📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 70

บทที่ 70 - ผีเสื้อกระพือปีก (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

‘มาทำอะไรที่นี่…’

เสือเหลืองในร่างวัยสามสิบที่สังเกตเห็นฉัน อมยิ้มด้วยสายตาเป็นประกาย

‘ไม่คิดจะปกปิดอยู่แล้วสินะ’

ทรงผมที่หวีเรียบไปด้านหลังช่วยให้เห็นโครงหน้าคมชัด

เนื่องจากเขามีร่างแบ่งภาคตามช่วงอายุ เสือเหลืองในร่างสามสิบจึงดูไม่แก่ไม่หนุ่ม

ใบหน้าไม่ได้ขี้เล่นเท่ากับวังจีโฮ

ด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างต่างกัน คนที่ไม่สนิทจะคิดว่าเป็นแค่ญาติห่างๆ

‘แต่ดวงตาที่เป็นประกายนั่น… เหมือนกับร่างวัยรุ่นฉิบ’

กลุ่มคนที่รายล้อมเสือเหลือง ซึ่งกำลังพูดคุยบางสิ่งระหว่างกัน ปิดปากเงียบทันทีที่ฉันเดินเข้าระยะได้ยิน

คงกำลังพูดเรื่องที่ให้ใครได้ยินไม่ได้สินะ

“ไม่ต้องห่วง เขาเชื่อใจได้”

เชื่อใจได้แล้วยังไง? ไม่ถามก่อนหรือว่าเราอยากได้ยินไหม

กลุ่มคนที่ใส่สูทเริ่มหันมามองป้ายห้อยคอพนักงานของฉัน พลางจ้องชื่อที่เขียนอยู่บนป้าย

“พนักงานรายวัน, โชอึยชิน”

“โชอึยชิน…!”

อ่านชื่อจบ กลุ่มคนใส่สูทชายหญิงรวมสี่คน เผยสีหน้าประหลาดใจทันที

“นักเรียนคนนี้นี่เอง…”

“เป็นมนุษย์จริงๆ ด้วย”

“เคยช่วยลูกหลานเสือเงินเอาไว้สินะ”

คำนึงจากบทสนทนา สี่คนนี้น่าจะเป็นเผ่าเสือทั้งหมด

‘ดูท่าชื่อของฉันจะโด่งดังในหมู่เผ่าเสือสินะ’

ตัวการคงไม่ใช่ใครนอกจากวังจีโฮ

ไม่มีทางที่แบคโฮกุน เสือแดง หรือคิมชินรกจะเอ่ยชื่อฉันต่อหน้าคนอื่น

“ตอนแรกคิดว่าเป็นลูกหลานเผ่าแท้…”

“เป็นมนุษย์ไม่ผิดแน่”

“น่าแปลกจัง…”

ทั้งสี่คนทิ้งเสือเหลืองเพื่อเดินมาคุยกับฉัน

หลังจากแลกเปลี่ยนดีไวซ์โค้ด ฉันเห็นนามบัตรที่เผ่าเสือเหล่านี้ยื่นมาให้ และพบว่าทุกคนสังกัดมูลนิธิวังมยอง

“ข้ามีเรื่องจะคุยกับเขา พวกเจ้าเข้าไปเถอะ”

เสือเหลืองในวัยสามสิบกวักมือไล่เผ่าเสือทั้งสี่

“หือ…!”

“จะให้พวกเราเข้าไปจริงหรือ ท่านเสือเหลือง?”

“แน่ใจนะ?”

“ท่านพูดจริง?”

เผ่าเสือทั้งสี่ไม่เก็บซ่อนความหวาดระแวง

‘พวกเขาไม่กล้าปล่อยให้เสือเหลืองอยู่กับเราตามลำพัง?’

เมื่อสักครู่ยังชมว่าเป็นผู้มีพระคุณของลูกหลานเสือเงินอยู่เลย แล้วนี่มันอะไร?

“ท่านเสือเหลือง ถ้าเข้าไปตอนนี้… บัตรทุกใบจะถูกใช้ทันทีเลยนะ”

“โล่งอกไปที ดูเหมือนท่านเสือเหลืองจะไม่คิดแย่งบัตรไปจากเรา… ข้าเฝ้ารอคอนเสิร์ตในเกาหลีของควอนเจอินมาตลอด… ท่านแค่มาส่งสินะ? พวกเราเข้าไปนั่งได้เลยใช่ไหม?”

“ท่านเสือเหลือง… จะเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ”

“ที่พวกเรามุ่งมั่นทำงานหนักก่อนหน้านี้ ทั้งหมดก็เพื่อวันนี้โดยเฉพาะ!”

“ถึงจะเป็นเผ่าเสือเหมือนกัน และถึงมวยพยัคฆ์ของท่านจะร้ายกาจเกินไป… แต่เพื่อคอนเสิร์ตแล้ว ไม่ว่ายังไงข้าก็พร้อมสู้ตาย!”

อ้อ… มีท่าทีแบบนี้เพราะผู้นำเผ่าชอบโลเลสินะ

เสือเหลืองเคยบอกว่า ถ้าแย่งตั๋วมาจากหนึ่งในพวกเขา จะต้องมีใครสักคนร้องไห้แน่ๆ

แต่ถ้าคำนึงจากสีหน้าขึงขังจริงจังในตอนนี้ เกรงว่าอาจถึงขั้นลงไปชักดิ้นชักงอบนพื้นกันเลยทีเดียว

“เมื่อก่อนข้าเคยคิดจะไปดูคอนเสิร์ตเดี่ยวที่แมนเชสเตอร์อารีน่า… แต่พาสปอร์ตดันออกช้าเกินไป!”

“เพราะตอนนั้นกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงต่างโลก กำลังถกเถียงกันในประเด็นการลี้ภัยของเผ่าแท้…”

“แต่ในภายหลังรัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงก็ถูกไล่ออกคู่ เพราะถูกขุดคุ้ยเรื่องการทุจริตสอบเข้าของลูกๆ”

“ได้ยินว่าเผ่ามังกรก็อยากไปต่างประเทศเป็นหมู่คณะ แต่ดันมีลูกหลานคนหนึ่งติดปัญหาเกี่ยวกับพาสปอร์ต… ดูท่าจะหัวเสียกันมาก พวกเขาก็เลยหาเรื่องขุดคุ้ย”

“อ้อเรื่องนั้น… เป็นฝีมือทีมเลขาของพวกเราเองแหละ แต่ถึงจะเล่นงานพวกมันได้ คอนเสิร์ตก็ไม่กลับมาแสดงใหม่อยู่ดี เฮ้อ…”

จากเท่าที่ฟังดู ตอนนั้นกระทรวงต่างประเทศขัดแย้งกับกระทรวงต่างโลก เพื่อแย่งสิทธิ์ในการควบคุมการเข้าออกประเทศของเผ่าแท้ แต่ดูท่าจะถูกเชือดทั้งคู่

ถึงในเกมจะไม่ได้กล่าวไว้ แต่เผ่าเสือกับเผ่ามังกรมีหลายสิ่งคล้ายกันมากทีเดียว

“เรื่องนั้นช่างมันก่อน… หากท่านเสือเหลืองคิดจะขโมยบัตรล่ะก็ ต้องงัดมวยพยัคฆ์ออกมาสู้สถานเดียว! ถึงจะเป็นท่าน แต่ข้าไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ!”

“อย่าพูดจาอ่อนแอแบบนั้นสิ! เราต้องแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของท่านเสือคราม… ถึงจะแพ้ค่อนข้างแน่นอนก็ตามที”

“ในฐานะศิษย์ของเสือครามที่เป็นต้นกำเนิดมวยพยัคฆ์ ข้าจะดิ้นรนจนดีที่สุด!”

“ท่านเสือคราม คอยจับตาดูข้าไว้!”

เสือครามเป็นผู้คิดค้นมวยพยัคฆ์นี่เอง

และสี่คนนี้คือศิษย์เสือคราม

เสือเหลืองในวัยสามสิบเปิดปากหลังจากยืนมองเผ่าเสือทั้งสี่เอะอะมะเทิ่ง

“…รีบไสหัวไปก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ”

กำลังจะบอกว่า… นายเคยคิดจะขโมยตั๋วจากพวกเขาจริงๆ สินะ…

หัวหน้าเผ่าเสือช่างเปี่ยมไปด้วยความเมตตา

“ขอรับ!”

“ท่านเสือเหลือง ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง! ข้าขอตัว!”

“ไว้เจอกันใหม่ท่านเสือเหลือง! ขอให้ไม่เจอกันอีกจนกว่าคอนเสิร์ตจะจบลง!”

“ผู้มีพระคุณของลูกหลานเสือเงิน ไว้เจอกันใหม่นะ! ลาก่อน!”

สี่เผ่าเสือรีบเดินผ่านหน้าเสือเหลืองในวัยสามสิบไปอย่างรวดเร็ว

ถ้าถามว่าเร็วขนาดไหน ก็ประมาณมนุษย์ที่ได้ยินสัญญาณเตือนภัยพิบัติ ไม่นานก็หายเข้าไปในหอพยัคฆ์สำแดง

ยืนมองแผ่นหลังพวกเขา เสือเหลืองในร่างสามสิบบีบนวดขมับตัวเอง

“ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นคนที่เสือครามฝากฝังไว้ ข้าคงใช้มวยพยัคฆ์สั่งสอนไปแล้ว”

“…ดูเหมือนเผ่าเสือที่เป็นศิษย์เสือคราม จะเป็นแฟนตัวยงของควอนเจอินกันสินะ”

“ใช่ เสือครามกับศิษย์ของเจ้านั่นคลั่งไคล้ ‘เสียง’ … ถ้าเสือครามยังอยู่ชีวิต ตอนนี้คงขาดเพลงของควอนเจอินไม่ได้”

เสือคราม – อีกหนึ่งเทพนิยายเผ่าเสือที่ปรากฏตัวในเทพนิยายแกชอน

พยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ขอพรกับเทพสวรรค์ว่า ‘ขอรับใช้เทพมนุษย์’ ไม่เคยปรากฏตัวในเกมเลยสักครั้ง

เสือครามทิ้งลูกศิษย์ให้เสือเหลืองดูแล แล้วตัวเองไปอยู่ที่ไหน?

‘ตอนนี้ยังอยู่กับเทพมนุษย์รึเปล่านะ…’

“ไม่มีใครรู้ว่าเสือครามอยู่ที่ใด”

“หือ?”

“เห็นทำหน้าอยากรู้ก็เลยบอก เสือครามทิ้งข้อความไว้ว่า ‘ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเทพมนุษย์เป็นจริง’ จากนั้นก็หายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว”

หายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว?

เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของเทพมนุษย์?

บุตรแห่งเทพสวรรค์จะมีความปรารถนาแบบใดกันนะ

“แดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเสืออยู่ในโรงเรียนแสงเงิน… ถ้าโรงเรียนแสงเงินเอ่อล้นไปด้วยเสียงที่ไพเราะ เสือครามจะต้องกลับมาที่นี่แน่”

น้ำเสียงของเสือเหลืองเจือความโหยหา

‘หรือนี่คือความต้องการที่แท้จริงของเสือเหลือง…’

หมั่นสนับสนุนชมรมศิลปะอย่างกว้างขวาง

ระบบฝึกอันครบครันของโรงเรียนแสงเงิน

จ้างบุคคลภายนอกเข้ามาแสดงในหอพยัคฆ์สง่าอย่างต่อเนื่อง

‘ไม่ได้ทำไปเพื่อสวัสดิการนักเรียนอย่างเดียวสินะ’

เขาอาจกำลังเฝ้ารอเสือคราม – มิตรสหายผู้หายตัวไป

“เจ้านั่นชอบเสียงของเทพมนุษย์มากที่สุด… ถ้าหาเทพมนุษย์พบ อะไรๆ ก็คงง่ายขึ้น”

เฉกเช่นเสือคราม เทพมนุษย์เองก็หายตัวไป

อย่างไร้เบาะแส

บรรยากาศการสนทนาเริ่มหนักอึ้งนับตั้งแต่ศิษย์เสือครามทั้งสี่หายเข้าไปในตึก

ในเวลาแบบนี้ ฉันควรเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“แล้วมีอะไรจะพูดกับฉัน”

“อ้อ เหตุผลที่มาที่นี่… ควอนเจอินต้องการติดต่อกับเผ่าเสือ… เธออยากคุยกับตัวแทนเผ่าเสือ ข้าก็เลยต้องมา”

เส้นเรื่องเปลี่ยนไปมากทีเดียว

‘ควอนเจอินเริ่มติดต่อกับเผ่าเสือ? ทำไมล่ะ?’

สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในเกม

ไม่เคยมีเนื้อหาบรรยายว่าควอนเจอินติดต่อกับเผ่าเสือในช่วงเวลานี้

แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าเคยเกิดขึ้น เพียงแต่ระบบของเกมไม่ได้แจ้ง

‘อีเวนต์ต่างๆ ที่ถูกเปลี่ยนผลลัพธ์ ทำให้ควอนเจอินตัดสินใจทำในสิ่งที่อยู่นอกเหนือเส้นเรื่อง?’

ดูท่าการแทรกแซงของฉันจะทำให้เกิด ‘บัตเตอร์ฟลายเอฟเฟค’ – ผีเสื้อกระพือปีก สะเทือนถึงดวงดาว

ขณะกำลังนึกย้อนไปยังอีเวนต์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นบนโลกนี้

เสือเหลืองในร่างสามสิบยังคงพูดต่อไป

“ปกติแล้วข้าจะส่งคนอื่นมาคุยแทน แต่พอดีมีบางเรื่องที่กวนใจ”

“เรื่อง?”

“ที่ควอนเจอินตัดสินใจกลับเกาหลีกะทันหัน เป็นเพราะคำขอร้องของยงเจกอน”

ต้นเหตุมาจากยงเจกอน?

นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินชื่อนี้ ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm

“นอกจากโควตาบัตรคอนเสิร์ตสี่ใบที่วังมยองโฮได้ ข้ายังได้เพิ่มอีกหนึ่งใบสำหรับตัวแทนเผ่าเสือที่ต้องไปคุยกับควอนเจอิน ก็เลยมีสิทธิ์ผ่านเข้าไปในหอพยัคฆ์สง่า… แต่แกล้งปิดเรื่องนี้เป็นความลับจากเหล่าศิษย์เสือครามน่ะ”

เขานำบัตรเชิญออกจากกระเป๋าเสื้อสูท

“ตอนแรกก็ว่าจะขโมยจากพวกเขาสักใบ… แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว”

เสือเหลืองในร่างสามสิบทำหน้ายียวนจนดูเหมือนวังจีโฮทุกประการ

ถือเป็นโชคดีของศิษย์เสือครามจริงๆ

* * *

หลังจากติดโปสเตอร์ด้านนอกเสร็จ ฉันกลับเข้าไปที่หลังเวทีอีกครั้ง

ออกไปแค่ครู่เดียว แต่บรรยากาศเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ทุกคนหยุดทำงานและเอาแต่จ้องขึ้นไปบนเวที

ปลายสายตาทุกคู่แช่อยู่ที่ควอนเจอิน ผู้กำลังยืนถือไวโอลิน

‘ของจริงช่างทรงพลัง’

นักไวโอลินในเดรสสีฟ้าเปิดไหล่ กำลังยืนบนเวทีอย่างสง่างาม

ควอนเจอินพยักหน้าให้กับทีมงานฝ่ายเสียง จากนั้นก็วางไวโอลินพาดไหล่แล้วเอาแก้มแนบ

ดวงตาสีน้ำเงินดูราวกับทะเลสาบนิ่งสงัด

ราวกับเสียงรอบตัวอันตรธานหายไปจากโลก

หลังจากหางม้าเสียดสีกับสายบนคอไวโอลิน หอจัดแสดงคอนเสิร์ตกลับมาก้องกังวานอีกครั้ง

“สุดยอด…!”

“เหลือเชื่อ… แค่ตั้งสายยังเพราะขนาดนี้…!”

ควอนเจอินกำลังตั้งสายไวโอลิน

เธอค่อยๆ เล่นโน้ตทีละตัวแล้วไล่ปรับสายไปเรื่อยๆ แต่ก็มากพอที่จะเรียกเสียงฮือฮา

“น่าทึ่งจริงๆ … เผลอคิดไปครู่หนึ่งว่ามีคลื่นพลังพิเศษแผ่ออกมา… ไม่อยากเชื่อว่าแค่การตั้งสายจะเพราะขนาดนี้”

เสือเหลืองในร่างสามสิบทำตาเป็นประกายขณะยืนจ้องควอนเจอิน

‘ภายในเกม ฉากคอนเสิร์ตของควอนเจอินมีแค่เมโลดีสังเคราะห์เล่นเป็นพื้นหลัง ก็เลยไม่รู้มาก่อนว่าเธอเจ๋งขนาดนี้’

เคยสงสัยมาตลอดว่าเล่นสดเทพขนาดไหน ตอนนี้หายคาใจแล้ว

หลังจากตั้งสายเสร็จ ควอนเจอินลดไวโอลินลงแล้วเริ่มออกคำสั่งกับทีมงานฝ่ายเสียง

คิมยูรีและอีเรนาที่เอาแต่จ้องควอนเจอินด้วยสายตาราวกับถูกสะกด เพิ่งรู้สึกตัวว่าฉันกลับมาแล้ว

“อึยชินกลับมาแล้วหรือ”

“ขอโทษนะที่ให้ออกไปติดโปสเตอร์คนเดียว…!”

“สบายมาก”

ฉันพ่ายแพ้ในสงครามการจองตั๋ว ดังนั้นขอชดเชยเป็นการช่วยแปะโปสเตอร์ก็ยังดี

“ถ้างั้นไว้เจอกันใหม่นะ โชอึยชิน”

เมื่อสองสาวเดินเข้ามาใกล้ เสือเหลืองในร่างสามสิบหันหลังแล้วเดินจากไป

เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด เพราะถ้าคิมยูรีกับอีเรนาเกิดคุ้นหน้าเข้าจะลำบากเอา

“คนเมื่อกี้หน้าคล้ายวังจีโฮอยู่นะ”

“หืม… งั้นหรือ แต่ฉันว่าบรรยากาศต่างกันพอสมควร… เอ่อ… ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

อีเรนามีสายตาดีเป็นพิเศษ

ก็แหงล่ะ เธอสามารถจำแนกได้ทันทีว่าย็อมจุนยอลทั้งสองคนแตกต่างกัน

ฉันพยายามครุ่นคิดหาวิธีเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แต่ดูเหมือนจะไม่จำเป็นแล้ว

“สวัสดี”

น้ำเสียงอ่อนโยนดังเข้ามาในโสตประสาทพวกเรา

อย่าบอกนะว่า…

เมื่อหันไปมอง ฉันพบดวงตาสีน้ำเงินกำลังจ้องเราสามคน

ควอนเจอิน

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ!”

“ส…สะ…สะ!”

ฉันกับคิมยูรีทักทายกลับตามความเคยชิน แต่ดูเหมือนอีเรนาจะขยับปากไม่ได้

ควอนเจอินมองเราทีละคนด้วยแววตาสงบนิ่ง

จนกระทั่งสายตาหยุดอยู่ตรงป้ายชื่อพนักงานที่กำลังคล้องคออีเรนา

“…พนักงานรายวัน? ทำงานพิเศษกันหรือ”

น้ำเสียงควอนเจอินค่อนข้างแข็ง

แปลกตรงไหน?

หรือแปลกสำหรับโรงเรียนแสงเงินที่นักเรียนสามารถจู่โจมต่างโลกเพื่อทำเงินเป็นกอบเป็นกำได้?

อีเรนาที่จ้องหน้าอีกฝ่าย ตอบกลับด้วยเสียงตะกุกตะกัก

“ฉ…ฉะ…ฉันอยากดูคอนเสิร์ตของคุณควอนเจอินใกล้ๆ ค่ะ!”

ได้ยินคำตอบอีเรนา ควอนเจอินอมยิ้มทันที

สงสัยจะเป็นห่วงรุ่นน้องของโรงเรียนแสงเงิน

“…อย่างนี้นี่เอง ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

ควอนเจอินโด่งดังด้าน ‘อารมณ์ศิลปิน’ และความ ‘เอาแน่เอานอนไม่ได้’ แต่ก็ดูจะเป็นรุ่นพี่โรงเรียนที่ดี

คิมยูรีรวบรวมความกล้าเพื่อถามออกไป

“ร…รุ่นพี่คะ ฉันมีเรื่องสงสัย… ขอเสียมารยาทถามได้ไหมคะ”

“เอาสิ”

“วันนี้หอพยัคฆ์สง่าก็ยังว่าง… ทำไมรุ่นพี่ถึงเลือกจัดคอนเสิร์ตที่หอพยัคฆ์สำแดงหรือคะ”

ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน

ถ้าเป็นหอพยัคฆ์สง่าคงมีโอกาสจองตั๋วสำเร็จมากกว่านี้

“เพราะหอพยัคฆ์สำแดงสวยดีน่ะ”

คิมยูรีทำหน้าอึ้งเมื่อได้ยินคำตอบ

ดูท่ารสนิยมทางศิลปะของนักดนตรีระดับโลกจะแตกต่างออกไป

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามกลับบ้าง”

“ค่ะ! ถามมาได้เลยค่ะ!”

คิมยูรีตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งสะดุ้ง ราวกับไม่คาดคิดว่าจะถูกถามกลับ

ควอนเจอินถามเธอที่กำลังประหม่า

สายตาจดจ่ออยู่กับกิ๊บรูปผีเสื้อบนผมของเด็กสาว

“ชอบผีเสื้อหรือ”

กิ๊บติดผมที่ซื้อจากร้านแฮนด์เมดเปิดใหม่ใกล้กับประตูฝั่งตะวันออกของโรงเรียน?

คิมยูรีผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงสดใส

“ค่ะ ฉันชอบ! รุ่นพี่ก็ชอบผีเสื้อเหมือนกันหรือคะ”

“เปล่า… ไม่ได้ชอบ”

คำตอบดังกล่าวทำเอาคิมยูรีที่เข้าสังคมเก่ง ถึงกับสตันไปชั่วขณะ

ถ้าไม่ชอบผีเสื้อ แล้วถามถึงผีเสื้อทำไม?

ควอนเจอินคิดอะไรอยู่

อีกฝ่ายเสริมอีกหนึ่งประโยค

“แต่ฉันกลับมาเกาหลีเพื่อตามหาผีเสื้อ”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset