่ผิดจนสมควรตาย?
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เสียงตะโกนลั่นสะท้านทั่วนภาราตรี

สีหน้าของชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ เปลี่ยนไปฉับพลัน เขารีบเก็บหม้อสีเลือดและหันหลังวิ่งหนีทันที

ตู้ม!

ลำแสงดาบฟาดลงรวดเร็วเยี่ยงอสนีบาต

ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ เบี่ยงหลบ ลำแสงดาบฟาดฟันร่างของเขาจนล้มลงกับพื้นอย่างน่าหวาดกลัว

ผืนปฐพีแตกร้าวร้อยจั้ง เม็ดทรายไหลกระเด็น

พรึ่บ! พรึ่บ!

ยามเมื่อชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ กำลังจะหนี เงาร่างเจ็ดหรือแปดคนก็ปรากฏขึ้นขวางทางหนีของเขาไว้

“ที่แท้ก็เป็นผู้ฝึกวิถีชั่วช้าตัวน้อย”

ผู้นำคือชายวัยกลางคนในชุดคลุม เคราพลิ้วบนอากาศ เปี่ยมด้วยพลังอำนาจ

ดวงตาของพวกเขาต่างจับจ้องชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ ดุดันราวสายฟ้า

แรงกดดันมหาศาลทำให้สีหน้าของชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ แปรผัน ก่อนจะกล่าวว่า “ผู้อาวุโส พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ใช่ผู้ฝึกวิถีชั่วช้านะ”

สตรีในชุดม่วงแค่นหัวเราะ

ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ อธิบาย “หากข้าไม่รวบรวมวิญญาณเหล่านี้ไป ยามพวกเขากลายเป็นสัมภเวสีติดถิ่น พวกเขาจะรบกวนโลกหล้า รังควานผู้คน”

“หุบปาก ทั้งสมบัติและเคล็ดวิชาที่เจ้าใช้ต่างเป็นสิ่งชั่วร้ายนอกรีต ทว่ายามนี้ยังกล้าเถียง!”

ชายวัยกลางคนในชุดคลุมแค่นเสียงเย็นชา

“ศิษย์พี่ ท่านไม่ต้องพูดไร้สาระกับมารน้อยเหล่านี้หรอก ฆ่าพวกเขาเสียก็พอ!”

สตรีในชุดกระโปรงสีม่วงกล่าว พลางยกมือขึ้นฟาดใส่ชายหนุ่ม

ตู้ม!

เสียงกัมปนาทเย่อหยิ่งอหังการ

สีหน้าของชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ แปรผันยิ่งยวด เขารีบใช้หม้อสีเลือดเข้ารับมือ

เคร้ง!

ท่ามกลางเสียงคำรามสะเทือนโสต ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ และหม้อสีเลือดของเขาต่างปลิวกระดอนลงสู่พื้นไกลออกไปหลายจั้ง

ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ กระอักเลือดคำโต ใบหน้าซีดขาว เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัส

“เห สมบัติชิ้นนี้ไม่ธรรมดาเลย”

สตรีชุดม่วงแปลกใจเล็กน้อย

เมื่อระดับฝึกฝนของนางอยู่ในขอบเขตรวบรวมดารา การสังหารผู้อยู่ในขอบเขตไร้เบญจธัญต่ำต้อยเช่นชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ ก็ไม่ต่างจากการบี้มด

ทว่า ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ กลับใช้หม้อสีเลือดขวางไว้ได้!

ชายวัยกลางคนชุดคลุมและคณะต่างหันมองหม้อสีเลือดอย่างแปลกใจเล็กน้อย

พื้นฐานการฝึกฝนของชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ นั้นมีให้เห็นเกร่อทั่วไป ไม่อยู่ในสายตาพวกเขา ทว่าหม้อสีเลือดนี้เรียกความสนใจของพวกเขาได้

ยามนี้ ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ ตะเกียกตะกายลุกขึ้น ปาดโลหิตที่มุมปาก ก่อนจะกล่าวเสียงดัง “แม้ข้าจะฝึกฝนวิชาชั่วช้า แต่การกระทำของข้ามีเกียรติถูกต้อง การใช้กลุ่มรุมฆ่าข้าโดยไม่ฟังคำอธิบายแม้แต่น้อยนี้ต่างอันใดกับมารนอกรีตหรือ?”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมโทสะ

“สารเลว กล้าดูหมิ่นข้า คุกเข่าซะ!”

ชายชุดคลุมเทาผู้หนึ่งแค่นเสียงเย็นชา ฟาดฝ่ามือเข้าใส่

ตู้ม!

รอยประทับฝ่ามือสีดำขนาดสิบจั้งแหวกอากาศเข้าหาชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ

“เปิด!”

ชายหนุ่มตวาด โลหิตทั่วร่างพลุ่งพล่าน

จากนั้น หม้อสีเลือดก็ทอแสงเจิดจรัส แสงสว่างสีขาวจ้าออกมาจากปากหม้อ

ทว่า ไม่ว่าเช่นไร การฝึกฝนของชายหนุ่มก็ยังต่ำเกินไป และในยามที่เขาถูกการโจมตีเช่นนี้เข้าไป ร่างของเขาก็โซเซร่วงสู่พื้นดังตุ้บ ทวารทั้งเจ็ดอาบโลหิต ใบหน้าซีดเยี่ยงกระดาษ

นี่ทำให้พวกชายวัยกลางคนในชุดคลุมแปลกใจมากยิ่งขึ้นอีก

ชายหนุ่มผู้นี้เห็นได้ชัดว่าร่อแร่นัก ทว่าเขากลับรอดจากความตายครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยหม้อสีเลือด ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์เกินคิดเชื่อ

“พวกเจ้ามีผลการฝึกฝนสูง เป็นที่เคารพทั่วหล้า ทว่ากลับชั่วช้าสามานย์ราวกับลัทธิมารนอกรีต ไร้ยางอายสิ้นดี แม้ข้าจะตายลงวันนี้ ทว่าข้าดูแคลนคนอย่างพวกเจ้านัก!”

ชายหนุ่มลุกขึ้นตวาดลั่น

เขาบาดเจ็บสาหัส ร่างกายโงนเงน ทว่ากลับไร้ความกลัว บรรยากาศรอบกายไม่อาจถูกสยบ

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของพวกชายวัยกลางคนชุดคลุมแย่ลงเล็กน้อย

“สารเลว เป็นแค่มารน้อยแท้ ๆ ยังกล้าตวาดสามหาว ฆ่าเจ้าเสีย โลกนี้ก็จะมีมารน้อยลง!”

สตรีชุดม่วงสะบัดแขนเสื้อ จากนั้นอสนีบาตก็ฟาดลงจากนภา สว่างวาบทั่วแดนดิน อำนาจทำลายล้างมุ่งเป้าที่ชายหนุ่ม

ชายหนุ่มพยายามเรียกใช้หม้อสีเลือดอีกครั้ง แต่เขาบาดเจ็บหนักเกินกว่าจะทำได้ จึงทำได้เพียงยิ้มแห้ง ๆ

เขาไม่กลัวความตาย

แค่ว่าการถูกเข้าใจผิดเป็นมารน้อยนี้ทำให้เขาขุ่นข้องใจอยู่เสมอ

“นี่… อาจจะเป็นโฉมหน้าที่จริงแท้ของโลกใบนี้ ไร้การแยกแยะดีชั่วขาวดำ ผู้แข็งแกร่งกดขี่ผู้อ่อนแอ ช่าง… ไร้เหตุผลนัก…”

ชายหนุ่มหลับตาลง

ตู้ม!

เสียงกัมปนาทกึกก้อง

สุ้มเสียงอุทานดังขึ้นในสนามรบ

ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ ลืมตาขึ้นอย่างสงสัย และพบกับชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่เบื้องหน้าราวขุนเขา ให้ความรู้สึกไม่อาจสั่นคลอน

“พ่อหนุ่ม ไม่เป็นไรแล้ว”

ชายหนุ่มหันมาแย้มยิ้มให้เขาอย่างเรียบ ๆ จริงใจ

เขาคือหยวนเหิง

ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ กล่าวอย่างเหม่อลอย “ไฉนผู้อาวุโสจึงอยากช่วยข้า ไม่กังวลว่าข้าจะเป็นผู้ฝึกวิถีชั่วช้าหรือไร?”

หยวนเหิงเผยสีหน้าละอาย กล่าวอย่างเปี่ยมอารมณ์ “ก่อนหน้านี้ข้าเกือบเข้าใจเจ้าผิด ทว่ายามนี้จะให้คิดเช่นนั้นได้เยี่ยงไร”

“ผู้อาวุโสคือผู้ใดกัน เหตุใดท่านจึงอยากเข้ามาแทรกแซงกงการของสำนักเต๋าเสวียนเหอเรา?”

ไม่ไกลนัก ชายวัยกลางคนในชุดคลุมและคณะต่างขมวดคิ้วมองหยวนเหิงผู้มาโดยไม่ได้รับเชิญ

“ข้าทนพฤติกรรมของเจ้าไม่ได้ จึงอยากมาช่วยชายผู้นี้”

หยวนเหิงดูสุขุม สายตาเพ่งมองชายวัยกลางคนชุดคลุมและคณะ

“ช่างน่าขัน ไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสเห็นแล้วหรือว่าเจ้าหนุ่มนั่นฝึกฝนวิถีชั่วช้า?”

สตรีชุดม่วงกล่าวอย่างเย็นชา

“หากตัดสินดีชั่วกันเช่นนี้ ในฐานะผู้ฝึกตนปีศาจ ข้าในสายตาเจ้าไม่กลายเป็นยอดผู้ชั่วร้ายหรือไร?”

หยวนเหิงกล่าวอย่างจริงจัง

ม่านตาของชายวัยกลางคนชุดคลุมและคณะหดตัวเล็กน้อย ชายตรงหน้าเขาเป็นผู้ฝึกตนปีศาจหรือ!?

สตรีชุดม่วงขมวดคิ้วกล่าว “ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจะเป็นศัตรูกับเราให้จงได้ในคืนนี้หรือ?”

หยวนเหิงกล่าวคำ “ขอเพียงเจ้าทั้งสองคุกเข่าลงขออภัยสหายน้อยผู้นี้ ข้าจะเมินเฉยต่อความผิดก่อนหน้าของพวกเจ้าก็ย่อมได้”

ชายวัยกลางคนในชุดคลุมและพรรคพวกมองหน้ากันไปมา และอดหัวเราะไม่ได้

ผู้ฝึกตนปีศาจในขอบเขตรวบรวมดารากล้าดีเช่นไรมาข่มขู่พวกเขาเช่นนี้?

อยู่ไม่เป็น ไม่รู้เป็นตายโดยแท้!

“ข้าอยากเห็นเสียจริงว่าผู้ฝึกตนปีศาจเช่นเจ้ามีคุณสมบัติเข้ามาพัวพันเรื่องนี้หรือไม่!”

ชายชุดคลุมสีเทาพุ่งออกมา จากนั้นเขาก็เงื้อมือขึ้นบงการดาบบินฟาดฟันใส่หยวนเหิง

ปั้ง!

หยวนเหิงเหวี่ยงหมัดขยี้ดาบบินเป็นเสี่ยง ๆ กระจัดกระจายในคราเดียวโuเวลกูดoทคoม

ชายชุดคลุมเทาถูกผลตีกลับ กระอักโลหิตคำโตด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“นี่มัน…”

ชายวัยกลางคนในชุดคลุมและคณะต่างตกตะลึง สีหน้าแปรเปลี่ยน

ส่วนชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ เบิกตามองค้าง แข็งแกร่งยิ่งนัก!!

“แล้วเจ้าเล่า มีคุณสมบัติหรือไร?”

หยวนเหิงกล่าวอย่างเฉยเมย

“ร่วมมือกันกำจัดมารร้าย!”

ชายวัยกลางคนในชุดคลุมตะโกนพลางพุ่งนำหน้า

เขาหยิบดาบสีเงินเล่มยาวออกมาฟาดฟันบนอากาศ ลำแสงดาบขาวดั่งหิมะ เจิดจ้าท่ามกลางราตรี

ผู้อื่นต่างเข้ามาร่วมวงไพบูลย์

ในหมู่ผู้ฝึกตนทั้งเจ็ด มีสามคนอยู่ในขอบเขตรวบรวมดารา สี่คนในขอบเขตเปิดทวาร ทุกผู้ต่างใช้สมบัติและเคล็ดวิชาของตนเพื่อล้อมโจมตีหยวนเหิงโดยพร้อมเพรียง

ฉากดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ แผดเสียงอย่างตกใจ “ผู้อาวุโส อย่าห่วงข้าเลย ไปเถิด!”

ทว่าหยวนเหิงกลับยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เด็กดี!”

สิ้นเสียง เขาก็ลงมือโจมตี

ตู้ม!

ร่างใหญ่โตของเขาพลันปรากฏปราณปีศาจดุร้ายแผ่พุ่งราวกับสัตว์ปีศาจบรรพกาล เปลี่ยนสถานการณ์ไปในบัดดล

ตู้ม!

สารพัดสมบัติและเคล็ดวิชาประดังเข้ามา ทว่าการป้องกันของหยวนเหิงไม่เคยแตกพ่าย ทุกการโจมตีถูกหยุดไว้ในระยะหนึ่งจั้งก่อนถึงตรงหน้าเขา

ภาพนี้ทำให้ผู้ชมทั้งหมดตะลึงในทันใด

ยามนี้เอง หยวนเหิงก็เคลื่อนไหว ฟาดฝ่ามือเสวียนอู่สะท้านโลการาวเทพาแห่งขุนเขา แข็งแกร่งเยี่ยงเทพอหังการ!

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

เกิดเสียงกรีดร้องดังระงม ร่างของชายวัยกลางคนในชุดคลุมและคณะถูกปลิวละลิ่วทีละคนเยี่ยงกระสอบทราย กระแทกพื้นก่อเป็นหลุมใหญ่…

เจ็ดผู้ฝึกตนจากสำนักเต๋าเสวียนเหอถูกปราบลงในพริบตา!

ฉากทำลายล้างนี้ทำให้ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ ตะลึงอึ้งราวได้เห็นเทพยดาสำแดงฤทธา

ด้วยหนึ่งดีดนิ้ว กวาดล้างทั่วทิศ!

“นายท่าน ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ไม่อาจรับรู้ได้ว่ามียอดฝีมือตรงหน้า ขอนายท่านอภัยให้ข้าน้อยด้วย”

ชายวัยกลางคนในชุดคลุมรีบร้องตะโกน

คณะของเขาต่างก็หน้าซีดตัวสั่น

ยามนี้เอง พวกเขาจึงรู้ว่าเตะแผ่นเหล็กเข้าแล้ว!

หยวนเหิงมองชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ พลางกล่าว “สหายน้อย เจ้าคิดว่าเราควรจัดการกับพวกเขาเช่นไร?”

ด้วยหนึ่งวาจา ชายวัยกลางคนในชุดคลุมและคณะต่างหันมองชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ ด้วยตระหนักว่าคำตอบของชายผู้นี้จะตัดสินเป็นตายต่อพวกเขา!

ยามนี้ พวกเขาต่างส่งเสียงขอความเมตตาด้วยสีหน้าน้ำเสียงอ้อนวอน

“สหายน้อย ก่อนหน้านี้ข้าผิดไปแล้ว ขอสหายน้อยโปรดไว้ชีวิต เพื่อเป็นการชดใช้ความผิด ข้ายินดีมอบสมบัติทั้งหมดบนตัวข้าให้!”

“ข้าก็ขอสหายน้อยเมตตาเช่นกัน!”

“สหายน้อย วอนเจ้าแล้ว!”

…เมื่อมองเหล่าคนตัวโตซึ่งเมื่อครู่ยังเชิดหน้าดั้นฟ้า ถือว่าเขาเป็นมดปลวกมาคุกเข่าอ้อนวอนเขาอย่างตื่นตระหนกราวสุนัข ภาพนี้ก็ทำเอาชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ เกือบไม่เชื่อสายตาตน

ครู่ใหญ่ ๆ ถัดมา ชายหนุ่มก็ถามประโยคอันไม่คาดคิด “พวกเจ้า… กลัวความตายมากหรือ?”

ประโยคง่าย ๆ นี้ทำให้พวกชายวัยกลางคนในชุดคลุมพูดไม่ออก

ภาพนี้ยังทำให้หยวนเหิงรู้สึกตื้นตัน ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เคยเห็นภาพเหล่านี้แน่แท้ หาไม่ เขาคงไม่มีวันถามเช่นนี้

บางที อาจเป็นเพราะชายผู้นี้ไม่กลัวความตาย ดังนั้น… เขาจึงงุนงงกับมัน?

“ผู้อาวุโส ข้าไม่มีคุณสมบัติจะจัดการกับพวกเขา ขอท่านพิจารณาเถิด”

ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ มองหยวนเหิง

หยวนเหิงถามอีกครั้ง “งั้นเจ้าคิดว่าพวกเขาสมควรตายหรือไม่?”

ชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้ พวกเขายังตวาดไล่สังหารข้าเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นมารนอกรีต ซึ่งเป็นสิ่งผิด แต่ทว่า… ก็ไม่ผิดจนสมควรตาย”

หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวอย่างขมขื่น “วิเคราะห์ขั้นท้ายแล้ว ข้าเองก็อ่อนแอเกินไป หากข้าแข็งแกร่งเพียงพอ พวกเขา… คงไม่ปฏิบัติกับข้าเช่นกาลก่อนเป็นแน่”

ถ้อยคำของชายหนุ่มในชุดเรียบ ๆ ทำให้พวกเขามองเห็นความหวัง!

ทว่ายามนี้ เสียงเฉยเมยอีกเสียงก็ดังขึ้นท่ามกลางฟ้าดิน

“ไม่ผิดจนสมควรตาย? ผิดแล้ว เจ้าต้องไม่เมตตายามรับมือศัตรู อย่าได้ลืมว่าหากครานี้ไม่ได้เรา เจ้าคงจบสิ้นแล้ว!”

เสียงยังคงกังวานก้อง ขณะที่ร่างสูงของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุ

อาภรณ์สีเขียวของเขาพลิ้วไสวท่ามกลางแสงจันทร์สุกสกาวราวกับเทพเซียนไร้มลทิน!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset