เมื่อได้รับข่าวการเสียชีวิตของอูซังฮี
เหล่าสภานักต่างปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับยืนกรานหนักแน่นว่า ‘ไม่มีทางเป็นไปได้’
แต่หลังจากตรวจสอบวิดีโอที่ถ่ายโดยนักเรียนชมรมหนังสือพิมพ์ ซึ่งรับหน้าที่ผู้สื่อข่าวภาคสนาม ทุกคนได้แต่ปิดปากเงียบ
นักเรียนปีหนึ่งที่ได้ดูวิดีโอถึงกับหมดสติ
[บ้าจริง… ทำไมถึงอยากตามน้องชายไปขนาดนั้นล่ะ… นังโง่! นังโง่!!]
โอเยจี หัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบ ซึ่งมักไม่ลงรอยกับอูซังฮีอยู่บ่อยครั้ง ทำได้เพียงแหกปากคร่ำครวญ
คนเจ็บที่นอนขดตัวอยู่บนพื้นเย็นๆ ต่างก็พากันสะอื้น
นับตั้งแต่มีข่าวสมาคมปีกธรณีถูกกวาดล้าง ข่าวร้ายก็ตามมาไม่หยุดหย่อน
[ถ้าทนได้อีกยี่สิบชั่วโมง ทางสมาคมเพลเยอร์จะส่งคนมาช่วย… พวกเรามาทำในสิ่งที่ทำได้กันเถอะ]
[เจ้าบ้าโดวอนอู! เสียสติไปแล้วรึไงวะ! ซังฮีน่ะตายไปแล้ว! หล่อนไม่ฟื้นขึ้นมาหรอกนะ!]
[พวกนายพักผ่อนให้ครบสองชั่วโมงแล้วไปสลับกับเด็กๆ ในแนวหน้า… เดี๋ยวฉันกลับมา]
ประธานนักเรียนโดวอนอู กล่าวอย่างเยือกเย็นแล้วเดินออกไป
จีมยองซู (จี-มยอง-ซู) รองประธานนักเรียน เอาตัวเข้ามาขวาง
[นายจะไปไหน!]
ในฉากนี้ กล้องซูมเข้าไปหาใบหน้าจีมยองซู
ผู้เล่นจึงไม่เห็นสีหน้าโดวอนอู
[ก็ต้องไปรับซังฮีอยู่แล้ว]
จีมยองซูหยุดโดวอนอูไว้ไม่ได้
ประธานนักเรียนหายตัวไปจากทางเดินอันมืดมิด
ผ่านไปสักพัก เขากลับมาพร้อมร่างอูซังฮีที่ห่อไว้ด้วยผ้าม่าน
เป็นการกล่าวถึงอูซังฮีครั้งสุดท้ายภายในเกม
แต่ ณ ปัจจุบัน
“ครอบครัวในอนาคต? ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่านายหมายถึงอะไร… วอนอู สิ่งเดียวที่นายจะได้จากครอบครัวฉัน ก็คือตีน*ของพวกเราไงล่ะ!”
(มุกเล่นคำ 족 จก = ครอบครัว (ย่อ) , เท้า)
อูซังฮีพูดเรื่องโหดร้ายด้วยเสียงอ่อนหวานได้หน้าตาเฉย
โดวอนอูยังคงไม่ย่อท้อ
“เธอลืมเติมคำว่า ‘กา*’ นำหน้านะซังฮี… แต่ถึงจะพูดผิดก็ยังน่ารัก”
(가족 กาจก คือคำเต็มของ ‘ครอบครัว’)
พั่ก!
อูซังฮีซัดหัตถ์คมมีดอีกรอบ
โดวอนอูรับไว้แต่โดยดีแม้จะหลบพ้นได้ไม่ยาก
ถึงจะเจ็บ แต่เขาก็ยังยิ้ม
…คงไม่ได้ยิ้มเพราะเสพติดความเจ็บปวดแน่
โดวอนอู ชายผู้อุทิศตัวเพื่อรักแท้
แต่เนื่องจากยังไม่รู้ความคิดของอูซังฮี ฉันจึงไม่กล้าออกปากเชียร์คนทั้งสอง
“ฮะฮะ…! ยังไหว ซังฮี! จะอีกกี่ครั้งก็เข้ามาเลย!”
อูซังฮุนเริ่มทำหน้าบิดเบี้ยว
ที่ไม่อยากเข้าประชุมตัวแทนนักเรียนก็เพราะโดวอนอู?
“โตป่านนี้แล้ว ทำไมนิสัยคนเราถึงไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”
“…รู้จักกันมานานแล้วหรือ”
“ใช่”
อูซังฮุนอธิบายความสัมพันธ์อันย่ำแย่ระหว่างพวกตนกับโดวอนอูอย่างสั้นกระชับ
ย้อนกลับไปสมัยเด็ก ในตอนที่พลังพิเศษสายฟื้นฟูซึ่งหาได้ยากของอูซังฮีตื่นขึ้น
อูซังฮีได้รับทุนการศึกษาให้เรียนในศูนย์เด็กอัจฉริยะ ซึ่งโดวอนอูก็เรียนอยู่ที่นั่นด้วย
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ชั้นประถม แต่เพราะสองครอบครัวค่อนข้างสนิทสนม การตัดความสัมพันธ์จึงไม่ง่ายเหมือนกับใช้มีดเฉือนทิ้ง
“อึยชิน พี่ขอโทษนะ… เฮ้อ… คนแบบนี้ได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนได้ยังไง… ไหล่เจ็บไหม? จะชกมันคืนก็ได้นะ เอาแรงๆ ไปเลย”
“ซังฮี ฉันจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายนอกจากเธอ!”
“นี่ไอ้กร๊วก… รีบขอโทษอึยชินเดี๋ยวนี้”
ได้ยินคำดังกล่าว โดวอนอูที่ยิ้มแย้มมาตลอด ทำหน้าเคร่งขรึมเป็นครั้งแรก
ราวกับให้ตายยังไงก็ไม่ทำ
ไม่นะ ตัวละครของฉันไม่ใช่พวกนิสัยต่ำช้าแบบนี้!
แต่นี่คือความจริง
“…ไม่… เอา…”
เสียงแผ่วเบาที่เกือบจะไม่ได้ยิน
เห็นแก่ที่เป็นตัวละครของฉัน คราวนี้จะไม่เอาเรื่องก็แล้วกัน
ขณะอูซังฮีกับอูซังฮุนกำลังถลึงตาใส่โดวอนอู
“ไม่เป็นไรครับ”
ได้ยินคำตอบฉัน อูซังฮีทำหน้ายิ้มแย้มทันที
“อึยชินของฉันยังเป็นผู้ใหญ่กว่าอีก”
“อึยชิน… ของฉัน?”
อูซังฮีราดน้ำมันลงกองไฟ
โดวอนอูเอาแต่พึมพำบางสิ่ง โชคยังดีที่อูซังฮีไม่คิดจะทำให้เหตุการณ์บานปลาย
เธอหยุดราดน้ำมัน
ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดหากต้องการขจัดความน่ารำคาญ
“ไปกันเถอะเด็กๆ … นี่คือครั้งแรกของเด็กปีหนึ่งสินะ? พี่จะนำทางให้เอง”
อูซังฮีเดินนำเด็กปีหนึ่งเข้าไปในห้องประชุม A
ด้านหลังอูซังฮี โดวอนอูผู้พ่ายแพ้ยังคงทำหน้าดำมืด
“…ฮะฮะฮะ! คึฮะฮะฮะ! โดวอนอูของเราเสียท่าซะแล้ว! นายหึงซูเปอร์โนว่าไร้นามหรือไง? ฮะฮะฮะ!”
ขณะโดวอนอูกำลังทำหน้าอมทุกข์
รองประธานนักเรียน จีมยองซูที่หันไปเห็นพอดี อดไม่ได้ที่จะแซว
ทั้งคู่เป็นตัวละครที่ควบคุมได้
พวกเขาต่างก็เป็นตัวละครของฉันในเกม
นี่ล่ะ สัจธรรมของชีวิต
หัวใจของฉันกำลังว่างเปล่า
* * *
ห้องประชุมสามร้อยที่นั่งแบบขั้นบันได
ด้านหน้าสุดคือเก้าอี้ประธานการประชุมและเหล่าสภานักเรียน
เหนือเก้าอี้ประธานมีธงโรงเรียนแสงเงินที่ถักด้วยมือแขวนอยู่
‘แถวหน้าสุดเลยแฮะ’
ฉันเดินมานั่งตามคำแนะนำของอูซังฮี
จากระเบียบการจัดแถว ห้องศูนย์ในทุกชั้นปีจะอยู่หน้าสุด โดยที่ห้องสิบอยู่ท้ายสุด
เก้าอี้เกือบทุกตัวที่มีป้ายชื่อแปะอยู่ มีนักเรียนจับจองนั่งจนเต็มเกือบหมดแล้ว
เหลือว่างแค่เก้าอี้ของปี 2/0 และปี 3/0
‘สมกับเป็นห้องศูนย์… ทั้งที่วันนี้อยากเจอปี 2/0 แท้ๆ’
ก่อนการประชุมจะเริ่ม เสียงบทสนทนาดังมาจากทุกสารทิศ
“วันนี้จุนยอลมาด้วยล่ะ… น่าตื่นเต้นจัง!”
“ก็เขาเป็นสภานักเรียน แถมยังเป็นตัวเต็งประธานนักเรียนคนถัดไป…”
“มาจินซึงหน้าบึ้งเป็นตูดเลย เพราะจุนยอลเหรอ? ยังมองอีกฝ่ายเป็นคู่แข่งอยู่รึไง?”
“ปี 3/0 ไม่ส่งตัวแทนมาเลยแฮะ ปกติเป็นพวกมาประชุมตรงเวลานี่?”
“ดูเหมือนวันนี้ปี 3/0 จะจับกลุ่มกันไปตรวจตราพลังงานจักรวาล ก็เลยไม่มากัน”
“วันเอพริลฟูล สวนลอยฟ้าปรากฏขึ้นเหนือเขตส่วนกลาง เห็นว่าพลังงานจักรวาลถูกบางสิ่งปนเปื้อน… แล้วมันอะไรล่ะ?”
“เขาบอกว่าสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างได้ในเขตส่วนกลาง”
“ก็เลยไปสำรวจ…? คนพวกนั้นยังสติดีกันอยู่ไหม?”
พวกปี 3/0 คิดจะทำอะไรกันแน่?
จักรวาล…
ถ้าตรวจพบแล้วจะทำยังไงต่อ?
ฉันเหม่อมองเพดานโดยไม่รู้ตัวหลังจากได้ฟังเรื่องราว
ทันใดนั้น
‘อะไรอีกล่ะนั่น?’
ใกล้กับหลอดไฟบนเพดาน ชายหนึ่งหญิงหนึ่งในชุดพละกำลังเกาะอยู่บนเพดาน
พวกเขาสบตากับฉัน
จากนั้นก็พยายามใช้มือและเท้าส่งสัญญาณบอกให้เงียบ
‘เล่นพิเรนทร์อะไรกัน’
ถึงจะไม่รู้ว่ามีแผนอะไร แต่ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด
ขณะพยายามเมินตามที่พวกเขาต้องการ
โชคไม่เข้าข้างสองคนนั้นเท่าไร
เด็กหนุ่มบนเก้าอี้ประธานเอาแต่จ้องฉันด้วยสายตาอาฆาตมาสักพักแล้ว
โดวอนอูเงยหน้าตามสายตาของฉัน และหรี่ตาลงเมื่อเห็นบุคคลบนเพดาน
“ลงมา”
น้ำเสียงเจือแรงกดดันแผ่วเบา
เมื่อผนวกกับสีหน้าเคร่งขรึม เกิดเป็นบรรยากาศที่ยากจะขัดขืน
‘ต้องอย่างนี้… ประธานนักเรียนโดวอนอูในเกมที่ฉันรู้จัก!’
ดูเหมือนว่ารสนิยมเพี้ยนๆ จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าอูซังฮีเท่านั้น
ชายหนึ่งหญิงหนึ่งถอนหายใจยาวหลังจากทุกสายตาในห้องประชุม พากันแหงนขึ้นไปมองเพดาน
“ให้ตาย!!”
“จบเห่!”
ถึงจะไม่รู้ว่าพวกเขาวางแผนอะไรไว้ แต่ดูท่าจะยอมยกธงขาวแล้ว
ชายหนึ่งหญิงหนึ่งกระโดดลงมายังเก้าอี้ตัวแทนปี 2/0 ด้วยท่าสง่างาม
ปังปังปังปัง! ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
[หัวหน้าห้องปี 2/0 กึมชานซอลปรากฏตัว!]
[รองหัวหน้าห้องปี 2/0 วังชานซอลปรากฏตัว!]
ป้ายข้อความเลื่อนลงมาพร้อมกับเสียงดอกไม้ไฟระเบิด
การออกแบบทั้งฉูดฉาดและไร้รสนิยมราวกับเป็นฝีมือเด็ก
ป้ายข้อความหยาบๆ ที่เน้นความโดดเด่นโดยไม่ใส่ใจกับวิจิตรศิลป์
นี่คงเป็นเหตุผลที่ลงทุนปีนขึ้นไปบนเพดาน
‘…หัวหน้าปี 2/0 สินะ’
คำนึงจากตำแหน่งป้าย หัวหน้าห้องคือผู้หญิงที่ชื่อกึมชานซอล
รองหัวหน้าห้องคือผู้ชายที่ชื่อวังชานซอล
อาจมีนามสกุลต่างกัน แต่ชื่อเหมือนกันเปี๊ยบ
พวกเขาคือหัวหน้าห้องและรองของปี 2/0 ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเต็มไปด้วยกลุ่มเด็กแสบฝีมือจัดจ้าน
ถือเป็นส่วนผสมที่เลวร้ายสำหรับคนรอบข้าง
“ประธานนักเรียนทำเสียฤกษ์ชะมัด! ปกติตัวเอกก็ต้องโผล่มาทีหลังสุดอยู่แล้วนี่ ใช่ไหมกึมชาน?”
“ใช่… กะจะโผล่ออกมาเท่ๆ สักหน่อย… แต่วังชาน มันเป็นเพราะนายลืมหยิบไอเท็มล่องหนมานั่นแหละ!”
“กึมชาน… เรื่องนั้นไม่สำคัญ… ตอนนี้ปี 3/0 ยังมาไม่ถึงเลย!”
“ยิ่งแก่ก็ยิ่งมาช้าสินะ”
ไม่ต้องห่วง พวกนายได้โผล่มาเป็นสองคนสุดท้ายสมใจ
ปี 3/0 โดดประชุมวันนี้เพราะกำลังตรวจสอบสัญญาณของจักรวาล
“เฮ้อ… อุตส่าห์เตรียมตัวตั้งชั่วโมงนึง… ล้มเหลวซะได้”
เป็นอีกครั้งที่ฉันได้เรียนรู้ว่า ยังใครบางคนยอมเสียเวลาชีวิตหนึ่งชั่วโมงไปกับเรื่องไร้สาระ
เด็กปีหนึ่งนั่งดูเหตุการณ์ด้วยความตกตะลึง ส่วนปีสองและปีสามไม่ได้ใส่ใจมากนัก ราวกับเห็นจนเป็นปกติ
“…มากันครบแล้วสินะ ในเมื่อทุกคนที่ลงชื่อไว้ยกเว้นปี 3/0 มาพร้อมหน้ากัน… ฉันขอทำตามหน้าที่เลยนะ”
โดวอนอูลุกจากเก้าอี้ประธานแล้วพูด
“นับแต่นี้ไป ฉันขอประกาศเริ่มการประชุมตัวแทนนักเรียนประจำไตรมาสที่หนึ่ง”
เป็นคำกล่าวเปิดงานสั้นๆ
พิธีรีตองเล็กๆ ที่ทำให้องค์ประกอบการประชุมครบถ้วน
‘เริ่มแล้วสินะ’
หัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบ ซึ่งแต่งตั้งกันเองจากภายในองค์กร
ประธานสมาคมปีกธรณี ซึ่งถูกโหวตโดยนักเรียนหอพัก
ประธานสหภาพชมรม ซึ่งถูกโหวตจากหัวหน้าชมรมและกลุ่มย่อยต่างๆ
และประธานนักเรียน ซึ่งถูกโหวตจากนักเรียนทั้งโรงเรียน
จากบรรดาทั้งสี่ บุคคลที่เป็นตัวแทนนักเรียนมากที่สุดคือประธานนักเรียน
ดังนั้น ประธานนักเรียนจึงกลายเป็นหัวเรือใหญ่ในการประชุมตัวแทนฯ โดยมีสภานักเรียนที่เหลือช่วยกำกับการประชุม
‘ราบรื่นมาก…’
ประธานนักเรียนโดวอนอูคอยควบคุมสถานการณ์
รองประธานอย่างจีมยองซูเกริ่นถึงลำดับการประชุม
เลขาธิการอูซังฮีคอยสรุปและรายงานกิจกรรมของสภานักเรียน
ทุกคนทำหน้าที่ตัวเองได้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง ส่งผลให้การประชุมดำเนินไปด้วยดี
‘เก่งจริงๆ …’
สมแล้วที่เป็นตัวละครของฉัน
ไม่เหมือนการประชุมสั่วๆ ของพันธมิตรสิบสองจักรราศี
‘…เห็นทีคงต้องสลัดภาพจำก่อนเข้าห้องประชุมทิ้งไป’
สมาธิของฉันเริ่มจดจ่ออยู่กับเนื้อหาการประชุม
หลังจากสภานักเรียนรายงานจบ หัวหน้าห้องและรองของแต่ละห้อง จะรายงานความคืบหน้าและประกาศแผนที่วางไว้
โฮโลแกรมขนาดใหญ่ใจกลางห้องประชุม รวมถึงโฮโลแกรมขนาดเล็กประจำที่นั่งแต่ละคน คอยแสดงเอกสารชั้นเรียนที่หัวหน้าห้องส่งมาล่วงหน้า
ตรงนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ถ้าจะมีก็แค่เรื่องที่ปี 2/0 และปี 3/0 ก่อปัญหาไว้ไม่น้อย
‘พวกรุ่นพี่ปีสองกับสามคงปวดหัวกันน่าดู’
หลังจากตัวแทนห้องรายงานจบ ถัดไปเป็นการประกาศตารางกิจกรรมและแผนงานของโรงเรียน
ทั้งการเชิญบุคคลภายนอกมาแสดงที่หอพยัคฆ์สง่า
การประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน
การท่องเที่ยวประจำชั้นปี หรือที่เรียกว่าทัศนศึกษา
งานวิชาการและงานนำเสนอวิทยานิพนธ์
ชั้นเรียนตัวอย่าง พิธีคัดเลือกนักเรียนตัวอย่าง
ค่ายยุวชน
เวิร์กช็อปสมัครเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้น
‘เข้าใจแล้วว่าทำไมอูซังฮุนถึงคัดค้านไม่ให้เราเป็นสภานักเรียน’
แม้ในแต่ละปีจะมีอีเวนต์ค่อนข้างน้อย แต่การต้องวางแผนทั้งหมด จัดสรรงบ และลงมือทำด้วยตัวเอง คืองานที่หนักหนาสาหัสเอาการ
แต่ถึงอย่างนั้น สภานักเรียนกลับทำมันได้อย่างไร้ที่ติ โดยไม่เสียการเรียนและการบุกต่างโลก
ในเกมอธิบายไว้ว่า ประธานนักเรียนโดวอนอูสอบได้ที่หนึ่งทุกครั้ง และกระทั่งอูซังฮีก็ไม่เคยเกินที่สิบ
“ถัดไป ขอเชิญหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบกล่าวรายงาน”
เนื้อหาของกรรมการรักษาระเบียบมีไม่มาก
หน้าที่หลักของกรรมการรักษาระเบียบประจำโรงเรียนแสงเงิน คือการตรวจตราและตรวจสอบองค์กรนักเรียนอื่น งานจึงค่อนข้างเบา
เนื่องจากสมาคมปีกธรณีและสหภาพชมรมค่อนข้างยุ่งกับการบริหารหอพักและชมรม พวกเขาจึงไม่มีเวลาตรวจสอบภายใน
ถัดจากรายงานของหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบ โอเยจี ก็ถึงคิวรายงานของสมาคมปีกธรณีจากซองซีวาน และสุดท้ายคือรายงานของสหภาพชมรม
‘รายงานของสหภาพชมรมยาวที่สุด’
เนื่องจากมีชมรมและสมาชิกอยู่ในสังกัดเป็นจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะบริหารทุกสโมสรได้ครอบคลุม ไม่ว่าจะการจัดแข่ง การจัดหาสถานที่ หรือการแบ่งงบประมาณอย่างเหมาะสม
ในกรณีของชมรมสายดนตรี พวกเขามักร่วมมือกันและสนิทกันเป็นทุนเดิม จึงเจรจากันได้ง่ายกว่ากลุ่มชมรมอื่น
‘ชมรมโกะ… กลุ่มย่อยโชงิ… กลุ่มย่อยหมากรุก… แค่จัดตารางแข่งให้ชมรมพวกนี้โดยไม่ชนกันก็น่าปวดหัวมากแล้ว…’
จากข้อมูลและคำบรรยายบนโฮโลแกรม ชื่อหนึ่งสะดุดตาฉันเป็นพิเศษ
‘ยงเจกอนคือที่ปรึกษากลุ่มย่อยหมากรุก?’
ครูประหลาดยงเจกอน หนึ่งในเผ่ามังกรที่สามารถควบคุมได้
เคยรู้แค่ว่าเป็นที่ปรึกษากลุ่มย่อย แต่ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มย่อยหมากรุก
หนึ่งในตัวละครควบคุมได้ที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นที่ปรึกษากลุ่มย่อยหมากรุก?
“โชอึยชิน?”
“หือ…”
“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ ป่วยรึเปล่า?”
“ป…เปล่า”
คิมยูรีหรี่เสียงถามด้วยความกังวล
เกาหลีใต้คือดินแดนที่นักหมากรุกไม่มีทางได้แจ้งเกิด
สมัยมัธยมต้น ฉันมักจะเลี่ยงหมากรุกทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว
‘ไม่ควรปล่อยไว้เป็นจุดอ่อน’
ฉันบันทึกตารางการแข่งทัวร์นาเมนต์หมากรุกลงอุปกรณ์ส่วนตัว
หลังจากจบช่วงถามตอบก็เป็นการอภิปรายประเด็นสำคัญ สรุปข้อเสนอ และอ่านรายงานบันทึกการประชุม
การประชุมตัวแทนนักเรียนจบลงอย่างราบรื่น
* * *
การประชุมตัวแทนนักเรียนในไตรมาสแรก คือการยืนยันกำหนดการของโรงเรียน
มีโอกาสได้เจอตัวละครหลักที่อยากเห็นมานาน
และได้พบคนที่อยากติดต่อด้วย
“ซูเปอร์โนว่าไร้นามเรียกเรามาทำอะไรกันหนอ?”
“ปี 1/0 รุ่นนี้เงียบชะมัด ทำตัวให้เหมือนห้องศูนย์หน่อยสิ!”
“หรืออยากให้เราสอน? ยังเร็วไปสิบปีไอ้หนู! อันดับแรกก็ต้องเพิ่มอัตราการเข้าเรียนให้ได้ก่อน!”
ปี 2/0 หัวหน้าห้อง กึมชานซอล
รองหัวหน้าห้อง วังชานซอล
ปี 2/0 ไม่เคยปรากฏตัวในเกมโดยตรง
แต่มีคำอธิบายว่า หัวหน้าห้องและรองคือผู้นำการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่
ดังนั้น ถ้าต้องการจะชักใยปี 2/0 ก็ต้องคุยกับสองคนนี้ให้รู้เรื่องเป็นอันดับแรก
“พอดีมีเรื่องจะขอร้อง”
ได้ยินแบบนั้น กึมชานซอลและวังชานซอลเริ่มกระซิบกระซาบกัน
พวกเขาไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือด แต่รู้กลับสึกคล้ายกันมากอย่างบอกไม่ถูก
…คงเพราะมีชื่อเดียวกันกระมัง
พวกเขาเปิดปาก
“พวกเราคิดแพงนะ”
“หืม… รุ่นพี่ยังต้องการเงินอีกหรือ? แค่บุกต่างโลกได้ เงินทองก็น่าจะไหลมาเทมาแล้วนี่?”
“ว่ามาสิ แต่ไม่รับปากนะ”
ไม่ต้องห่วง พวกนายจะทำเรื่องนี้ให้ฉันโดยไม่คิดเงินแน่นอน
เพราะมันเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กปี 2/0 มองว่ามีคุณค่ามากกว่าเงิน
“เกี่ยวกับครูจูเก่อแจกอลน่ะ”
—
MasterGU.edited = สภารักเรียน->สภานักเรียน, ซูเปอร์ไร้นาม->ซูเปอร์โนว่าไร้นาม