📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 193

บทที่ 193
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เพลเยอร์มักบาดเจ็บเป็นเรื่องปกติ

ไม่ใช่เกินจริงไปนักหากจะกล่าวว่า เพลเยอร์คือสัดส่วนใหญ่ในกำไรของโรงพยาบาลทั่วโลก

ไอเท็มฟื้นฟูจะรักษาได้แค่บาดแผลภายนอก หากบาดเจ็บรุนแรงต้องปรึกษาเพลเยอร์แพทย์ก่อนใช้ไอเท็มทุกครั้ง

เป็นที่ทราบกันดีว่า หากจำนวนเพลเยอร์ที่เข้าร่วมรอยแยกมีมากกว่าสิบ ทีมต้องเตรียมแพทย์ให้พร้อมในกรณีฉุกเฉิน และโรงเรียนเพลเยอร์ทุกแห่งต้องมีห้องพยาบาลสำหรับเพลเยอร์โดยเฉพาะ

เนื่องจากทุกวันจะมีนักเรียนบาดเจ็บจากการฝึก

‘ในสถานการณ์ปกติ อาการบาดเจ็บของเพลเยอร์จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ จางนัมอุกทราบข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี… ต้องไม่ลืมว่าโดซีฮูเคยถูกเพื่อนๆ รุมกระทืบบนภูเขาการีในฮงชอน และยังเป็นจางนัมอุกเสียเองที่ห้ามไม่ให้ครูฮัมกึนยองใช้ไอเท็มฟื้นฟู’

แล้วเขาก็ไม่ใช่พวกที่นำอาการบาดเจ็บของเพื่อนมานินทาให้ใครฟัง

ดังนั้นต้องไม่ใช่ ‘แค่’ การบาดเจ็บแน่

ขณะครุ่นคิด คำพูดอ๊กโทยอนลอยเข้ามาในหัว

—ระหว่างนี้มีคนรอบตัวบาดเจ็บบ้างไหม? เคยแวะไปที่ห้องเผาศพไหม หรือถ้าไม่เคย มีคนรอบตัวบาดเจ็บหรือเสียชีวิตบ้างไหม

—แปลกจัง… แล้วทำไมข้าถึงเห็นลางมรณะล่ะ

เธอพูดถึงลางมรณะ ซึ่งหมายถึงลางของความตาย

อ๊กโทยอนไม่ได้ทักเรื่องนี้ในวันเด็ก แต่พอเจอกันอีกครั้งในช่วงต้นเดินกรกฎาคมกลับบอกว่าเห็นลางมรณะ

ภายในเกม โดซีฮูถูกลอบสังหาร

ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งใจไม่ดี แต่ยังคงเยือกเย็นได้อยู่

‘ต่อให้โดซีฮูบาดเจ็บ ก็คงไม่ใช่อาการบาดเจ็บร้ายแรง’

ไม่ว่าจะบาดเจ็บพิสดารแค่ไหน ถ้าไปถึงมือหมอก็คงหายห่วง

เพราะด้วยธรรมชาติของจางนัมอุก เขาไม่มีทางโทรหาฉันในขณะที่โดซีฮูใกล้ตาย

“โดซีฮูบาดเจ็บยังไงบ้าง มากน้อยแค่ไหน”

[กระดูกไหล่แตก ใช้ไอเท็มฟื้นฟูสมานแผลไปแล้ว เขากำลังหลับอยู่]

ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง

จางนัมอุกช่างจ้อแทบไม่พูดอะไรที่เปล่าประโยชน์

“ตอนนี้นายอยู่ไหน”

[ช่วงนี้โรงเรียนเตรียมทหารให้นักเรียนฝึกซ้อมกันเอง ตอนแรกฉันฝึกกับเพื่อนร่วมชั้นอยู่ แต่ตอนนี้กลับมาที่หอพัก]

ฉันมองนาฬิกาและพบว่าเลยสามทุ่มมาเล็กน้อย

ถึงจะไม่แม่นกฎของโรงเรียนเตรียมทหาร แต่ฉันจำได้ว่าถ้าเป็นช่วงฝึกซ้อมด้วยตัวเอง* นักเรียนนายร้อยสามารถยื่นเอกสารขอค้างคืนข้างนอกได้

(ช่วงฝึกซ้อมด้วยตัวเอง – คล้ายการกับปิดเทอมของโรงเรียนสามัญ)

“ออกมาเจอกันได้ไหม”

[…เจอกัน? ฉันจะออกไปในอีกหนึ่งชั่วโมง]

ตอนแรกนึกว่าอย่างเร็วก็คงพรุ่งนี้ ดูเหมือนจางนัมอุกจะร้อนใจมาก

[ระหว่างที่ซีฮูอยู่ห้องพยาบาล ฉันจัดการตามที่นายบอกแล้ว จะเอาของพวกนั้นไปให้ด้วย]

‘ตามที่นายบอก’ คงหมายถึงการสลับของใช้ส่วนตัวของโดซีฮูนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

เข้าใจว่าทำไมจางนัมอุกถึงดูรีบร้อนและไม่คุยเวิ่นเว้อ

“มาที่เขตอึนกวางได้ไหม”

[ได้… ให้ไปหาที่ไหนล่ะ]

“ฉันจะไปรอที่ประตูหน้าของโรงเรียนแสงเงิน อีกสิบนาทีจะโทรไปใหม่”

[ตกลง ขอบคุณนะ ไว้เจอกัน]

จางนัมอุกกล่าวขอบคุณฉันที่ยังไม่ทันทำอะไรให้ จากนั้นก็วางสาย

มีบางสิ่งที่ฉันต้องสะสางให้เสร็จก่อนโทรกลับไป

เปิดสมุดรายชื่อในดีไวซ์ แล้วเรียกข้อมูลของบุคคลหนึ่งขึ้นมา

‘ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้ส่วนตัวขนาดนั้น เพราะประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับเส้นเรื่องหลักโดยตรง’

เมื่อตัดสินใจได้แล้วกดโทร หน้าจอโฮโลแกรมเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘กำลังโทร’

[โชอึยชิน… โทรมาในเวลาแบบนี้ คงเป็นเรื่องสำคัญสินะ]

วังจีโฮรับสายเร็วมาก

ปกติแล้วคนเราจะรับสายหลังจากเสียงสัญญาณดังสองสามครั้งไม่ใช่หรือไง

การรับสายเร็วเกินไปของอีกฝ่ายทำเอาฉันชะงัก

[โชอึยชิน เกิดอะไรขึ้น]

“อา… สวัสดี”

[ไหนลองว่ามา]

ตาแก่นั่นดูท่าจะว่างอยู่ ฉันไหว้วานเข้าประเด็นทันที

“พอมีเรื่องอยากขอร้อง ช่วยอนุญาตให้นักเรียนนายร้อยผ่านบาเรียเข้ามาสักคนสิ”

[นักเรียนนายร้อย?]

“แค่วันนี้วันเดียว ฉันรับรองความปลอดภัยได้”

[หืม… จางนัมอุกจากทีมสอบ 13 ใช่ไหม]

ก็พอจะรู้มาว่าหมอนี่คอยสืบประวัติเรา แต่ก็ไม่คิดว่าจะบอกได้ในทันที

ไม่สิ การรู้จักจางนัมอุกไม่ใช่เรื่องแปลกขนาดนั้น อีกฝ่ายเคยสอบติดโรงเรียนแสงเงินแล้ว

[ถ้าเป็นนักเรียนนายร้อยที่นายกล้ารับประกัน ฉันนึกออกแค่คนเดียว… แล้วคิดจะทำอะไรในเวลาแบบนี้]

“อยากทำบางอย่างในบาเรีย”

[ไม่ได้มีธุระกับโรงเรียน แต่จะใช้ประโยชน์จากบาเรียของโรงเรียนสินะ]

“ใช่ ฉันไม่ได้คิดจะพาเข้าอาคารสำคัญ ขอแค่สิทธิ์ผ่านเข้าห้องฝึกว่างๆ สักห้อง”

[งั้นก็ไม่ต้องเข้ามาในโรงเรียน]

ไม่ต้องเข้ามาในโรงเรียน?

ตอนนี้ดึกมากแล้ว ห้องฝึกเอกชนด้านนอกปิดทำการเกือบทุกแห่ง

และคงไม่มีที่ไหนบาเรียแข็งแกร่งเท่ากับโรงเรียนแสงเงิน

ขณะฉันเตรียมโน้มน้าว

[ฉันจะให้ยืมสวนในคฤหาสน์ พานักเรียนนายร้อยไปที่นั่น]

คำตอบที่เหนือความคาดหมายทำเอาฉันพูดไม่ออก

* * *

ในช่วงฝึกด้วยตัวเอง มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดกับโดซีฮูจนเขาได้รับบาดเจ็บ

อาศัยสกิลวิสัยทัศน์ที่พัฒนาขึ้นมากในระยะหลัง จางนัมอุกผู้คอยเป็นห่วงโดซีฮู คือคนเดียวที่สังเกตเห็นความผิดปกติ

ทั้งเพื่อนนักเรียนนายร้อย ครูฝึกที่คอยกำกับ หรือแม้กระทั่งตัวผู้ประสบเหตุอย่างโดซีฮู ก็ยังมองว่าเป็นแค่ ‘อุบัติเหตุทั่วไป’

ตามปกติแล้ว จางนัมอุกมักจะเล่าทุกสิ่งที่เห็นอย่างเถรตรง แล้วปรึกษาหาทางออกร่วมกับเพื่อนทุกคน

อย่างไรก็ตาม ขณะยืนมองโดซีฮูถูกพาตัวไปที่ห้องพยาบาล เขานึกถึงคำพูดโชอึยชิน

—แอบเปลี่ยนข้าวของเครื่องใช้ที่โดซีฮูเริ่มใช้มาตั้งแต่เดือนพฤกษาคม… ซื้อสิ่งที่คล้ายกันมาสลับแล้วนำของเก่ามาให้ฉัน อย่าให้โดซีฮูรู้ตัวเด็ดขาด

—นายต้องทำคนเดียว ห้ามไม่ให้เพื่อนหรือครูฝึกรู้เรื่องนี้

โชอึยชิน—เพื่อนและผู้มีพระคุณช่วยชีวิตจางนัมอุก ไม่มีทางล้อเล่นในเรื่องคอขาดบาดตาย

จางนัมอุกเชื่อใจโชอึยชิน และมั่นใจว่ามีเหตุผลสำคัญที่ต้องปกปิดเรื่องนี้จากโดซีฮู

นับตั้งแต่ไปเที่ยวสนามเบสบอล จางนัมอุกแอบเปลี่ยนของใช้ของโดซีฮูเป็นระยะ โดยการซื้อสิ่งที่เหมือนกันมาสลับทุกครั้งที่สบโอกาส

แต่การทำแบบนั้นโดยไม่ให้โดซีฮูเอะใจ จำเป็นต้องใช้เวลานาน

จนกระทั่งสายเกินไป

‘เราควรจะป้องกันมันได้แท้ๆ … ซีฮูต้องบาดเจ็บเพราะเรามัวแต่งุ่มง่าม! ต้องเร่งมือแล้ว!’

โชคดีที่เขาสะสางทุกสิ่งเสร็จทันก่อนสี่ทุ่ม ซึ่งถือเป็นเส้นตายการผ่านเข้าออกโรงเรียน

ขณะจางนัมอุกผู้ยื่นเอกสารขอค้างคืนข้างนอก ลากสัมภาระผ่านหอพักชายจนกระทั่งออกจากเขตหอพักรวมโนเวลกูดอทคoม

“หัวหน้ากองร้อย จะออกไปไหนในเวลาแบบนี้หรือ”

ใบหน้าจางนัมอุกแข็งกระด้างทันที

หน้าทางเข้าเขตหอพักรวม ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรในเวลานี้ แต่ทางนั้นกำลังฉีกยิ้มขณะถือพลั่วโลหะ

เพื่อนร่วมชั้นคนดังกล่าวถาม หลังจากวางพลั่วลงบนแปลงดอกไม้ใกล้กับทางเข้า

“ซีฮูเป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้ไปดูอาการเพราะขี้เกียจไปโรงพยาบาล”

“อาการไม่หนักถึงขนาดต้องส่งโรงพยาบาล”

“งั้นหรือ… แต่สีหน้าของหัวหน้ากองร้อยดูแย่มากเลยนี่ นึกว่าต้องส่งโรงพยาบาลเสียอีก”

นัมกุงกิวยอน—เพื่อนร่วมรุ่นและเพื่อนสมัยเด็กของโดซีฮู หัวเราะคิกคัก

นัมกุงกิวยอนเป็นสมาชิกของสถาบันวิจัยในเครือกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ก่อนจะเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเสียอีก

เธอคือเด็กประหลาดคนที่ขับทิลต์โรเตอร์ไปถึงภูเขาการีโดยไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตก่อน

ปัจจุบันสัดส่วนนักเรียนชายหญิงของโรงเรียนเตรียมทหารคือเก้าต่อหนึ่ง

นัมกุงกิวยอนคือหนึ่งใน 10% ของนักเรียนหญิง เป็นอัจฉริยะที่สามารถใช้งานอุปกรณ์หนักได้เหมือนของเล่น ซึ่งแม้แต่ทหารชำนาญศึกยังทำได้ไม่ง่าย

‘กิวยอนเป็นคนดี… แต่เราไม่รู้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่’

ขณะจางนัมอุกกำลังไตร่ตรองว่าควรพูดอย่างไร เพื่อสลัดให้หลุดจากเด็กประหลาดแห่งปีหนึ่ง

“ไปสิ”

“หือ…”

“หัวหน้ากองร้อยรีบอยู่ไม่หรือ ไปสิ”

“อ…อื้อ… ถ้ามีอะไรก็ติดต่อมาได้นะ”

“จ้า”

ถึงจะสงสัยว่านัมกุงกิวยอนออกมาขุดอะไรดึกๆ ดื่นๆ แต่จางนัมอุกตัดสินใจสลัดความฉงนแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังเขตอึนกวาง

หลังจากดึงพลั่วออกมา เธอยืนมองจางนัมอุกค่อยๆ ลากสัมภาระจนลับสายตาไป

* * *

มองจากภายนอก มีสองสิ่งที่สะดุดตาที่สุดในคฤหาสน์วังมยองโฮ

รั้วสีทองและสวนวงกต

ภายในรั้วสีทองที่ล้อมกรอบอาณาเขตอันกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยบ้านหลังเล็กหลังน้อยที่ไม่ทราบจุดประสงค์ และใจกลางสวนวงกตคือสถานที่ตั้งของอาคารหลัก ซึ่งมีเผ่าเสือและลูกหลานเสือเงินอาศัยอยู่

ตอนนี้ฉันกับจางนัมอุกกำลังเดินไปตามสนามหญ้าที่อยู่ระหว่างรั้วสีทองกับสวนวงกต

“สุดยอด… ไอ้ที่เคลือบรั้วอยู่คือพลังเวทสินะ! ไม่อยากเชื่อว่าจะแปลงคลื่นพลังวิเศษให้กลายเป็นพลังงานที่เข้มข้นได้ขนาดนี้!”

เมื่อเดินผ่านรั้วทองคำเข้ามา แม้แต่จางนัมอุกที่ทำหน้าเครียดตลอดทาง ยังอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความประทับใจ

“ยินดีต้อนรับ”

ทางเข้าสวนวงกตเต็มไปด้วยดอกลิลลี่ หรืออีกชื่อหนึ่งคือดอกพยัคฆ์ ซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงเดือนเจ็ดกับแปด

วังจีโฮในเครื่องแบบฤดูร้อนของโรงเรียนแสงเงิน ยืนหันหลังให้ดอกพยัคฆ์ด้านหน้าทางเข้าสวนวงกต

ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงยังสวมชุดนักเรียนทั้งที่ปิดเทอมแล้ว

“นี่คือเพื่อนร่วมชั้นของฉัน วังจีโฮ… ส่วนทางนี้คือจางนัมอุก นักเรียนนายร้อยที่ฉันบอกว่าจะพามา”

เมื่อเห็นว่าฉันแนะนำตัวแบบไม่เป็นทางการ จางนัมอุกที่คิดว่า ‘ถ้าเรียนชั้นเดียวกันก็คงอายุเท่ากัน’ ตัดสินใจกล่าวทักทายอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเอง

“ส…สวัสดี”

“แน่นอน อย่างฉันคนนี้จะเป็นอะไรไปได้”

(อธิบาย – ในภาษาเกาหลี ‘อันนยอง’ นอกจากจะแปลว่า ‘สวัสดี’ ยังแปลว่า ‘สบายดีไหม’ ได้ด้วย)

จางนัมอุกเผยสีหน้าซับซ้อนเมื่อได้ยินคำตอบของวังจีโฮ ก่อนจะพยักหน้ารับคล้ายกับเพิ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง

“อ้อ… อึยชินอยู่ห้องศูนย์สินะ”

ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจอะไร

ช่างมันก่อน ในเมื่อทั้งสองฝ่ายทักทายกันเสร็จแล้ว ฉันพูดเข้าประเด็นทันที

“เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ฟังหน่อย”

จางนัมอุกวางสัมภาระลงแล้วเกริ่นขณะถอดแว่น

“สกิลของฉันมักถูกเรียกว่า ‘เนตรสีขาว’”

“ตาทิพย์รุ่นลดระดับสินะ… ที่เลเวลต่ำ มันอาจมีความแม่นยำสูงกว่าตาทิพย์ แต่พอตาทิพย์เลเวลเพิ่มขึ้น ความแม่นยำที่เป็นจุดอ่อนก็จะหายไป… กล่าวกันว่าถ้าใครมีเนตรสีขาว ให้รีบค้นหาเงื่อนไขที่จะเปลี่ยนเป็นตาทิพย์โดยเร็ว”

ก็พอจะรู้ว่ามีสกิลสายวิสัยทัศน์ แต่เป็นเนตรสีขาวเลยหรือ

ตามที่วังจีโฮพูด สกิลเนตรสีขาวมีระยะค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับตาทิพย์ของชอนดงฮาหรือจูซูย็อก

อย่างไรก็ตาม จางนัมอุกเน้นย้ำคำว่า ‘มักถูกเรียกว่า’

หรือในอีกความหมายหนึ่ง มันยังมีความลับอื่นซ่อนอยู่

“ใช่… ตอนแรกฉันมี ‘เนตรสีขาว’ เหมือนกับที่คนอื่นเข้าใจ และเกือบจะได้สกิลตาทิพย์ตอนใกล้จบม.ต้น แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นเสียก่อน”

จางนัมอุกที่เก็บแว่นใส่กระเป๋าเสื้อ เปิดใช้งานพลังเนตร

วาบ!

ดวงตาจางนัมอุกเต็มไปด้วยคลื่นพลังวิเศษ

คำนึงจากกระแสพลังงานรอบดวงตา มันดูแตกต่างจากตาทิพย์หรือเนตรสีขาวเล็กน้อย

“นี่ไม่ใช่ทั้งเนตรสีขาวและตาทิพย์… เนตรทะลวง? เนตรทำนาย? ไม่สิ นี่มัน…”

“มันเป็นสกิลแขนงของสกิลเนตรสีขาว… ดวงตาของดาวหญิงพรหมจรรย์”

วังจีโฮประหลาดใจกับคำตอบของจางนัมอุก

ถ้าเอ่ยถึง ‘ดาวหญิงพรหมจรรย์’ เขานึกออกแค่คนเดียว

หลังจากเห็นความเสื่อมถอยของมนุษย์ เทพธิดาผู้โหยหาความเที่ยงธรรมพระองค์หนึ่งตัดสินใจเสด็จสู่สรวงสวรรค์

กล่าวกันว่า ตาชั่งที่พระองค์ถือได้กลายเป็นกลุ่มดาวตาชั่ง (ราศีตุลย์) และตัวพระองค์ได้กลายเป็นกลุ่มดาวหญิงพรหมจรรย์ (ราศีกันย์)

แอสเทรีย—ดาวหญิงพรหมจรรย์

เทพธิดาแห่งความเที่ยงธรรม—นางแบบของรูปปั้นที่วางอยู่หน้าศาลตัดสินคดีทั่วโลก

“นายมีดวงตาของแอสเทรีย?”

“เพิ่งเคยเห็นของจริงแฮะ”

บางครั้งพรคุ้มครองที่แข็งแกร่งก็นำไปสู่วิวัฒนาการที่กลายเป็นสกิลแขนง

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือสกิลแขนงของจูเก่อแจกอล ‘วาจาสิทธิ์’ ที่พัฒนาจากสกิลสาย ‘วาจา’ ซึ่งถูกยกระดับขึ้นอย่างมากด้วยพรคุ้มครองของเทพโธธ

“ท่านแอสเทรียคงชื่นชอบแสงประทานที่เพิ่งตื่นของฉัน หลังจากรับพรคุ้มครองของพระองค์ สกิลได้พัฒนาเป็นสกิลแขนง”

ดวงตาจางนัมอุกยังคงเคลือบด้วยแสงดาวพร่างพราว

เทวรูปของแอสเทรียมักหลับตาหรือไม่ก็สวมผ้าคาดตา แต่ประติมากรบางคนก็แกะสลักพระองค์ในโฉมลืมตา

ดวงตาของแอสเทรีย เทพธิดาแห่งความเที่ยงธรรม สามารถทะลวงทุกสิ่งได้อย่างเที่ยงธรรมและไม่แบ่งแยก

“แม้สกิลของฉันจะยังมีเลเวลต่ำและใช้ทำอะไรไม่ได้นอกจากมอง แต่ฉันเห็นเต็มสองตาในตอนที่ซีฮูได้รับบาดเจ็บ…”

จางนัมอุกที่หยุดใช้สกิล ‘ดวงตาของดาวหญิงพรหมจรรย์’ สวมแว่นกลับไปใหม่แล้วพูด

“รอบตัวซีฮูเต็มไปด้วยจิตมุ่งร้ายที่คอยก่อกวนคลื่นพลังวิเศษ รูปร่างดูคล้ายกับเมล็ดพันธุ์… หรืออาจเรียกได้ว่าเมล็ดพันธุ์คำสาป”

เมล็ดพันธุ์คำสาป

ไอเท็มที่ฉันเคยเห็นในเกม

แม้จะไม่เคยเห็นเมล็ดพันธุ์ของจริงในโลกนี้ แต่ฉันเคยเห็นผลลัพธ์

มันคือเมล็ดพันธุ์คำสาปเดียวกับที่ฝังไว้ในตัวนักเรียนชมรมวารสาร เพื่อล่อลวงจูเก่อแจกอลไปสาปให้ตาย

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset