📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 47

บทที่ 47 - สอบกลางภาค (3)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

อาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

การมองเห็นถูกย้อมกลายเป็นสีแดงทั้งหมด

ตอนนี้แม้แต่ในความมืด สีสันแห่งลางร้ายได้ฉาบการมองเห็นของเธอโดยสมบูรณ์

ความมืดมิอาจปกป้องหญิงสาวได้อีกต่อไป

‘อยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว… เรากำลังจะเป็นบ้า!’

เธอพยายามมองหาสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน

ปกติแล้วที่แห่งนั้นคือห้องติวหนังสือในอาคารสมาคมปีกธรณี

ถ้าได้ปะปนไปกับนักเรียนที่อ่านหนังสือโต้รุ่ง เธอจะรู้สึกผ่อนคลายต่อให้มีทัศนวิสัยแปลกประหลาด

‘เรื่องบ้าๆ พวกนี้อาจจะหายไปหลังจากสอบกลางภาคจบ… เราคงเครียดเรื่องสอบไปเอง’

เธอตั้งตารอคอยตลอดช่วงเทศกาลสอบ

รอยเปื้อน เสียงนั่น และเลือดที่ทะลักออกมาเป็นครั้งคราว

ทันทีที่การสอบจบลง พวกมันจะอันตรธานหายไปอย่างหมดจดราวกับเวทมนตร์

‘…ไม่เปลี่ยนไปเลย’

ไม่สิ อาจแย่ยิ่งกว่าเก่า

ตอนนี้หมดเทศกาลสอบแล้ว ห้องติวหนังสือว่างเปล่า

ไม่รู้ว่าควรย้ายไปอยู่ที่ไหนดี

‘ทำยังไงดี… ทำยังไงดี…’

สถานที่เดียวที่มีนักเรียนพลุกพล่านในตอนนี้คือโรงอาหารหอใน

เธอจึงหมกตัวที่โรงอาหารทั้งวัน โดยไม่สนใจขนมต็อกกระต่ายจันทร์อันโด่งดังนั่นด้วยซ้ำ

แต่ถ้าโรงอาหารปิดแล้ว… เราจะไปที่ไหนต่อดี?

ถ้ากลับบ้านพ่อแม่ต้องเป็นห่วงแน่

หนีออกจากโรงเรียนแล้วไปคาเฟ่ที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงดีไหม…

“ขอนั่งฝั่งตรงข้ามนะ”

รอยเปื้อนสีแดงเข้มและอาการหูแว่วหายไปราวกับเรื่องโกหก

กึ่งกลางทิวทัศน์ที่คมชัดคือใบหน้าของอันดาอิน

“ดาอิน…?”

“ช่วงสอบไม่ได้เจอกันเลยนะ… ไปหาอะไรกินกันไหม?”

อันดาอินยิ้มอ่อน

ทั้งที่เป็นคนไม่ค่อยยิ้ม

มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นหรือไง?

เมื่อรู้สึกผ่อนคลาย เธอเผลอยิ้มตามอันดาอินโดยไม่รู้ตัว

“ฉันกำลังจะไปหอสมุดในเขตส่วนกลาง ไปกินข้าวด้วยกันไหม? พอดีมีคนรู้จักแนะนำหนังสือมา…”

“ไม่!”

ได้ยินคำพูดอันน่าสะพรึง เธอเผลอขึ้นเสียงอีกครั้ง

“อะ…!”

ทำไมถึงคอยทำให้อันดาอินเสียใจอยู่เรื่อยเลยนะ?

ในหัวเธอเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกผิดและโทษตัวเอง

แม้จะเป็นเสียงตะโกนที่ค่อนข้างดัง แต่โชคดีที่โรงอาหารหอในเต็มไปด้วยนักเรียนจับกลุ่มพูดคุย จึงไม่มีใครหันมาสนใจ

มองไปรอบตัวหนึ่งครั้ง เธอเบาเสียงลง

“ฉันขอโทษ ดาอิน… เอ่อ… ฉันไม่ไปหอสมุดกลาง…”

อันดาอินกะพริบตาพลางพยักหน้ารับ

…ถึงจะปิดให้บริการเร็วกว่าหอสมุดกลาง แต่ในห้องสมุดของเด็กปีหนึ่ง หรือห้องสมุดสมาคมปีกธรณีก็อาจจะมีหนังสือเล่มนั้นให้ยืม

ขณะอันดาอินตัดสินใจเปลี่ยนแผน

“จริงสิ วันนี้มาดูหนังโต้รุ่งกันไหม? ในห้องฉันก็ได้ หรือจะห้องของดาอินก็ได้!”

“ตกลง เอาเป็นห้องฉันก็แล้วกัน”

“อื้อ…! ขอบคุณนะดาอิน…”

เธออมยิ้มหลังจากไม่ได้ทำมานาน เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็ไม่ต้องเห็นรอยเปื้อนหรือหูแว่วไปจนถึงพรุ่งนี้

* * *

ณ ห้องเรียนในอาคารเรียนเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่น

เป็นเวลาเดียวกับที่ความอับอายของฉันจบลง ย็อมจุนยอลเหยียดแขนไปในอากาศพร้อมกับอัญเชิญมังกรแดง

ซู่ว!

รอยแยกมิติปรากฏขึ้นเหนือปลายนิ้วย็อมจุนยอล

ทันใดนั้น ‘แก่นพลัง’ ของเขา – มังกรแดงปรากฏกาย

แต่ฉันมิอาจสัมผัสถึงจิตสังหารหรือเจตนาฆ่า

ด้วยประสบการณ์ต่อสู้อันโชกโชน เดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายกำลังข่มขวัญ

ถึงจะไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไรก็เถอะ

‘เลเวลยังต่ำอยู่… มังกรแดงกับไฟล้อมรอบก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร’

ขณะมังกรแดงเตรียมพ่นไฟใส่ฉัน

ย็อมจุนยอลชักมือกลับ

“ไม่ใช่เผ่ามังกรสินะ”

“เผ่ามังกร…?”

“พักหลังมีเผ่ามังกรคอยปลอมตัวเป็นจอมโจรผาแดง เพื่อขัดขวางไม่ให้ผมตามหาจอมโจรผาแดงตัวจริง… ผมเป็นลูกหลานพวกเขา จึงไม่สามารถโจมตีใส่เผ่ามังกรได้โดยตรง”

พวกเผ่ามังกรว่างกันนักรึไง?

ก็เข้าใจได้ คงเพราะย็อมจุนยอลแสดงตัวชัดเจนว่าอยากให้เราเป็นอาจารย์

ย็อมบังยอลคนคลั่งลูก คงหวงแหนมังกรแดงน้อยพอๆ กับที่เราคลั่งไคล้เจ้าบ่วง

“ขอโทษที่อยู่ๆ ก็ทำตัวคุกคาม… ถึงคุณจะดูออกอยู่แล้วว่าผมไม่คิดจะโจมตีก็เถอะ”

“ไม่เป็นไร ทางนี้ก็ขอโทษที่เคยนำชื่อไปแอบอ้าง”

“ไม่เป็นไรเช่นกัน เพราะคุณ มายาเกตจึงถูกเปิดโปง และซาวอลเซอึมมีโอกาสได้มาโรงเรียน”

ตัวละครของฉัน ย็อมจุนยอล เป็นคนดีถึงขนาดนี้เลยสินะ

ช่วงที่ผ่านมา เขาคงเผชิญความยากลำบากไม่น้อยเพราะเรา ถ้าจะถูกสาวหมัดใส่หน้าสักครั้งก็คงไม่มีสิทธิ์ตอบโต้

“คุณรู้หรือว่าผมตามหาทำไม”

“อยากให้ฉันเป็นอาจารย์ใช่ไหม”

ย็อมจุนยอลดูตกใจเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันก็ดีใจ

“ใช่… ช่วยรับผมเป็นศิษย์ด้วย”

ดูจากปฏิกิริยา คงอยากให้ฉันเป็นอาจารย์จริงๆ

เดิมที ฉันอาศัยเควสต์อิสระเพื่อคอยปั้นตัวละครย็อมจุนยอลที่ตายไปแล้วจนเลเวลตัน

จึงพอจะมีไอเดียในการสอนอยู่บ้าง

แต่ก่อนหน้านั้น เห็นคงต้องไหว้วานอะไรสักหน่อย

“มีเงื่อนไข”

“ว่ามาได้เลย!”

ย็อมจุนยอลสวมใบหน้าที่เขาทำบ่อยขณะถ่ายโฆษณา

ใจจริงก็แอบรู้สึกผิดที่หลอกใช้ลูกหลานมังกรนิสัยดี แต่ฉันคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว

“วันที่ 5 พฤษภาคม จงขว้างลูกเปิดงานที่สนามเบสบอลจัมซิล และชมเกมการแข่งให้จบ… เหนือสิ่งอื่นใด เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจนกว่าจะถึงวันนั้น”

วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี

วันเด็กประจำชาติ และวันแข่งจัมซิลซีรีส์ที่มียอดขายตั๋วสูงสุดในวงการเบสบอลเกาหลีใต้ คาดกันว่าผู้ชมในแต่ละปีจะสูงถึงแปดล้านคน

สองทีมที่เป็นคู่กัดกัน จะผลัดกันใช้สนามเบสบอลจัมซิลเป็นสนามเหย้า

จูโอดรากอนส์ (Chuo Dragons)

TC ไนท์ส (TC Knights)

ในทุกซีรีส์วันเด็ก ทั้งสองทีมจะสลับกันใช้สนามจัมซิลเป็นสนามเหย้าในแต่ละปี

เมื่อใดก็ตามจูโอดรากอนส์ได้เป็นทีมเหย้า จะมีประเพณีขว้างลูกเปิดสนามด้วยเผ่ามังกรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทีม

“…หมายถึงการแข่งจัมซิลดาร์บี้แมตช์ในวันเด็ก ระหว่างจูโอดรากอนส์กับ TC ไนท์สใช่ไหม? ทุกครั้งที่จูโอเป็นทีมเหย้า เผ่ามังกรจะต้องไปขว้างลูกเปิดสนามทุกๆ สองปี”

“ใช่… จงไปขว้างลูกเปิดสนามแทนเผ่ามังกรที่ได้รับเลือก และถ้าการแข่งจบลงด้วยดี ฉันจะยอมเป็นอาจารย์ของนาย”

ทีมสิงโตแดงถือเป็นหนึ่งในท็อปสิบของโลก และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้

เผ่ามังกรที่อยู่เบื้องหลังสิงโตแดงก็ไม่ต่างกัน

เมื่อจูโอดรากอนส์ มีคำว่าดรากอนส์อยู่ในชื่อ พวกเขาจึงลองเชื้อเชิญให้เผ่ามังกรในทีมสิงโตแดงมาขว้างลูกเปิดสนาม

“…บรรดาท่านพี่และท่านอาของผมล้วนเบื่อหน่ายกับประเพณีนี้ จนเคยผิดนัดไปสี่ห้าครั้ง… ถ้าผมขว้างลูกเปิดงานแล้วนั่งดูเกมจนจบ คุณจะรับเป็นศิษย์ใช่ไหม?”

“ใช่ อย่าลืมปิดเป็นความลับจนกว่าจะถึงวันนั้น”

“ตกลง!”

ย็อมจุนยอลตอบอย่างหนักแน่นโดยไม่ถาม

นึกว่าจะถามมากกว่านี้เสียอีก

ขณะฉันเอาแต่ยืนจ้อง ย็อมจุนยอลกล่าวอย่างมั่นใจ

“ถ้าคุณยอมมาเป็นอาจารย์ ถึงตอนนั้นผมคงรู้จักคุณดีขึ้น… นี่คงเป็นบททดสอบอย่างหนึ่งใช่ไหม”

ในแง่หนึ่งก็ใช่

ฉันไม่กังขาเลยสักนิด ย็อมจุนยอลจะต้องทำงานนี้สำเร็จแน่นอน

“วันที่ 5 พฤษภาคมจะเป็นวันที่คุณกลายเป็นอาจารย์ของผม”

หลังจากประกาศกร้าวอย่างดุดัน เขาเสริมในสิ่งที่ไม่จำเป็น

“รอดูได้เลย จอมโจรผาแดง”

จิตใจของฉันว่างเปล่าทันที

ถ้าได้เป็นอาจารย์ของย็อมจุนยอลเมื่อไร จะยกเลิกการเรียกด้วยชื่อนั้นเด็ดขาด

* * *

วันถัดมา

นักเรียนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังสอบกลางภาคเสร็จ

บรรยากาศอันบ้าคลั่งที่เคยครอบงำโรงเรียนแสงเงินเริ่มซบเซาลง

มีเพียงความสุขและเศร้าปะปนกันในผลการสอบ

บางคนถึงกับโพสต์ลงบอร์ดทั่วไปว่า อุณหภูมิของน้ำในแม่น้ำฮันเย็นเกินกว่าจะกระโดดลงไป

‘ถึงจะเป็นมุกตลก แต่ทุกวันนี้แทบไม่มีใครกระโดดแม่น้ำฮันได้แล้ว ต้องขอบคุณทีมจักรยานแม่น้ำฮันของซงมันซอก’

ฉันอ่านโพสต์ต่างๆ บนบอร์ดทั่วไปด้วยรอยยิ้มขื่นขม

หลังจากมาถึงห้องเรียนเร็วกว่าปกติ

ครืด!

เสียงประตูอัตโนมัติเปิดและปิดตัวลง

บุคคลที่เพิ่งเดินเข้ามา กล่าวโดยไม่อารัมภบท

“ทำไมถึงต้องเรียกฉันมาหาตั้งแต่เช้า? คุยกันทางอุปกรณ์ไม่ได้รึไง!”

วังจีโฮที่ฉันกำลังรอมาถึงพอดี

ฉันเข้าประเด็นทันทีด้วยเกรงว่าอาจมีนักเรียนคนอื่นเดินเข้ามา

“ไล่ตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อนเริ่มสอบกลางภาค จนถึงเมื่อวานนี้… นักเรียนที่ขอเปลี่ยนอุปกรณ์ นักเรียนที่เข้ารับการตรวจดวงตาที่ห้องพยาบาลกลาง และนักเรียนที่เป็นสมาชิกชมรมวารสาร ฉันอยากได้รายชื่อของบุคคลที่เข้าข่ายเกินกว่าสองในสาม”

คำสาปถูกกระตุ้นในช่วงสอบกลางภาค

‘ถ้าเราฝืนเข้าไปขัดขวาง มีโอกาสสูงที่นักเรียนไม่รู้อีโหน่อีเหน่จะถูกสาปแทน’

ดังนั้น ถึงจะรู้ล่วงหน้า แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยผ่าน

ในทางกลับกัน นักเรียนที่โดนคำสาปเล่นงาน ก็มีเหตุให้สมควรโดนเช่นกัน

‘คงยับยั้งชั่งใจไม่ได้สินะ’

นักเรียนทุกคนอยากได้เกรดดีๆ

และส่วนใหญ่จะเลือกเส้นทางที่ง่ายกว่า

นั่นคือบ่อเกิดของความผิดพลาด

“เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างชมรมหนังสือพิมพ์กับชมรมวารสารไหม?”

“เกี่ยว”

“หลังจากได้ฟังเรื่องราวจากมุนแซรอน ฉันลองขุดคุ้ยชมรมวารสารดูแล้วก็เจอเรื่องแปลกๆ เพียบ”

ลงทุนสืบเองเลยหรือ?

วังจีโฮของเราเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

แตกต่างจากท่านประธานที่เอาแต่ตอบว่า ‘แล้วไง?’ ไม่ว่าโรงเรียนจะฉิบหายแค่ไหน… ราวกับเป็นคนละคน

“กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังชมรมวารสาร อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของชเวย็อนทึก”

ถูกต้อง

“ถ้าดูจากรายงานการประชุมครู เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนเหล่านั้นคอยสนับสนุนโครงการที่ชเวย็อนทึกผลักดันอย่างแข็งขัน… แต่ที่น่าแปลกก็คือ เขาไม่ได้สนิทกับคนในเครือข่ายชเวย็อนทึกเลย และดูแล้วไม่ได้รับผลประโยชน์จากการทำแบบนั้น”

แม้วังจีโฮจะอายุห้าพันปี แต่เรื่องนี้อาจเข้าใจได้ยากสักหน่อย

กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเองก็เกือบไม่เข้าใจ

“พวกเขาคือ… ‘สาวก’”

“…มีอะไรแบบนี้ด้วยสินะ”

ณ ปัจจุบัน เครือข่ายของชเวย็อนทึก—กลุ่มที่มีโอกาสได้ติดต่อคนใหญ่คนโตโดยตรง กำลังแตกกระเจิง

ชเวย็อนทึกใกล้เน่าตายอยู่ในห้องใต้ดินของตึกเงาเงิน ส่วนคนอื่นถูกกฎหมายลงโทษและขับไล่ออกจากโรงเรียนแสงเงิน

‘แต่นั่นยังไม่จบ’

หากวายร้ายเติบโตถึงจุดหนึ่ง เขาจะมีสาวก

แม้จะไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่ก็พึงพอใจที่ได้ทำบางสิ่งเพื่อไอดอลของตนโuเวลกูดoทคอม

ครูชั่วๆ อย่างชเวย็อนทึกจึงได้รับความนิยมในหมู่คนชั่ว จนมีสาวกเป็นของตัวเอง

“โชอึยชิน หรือว่าเด็กที่เข้าเงื่อนไขเมื่อครู่…”

“ใช่ นักเรียนที่ได้รับอิทธิพลจากสาวกเหล่านั้น”

“แล้วทำไมพวกมันถึงเลือกชมรมวารสาร?”

เรื่องนี้เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของโรงเรียนมัธยมปลายแสงเงิน

“ยังจำได้ไหม ว่าสมาคมปีกธรณีถูกก่อตั้งขึ้นอย่างไรเมื่อสิบห้าปีก่อน? เป็นเพราะสมาคม แผนของพวกมันจึงหยุดชะงัก และคณะกรรมการที่ทุจริตล้วนถูกไล่ออกทั้งหมด”

“…จำได้สิ ยังจำหน้าประธานนักเรียนที่คุยกับฉันตัวต่อตัวในวันนั้นได้เลย”

“แคมเปญล่าลายเซ็น… นักเรียนแทบทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียว แต่กลับถูกขัดขวางจนไร้ความหมาย… ต้องรอให้เรื่องไปถึงหูสื่อมวลชนก่อน พวกคณะกรรมการถึงจะถูกต้อนจนมุม”

วังจีโฮเข้ามาเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้โดยตรง

หลังจากเห็นว่านักเรียนทั้งโรงเรียนพร้อมใจกันลงคะแนน หมายความว่าประธานนักเรียนคงเป็นที่รักในระดับหนึ่ง วังจีโฮในอดีตจึงยอมสืบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

เขาไม่ปฏิเสธ

“สาวกของชเวย็อนทึกเห็นเหตุการณ์ในครั้งนั้นแล้วคิดขึ้นได้ว่า… ถ้าได้กุมสื่อหลักของโรงเรียนไว้ในมือ นั่นจะไม่สร้างประโยชน์ให้พวกตนได้อย่างมหาศาลเลยหรือ? ชมรมวารสารจึงถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อสิบปีก่อน”

“…ได้กุมอำนาจในชมรมม.ปลายแล้วมีประโยชน์ยังไง?”

“เรื่องราวจะต่างออกไป ถ้าได้กุมสื่อหลักเพียงแห่งเดียวของโรงเรียนมัธยมปลายที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้… จะยืมชื่อนักเรียนมาเขียนบทความมั่วๆ ยังไงก็ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ให้อีกฝ่ายเขียนบทความแก้ตัว… นอกจากนั้น ในสายตาคนนอก มันยังดูน่าเชื่อถือและเปรียบเสมือน ‘ความเห็นของนักเรียนทั้งโรงเรียน’”

“เข้าใจแล้ว เดิมที ชมรมประเภทสื่อนั้นแทบไม่มีใครแตะต้องได้ เว้นเสียแต่จะเขียนบทความห่วยๆ ติดกันอย่างต่อเนื่อง… หากครูหรือโรงเรียนเข้าไปกับยุ่มย่ามกับชมรมเหล่านี้โดยตรง สังคมจะตราหน้าว่าเป็นการควบคุมสื่อ”

วังจีโฮขมวดคิ้วแผ่วเบา

ฉันตัดสินใจอธิบายต่อ

“ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าชเวย็อนทึกถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าทำความผิด แต่ถ้ามีช่องทางสื่อให้เผยแพร่บทความออกไปว่า ‘นักเรียนเองก็มีส่วนผิด’ เสียงของสังคมจะเริ่มแตกออกเป็นสองฝ่าย… ถ้ามีบทความใหม่ถูกเขียนขึ้นมาย้ำเตือนความผิดของนักเรียนคนเดิม คนนอกจะเริ่มมองว่า ‘ผิดทั้งคู่นี่หว่า’ และเริ่มสนใจเนื้อหาของบทความแค่ครึ่งเดียว… ถ้ามีชมรมสื่อคอยเขียนบทความโจมตีด้วยหลักฐานปลอมเรื่อยๆ นักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อจะเสียสมาธิจนไม่เป็นอันทำอะไร”

“…เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงยังเคลื่อนไหวแม้ชเวย็อนทึกจะหายตัวไป”

ฟังมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนวังจีโฮจะเริ่มคิดตามทัน

แม้จะยังไม่เข้าใจมนุษย์อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ถ้าได้คำใบ้สักนิด ก็มีโอกาสที่จะทำตัวสมกับคนอายุห้าพันปี

“สมัยที่ชเวย็อนทึกยังอยู่ พวกเขาคงอยากทำตัวมีประโยชน์เพื่อไอดอลของตัวเอง… และถึงชเวย็อนทึกจะไม่อยู่แล้ว พวกเขายังคงพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อเชิดชูอดีตของชเวย็อนทึก… อาจทำไปโดยหวังว่าชเวย็อนทึกจะหวนกลับมาอีกครั้ง”

ฉันพยักหน้ารับ

แต่ไหนแต่ไร พวกคนเลวมักมีไอเดียบรรเจิดในเรื่องแย่ๆ เสมอ

กลุ่มสาวกเดนตายของชเวย็อนทึก ซึ่งคอยก่อความวุ่นวายมากมายภายในเกม ย่อมไม่เปลี่ยนสันดานแค่เพราะชเวย็อนทึกกับพรรคพวกหายตัวไป”

“เข้าใจแล้ว… ยังอยากได้อะไรอีกไหมนอกจากรายชื่อ?”

“เตรียมจ้างครูคนใหม่แทนพวกที่กำลังจะถูกไล่ออก… จับตาดูพวกหมูให้ดี”

ถ้าโรงเรียนเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้มากเกินไป อาจเป็นการชักใบให้เรือเสีย

และฉันก็ไม่อยากยืมพลังของเผ่าเสือมากนัก ดูแล้วพวกเขาต่างก็มีงานยุ่ง

‘ถ้าพลาดไปแม้แต่นิดเดียว จูเก่อแจกอลคงพยายามยับยั้งในสิ่งที่ฉันกำลังจะทำ’

คิดออกแล้วว่าจะใช้แผนไหน

* * *

หลังเลิกเรียน

วันนี้มีการประชุมตัวแทนนักเรียนประจำไตรมาสที่หนึ่ง

ตัวแทนของห้องเราคือคิมยูรี หัวหน้าห้อง และฉัน รองหัวหน้าห้อง

ในกรณีของคิมยูรี เธอเป็นสภานักเรียนด้วย แต่มีการระบุไว้ว่าหากตำแหน่งทับซ้อนกัน นักเรียนคนนั้นต้องเข้าร่วมในฐานะหัวหน้าหรือรองหัวหน้าห้อง

ส่วนกรณีของประธานนักเรียน ประธานกรรมการรักษาระเบียบ ประธานสมาคมปีกธรณี และประธานชมรมทั่วไป

ตามหลักแล้ว ตำแหน่งประธานขององค์กรนักเรียนเหล่านี้ จะถูกเลือกล่วงหน้าตั้งแต่ตอนปีสอง และเมื่อขึ้นปีสามจะห้ามรับตำแหน่งหัวหน้าห้องหรือรองเพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน

“ไม่ว่าจะมาสักกี่ครั้ง อาคารสโมสรนักเรียนก็ดูยอดเยี่ยมเสมอ!”

บนโถงทางเดินของอาคารสโมสรนักเรียนในเขตส่วนกลาง

ฉันเดินไปตามทางพร้อมกับคิมยูรี

โฮโลแกรมแสดงประวัติของโรงเรียนแสงเงินและกิจกรรมนักเรียนถูกฉายไปถามสองฝั่ง

“ถ้าอยากรู้อะไรก็ถามมาได้นะ!”

คิมยูรีที่เป็นคนของสภานักเรียน ซึ่งคุ้นเคยกับโครงสร้างอาคารสโมสรนักเรียนเป็นอย่างดี อาสาเดินนำทางฉัน

“จริงสิ โชอึยชิน ได้อ่านเอกสารแล้วหรือยัง?”

“อ่านแล้ว เธอเตรียมมาได้รอบคอบมาก ขอโทษนะที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”

“ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอโทษเพราะทำอะไรโดยไม่ปรึกษา”

ระหว่างกำลังเดินคุยกับคิมยูรีพลางมุ่งหน้าไปยังห้องประชุม A

ใครบางคนพูดขึ้น

“โชอึยชิน”

“อูซังฮุน? มาได้ยังไง…”

อูซังฮุนปี 1/1 ห้องเดียวกับอันดาอิน

ภายในเกม อันดาอินเป็นหัวหน้าห้องหนึ่ง ส่วนรองหัวหน้าห้องคือเด็กเปรตที่ติดสินบนเพื่อเข้าเรียน

หรือว่าอูซังฮุนกลายเป็นรองหัวหน้าห้อง?

“นายก็มีตำแหน่งเหมือนกันสินะ”

พวกเราเรียนคนละห้อง และฉันก็ไม่ชอบซักไซ้ชีวิตในชั้นเรียนของใคร จึงไม่เคยทราบมาก่อน

อูซังฮุนจะพูดน้อยมากถ้าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับบาสฯ

“ใช่ พอนักเรียนที่ติดสินบนถูกไล่ออก ฉันเลยกลายเป็นรองหัวหน้าห้องแทน”

ดูจากสีหน้าที่ไม่เต็มใจนัก ราวกับเขาถูกบังคับให้มาประชุม

คงเป็นเรื่องยากที่นักเรียนหัวกะทิสักคน จะยืนเคียงข้างอันดาอินในฐานะรองหัวหน้าห้องได้โดยไม่ถูกออร่าของเธอข่มขวัญ

นักเรียนที่ติดสินบนคงกัดฟันอดทนเรื่องนี้มาตลอด

จนกระทั่งทนไม่ไหว และพยายามกลั่นแกล้งอันดาอินร่วมกับชเวย็อนทึกในเกม

“เฮ้อ… ไม่อยากเข้าประชุมเลยให้ตายสิ”

อูซังฮุนพูดพลางขมวดคิ้ว

เขาอาจเป็นคนไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก… แต่เหตุผลแค่นั้นจริงหรือ?

“ชู่ว!”

ทันใดนั้น มุนแซรอนโผล่ขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยพลางใช้นิ้วชี้จ่อปาก

เธอคือรองหัวหน้าห้องปี 1/2

ภายในเกม มีการอธิบายว่ามุนแซรอนเล็งตำแหน่งรองหัวหน้าห้อง เพราะต้องการเข้าประชุมตัวแทนนักเรียนเพื่อฟังข่าวซุบซิบนินทา

‘หัวหน้าห้องปี 1/2คือจูซูย็อก…’

มุนแซรอนชี้ไปยังสุดเขตโถงทางเดินด้วยนิ้วมืออีกข้าง

“…ฉันชอบบรรทัดที่ตัวเอกเปิดหน้าต่างแล้วพูดว่า ‘ไม่มีดวงอาทิตย์ก็ไม่เป็นไร’”

“ฉันก็เหมือนกัน…! นอกจากนั้นยังมีบรรทัด ‘จนกว่าบุปผาจะร่วงโรย’ ที่ฉันชอบมาก!”

จูซูย็อกกับอันดาอิน

ทั้งสองกำลังกะหนุงกะหนิงตรงมุมหนึ่งของทางเดิน ราวกับเป็นสมาชิกชมรมวิจารณ์วรรณกรรม

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทั้งสองแนะนำหนังสือให้กันและกันหลังสอบเสร็จ

แต่ท่องบทพูดได้เป็นฉากๆ เลยหรือ?

อย่าบอกนะว่าจำหนังสือได้ทั้งเล่ม?

“…เข้าใจตรงกันนะ”

มุนแซรอนส่งซิกเป็นนัยอย่าไปรบกวนทั้งคู่

คิมยูรีประหลาดใจเมื่อได้เห็นอันดาอิน แต่ก็พยักหน้ารับอย่างมีความสุข

‘หลังจากที่เรากลับไป พวกเขาคงคุยกันต่ออีกนาน’

ขณะทุกคนกำลังอิ่มเอมใจ

พลั่ก!

มีคนเดินชนไหล่ฉัน

จงใจชนรึเปล่านะ…

ทางเดินก็ตั้งกว้าง ชนได้ยังไง

“หลีกทางหน่อย พวกเด็กปีหนึ่ง”

คนที่ชนไหล่ฉัน คือหนึ่งในตัวละครที่ควบคุมได้

ไม่ใช่ใครนอกจากประธานนักเรียน ‘ลิ่มเหล็กกล้า’ โดวอนอู

‘เพิ่งเคยเจอตัวเป็นๆ ครั้งแรก’

ในวันเอพริลฟูล ฉันใช้แสงประทานของเขาลงโทษพวกเด็กเปรตติดสินบน

เด็กหนุ่มผู้ไร้พรสวรรค์ด้านพลังไฟฟ้า แต่ได้รับสกิลศาสตร์แห่งไฟฟ้าจากความเพียรพยายาม

ภายในเกม หลังจากอูซังฮุนตาย ประธานนักเรียนคอยช่วยเหลือเพื่อนสภานักเรียนอย่างอูซังฮี ที่พักหลังเริ่มหมกมุ่นอยู่แต่กับการฆ่าสัตว์อสูร

โดวอนอูคือประธานนักเรียนเลือดร้อนที่ปกป้องโรงเรียนจนตัวตาย โดยไม่มีโอกาสได้สอบเข้ามหาวิทยาลัย

ดูยังไงก็พระเอกในการ์ตูนชัดๆ

‘ปกตินิสัยแบบนี้หรือ? ทำไมฉุนเฉียวแปลกๆ’

ทันใดนั้น เมื่อเหลือบไปเห็นอูซังฮุนด้านข้างฉัน โดวอนอูทำหน้าตกตะลึง

“โฮ่… น้องเขยก็มาด้วยหรือ”

อะไรอีกล่ะนั่น

มุนแซรอนตาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่าน้องเขย

ฟ้าว!

ท่ามกลางเสียงลมแหวก ท้องและหลังของโดวอนอูถูกจู่โจมด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

คนที่ชกใส่ท้องคืออูซังฮุน ส่วนอูซังฮีใช้ ‘หัตถ์คมมีด’ สับลงกลางหลัง

โดวอนอูผู้รับการโจมตีทั้งหมดไว้โดยไม่คิดจะหลบ ซวนเซเสียหลักในทันที

“วอนอู ถ้าจะบ้าก็ไปบ้าคนเดียวไกลๆ สิวะ! ทำไมต้องมาทำต่อหน้ารุ่นน้องฉัน!”

“ไอ้เวร”

อูซังฮีที่ด่ากราด และอูซังฮุนที่สบถพร้อมกับทำหน้าบูดบึ้ง ดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

จังหวะในการลงมือก็ด้วย พวกเขาเป็นพี่น้องกันจริงๆ สินะ

“ฮะฮะ… ฮะ! แส้แห่งความรักจากครอบครัวในอนาคต! ไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด!”

นั่นคือคำพูดของคนที่หน้าตาบิดเบี้ยวเหมือนกับกำลังจะตาย…

ตัวละครของฉัน ประธานนักเรียนของโรงเรียนแสงเงิน เป็นพวกบ้าเต็มขั้น

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset