เช้าตรู่วันเสาร์
MITRON – ร้านเบเกอรี่แฮนด์เมดทางฝั่งประตูทิศตะวันตก – ร้านค้าชื่อดังแห่งเขตอึนกวาง
ฉันเตรียมซื้อของขวัญแทนคำขอโทษจากที่นี่
‘วันเสาร์ยังต้องต่อคิวอีก’
เมื่อลองตรวจสอบดีไวซ์ระหว่างรอ ฉันพบข้อความใหม่จำนวนมาก
เป็นข้อความจากแชตกลุ่มของจางนัมอุกและอูซังฮุน
[อูซังฮุน] นี่
[อูซังฮุน] นี่ใช่จางนัมอุกไหม
[อูซังฮุน] (ลิงก์บทความ)
‘จางนัมอุกมีชื่อในบทความ?’
ฉันรีบคลิกลิงก์เข้าไปอ่าน
[นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่หนึ่งของโรงเรียนเพลเยอร์เตรียมทหาร, จัดพิธีสวนสนามเพื่อเซอร์ไพรส์วันครู]
ใต้พาดหัวข่าวมีวิดีโอแนบมาด้วย
ปกคลิปเป็นภาพของนักเรียนเตรียมทหารปีหนึ่งหลักร้อยคน
‘ดูจากจำนวนคน… เด็กปีหนึ่งน่าจะมากันครบ ส่วนตรงนี้ก็คือ… จางนัมอุก’
นักเรียนนายร้อยกลุ่มใหญ่กำลังยืนเรียงแถวในสภาพแต่งเครื่องแบบเต็มยศ
จางนัมอุกยืนอยู่หน้าสุด โดยหันหน้าเข้าหาแถวนายร้อย
[จางนัมอุก] ใช่ ฉันเอง
[อูซังฮุน] ?
[จางนัมอุก] เป็นงานที่ปีหนึ่งเตรียมไว้แสดงในวันครูน่ะ ซีฮูอ่านเจอจากเอกสารเก่า ก็เลยบอกให้ฉันรื้อฟื้นขึ้นมาจัดใหม่
คำอธิบายของจางนัมอุกมีดังนี้:
นักเรียนนายร้อยปีหนึ่งรุ่นนี้กลมเกลียวกันมาก โดยมีโดซีฮูเป็นศูนย์กลาง
จึงมีไอเดียจะจัดพิธีสวนสนามขึ้นเพื่อเซอร์ไพรส์ในวันครู
‘ขึ้นอยู่กับปริมาณกำลังพล แต่พิธีสวนสนามส่วนใหญ่ต้องใช้ฝึกไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี… แม้แต่ในกองทัพบก สมัยนี้ได้ยกเลิกกองทหารเกียรติยศไปแล้ว’
จากอดีตจนถึงเมื่อสิบปีก่อน เพลเยอร์นักเรียนนายร้อยจะถูกบังคับให้เข้าร่วมพิธีสวนสนามของโรงเรียน
อย่างไรก็ดี พิธีสวนสนามไม่ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการรบแม้แต่น้อย รังแต่จะสิ้นเปลืองเวลาฝึกไปอย่างเปล่าประโยชน์
จนกระทั่งมีข่าวลือกึ่งติดตลกแพร่ไปทั่วแวดวงการศึกษาว่า เพลเยอร์ส่วนใหญ่ไม่สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเพราะไม่ต้องการถูกบังคับเดินสวนสนาม กลุ่มสตาร์เพลเยอร์ที่เป็นศิษย์เก่าจึงผลักดันให้มีการยกเลิกพิธี
‘เด็กพวกนี้ทำไปด้วยความสมัครใจ… ต้องสนิทกับครูฝึกมากแน่ๆ’
จากนัมอุกเล่าว่า ตอนแรกก็ขอแค่อาสาสมัคร คัดเฉพาะคนที่เต็มใจ
แต่กลับกลายเป็นว่า นักเรียนปีหนึ่งทุกคนตอบรับภายในวันเดียว
[อูซังฮุน] แล้วทำไมโดซีฮูไม่ใช่คนคุมแถว?
[จางนัมอุก] ก็ไม่รู้เหมือนกัน…
โดซีฮูเป็นคนคิดแผนนี้ แต่พิธีจบลงอย่างสมบูรณ์ได้เพราะจางนัมอุก – เด็กหนุ่มจู้จี้ขี้บ่น ผู้เหมาะแก่การเป็นคนคุมขบวนสวนสนาม
‘ไหนดูผลงานจางนัมอุกหน่อยซิ’
เมื่อฉันเปิดวิดีโอในหน้าต่างใหม่ เสียงออกคำสั่งอันขึงขังของจางนัมอุก ดังกังวานไปตลอดแถวสวนสนาม
ภาพของนักเรียนนายร้อยกลุ่มใหญ่แปรอักษรตามเสียงคำสั่งได้โดยไม่สับสนอลหม่าน ดูแล้วอดชื่นชมในความยอดเยี่ยมไม่ได้
การเคลื่อนไหวอันพร้อมเพรียงของผู้คนหลักร้อย เกิดขึ้นบนจอภาพเป็นเวลานาน
‘แปรอักษรเป็นชื่อของครูฝึกรุ่นปัจจุบันสินะ’
ภาพสุดท้ายคือดอกคาร์เนชั่นและตราโรงเรียนเพลเยอร์เตรียมทหาร
เมื่อขบวนแถวหยุดค้างที่ภาพของตราโรงเรียนและดอกคาร์เนชั่น บรรดาครูฝึกบนอัฒจันทร์ต่างลุกขึ้นยืนปรบมือโดยพร้อมเพรียง
เกือบทั้งหมดใส่เครื่องแบบของครูฝึก แต่ก็มีบางคนแต่งเต็มยศอยู่ช่วงกลางแถว
ได้เห็นอินทรธนูบนไหล่ อาการงัวเงียของฉันหายเป็นปลิดทิ้งทันที
‘ดาว…! มีนายพลมาร่วมงานวันครูด้วยรึไง’
อยากปรบมือให้จริงๆ ที่สามารถเดินสวนสนามและแปรอักษรได้โดยไม่ขาสั่นต่อหน้านายพล
เข้าใจแล้วว่าทำไมข้อความของจางนัมอุก ถึงดูเหมือนพิมพ์โดยคนไร้เรี่ยวแรง
[ฉัน] นายเจ๋งชะมัด! กินให้อิ่ม นอนให้พอนะเพื่อน
จางนัมอุกคนทำงานหนักมากจริงๆ
[อูซังฮุน] เก่ง!
แน่นอนว่าความพยายามของจางนัมอุก มิอาจสาธยายได้ด้วยข้อความแค่นี้
[จางนัมอุก] ขอบใจมาก อึยชิน ซังฮุน พักหลังมานี้นอนไม่ค่อยพอ… วันนี้ครูฝึกยังบอกให้ฉันกับซีฮูเตรียมแต่งตัวดีๆ ไปกินมื้อกลางวันอีก ฉันว่าจะงีบยาวจนกว่าจะถึงตอนนั้น
แค่หนึ่งวันหลังจากนายพลปรบมือชื่นชม คนวางแผนกับคนคุมขบวนสวนสนามก็ถูกเรียกไปพบทันที?
ชักอยากรู้แล้วว่าเที่ยงวันนี้จางนัมอุกมีนัดกินข้าวกับใคร แต่เห็นทีคงต้องปล่อยให้เขานอนเก็บแรงไปก่อน
ขณะปิดหน้าต่างห้องแชต ฉันนึกขึ้นมาได้
‘หรือว่าโดซีฮูทำไปเพื่อช่วยจางนัมอุก…’
แม้จะไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่จางนัมอุกผู้แทบจะไร้บทบาทตลอดเหตุร้าย ณ สนามเบสบอลจัมชิล คงผิดหวังในตัวเองไม่น้อย
โดซีฮูจึงมอบหมายให้เขาเป็นคนคุมขบวนสวนสนาม
เพราะประสบการณ์แห่งความสำเร็จ จะมอบความมั่นใจให้อีกฝ่ายได้มาก
แต่โดซีฮูอาจจะแค่ขี้เกียจเฉยๆ ก็ได้
“ยินดีต้อนรับครับ… เธอนี่เอง… เมื่อวานเพิ่งมากับเพื่อนนักเรียนปี 1/0 ใช่ไหม”
“ใช่ครับ สวัสดี”
เมื่อถึงคิวฉันยืนอยู่หน้าแคชเชียร์
ชายในชุดพ่อครัวขนมที่เคยเห็นเมื่อวาน เป็นฝ่ายทักทายก่อน
เพลเยอร์คนดังที่วังจีโฮเคยสงสัยว่า ‘ได้รับพรคุ้มครองที่แข็งแกร่งจากเผ่าแท้’
‘จำเราได้ด้วย? ขนาดไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนมา…’
ดูท่าจะเป็นเพลเยอร์ความจำดี
ฉันเลือกสั่งเซตเครมบรูเล่หกรสชาติ
เค้กไอศกรีมซอเบต์รสมะม่วง สตรอว์เบอร์รี และเชอร์รีตามฤดูกาล
แค่สองอย่างนี้
“ให้ห่อกล่องของขวัญไหมครับ”
“ครับ รบกวนด้วย”
เพลเยอร์พ่อครัวขนมห่อเค้กใส่กล่องด้วยรอยยิ้ม
ขณะเดินออกจากร้านเบเกอรี่พร้อมกับกล่องของขวัญและน้ำแข็งแห้ง ฉันเริ่มเอะใจกับความแปลก
‘ทำไมพ่อครัวขนมถึงต้องมาคิดเงินกับห่อของขวัญเอง…’
แถมนี่ยังเป็นเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์
ถึงจะคาใจนิดหน่อย แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องอื่นให้กังวลมากกว่า
* * *
คฤหาสน์ของวังมยองโฮในเขตอึนกวาง
ฉันเข้ามาถึงตัวอาคารหลังจากผ่านรั้วสีทองและสวนวงกต
วังจีโฮเจ้าของดวงตาเป็นประกาย เป็นฝ่ายชิงกล่าวทักทาย
“ยินดีต้อนรับโชอึยชิน นายมาสายนะ”
ยังไม่เก้าโมงเช้าเลย
ปกติแล้วถือว่าเสียมารยาทด้วยซ้ำ หากแวะมาเยี่ยมบ้านใครในเวลานี้
แต่วังจีโฮกลับนิยามว่า ‘สาย’
ถึงจะน่าหงุดหงิด แต่ฉันก็พูดอะไรไม่ได้
“อึยชินอปป้า! สวัสดีค่ะ มาสายนะคะ”
“พี่อึยชิน! นึกว่าจะมาตั้งแต่เมื่อวานซะอีก…”
“สวัสดีครับพี่โชอึยชิน”
สามพี่น้องกล่าวทักทายฉัน น้ำเสียงเจือความผิดหวังผสมยินดี
“ขอโทษ…”
ถ้ามัวแต่หาข้ออ้างในเวลาแบบนี้ เด็กๆ จะเสียใจโดยใช่เหตุ ฉันจึงขอโทษไปแต่โดยดี
แล้วก็…
ที่ต้องขอโทษไม่ได้มีแค่สามพี่น้อง
เจ้าบ่วงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง แต่เดินวนรอบขาฉันโดยใช้หัวคลอเคลีย
…คงดีใจที่เรามา แต่ก็เสียใจที่ไม่ได้มาตั้งแต่เมื่อคืน
“ขอโทษนะเจ้าบ่วง”
ฉันโน้มตัวลงไปลูบหัวพลางขอโทษ
แต่ไม่มีการตอบสนอง
ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้
โดยไม่ชักมือกลับ ฉันตัดสินใจลูบหัวจนกว่าเจ้าบ่วงจะยกโทษให้
ลูบหัวอยู่สักพัก
ขณะได้ยินเสียงวังจีโฮเดาะลิ้น
บ๊อก!
เจ้าบ่วงเงยหน้าขึ้นมาเห่าใส่ฉัน
จากนั้นก็แลบลิ้นเลียนิ้วมือข้างที่ลูบ
ยกโทษให้แล้ว!
ฉันยกมันขึ้นมาอุ้มอย่างอารมณ์ดี
“ขอบคุณนะ… ใจดีจริงๆ เจ้าบ่วงของฉัน”
บ๊อก! บ๊อก!
เจ้าบ่วงเห่าตอบด้วยเสียงใสกังวานเหมือนกับทุกครั้ง
มีความสุขชะมัด
“โชอึยชิน ดูเหมือนสติปัญญาของนายจะลดลงเวลาอยู่ใกล้ๆ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์นะ”
ทำไมวังจีโฮถึงเอาแต่พูดจาเหลวไหล ในช่วงเวลาแห่งความสุขระหว่างฉันกับเจ้าบ่วง
ช่วยทำตัวเงียบๆ เหมือนกับแบคโฮกุนไม่ได้รึไง
วันนี้ฉันวางแผนใช้เวลาร่วมกับสามพี่น้องและเจ้าบ่วงให้เต็มคราบ
ของขวัญสำหรับเด็กๆ ทั้งสามคือเกมและ VR เกียร์รุ่นล้ำยุค
อุปกรณ์มีทั้งหมดสามชุด
‘จะได้ไม่ต้องแย่งกันเล่น แถมยังเล่นมัลติฯ พร้อมกันได้’
ช่วงแรกสามพี่น้องยังงงๆ เพราะไม่ชินกับการควบคุม แต่ไม่นานก็เริ่มสนุก
เกมที่ทั้งสามชอบที่สุดคือ ‘สวนสนุก VR’
‘ดูท่าจะชอบสวนสนุกจริงๆ’
หลังจากพวกเขานั่งเครื่องเล่นเสร็จไปหนึ่งรอบ แต่ละคนถอด VR เกียร์ออกมาบรรยายความรู้สึก
วังจีโฮพูดอะไรบางอย่างขณะมองพวกเรา
“เซ้งกิจการให้เสร็จหน้าร้อนนี้เลยดีไหมนะ”
ดูท่าสิทธิ์ในการบริหาร ‘สวนสนุกนัมกุง C&T’ ในกรุงโซลจะเปลี่ยนมือเป็นวังมยองกรุปในอนาคตอันใกล้
“ยังมี VR เกียร์เหลืออีกไหมครับ ท่านเสือเหลืองกับพี่อึยชินจะได้เล่นด้วยกัน…”
“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สวม VR เกียร์ไม่ได้ใช่ไหม อยากเล่นด้วยกันจัง…”
“อยากไปสวนสนุกของจริงจังเลยเนอะ!”
เมื่อได้เห็นท่าทีกึ่งผิดหวังของสามพี่น้อง ฉันเริ่มเห็นด้วยกับไอเดียของวังจีโฮ
เจ้าบ่วงแสนฉลาดเองก็เข้าใจบทสนทนา และเอาแต่ทำตัวน่ารักอยู่ในอ้อมแขนฉันโนเวลกูดอทคอม
บ๊อกบ๊อก!
สำหรับของขวัญของเจ้าบ่วง ฉันเตรียมสายจูงหลายรูปแบบและสีสันไว้เลือกเปลี่ยนตามอารมณ์ รวมถึงพรมคุณภาพสูงเพื่อป้องกันไม่ให้มันต้องนอนบนพื้นเย็นๆ
ฉันลองวางเจ้าบ่วงลงบนพรมสักพักเพื่อให้ทดลองนั่ง แต่มันครางต่ำและรีบเดินกลับมาหา
คงอยากอยู่ในอ้อมแขนฉันนานๆ สินะ
บ๊อก…!
ได้เห็นเจ้าบ่วงทำตัวขี้อ้อนแบบนี้ ฉันเริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของวังจีโฮอย่างจริงจัง
หมอนี่เงินเหลือเยอะไม่ใช่รึไง… แค่ซื้อสวนสนุกจะเป็นไรไป
ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกน่า!
“รีบซื้อมาให้ได้”
“ตกลง”
ฉันภาวนาให้วังจีโฮซื้อสวนสนุกได้เร็วๆ พวกเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้า
* * *
เวลาล่วงเลยอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เข้าสู่ช่วงค่ำ
หลังจากดื่มชาในสวนวงกตพลางชมจันทร์ ได้เวลาทุกคนต้องเข้านอน
“นอนกับพี่อึยชินไม่ได้จริงๆ หรือ”
“อยากคุยกับพี่อึยชินอีก”
“ยังมีเรื่องให้คุยอีกเพียบเลย…”
ในชุดนอน เด็กทั้งสามเงยหน้ามองฉันพลางกอดหมอนข้างใบเล็ก
น่ารักเหลือเกิน
แต่คงไม่ได้
ขณะกำลังไตร่ตรองว่าควรปฏิเสธอย่างไร วังจีโฮยื่นมือเข้าช่วย
“ไม่ได้”
เขายืนกรานเสียงขรึม
เผ่าแท้มักตามใจลูกหลานก็จริง แต่บางเวลาก็ต้องเข้มงวด
“โชอึยชินอายุสิบเจ็ด ส่วนเจ้าอายุสิบหก อีโฮ… ข้าคงอนุญาตให้นอนด้วยกันไม่ได้”
วังจีโฮพูดราวกับเป็นเจ้าลัทธิขงจื๊อ
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้อีโฮไปนอนที่อื่น ส่วนซอโฮกับกับข้านอนจะกับพี่อึยชิน!”
“ทำไมถึงมีแค่ข้าที่อดล่ะ! ไม่ยอมเด็ดขาด!”
“รีบเข้านอนได้แล้ว จะได้รีบตื่นมาคุยกับโชอึยชิน”
ลงเอยด้วย สามพี่น้องลูกหลานเสือเงินแยกย้ายกลับห้องตัวเอง
“…ทีกับข้าไม่เคยเห็นมาอ้อนแบบนี้”
วังจีโฮทิ้งท้ายก่อนจะจากไป
เหลือแค่ฉันในห้องนอนแขก
แต่แน่นอน ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว
บ๊อกบ๊อก!
“ใช่แล้ว เจ้าบ่วง ฉันจะเป็นหมอนหนุนให้แกเอง”
เจ้าบ่วงแสนฉลาดเข้าใจได้ในทันที จึงรีบวางศีรษะลงบนท่อนแขนของฉัน
อุณหภูมิร่างกายอุ่นๆ ของลูกสุนัขช่วยให้ฉันเคลิ้มหลับ
ขณะกำลังจะหลับสนิท เจ้าบ่วงใช้ลิ้นเลียแก้มของฉัน
กรร…
“เจ้าบ่วง? มีอะไร”
บ๊อก!
เมื่อฉันลืมตา เจ้าบ่วงเห่าด้วยสีหน้าโล่งใจ
เป็นงั้นไป
“เข้าใจแล้ว… มานอนกันเถอะ”
ขณะกำลังจะหลับอีกรอบ เจ้าบ่วงทำแบบเดิม
มันปลุกฉันตื่น
บ๊อกบ๊อกบ๊อก…!
ลูกสุนัขขนฟูดูกระวนกระวาย
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าบ่วงถึงทำตัวแบบนี้
ขณะเตรียมจะหลับอีกรอบ เจ้าบ่วงก็ปลุกขึ้นมาอีก เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้ง
ก๊อกก๊อก!
เสียงใครบางคนเคาะประตู
“เข้ามา”
เมื่อประตูเปิดออก แบคโฮกุนเดินเข้ามาในห้อง
ต้องขอบคุณแสงไฟสลัวจากทางเดิน ฉันจึงบอกได้ทันทีว่าเป็นแบคโฮกุน แต่ยังมองไม่เห็นสีหน้าของเขาในเงามืด
…ก็คงจะไร้อารมณ์เหมือนทุกที แต่พอไม่ได้เห็นสีหน้ากลับรู้สึกกดดันผิดปกติ
“มีอะไร”
เนื่องจากหลับๆ ตื่นๆ หลายรอบ เสียงของฉันจึงแตกพร่า
แบคโฮกุนเดินเข้ามาใกล้ฉันกับเจ้าบ่วง
บ๊อกบ๊อก…! บ๊อก!
มันเห่าใส่แบคโฮกุน
อีกฝ่ายเอาแต่ยืนฟังเสียงเห่า
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน แบคโฮกุนเปิดปาก
“ขอโทษ”
ขอโทษเรื่องอะไร
เขามีเรื่องต้องขอโทษเราด้วยรึไง
ฉันพยายามไตร่ตรองหาเหตุผล แต่ก็หาไม่พบ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตอบกลับไป
“ฉันไม่เป็นไร”
ถ้าตัวละครสุดท้ายของฉันอยากจะขอโทษ เขาสามารถทำได้เท่าที่ต้องการ
แต่พอตอบกลับไป แบคโฮกุนกลับนิ่งเฉย
ยังคงเอาแต่ก้มมองโดยไม่ส่งเสียง
กรร…
เจ้าบ่วงขู่ในลำคออีกครั้ง
‘หรือว่า… เขาขอโทษเราเพราะเจ้าบ่วงมีนิสัยแบบนี้?’
ลูกหลานเสือเงินเล่าว่า เจ้าบ่วงมักจะนอนกับเสือขาว
ดูท่าแบคโฮกุนจะรู้สึกผิดที่ปล่อยให้มันนอนกับแขกอย่างเรา
แต่ฉันไม่ถือสาเพราะอีกฝ่ายเป็นเจ้าบ่วง
ขณะเตรียมจะพูดออกไป
“มีคนมา”
แบคโฮกุนมองไปทางประตู
ไม่กี่อึดใจถัดมา เจ้าบ่วงเริ่มกระดิกหูพร้อมกับหันไปทางเดียวกับแบคโฮกุน
“ออกไปดูกันเถอะ”
ฉันสวมร้องเท้าแตะแล้วอุ้มเจ้าบ่วงเดินออกจากห้อง
ไม่มีทางเกิดเหตุร้ายในคฤหาสน์ของวังมยองโฮได้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สบายใจ
“พวกเจ้าก็มาด้วยสินะ”
หน้าทางเข้าหลัก
วังจีโฮกำลังยืนนิ่ง
ด้านหลังวังจีโฮคือเสือแดง
โดยไม่รอให้ฉันกล่าวทักทาย เสือแดงเปิดปาก
“เผ่าหมูเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”
เผ่าหมูเริ่มลงมือแล้ว?
เสือแดงผู้คอยจับตามองเผ่าหมูได้สักระยะ รีบร้อนกลับมารายงานข่าวสำคัญนี่เอง
แต่มีบางสิ่งแปลกๆ เกี่ยวกับเสือแดง
ร่างของเขาดูพร่ามัว
“เสือแดง… ต่อหน้าข้า เจ้าใช้ควันแดงทำไม”
เสือแดงกำลังใช้ควันแดง?
ฉันไม่เอะใจเลย แต่เผ่าเดียวกันอย่างวังจีโฮคงสัมผัสได้
“เสือเหลือง… อย่าบอกกับเด็กคนนั้นเด็ดขาด”
เด็กคนนั้น?
ตุ้บ
สิ้นเสียงประโยคสุดท้าย เสือแดงล้มฟุบไปกับพื้น
เมื่อควันแดงที่ปกคลุมร่างจางลง
ตามแจ็กเกตของเขา รวมถึงพื้นในจุดที่ล้มลง เต็มไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน