หลังจากฝึก ‘ฮุบกลืนพลังวิเศษ’ กับจอมโจรผาแดงเสร็จ
ย็อมจุนยอลผู้ออกจากเหตุหวงห้ามผ่านจุดที่ไม่มีกล้อง กำลังอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะได้รับคำชมเชยจากอาจารย์ของตน – จอมโจรผาแดง
‘วันนี้ดีขึ้นมากเลย… การฝึกในจินตนาการได้ผล!’
แม้จะเป็นแค่เสี้ยววินาที แต่เปลวไฟของจอมโจรผาแดงเกือบจะขยับตามเคลื่อนพลังวิเศษของเขาแล้ว
จอมโจรผาแดงซึ่งสัมผัสถึงเรื่องนั้นได้ โยนคำชมใส่ย็อมจุนยอลไม่ขาดปาก จนเขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก
‘ถ้าเราฝืนเค้นพลังใจมากกว่านี้อีกนิดก็คงทำสำเร็จ’
ย็อมจุนยอลอ้อนวอนอยากเรียนมากกว่านี้ แต่อาจารย์ของเขาไม่ยอมผ่อนปรน
หมากรุกเป็นการสู้ด้วยมือก็จริง แต่ที่จอมโจรผาแดงพูดก็ไม่ผิด ถ้าขาดเรี่ยวแรง สมาธิก็จะพังและอาจทำให้มือสั่น
‘อาจารย์ดูจะรู้จักหมากรุกเป็นอย่างดี’
ถึงจะเป็นเขตหวงห้าม แต่ที่นี่ก็ยังอยู่ในเขตโรงเรียนแสงเงิน
กล่าวคือ มีโอกาสสูงที่จอมโจรผาแดงจะถูกลงทะเบียนไว้กับบาเรียของโรงเรียน
ใครบางคนซึ่งรู้จักหมากรุกดี และมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงเรียนแสงเงิน
เขาได้เบาะแสเกี่ยวกับอาจารย์ของตนเพิ่มแล้ว
‘การแข่งหมากรุกที่จัดโดยกลุ่มย่อยสเทลเมต ผู้เข้าแข่งจะไม่ถูกจำกัดแค่นักเรียน แต่ครูก็สามารถสมัครได้… และถึงจะไม่ใช่นักแข่ง แต่คนที่สนใจก็สามารถเข้าชมได้เช่นกัน’
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีโอกาสที่จอมโจรผาแดงจะเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์หมากรุก
‘มีเหตุผลให้จริงจังกับการแข่งแล้ว!’
ย็อมจุนยอลอมยิ้มขณะครุ่นคิด
“จุนยอล มาสายนะ”
ความคิดของย็อมจุนยอล ถูกขัดจังหวะโดยเสียงเรียกของยงเจกอน
“ครูยงเจกอน กำลังรอผมอยู่หรือ”
“ได้ยินว่าวันนี้ก็ถูกจินซึงหาเรื่องอีกแล้ว… ทางนั้นไม่รู้จักเข็ดหลาบสักทีนะ”
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ย็อมจุนยอลปรอทแตกได้ – ฉายามังกรแดงน้อย
มีหลายครั้งที่ผู้คนจงใจเรียกฉายาดังกล่าวเพื่อกระตุ้นต่อมโทสะของย็อมจุนยอล
พักหลังมานี้ มาจินซึงคือตัวแทนคนกลุ่มนั้น
“จินซึงเป็นศิษย์ที่น่ารักก็จริง แต่บางครั้งก็มีมุมน่ารังเกียจ… ทำไมถึงเอาแต่เรียกเพื่อนด้วยฉายาที่อีกฝ่ายไม่ชอบกันนะ คราวหน้าตอนดวลกันก็ลองไม่ออมมือดูบ้างสิ”
“ฮะฮะ! ผมไม่เคยออมมือให้นะครับ วันนี้เขาก็ไล่ตามผมเหมือนเคย ก็เลยเสกคุกไฟขังเอาไว้”
“จุนยอลน่ะใจดีเกินไป เป็นเหตุผลว่าทำไมมังกรครามกับย็อมบังยอลถึงเป็นห่วง… คราวหน้าก็ลองฉีกกล้ามเนื้อหูรูดปากของเขาดูนะ รับประกันได้เลยว่าทางนั้นจะเลิกปากเสียกับเจ้าไปอีกนาน”
“ถ้าได้ดวลกับจินซึงอีก คราวหน้าจะลองดูนะครับ!”
จริงอยู่ว่าอาการบาดเจ็บระดับนั้นสามารถรักษาให้หายในพริบตาได้ด้วยไอเท็มฟื้นฟู แต่บทสนทนาระหว่างเผ่ามังกรกับลูกหลานก็ดูจะป่าเถื่อนเกินไปหน่อย
ทั้งสองเดินผ่านประตูโรงเรียนแสงเงิน
เมื่อพ้นเขตโรงเรียน ยงเจกอนหันมาถามด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“แล้วตกลงว่าเจ้าไปพบใครหลังจากสลัดจินซึงหลุด? จุนยอล แม้ข้าจะสัมผัสถึงเจ้าได้แค่คนเดียว แต่ลางสังหรณ์มันบอกว่ามีใครบางคนอยู่ด้วยกัน”
ยงเจกอนไม่เพียงจะมีสกิลตรวจจับเลเวลสูง แต่ยังมีลางสังหรณ์แม่นยำ
ย็อมจุนยอลเริ่มระแวงว่า ยงเจกอนอาจตรวจพบความไม่ชอบมาพากลด้วยลางสังหรณ์นั้น แต่ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“ผมเพิ่งกลับจากการฝึกครับ”
“กับใครล่ะ”
ถึงจะไม่ได้บอกทุกเรื่อง แต่ย็อมจุนยอลก็ไม่อยากโกหกยงเจกอนที่คอยดูแลเขาเสมอมา
เมื่อยงเจกอนเห็นว่าย็อมจุนยอลตอบไม่ได้ เขาแอบยิ้มอย่างเงียบงัน
“ไปฝึกกับคนที่เอ่ยนามไม่ได้มาหรือ”
ยงเจกอนเผยสีหน้าซาบซ่าน ซึ่งแม้แต่เผ่ามังกรด้วยกันก็ยังมองว่าน่าขนลุก
“กลับไปเล่นหมากรุกกันเถอะ จุนยอล”
* * *
‘การที่มุนแซรอนซึ่งพยายามทำข่าวการเคลียร์รอยแยกของห้อง 2/0 กับจูเก่อแจกอลที่เป็นครูประจำชั้นห้อง 2/0 และที่ปรึกษาชมรมหนังสือพิมพ์ ถูกสมาคมเพลเยอร์เรียกตัวไปให้ปากคำ ย่อมสื่อได้ว่าพวกเขาไปเห็นเรื่องสำคัญมากมา’
แม้มุนแซรอนที่แอบตามไป จะถูกเด็กห้อง 2/0 ไล่กลับมาก่อน แต่ถ้าคำนึงจากการที่ถูกสมาคมเรียกตัว เธอน่าจะได้เห็นฉากสำคัญเข้า
วังจีโฮยังคงเล่าต่อด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ระดับความยากของรอยแยกที่ถูกปกครองคือ N- แม้การเคลียร์หรือปกครองมันจะไม่มีประโยชน์นัก แต่เรื่องที่มนุษย์สามารถปกครองรอยแยกได้ ก็ยังถือว่าน่าทึ่งอยู่ดี”
นี่เป็นเส้นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในเกม
ดูเหมือนว่าเมื่อจูเก่อแจกอลมีชีวิตรอดและยังอยู่กับโรงเรียน อัจฉริยะในทางที่ผิดเหล่านั้นได้ทำลายขนบเดิมๆ ของโลก
“ปี 2/0 สินะ… แล้วใครเป็นคนปกครองรอยแยก”
“จะอธิบายยังไงดี…”
มันซับซ้อนนักรึไง
วังจีโฮเล่าต่อไป
“ทุกคนร่วมมือกันจนสำเร็จ… อาศัยหัวหน้าห้องอย่างกึมชานซอลเป็นร่างหลัก พวกเขาปกครองรอยแยกด้วยการ ‘เชื่อมโยง’ คลื่นพลังวิเศษเข้าด้วยกัน”
เชื่อมโยงเคลื่อนพลังวิเศษ
แค่จินตนาการยังยากเลย
ฉันยังจำวินาทีที่วังจีโฮ ‘ระงับ’ คลื่นพลังวิเศษของเสือแดงกับควอนเจอินได้
วังจีโฮใช้ปลายนิ้วดูดคลื่นพลังวิเศษของพวกเขาขึ้นมา แต่ไม่นานก็ต้องรีบปล่อยออกไป
กล่าวอีกนัยหนึ่ง คลื่นพลังวิเศษมิใช่สิ่งที่สามารถผสมหรือหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้ง่ายนัก
จึงคาดไม่ถึงว่ากลุ่มนักเรียนอัจฉริยะจะเชื่อมโยงมันสำเร็จ
“หลังจากเพลเยอร์ SAT-K วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลก่อนและหลังการเคลียร์รอยแยกอยู่สามสี่หน สมองกลของดาวเทียมได้ตัดสินว่ากึมชานซอลปกครองรอยแยกดังกล่าวสำเร็จ… แน่นอนว่าเรื่องนี้สร้างความแตกตื่นอย่างมาก ตอนแรกทางสมาคมเชื่อว่าดาวเทียมเสียและเริ่มรื้อออกมาตรวจสอบใหม่ แต่หลังจากไม่พบอะไร จึงเปลี่ยนแผนมาสืบสวนโดยขอความร่วมมือผ่านโรงเรียนแสงเงินแทน”
นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุดสินะ
ฮงกยูบินและอิมจีฮวาคงทำงานล่วงเวลากันอีกแล้ว
“คลื่นพลังวิเศษเปรียบดังลายนิ้วมือ จึงไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะเชื่อมโยงคลื่นจำนวนมากเข้าด้วยกันสำเร็จ… ถ้าปี 2/0 ยื่นเรื่องขอทำวิจัยในหัวข้อการปกครองรองแยก ฉันจะอนุมัติทันทีและช่วยสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่”
วังจีโฮดูมีความสุขจริงๆ
‘การเชื่อมโยงคลื่นพลังวิเศษ… มนุษย์ประสบความสำเร็จในการปกครองรอยแยก’
มีเรื่องให้ต้องสืบเพิ่มอีกแล้วสิ
* * *
ภายในห้องพัก, หลังจากเสร็จการฝึกช่วงเย็น
นั่งเล่นบนโซฟา ฉันก้มมองนิตยสารฉบับพิเศษของจูเก่อแจกอลรุ่นตีพิมพ์ครั้งแรกที่วังจีโฮช่วยหยิบติดมือกลับมาให้
‘ยังกับนิตยสารตามท้องตลาด’
ปกนิตยสารคือภาพถ่ายของจูเก่อแจกอล สมัยที่เคยเป็นนายแบบประชาสัมพันธ์โรงเรียนและรับสมัครบุคลากรเข้าทำงาน
รอบภาพถ่ายของจูเก่อแจกอล ถูกตกแต่งด้วยตัวหนังสือที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี
ทั้งการจัดวางและงานศิลป์ช่วยเน้นหนักคำว่า ‘สกิลวาจา’ ให้โดดเด่น
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด คือของแถมซึ่งมาพร้อมกับนิตยสารปกแข็งหุ้มไวนิลเล่มนี้
‘ตกลงว่าทำให้จูเก่อแจกอลหรือแฟนคลับกันแน่’
โฟโต้บุ๊กที่เลือกเฟ้นรูปถ่ายที่ดีที่สุดในแต่ละปีของจูเก่อแจกอลนับตั้งแต่เดบิวต์
ชิปโฮโลแกรมที่บรรจุการสัมภาษณ์สำคัญๆ เอาไว้เต็มเปี่ยม
ชุดสติกเกอร์รูปถ่าย, โปสเตอร์, และกล่องแข็งสำหรับใส่นิตยสาร
โดยเฉพาะการ์ดส.ค.ส.ที่ออกแบบได้สวยงาม ยังกับของไอดอลหรือสตาร์เพลเยอร์
‘ชมรมหนังสือพิมพ์คลั่งจูเก่อแจกอลไม่แพ้ห้อง 2/0 เลยนี่หว่า…’
ทั้งหมดนี้คือนิตยสารพิเศษและของแถม ซึ่งชมรมหนังสือพิมพ์จัดทำขึ้นเพื่อวันครู
เข้าใจแล้วว่าทำไมปี 2/0 ถึงยอมแลกห้องสวีทในช่วงไฮซีซั่นกับนิตยสารแค่เล่มเดียว
ปิ๊งป่อง!
ระหว่างที่ฉันครุ่นคิดเกี่ยวกับนิตยสารซึ่งถูกห่อไว้ในสภาพดี มีข้อความใหม่ถูกส่งมาถึง
เป็นข้อความจากห้องแชตของจูซูย็อกและเม็งเฮียวทง
[จูซูย็อก] อึยชิน เฮียวทง! พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนว่างกันไหม
[เม็งเฮียวทง] มีอะไร
[จูซูย็อก] สัปดาห์ก่อนพวกเราตกลงกันว่าจะไปหาซื้อทักซิโด้ด้วยกันไง ไปพรุ่งนี้เถอะ!
[เม็งเฮียวทง] ฉันว่าง
ระหว่างทางขณะกลับจากโรงเรียนมัธยมต้นทันแรในวันครู พวกเราคุยกันเรื่องชุดที่จะใส่เข้าร่วมปาร์ตี้บนเรือ และวางแผนจะไปเลือกด้วยกันโนiวลกูดอทคอม
วันมะรืนจะเริ่มแข่งทัวร์นาเมนต์หมากรุกแล้ว ถ้าคำนึงจากตารางงาน ฉันก็ควรจะปฏิเสธ
ทว่า
[ฉัน] ฉันไปได้
ฉันแสร้งทำเป็นลืมตัวตนของกระดานหมากรุกที่ซื้อมาแล้วแต่ยังไม่ได้แกะ
หมากสักตัวก็ยังไม่ได้จับ
[จูซูย็อก] พรุ่งนี้หลังจบคาบชมรมเจอกันที่ทางเข้าหลัก! ไปหามื้อเย็นอร่อยๆ กินกันด้วย
[เม็งเฮียวทง] ตกลง
ไหนๆ ก็เปิดหน้าต่างข้อความขึ้นมาแล้ว ฉันไล่อ่านข้อความที่ยังไม่ได้ตอบ
ชุดแรกเป็นข้อความจากกลุ่มของจางนัมอุกและอูซังฮุน
‘จางนัมอุกได้สติกลับมาแล้วสินะ’
จางนัมอุกเคยสติหลุดไปตลอดสุดสัปดาห์ หลังจากได้เห็นดาวบนบ่าของนายพลที่มาร่วมโต๊ะอาหาร
จนถึงตอนนี้อูซังฮุนก็ยังไม่เข้าใจว่าจางนัมอุกเป็นอะไร
ฉันปิดกลุ่มแชตที่ดูจะคุยกันไม่รู้เรื่องทิ้งไป
ถัดมาเป็นข้อความจากพัคซึงยอนที่ฝากความคิดถึงไว้สั้นๆ
ถัดมาเป็นข้อความจากมินกือริน เธอแจ้งว่าตอนนี้ได้เปลี่ยนรูปอวตารของมาร์กเกอร์ให้เป็นภาพวาดใบหน้าเพื่อนร่วมห้องแล้ว
เธอส่งรูปที่วาดเสร็จกลับมาให้ฉันดูด้วย
[มินกือริน] ไอเท็มที่นายให้มา ฉันเพิ่งลองใช้เป็นครั้งแรก
[มินกือริน] (รูปภาพ)
ถ้าใช้ ‘หยดน้ำเจือลมหายใจนางเงือก’ ผสมกับสีวาดรูป ได้ยินว่าสีจะไม่จางลง
ฉันชื่นชมภาพเหมือนของเพื่อร่วมห้องซึ่งวาดด้วยสีที่ไม่จาง พลางบันทึกรูปเก็บไว้ในดีไวซ์
ข้อความถัดไปมาจากซองซีวานและซองกุกอุนเพื่อนัดกินข้าว
‘นัดกินข้าวอีกแล้ว?’
มีเหตุผลอะไรที่ซองกุกอุนต้องยึดติดกับเด็กปีหนึ่งขนาดนี้
ฉันตอบตกลงและเลื่อนไปอ่านข้อความถัดไป
[อึนแจโฮ] (รูปภาพ)
[อึนอีโฮ] ครั้งนี้ก็ยังดูไม่น่ากินสินะคะ ㅠㅠ
[อึนซอโฮ] ผมพยายามแล้ว แต่มันไม่ได้ผล…
รูปที่ส่งมา น่าจะเป็นจานอาหารที่ลูกหลานเสือเงินปรุงขึ้น
ฉันทำได้แค่สันนิษฐานว่ามันคือจานอาหาร เพราะดูไม่ออกว่าในจานเป็นอะไร
‘วังจีโฮกับแบคโฮกุนของกินของพวกนี้หรือ’
กระเพาะอาหารของเผ่าแท้ทนทานกว่ามนุษย์ คงไปน่าจะเป็นอะไร
มั้งนะ
[อึนแจโฮ] สัตว์ศักดิ์สิทธิ์หนีไปซ่อนแล้ว ยังกับมันไม่อยากกินเลย…
น้องเล็กอึนแจโฮส่งรูปมาเพิ่ม
ในรูปเห็นแต่หางสีขาว
ร่างกายเจ้าบ่วงถูกบางสิ่งคลุมอยู่
‘พรมที่ฉันซื้อให้!’
เจ้าบ่วงคลานเข้าไปแอบในพรมบนพื้น
เป็นภาพที่ทำให้ฉันฉุกคิดได้
‘ทำไมเราถึงไม่ซื้อที่ซ่อน หรือผ้าห่มให้เจ้าบ่วงไว้ซ่อนตัวกันนะ…’
เมื่อเทียบกับเจ้าบ่วงแสนรู้ ฉันดูโง่ไปเลย
ถ้าได้เจอกันคราวหน้า เห็นทีต้องตั้งใจเลือกของขวัญให้มากกว่านี้
ฉันไล่อ่านข้อความค้างตอบอยู่สักพัก
‘ได้เวลาติดต่อไปหาพวกเขาแล้วสินะ’
ฉันเปิดห้องแชตที่ไม่มีความเคลื่อนไหวมาแล้วหลายสัปดาห์
[ฉัน] สวัสดีครับรุ่นพี่ ยุ่งกันอยู่ไหม
คำตอบกลับมาเร็วกว่าที่คิด
[กึมชานซอล] ไสหัวไปซะ เจ้าเด็กชมรมหนังสือพิมพ์
[วังชานซอล] พวกเรายุ่งอยู่
โดนวังจีโฮสั่งสอนมา แล้วทำไมถึงมาลงกับฉัน?
คำนึงจากชื่อเล่นในห้องแชตและรูปอวตารของทั้งสอง พวกเขาคงแบ่งนิตยสารฉบับพิเศษที่เป็นโควตาของวังจีโฮกัน
กึมชานวังชานจับทีมกันแล้วคว้าชัยในศึกสุดท้ายของห้อง 2/0
[ฉัน] พอดีอยากจะนัดเจอครับ มีเรื่องจะคุยด้วย
[วังชานซอล] พวกเราแพงนะ
[กึมชานซอล] พวกเราแพงนะ 2
ไม่ว่ากึมชานซอลและวังชานซอลจะแพงแค่ไหน แต่มีไอเท็มชิ้นหนึ่งที่ช่วยให้ถูกลงได้ในพริบตา
[ฉัน] (รูปภาพ)
[ฉัน] ไม่อยากได้กันหรือ
ฉันส่งรูปนิตยสารฉบับพิเศษที่เป็นโควตาของตัวเองเข้าไปในห้องแชต
สภาพเอี่ยมอ่อง ยังไม่ได้แกะเลยสักนิด
ถึงจะน่าใจหายที่ต้องเสียสละไอเท็มหายากเกี่ยวกับตัวละครของฉัน แต่ไม่ว่ายังไงอนาคตของโลกนี้ก็สำคัญกว่า
ทันทีที่ข้อความถูกอ่าน ฉันได้รับคำตอบในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา
[วังชานซอล] ขอบคุณที่ติดต่อมานะ รุ่นน้องที่น่ารักของฉัน!
[กึมชานซอล] คุณรุ่นน้องน่ารักที่สุด!
[วังชานซอล] มีอะไรให้รุ่นพี่คนนี้รับใช่ไหม คุณรุ่นน้อง!
[กึมชานซอล] พวกเราไม่ได้ยุ่งเลยสักกระติ๊ด พร้อมนัดเจอคุณรุ่นน้องได้ทุกเมื่อ!
[วังชานซอล] ตอนนี้เลยก็ได้นะ ฉันอยากเจอนายตอนนี้เลย!
ไม่อยากเชื่อว่าคนเราจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
* * *
กลางดึกสงัด, คฤหาสน์วังมยองโฮ, เขตอึนกวาง
รั้วสีทองที่เสือเหลืองบรรจงถักทอด้วยพลังเวทอย่างประณีต
สวนวงกตที่จะล่อลวงผู้บุกรุกแปลกหน้า และเปลี่ยนเหยื่อให้กลายเป็นเด็กหลงทางในมิติลึกลับ
แต่ในตอนนี้ บาเรียป้องกันสุดแข็งแกร่งฝีมือผู้นำเผ่าเสือ กำลังถูกเจาะทะลวงอย่างง่ายดาย
ฟ้าว!
ผู้บุกรุกเล็ดลอดผ่านอุปสรรคทั้งหมด ผสมปนเปมากับเสียงโหยหวนแผ่วเบาของสายลม
จนกระทั่งมาถึงหน้าทางเข้าตัวอาคาร
ขณะผู้บุกรุกเลือกหน้าต่างบานหนึ่งและเตรียมเจาะบาเรียเข้าไป
“นานแล้วสินะที่ไม่ได้เล่นซ่อนหากับเจ้า”
ผู้นำเผ่าเสือในร่างวัยรุ่น ปรากฏตัวด้านหลังผู้บุกรุก
ผู้บุกรุกพยายามหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ แต่ข้อเท้าของเขาถูกพันธนาการไว้ด้วยตรวนพลังเวทฝีมือเสือเหลือง
‘เสร็จกัน!’
วังจีโฮยิ้มด้วยดวงตาเป็นประกายขณะยืนมองผู้บุกรุกเสียท่า
“เจ้าเล่นซนแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไรแล้วนะ… คิมชินรก”