📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 30

บทที่ 30 - หลังฝนหยุด (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ใกล้กับโรงเรียนแสงเงินมีคฤหาสน์อันงดงามตามรสนิยมของเสือเหลืองตั้งอยู่ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของย่านอึนกวาง

รั้วสีทองที่หุ้มด้วยบาเรียที่ทรงพลังยิ่งกว่าโรงเรียนแสงเงิน

สวนวงกตขนาดมหึมาที่ชวนให้หลงทาง

อาคารห้าชั้นที่สร้างอยู่ ณ ใจกลางอาณาเขตคฤหาสน์ คือบ้านของวังมยองโฮ—ประธานมูลนิธิวังมยอง

“ยินดีต้อนรับ เสือขาว เสือแดง”

เผ่าเสือทั้งสามกำลังรวมตัวกันภายในคฤหาสน์

เสือเหลืองที่นั่งหัวโต๊ะ กล่าวต้อนรับสหายรักทั้งสองก่อนจะเปิดปาก

“เราสามคนไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันมานานแค่ไหนแล้วนะ? สามสิบปี? หรือว่าห้าสิบ? ลมอะไรดลใจให้พวกเจ้ามาหาข้าพร้อมกัน?”

“เสือเหลือง เรื่องมีอยู่ว่า…”

“เดี๋ยว… ข้าขอเดา”

เสือเหลืองวางถ้วยชาลงพลางทำหน้าครุ่นคิด

ไม่นานมานี้ เขาเพิ่งได้รับรายงานการชำระล้างย่านอึนกวางจากเสือแดง

คดีถูกปิดอย่างสมบูรณ์

ถึงจะยังไม่มั่นใจว่าทั้งสองมาหาด้วยเหตุผลอันใด แต่เสือเหลืองพอจะมีตัวเลือกในใจ

“โชอึยชินขอร้องให้มา?”

ไม่มีใครปฏิเสธ

‘ไม่เลวนี่…’

โชอึยชินคือนักเรียนอายุสิบเจ็ดที่เพิ่งเข้าเรียนได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน

แต่เท่าที่เสือเหลืองทราบ เขาช่วยไปแล้วห้าชีวิต

วันสอบเข้าสามคน จางนัมอุก อูซังฮุน ซนมินกิ

วันเปิดภาคเรียนหนึ่งคน อีเรนา

และเมื่อเช้ามืดอีกหนึ่งคน เม็งเฮียวทง

‘อาจยังมีที่เราไม่รู้อีก’

เสือเหลืองที่อยู่ในรูปลักษณ์วัยรุ่น ยกมุมปากขึ้น

เสือแดงเผยความประหลาดใจเมื่อเห็นรอยยิ้มดังกล่าว

เสือเหลืองพูดต่อด้วยดวงตาเป็นประกาย

“เครือข่ายข้อมูลที่สืบจนรู้ได้ว่าพวกเราเป็นใคร… ความกล้าหาญในการต่อรองกับเผ่าแท้… แสงประทานและสกิลลึกลับ… และไหวพริบที่ยากจะหาได้ในเด็กอายุสิบเจ็ด… โชอึยชินยอดเยี่ยมในทุกด้าน สมแล้วที่ได้รับความสนใจจากพวกเจ้า”

สายตาเสือเหลืองเลื่อนผ่านเสือแดงไปหาเสือขาว

“ฮะฮะฮะ! ไม่ใช่แค่สร้างความประทับใจให้เสือแดงผู้คอยปกป้องมนุษย์ แต่ยังรวมถึงเสือขาวด้วยสินะ… ข้าไม่ได้มีความสุขแบบนี้มาสิบห้าปีแล้วกระมัง”

เสือเหลืองหัวเราะเสียงดังเมื่อหวนนึกถึงประธานนักเรียนที่บ้าบิ่นเมื่อสิบห้าปีก่อน ผู้กล้าขอเข้าพบเขาตัวต่อตัว

“แล้วโชอึยชินขอให้ทำอะไรล่ะ”

“…นัดประชุมพันธมิตรสิบสองจักรราศี”

ดวงตาเสือเหลืองเป็นประกายทันทีที่ได้ยินเนื้อหา

“ไม่ง่ายเลยที่จะนัดพบเจ้าพวกนั้นอย่างพร้อมหน้า แต่ก็ไม่มีปัญหา… กลับกัน ข้ามีเงื่อนไข”

เนื่องจากดำรงชีวิตมาเนิ่นนาน บุคคลสำคัญย่อมทยอยล้มหายตายจากหรือไม่ก็หลับลึก

กระทั่งสายตาของเพื่อนสนิทก็ยังเปลี่ยนไป

หลังจากเห็นสายตาราวกับปลาตายของสหายรักทั้งสอง เสือเหลืองสูญเสียแรงจูงใจในการใช้ชีวิต และเปลี่ยนมาไล่ล่าหาความสุขประเดี๋ยวประด๋าวแทน

‘ไม่อยากเชื่อว่าโชอึยชินจะทำให้พวกเขากลับมามีชีวิตชีวาได้’

ไม่ใช่เรื่องปกติที่สหายรักทั้งสองจะนัดพบพร้อมกันเพื่อขอความช่วยเหลือ

สายตาของพวกเขากลับไปเป็นดวงตาของนักรบ ผู้เคยร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เมื่อนานมาแล้ว

“เสือขาว เสือแดง… นับแต่นี้ไป พวกเจ้าต้องเลิกเถลไถลแล้วมาอยู่กับข้า จงใช้คฤหาสน์ของท่านประธานเป็นฐานทัพ นั่นคือเงื่อนไข”

เผ่าเสือทั้งสองตอบรับทันทีโดยไม่ปริปากบ่น

“ตกลง”

“ตกลง เสือเหลือง”

เสือขาวและเสือแดงแค่อยากเห็นพัฒนาการของโชอึยชินอย่างใกล้ชิด จึงตกปากรับคำในทันที

เสือเหลืองเข้าใจความรู้สึกพวกเขาดี

“โดยเฉพาะเสือขาว ข้ามีชื่อและตำแหน่งเตรียมไว้ให้เจ้าในโรงเรียนแสงเงินแล้ว ถ้าพร้อมเมื่อไรก็มาได้เลย”

“ชื่อ?”

“วันก่อนข้าเพิ่งไปทำทะเบียนราษฎร์ให้ ชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ ‘แบคโฮกุน’ … สำหรับเจ้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพี่น้องของผู้นำเผ่าเสือ ข้าตัดสินใจใช้คำว่า ‘กุน’ ที่มีความหมายของผู้ปกครอง… กล่าวกันว่าในราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองคาบสมุทรเกาหลี พี่น้องของกษัตริย์จะได้รับพระราชทานชื่อที่มีคำว่ากุนปนอยู่”

เสือเหลืองกะพริบตาพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“นอกจากนั้น ชื่อแบคโฮกุนยังฟังดูตลกดี สำหรับเจ้าที่สูญเสียเสียงหัวเราะไปพร้อมกับชื่อจริง อย่างน้อยชื่อปลอมก็ยังพอทำให้ขำได้”

เสือขาวจ้องเสือเหลืองด้วยสายตาเย็นชา

แต่เขามิได้ถือสาเรื่องที่เสือเหลืองพูด

“จะลองเก็บไปคิดดู”

สิ้นเสียงเสือขาว การประชุมสั้นๆ ของเผ่าเสือทั้งสามถึงคราวยุติ

* * *

“สวัสดีครับ ศรสวรรค์ฮัมกึนยอง”

“สวัสดีครับ หัวหน้าทีมฮง”

ฮงกยูบินกับฮัมกึนยองกล่าวทักทายกันและกัน

‘รู้จักกันมาก่อนสินะ’

ฉันยังติดต่อกับฮงกยูบินเป็นครั้งคราว แม้จะตั้งชื่อเพลเยอร์ชั่วคราวไปนานแล้ว

ฮงกยูบินคอยส่งข้อความมาเรื่อยๆ แต่ฉันจะตอบกลับแค่หนึ่งในสาม

“หัวหน้าทีมฮง นานแล้วนะครับที่ไม่ได้เจอหน้ากัน ลมอะไรหอบมาถึงโรงเรียนได้?”

ฉันรู้อยู่แล้วว่าสมาคมเพลเยอร์มาที่โรงเรียนทำไม แต่ก็ต้องถามพอเป็นพิธี

จุดมุ่งหมายของสมาคมเพลเยอร์คือการ ‘ปราบปรามเอนามี’ และ ‘คุ้มครองเพลเยอร์’ ซึ่งทั้งสองปัจจัยล้วนมีเอี่ยวกับคดีนี้

เป็นวาระที่สมาคมต้องออกหน้า

“ฮะฮะ! จะมีเหตุผลไหนอีกล่ะ? ก็ต้องมาเพราะ ‘งาน’ อยู่แล้ว”

ฮงกยูบินช่างจ้อตามนิสัย

แต่เมื่อลองสังเกตให้ดี รอบดวงตาของเขาค่อนข้างดำคล้ำ แถมตายังแดงก่ำราวกับเลือด

ฮงกยูบินดูอิดโรยมาก

“ไม่ค่อยได้นอนหรือ?”

“ใช่… คดีมายาเกตทำให้ฉันแทบไม่ได้นอน แถมเมื่อคืนก็ยัง… ไม่สิ เมื่อเช้ามืดก็ยังถูกเรียกตัวด่วน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้นอนเลย”

ถึงจะพูดแบบนั้น ทรงผมของฮงกยูบินก็ยังเนี้ยบมาก บนเสื้อผ้าก็ไม่มีรอยยับสักจุด

เขาแต่งตัวได้ดีว่าฉันที่หลับเต็มอิ่มเสียอีก

“หลังจากทราบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับเพลเยอร์ SAT-K ทางสมาคมก็ตกอยู่ในความโกลาหลทันที… จากเหตุการณ์เมื่อวาน ดาวเทียมไม่ยอมตอบสนองต่อเอนามีที่คุณศรสวรรค์จัดการไปหน้าโรงเรียนแสงเงิน”

ฮงกยูบินพูดพลางยิ้มโดยแทบไม่หายใจ

“ในบรรดาพนักงานของสมาคมที่ถูกตัดหางปล่อยวัดเพราะคดีมายาเกต มีไอ้โรคจิตคนหนึ่งแอบก่อกวนสัญญาณดาวเทียม แต่กรรมตามสนอง ร่างเปลือยกายของหมอนั่นถูกพบในสภาพปางตายท่ามกลางซากปรักหักพัง เรียกได้ว่าทั้งร่างกายและจิตใจแตกสลายโดยสมบูรณ์”

บางที ไอ้โรคจิตนั่นคงเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกฉันบดขยี้

ดูเหมือนว่าการลงมือของฉัน จะช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย

ในเมื่อจิตใจแตกสลายอยู่แล้ว ร่างกายก็ต้องพินาศตามไปด้วย

“ถ้าไม่ได้คุณศรสวรรค์ช่วยจัดการให้ เกรงว่าทีมดาวเทียมของสมาคมตั้งแต่รองหัวหน้าขึ้นไปคงต้องเขียนหนังสือลาออกกันหมด… แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องเขียนจดหมายขอโทษอยู่ดี ฮะฮะฮะ!”

ฮงกยูบินในวันนี้ดูค่อนข้างน่ากลัว

เขาหัวเราะร่วนแม้จะทราบว่ามีคนบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจ

ฮัมกึนยองก็คงคิดเหมือนกัน จึงดึงไหลฉันเบาๆ เพื่อแยกออกจากฮงกยูบิน

ฮงกยูบินยังคงรัวคำพูดราวกับปืนกลอยู่ฝ่ายเดียว

“ผมตรวจสอบอุปกรณ์บันทึกทั้งหมดมาแล้ว และพบว่ามีเพลเยอร์คนหนึ่งหลบหนีเอนามีออกจากอาคารของชเวย็อนทึก—ครูของโรงเรียนแสงเงิน… เพลเยอร์ที่หนีออกมาได้คือนักเรียนมัธยมปลายปีหนึ่งห้องศูนย์ เม็งเฮียวทง… คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดใช่ไหม? อึยชินก็เรียนห้องศูนย์เหมือนกันนี่… ช่วยบอกฉันทีว่าเม็งเฮียวทงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในรั้วโรงเรียน”

เอนามีบริวารเผ่าหมี

คนของสมาคมที่มีเอี่ยวกับมายาเกต

ดาวเทียมของสมาคมเพลเยอร์ถูกก่อกวนสัญญาณ

อาคารที่มีครูโรงเรียนแสงเงินเป็นเจ้าของ

พบร่างเพลเยอร์ที่ถูกขับออกจากสมาคมเป็นการถาวร นอนหมดสติท่ามกลางซากอาคาร

มีนักเรียนหัวกะทิของโรงเรียนแสงเงินหลบหนีออกมาหนึ่งคน – เม็งเฮียวทงผู้เคยเป็นนักล่ารางวัลสมัยม.ต้น

ด้วยเบาะแสขนาดนี้ สมาคมเพลเยอร์คงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเม็งเฮียวทง

‘ฮงกยูบินรู้แล้ว’

เพียงแต่เขาพยายามหลบหนีความจริงด้วยการฝืนมองโลกในแง่ดี

ฮัมกึนยองทำลายความหวังนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ

“เม็งเฮียวทงไม่เคยมาโรงเรียนเลยสักครั้ง… หลังจากนี้งานของคุณคงล้นมือทีเดียว”

คำพูดของฮัมกึนยองสื่อได้ทำนองว่า ‘ที่คุณคิดน่ะถูกแล้ว วันนี้ก็คงทำงานล่วงเวลาอีกเช่นเคย’

“ฮะฮะ! เห็นทีผมคงต้องโหมงานตลอดทั้งสัปดาห์จริงๆ นั่นแหละ”

ฮงกยูบินที่ตีความคำพูดฮัมกึนยองออก ขำแห้งด้วยสายตาเจือความสิ้นหวัง

“ที่มาวันนี้เพราะมีนัดกับทีม PR ของมูลนิธิวังมยอง เพื่อหารือทางออกที่ดีที่สุด… ดังนั้นช่วยผมรวบรวมข้อมูลจากเม็งเฮียวทงด้วย คุณครูประจำชั้นห้องศูนย์ ศรสวรรค์ฮัมกึนยอง”

ฉันค่อนข้างมั่นใจว่า ประโยคเมื่อครู่มีความหมายทำนอง ‘ช่วยผมด้วยนะครับ’

“เม็งเฮียวทงกำลังอยู่ระหว่างการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ผมจะช่วยตอบคำถามแทนเอง เข้าไปข้างในกันเถอะ”

“ได้สิ… ถ้าอย่างนั้น รองหัวหน้ายุนกับพนักงานจอง พวกคุณไปรวบรวมข้อมูลของชเวย็อนทึกกันก่อนนะ อีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาที่นัดไว้กับทีม PR ของมูลนิธิ ผมจะตามไปสมทบทีหลัง”

ฮงกยูบินออกคำสั่งกับชายสองคนที่แขวนป้ายอนุญาตเยี่ยมชมโรงเรียน

“ครับ หัวหน้า”

“ครับ หัวหน้าทีม!”

บุคคลที่น่าจะเป็นรองหัวหน้ายุนหันหลังและเตรียมเดินไปทางตึกเงินจรัส

แต่ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ชื่อพนักงานจอง ยังคงไม่เคลื่อนไหว

ตรงกันข้าม เขาจ้องฮัมกึนยองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

‘คิดจะทำอะไร…?’

จู่ๆ พนักงานจองก็เดินเข้ามาหาฉันกับฮัมกึนยองแล้วเปิดโฮโลแกรม

ฮัมกึนยองขยับตัวมาบังฉันอย่างชำนาญ

‘อะไรของหมอนั่น…’

บุคคลที่น่าจะชื่อพนักงานจองเปิดปากพูด

“คุณศรสวรรค์ฮัมกึนยอง! ช่วยเซ็นชื่อให้หน่อยครับ! นอกจากนั้น ผมอยากถ่ายรูปคู่กับซูเปอร์โนว่าไร้นาม แล้วก็ขอรหัสอุปกรณ์ของทั้งคู่ด้วยครับ!”

หา?

ดูเหมือนฮัมกึนยองจะคิดแบบเดียวกับฉัน แววตาของเขาดูน่ากลัวกว่าปกติ

ทันใดนั้น รองหัวหน้ายุนรีบยูเทิร์นกลับมาคว้าคอเสื้อพนักงานจองไว้

“ไปกันได้แล้ว!”

“อ๊า! รองหัวหน้าทีม! ปล่อยสิครับ! ผมขอเวลาแค่ครู่เดียวเท่านั้น! คุณศรสวรรค์! ซูเปอร์โนว่าไร้นาม! ได้โปรด!”

รองหัวหน้ายุนล็อกคอพนักงานจองที่กระตือรือร้นเกินเหตุ จากนั้นก็ลากตัวไป

ค่อนข้างผิดคาด ดูเหมือนลูกน้องของฮงกยูบินจะเป็นพวกไม่เต็มเต็ง

“…พนักงานจองเป็นแฟนตัวยงของเพลเยอร์โรงเรียนแสงเงินน่ะ ไม่ต้องสนใจเขาก็ได้ ฮะฮะฮะ!”

เสียงหัวเราะอันไร้เยื่อใยของฮงกยูบิน ทำเอาบรรยากาศเริ่มเย็นวาบ

* * *

ณ ห้องรับรองภายใน ‘หอพยัคฆ์สง่า’ บนพื้นที่ส่วนกลาง

บางครั้งโรงเรียนก็นำการแสดงจากภายนอกมาจัดที่นี่ หอพยัคฆ์สง่าจึงมีห้องพักผ่อนของ VIP และห้องรับรองพร้อมสรรพ

‘ฉันมาทำอะไรที่นี่…’

ในห้องรับรองตอนนี้มีอยู่สามชีวิต – ฉัน ครูฮัมกึนยอง และฮงกยูบิน

ไม่มีเหตุผลให้ฉันต้องอยู่ที่นี่ แต่ทั้งฮัมกึนยองและฮงกยูบินต่างก็ไม่ได้ว่าอะไร

“นี่เป็นคดีที่พบได้บ่อย ในทุกปีจะมีพ่อแม่เศษสวะนับไม่ถ้วนที่ปฏิบัติกับลูกซึ่งเป็นเพลเยอร์เยี่ยงทาส… หลังจากเกิดความขัดแย้งกับต่างโลก พ่อแม่มีแนวโน้มที่จะให้กำเนิดลูกด้วยความรู้สึกเหมือนการลุ้นหวยมากขึ้น… แต่ถึงอย่างนั้นก็มีไม่มากที่เลวระยำขนาดขายให้ไฟต์คลับ”

หลังจากฮัมกึนยองอธิบายสถานการณ์ของเม็งเฮียวทงอย่างคร่าว ฮงกยูบินแสดงความเห็นด้วยสีหน้าเจือความเศร้า

“ผมจะตัดสายสัมพันธ์ระหว่างเม็งเฮียวทงกับบิดาของเขา และให้ทีมทนายจัดการเรื่องหนี้สิน… เพื่อป้องกันไม่ให้ชื่อของเด็กรั่วไหลออกไป คุณศรสวรรค์ต้องออกมารับหน้าสื่อแทน”

“ตกลง ผมจะให้สัมภาษณ์กับทีม PR ของมูลนิธิวังมยอง”

ฮัมกึนยองและฮงกยูบินเริ่มปรึกษาเกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้รับมือ

กล่าวคือ บทสรุปอนาคตของเม็งเฮียวทงจะขึ้นอยู่กับ:

คนตกงานที่มีหนี้ก้อนโตผู้ขายลูกชายกิน

VS

ทีมกฎหมายร่วมระหว่างสมาคมเพลเยอร์และมูลนิธิวังมยอง

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าฝ่ายไหนจะชนะ пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ

หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นในเกม มันคงถูกค่อนขอดว่ามีระดับความยากต่ำเกินไป และยิ่งตอกย้ำความเป็นเกมกากแห่งชาติ

คดีของเม็งเฮียวทงคงจบลงด้วยดีแล้ว

“ใจจริงผมก็อยากเจอกับเม็งเฮียวทงด้วยตัวเอง แต่วันนี้คงยากใช่ไหม?”

“ใช่ ถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเม็งเฮียวทง คุณหัวหน้าทีมติดต่อหาผมได้ทุกเมื่อ”

“ฮะฮะฮะ! รู้อยู่แล้วว่าคุณศรสวรรค์ต้องพูดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว”

ฮงกยูบินทิ้งท้ายขณะเตรียมลุก

“คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำลายตึกโลกีย์ของชเวย็อนทึก? ในอุปกรณ์ไม่ได้บันทึกไว้”

“ผมไม่รู้”

ฮัมกึนยองตอบอย่างไม่จริงใจนัก

ฮงกยูบินมองพลางยิ้ม

“นั่นสินะ พวกเพลเยอร์บางคนชอบปกปิดใบหน้าและทำตัวเป็นศาลเตี้ย… เหมือนกับจอมโจรผาแดงนั่น”

จอมโจรผาแดง

ทำไมต้องพูดชื่อที่น่าอับอายนั่นออกมา?

คดีนี้มีส่วนพัวพันกับมายาเกต เป็นธรรมดาที่จะเอ่ยถึงจอมโจรผาแดง

ขณะฮงกยูบินตั้งท่าเตรียมลุกขึ้นเป็นนัยว่าหมดคำถาม

ครืด!

ประตูห้องรับรองเปิดออก และใครบางคนเดินเข้ามา

คนที่เข้ามา… ไม่สิ ไม่ใช่คน แต่เป็นลูกหลานเผ่าแท้ คิมชินรก

‘เขาอ้างเหตุผลไหนในการเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้?’

แต่ถ้ามีคิมชินรกอยู่ด้วย สถานการณ์ก็คงราบรื่นขึ้นมาก

พิจารณาจากสีหน้าอีกสองคน คิมชินรกคงหาทางนำตัวเองเข้าไปพัวพันกับคดีได้

‘ดูยังไงก็เป็นแค่ครูปกติ’

คิมชินรกในตอนนี้ไม่หลงเหลือบรรยากาศอันน่าสะพรึงของลูกหลานเผ่าแท้เลือดเย็นที่ชอบเล่นเครื่องเขียน

เพียงสวมบุคลิกของครูใจดีที่พบได้ทั่วไป

“คุณคิมชินรกนี่เอง ไม่ได้เจอกันเสียนาน”

“สวัสดีหัวหน้าทีมฮง กำลังจะกลับแล้วหรือ”

“ครับ ไว้เจอกัน”

ดูเหมือนฮงกยูบินกับคิมชินรกจะรู้จักกันมาก่อน ทั้งสองทักทายพอเป็นพิธีแล้วก็จบ

ฮงกยูบินทิ้งท้ายก่อนจะลุกจากที่นั่ง

“ไว้เจอกันใหม่ พ่อซูเปอร์โนว่าไร้นาม”

ฮงกยูบินมองฉันด้วยรอยยิ้มแฝงเลศนัยก่อนจะเดินออกไป

เรื่องที่ฉันเป็นนักเรียนคนเดียวในห้องนี้ ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่ปกติ

‘…ถ้าจะให้หาเหตุผลมาเข้าข้าง ก็คงเพราะว่าเราคือรองหัวหน้าห้องศูนย์’

แต่ฉันไม่ได้มีแค่ฉันที่แปลก ฮงกยูบินก็เช่นกัน

‘ทำไมคนระดับหัวหน้าทีมต้องลงพื้นที่เอง? หรือว่าสมาคมเพลเยอร์มีปรัชญาในการทำงานไม่เหมือนใคร?’

อาจดูเป็นแค่ประเด็นเล็กๆ แต่มันสะกิดใจฉันมากกว่าปกติ

แตกต่างจากจูเก่อแจกอลและฮัมกึนยอง ฮงกยูบินไม่ได้เรียกคิมชินรกว่า ‘ครู’

ในตอนที่ฮงกยูบินเรียกคนทั้งสอง ถ้าไม่ใช้คำว่า ‘ครู’ นำหน้าชื่อจริง ก็จะเรียกด้วยฉายาเพลเยอร์เสมอ

สำหรับฉันที่ไม่ซีเรียสเรื่องความเป็นกันเอง ประเด็นนี้ไม่ได้ดูเป็นปัญหามากนัก

“หัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียนครับ ข้อมูลที่คุณต้องการถูกส่งเข้าอุปกรณ์ไปแล้ว รวมถึงผลการตรวจร่างกายของเม็งเฮียวทงด้วย แต่ยังเหลือบางเรื่องที่ต้องทดสอบ… เราเดินไปคุยไปดีกว่าไหม?”

“ตกลง ไปกันเถอะโชอึยชิน”

เท่าที่ฟังมาตลอดทาง ดูเหมือนคิมชินรกสร้างเรื่องขึ้นมาว่า เมื่อคืนตน ‘บังเอิญ’ เจอกับเม็งเฮียวทงและฮัมกึนยองที่โรงพยาบาล จึงรับฟังความเป็นไปและตัดสินใจร่วมมือกัน

‘คงแอบตามฮัมกึนยองไป และพยายามหาจังหวะเข้าไปแทรกให้ดูเป็นความบังเอิญ’

อีกไม่นานเม็งเฮียวทงคงได้อยู่หอพัก

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คิมชินรก ครูที่ปรึกษาสมาคมปีกธรณีจะเข้ามาพัวพันกับคดี ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องดี

“เม็งเฮียวทงออกจากห้องตรวจแล้ว ดูเหมือนว่าเพิ่งตรวจ CT สแกนกับ MRI เสร็จ”

คิมชินรกที่เดินนำหน้าสุด เปิดประตูห้องพยาบาลพลางอธิบาย

ฉันกับฮัมกึนยองเดินตามเข้าไป

‘ที่นี่คือห้องพยาบาล?’

สมแล้วที่เป็นห้องพยาบาลในเขตส่วนกลางของโรงเรียนมัธยมปลายเพลเยอร์ที่ดีที่สุดในเกาหลี ซึ่งสร้างและดำเนินการโดยมูลนิธิที่มั่งคั่งที่สุด

เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ จนดูไม่ต่างจากการนำเงินมาละลายเล่น

ในแง่อุปกรณ์การรักษา ที่นี่ไม่ด้อยไปกว่าโรงพยาบาลของมูลนิธิวังมยองที่จางนัมอุกกับอูซังฮุนเข้ารักษาเลย

‘ถึงได้ให้เม็งเฮียวทงตรวจที่นี่แทนโรงพยาบาลใหญ่…’

เม็งเฮียวทงนั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องพยาบาลที่ระยิบระยับ

เสื้อผ้าของเขาหลวมมาก คงเพราะยืมฮัมกึนยองมาใส่

“เม็งเฮียวทง”

เม็งเฮียวทงที่นั่งข้างโต๊ะตรวจ ค่อยๆ หันหน้ามามอง

เขาอ้าปากค้างทันทีที่เห็นฉัน

“น…นาย! ปลอดภัยดีใช่ไหม? รองหัวหน้าห้องโชอึยชิน!”

เนื่องจากฉันเคยเผยหน้าจริงบนบัตรนักเรียน เขาจึงจดจำได้ทันที

ฟุ่บ!

ยังวิ่งได้เร็วขนาดนี้ทั้งที่สวมรองเท้าแตะ?

เม็งเฮียวทงกระโจนจากโต๊ะตรวจมาถึงฉันในพริบตา

เห็นเขายังแข็งแรงแบบนี้ ดูท่าเมื่อคืนคงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก

“นึกว่าจะต้องตายแล้ว… ไอ้รองหัวหน้าเวร!”

“ไม่บาดเจ็บก็ดีแล้ว กินอะไรหรือยัง?”

“ฉันต้องอดอาหารเพราะยังตรวจไม่เสร็จ”

“น่าสงสาร ฉันกินอิ่มแล้วล่ะ”

“ไอ้เวร!”

เม็งเฮียวทงไม่รับมุกฉัน แต่ใบหน้าเจือทั้งรอยยิ้มและน้ำตา

ก็ยังดีที่ยิ้มได้ครึ่งหนึ่ง

ฉันไม่อยากเห็นภาพที่เขาเอาแต่ก้มหัวร่ำไห้อย่างไร้ทางออก

ประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งถูกพูดออกไปทันที

“นี่… เก็บเป็นความลับไว้นะ เรื่องที่ฉันช่วยชีวิตนาย”

“ทำไมล่ะ”

เพราะมันน่าอายถ้าทุกคนรู้ว่าฉันคือจอมโจรผาแดง

“เอาน่า ทำเป็นไม่รู้ก็พอ ฉันทำลายที่นั่นจนราบคาบ ไม่อยากพัวพันกับเรื่องน่าปวดหัวน่ะ”

“…ตกลง”

เม็งเฮียวทงทำหน้าไม่เข้าใจ แต่ก็ยังผงกศีรษะรับ

ฉันที่โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง พูดคุยกับเม็งเฮียวทงอย่างเป็นกันเอง

หลับเต็มอิ่มไหม? เย็นนี้อยากกินอะไร? จะเข้าหอในอย่างเป็นทางการตอนไหน?

เรื่องจิปาถะ

ฮัมกึนยองและคิมชินรกมองดูเราสนทนากันด้วยสีหน้ามีความสุข

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันเสียวสันหลังวาบ

เป็นความรู้สึกเหมือนกับครั้งแรกที่ฉันได้ยินคำว่า ‘จอมโจรผาแดง’

มือเท้ามันหงิกเกร็งไปหมด

“เหมือนกันเลยนะ… เรื่องที่พยายามปกปิดความดีของตัวเอง”

ฮัมกึนยองพูดอะไร?

เหตุผลอันดับหนึ่งที่ซูเปอร์โนว่าไร้นามต้องซ่อนพลัง ก็เพราะอับอายฉายาจอมโจรผาแดงต่างหาก

“ใช่ อึยชินเป็นนักเรียนที่ดี”

ชั่วขณะหนึ่ง คิมชินรกพูดด้วยสีหน้าที่ไม่เหมือนกับมนุษย์

ฉันอ่านไม่ออกเลยว่าลูกหลานเผ่าแท้คนนี้กำลังคิดอะไร

‘ถ้าเรายิ่งกระโตกกระตาก ความจริงเกี่ยวกับจอมโจรผาแดงอาจยิ่งถูกขุดคุ้ย’

ฉันตัดสินใจปิดปากเงียบ

ตกเย็นวันเดียวกัน ฉัน เม็งเฮียวทง ฮัมกึนยอง และคิมชินรกตัดสินใจกินข้าวที่โรงอาหารของหอใน

คงออกไปกินข้างนอกไม่ได้ เพราะทีมกฎหมายและทีม PR ของมูลนิธิวังมยองได้ออกคำสั่งกักบริเวณกับเม็งเฮียวทง

‘อยากจะให้ลองอาหารอร่อยๆ สักครั้งจัง’

โชคยังดีเม็งเฮียวทงดูจะพอใจกับอาหารของหอใน

“นี่… รองหัวหน้าห้อง… ปกติแล้วอาหารของหอพักอร่อยขนาดนี้เชียว?”

เม็งเฮียวทงที่ลุกไปเติมข้าว เดินกลับมาพร้อมกับอาหารพูนชาม พลางถามด้วยน้ำเสียงตื้นตันใจ

เขากินมื้อเย็นด้วยใบหน้าเอร็ดอร่อย

ฉันต้องคอยปรามให้เขาค่อยๆ เคี้ยว เพราะไม่อยากนั้นกระเพาะอาหารอาจมีปัญหา

‘แค่ดูเขากินก็อิ่มแล้ว’

ไม่แน่ใจว่าเม็งเฮียวทงกินไปแล้วกี่ชาม เพราะอาหารของหอในเป็นแบบบุฟเฟต์ แต่เท่าที่ดูคงไม่ต่ำกว่าห้า

ขอบคุณที่เขาเจริญอาหาร ฉันพลอยกินอร่อยตามไปด้วย

มื้อนี้เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินในหอพัก

และในวันอาทิตย์

เหตุการณ์ใหญ่ได้ถูกรายงานลงในกระแสข่าว

MasterGU.edited = กรรมทางสนอง->กรรมตามสนอง, สมาคมผู้เล่น->สมาคมเพลเยอร์, ปกป้องผู้เล่น->คุ้มครองเพลเยอร์, กับพ่อ->กับบิดาของเขา, รู้->รู้”, จูกัดแจกอล->จูเก่อแจกอล

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset