📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 176

บทที่ 176
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

‘โองการราชัน’ —แสงประทานของซาวอลเซอึม

มีไว้สำหรับถ่ายทอดเสียงของกษัตริย์

เป็นความสามารถที่ทั้งทรงพลังและอันตราย

แน่นอน ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีการขนส่งและสื่อสารพัฒนาไปไกล มีอุปกรณ์หลายชนิดสามารถส่งข่าวเป็นวงกว้างโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ส่งสาร

อย่างไรก็ดี ความแตกต่างใหญ่ที่สุดระหว่างวิธีส่งข่าวตามปกติกับ ‘โองการราชัน’ คือการถ่ายทอด ‘คำสั่ง’

แสงประทานของซาวอลเซอึมจะส่ง ‘คำสั่ง’ ทางอ้อมออกไปในหลากหลายรูปแบบ โดยไม่บิดเบือนใจความสำคัญของสาร จนกว่าผู้รับสารจะทำตามคำสั่งเสร็จสิ้น

คำสั่งที่ฉันมอบให้ก็คือ ‘จงมุ่งหน้าไปยังหลุมหลบภัยกลาง’

ชาวเมืองจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ ‘โองการราชัน’ จนกระทั่งไปถึงหลุมหลบภัยกลาง

‘ถ้ามีนักเรียนแปลกหน้ามาบอกให้อพยพ เป็นใครก็คงลังเล… และแทนที่จะส่งเสียงเข้าหัวโดยตรง วิธีโน้มน้าวผ่านการชี้นำทางอ้อมดูจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า’

ชาวเมืองบางคนที่ออกมาชมดาว บังเอิญหันไปเห็นฝนดาวตกทางทิศเหนือ

ชาวเมืองบางคนที่กำลังหลับใหล บังเอิญฝันร้ายจนต้องตื่นขึ้นมากะทันหัน

ชาวเมืองบางคนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ตนลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ใกล้กับหลุมหลบภัยกลาง

ในบ้านของชาวเมืองบางคน รูปถ่ายของผู้ล่วงลับเกิดคว่ำตก หรือไม่ก็กระจกในบ้านแตก

‘โองการราชัน’ จะสร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ที่คอยชักนำผู้คนไปยังหลุมหลบภัยกลาง

วิ้ว~

ขณะเคลื่อนพลังวิเศษอันอบอุ่นแผ่ขยายออกจากตัวซาวอลเซอึม บ้านแต่ละหลังทยอยเปิดไฟสว่าง

เมื่อเรียกดู ‘แผนที่ละแวกใกล้เคียง’ ผ่านเมนูพิเศษ ฉันเห็นพลเมืองจำนวนมากกำลังอพยพ

‘ชาวบ้านเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!’

ฉันปวดหัวตุบๆ ขณะรำพันด้วยความยินดี

การใช้พลังตรวจสอบสถานการณ์ ‘ทั่วเกาะ’ เพื่อติดตามความคืบหน้าของแผนการ จำเป็นต้องใช้สมาธิสูงมาก แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะฉันอยากถนอมระยะเวลาในการใช้ ‘เส้นทางเพลเยอร์’ ให้เหลือนานที่สุด

อันที่จริง ฉันสามารถใช้พลังอย่าง ‘เนตรโอบกอดฟ้าดิน’ ของชอนดงฮา หรือสกิล ‘ตาทิพย์’ ของจูซูย็อกในการตรวจสอบ

แต่นั่นจะสิ้นเปลืองระยะเวลาของแสงประทานโดยใช่เหตุ

ฉันอยากถนอมแสงประทานล้ำค่าไว้คอยคุ้มครองซาวอลเซอึม

ต้องไม่ลืมว่าขณะอีกฝ่ายส่งสาร เขาจะอยู่ในสภาพไร้การป้องกันตัวและขยับไม่ได้

‘การอพยพเป็นไปอย่างราบรื่น… ระหว่างนั้นต้องคอยปกป้องซาวอลเซอึมเอาไว้… หือ?’

ขณะลองตรวจสอบตำแหน่งของเพื่อนร่วมชั้น ครู และศัตรูทั้งหมด แผ่นหลังของฉันเย็บวาบขึ้นมากะทันหัน

มีบางจุดไม่เคลื่อนไหวไปตามแผน

โดยทั่วไปแล้ว กลยุทธ์ของฉันสามารถคลาดเคลื่อนได้นิดหน่อย

แต่ก็มีบางจุดที่ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยภารกิจนั้นจะฝากไว้กับคนที่ไว้ใจได้

ทำไมคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดอย่างเขาถึง…

‘วังจีโฮลงมือช้าไป…!’

วังจีโฮไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ควรอยู่

ถ้าปล่อยเอาไว้ อาจเกิดความเสียหายใหญ่หลวงตามมา

แต่ฉันก็ปลีกตัวไปจากตรงนี้ไม่ได้เช่นกัน

* * *

นำโดยคิมยูรี เม็งเฮียวทงกับควอนเลนากำลังวิ่งลงใต้

คิมยูรีที่มีสกิล ‘สปรินเตอร์’ กับเม็งเฮียวทงที่เกิดมาพร้อมร่างกายฟ้าประทาน กำลังวิ่งด้วยสีหน้าผ่อนคลาย แต่ควอนเลนาต้องสับเต็มฝีเท้าเพื่อให้ไล่ตามทั้งสองทัน

‘สองคนนี้วิ่งเร็วมาก!’

ควอนเลนายังคงก้มหน้าวิ่งตั้งใจวิ่ง เพราะเธอรู้ดีว่าไม่ควรทำตัวเหลาะแหละในสถานการณ์วิกฤติ

เหนือสิ่งอื่นใด สองคนนี้วิ่งด้วยความเร็วที่คำนึงถึงเธอแล้ว

‘ยูรีจะเป็นอะไรไหมนะ’

วันนี้คิมยูรีคงเหนื่อย จึงเข้านอนเร็วกว่าเมื่อวาน

ก่อนที่เม็งเฮียวทงจะมาถึง ควอนเลนายืนวิดีโอคอลกับมินกือรินที่ระเบียงเพื่อไม่ให้รบกวนคิมยูรี

ขณะสัญญาณขาดไปกะทันหันจนเธอสงสัยว่าดีไวซ์เสีย ควอนเลนาที่คอยมองผ่านหน้าต่างเห็นคิมยูรีดีดตัวขึ้นจากเตียง และจากนั้นไม่นานเม็งเฮียวทงก็มาถึง

“หยุด”

คิมยูรีหยุดแล้วมองไปทางถนน

เมื่อเม็งเฮียวทงกับควอนเลนาหันไปมองตามคิมยูรี ทั้งสองเห็นชาวเมืองกำลังขับรถ, แอร์บอร์ด และปั่นจักรยานกันเต็มถนน

“ปกติชาวบ้านแถวนี้ไปไหนมาไหนดึกๆ ดื่นๆ กันด้วยหรือ”

“ดูจากทิศทางแล้ว คงกำลังอพยพไปที่หลุมหลบภัยกลางเกาะซอกโม”

“จริงสิ นายบอกว่าอึยชินกับเซอึมคอยอพยพชาวบ้านอยู่สินะ… พวกเขาทำได้ดีมากเลย!”

หลังจากยืนยันว่าการอพยพชาวบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งสามวิ่งตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ตามแนวภูเขาแฮมยอง

จนในที่สุดก็มาถึงจุดที่มองเห็นชายฝั่ง

วาบ!

คลื่นพลังวิเศษแผ่ออกจากตัวควอนเลนากับคิมยูรีแล้วหายไป

สองสาวรีบหันไปมองทิศทางหนึ่งทันที

หลังจากสกิล ‘ตรวจจับเอนามี’ ของควอนเลนาและสกิล ‘ตรวจจับอันตราย’ ของคิมยูรีทำงานขึ้นพร้อมกัน พวกเธอมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าชัดเจน

“พระเจ้าช่วย…”

“…!”

กระทั่งเม็งเฮียวทงก็สัมผัสได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสกิล

อีกฟากหนึ่งของทะเลยามค่ำคืนอันเงียบสงัด เอนามีฝูงใหญ่กำลังถาโถมเข้าใส่ชายฝั่งราวกับคลื่นยักษ์

แนวชายฝั่งกว้างประมาณหนึ่งกิโลเมตร เริ่มจากท่าเรือแมอึมรีไปจนถึงชายหายมินมอรูและท่าเรือประมง กำลังจะถูกฝูงเอนามีบุกถล่มในอีกไม่ช้า

จากการกะเกณฑ์ด้วยสายตา จำนวนคงแตะหลักพันได้ไม่ยาก

“ทำยังไงดี… พวกมันทั้งหมดมีระดับสูงกว่า SR…!”

ควอนเลนาที่ได้เห็นข้อมูล กล่าวด้วยน้ำเสียงหวั่นวิตก

ทั้งสามเป็นสายต่อสู้ระยะประชิด และไม่มีใครครอบครองสกิลโจมตีหลายเป้า

เม็งเฮียวทงสวมเครื่องป้องกันด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ทางควอนเลนาก็ชักอาวุธตาม

พวกเขาประเมินแล้วว่า คงสายเกินไปที่จะหนี

ใบหน้าคิมยูรีที่มองคนทั้งสอง เปลี่ยนเป็นซีดเซียวอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวตื่นตระหนกหลังจากตระหนักได้ว่า เพื่อนร่วมชั้นต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะความโง่เขลาเธอ

‘เป็นเพราะเรา เลนากับเฮียวทงถึงได้…!’

หากตัดสินใจหนีขึ้นเหนืออย่างใจเย็นตามวิวรณ์ของเบื้องบน ทุกคนอาจยังมีชีวิตรอดจนกระทั่งกำลังเสริมมาถึง

เธอควรเชื่อใจอึยชินกับเซอึมที่คอยทำภารกิจอพยพชาวเมือง และออกตามหาครูฮัมกึนยองให้เจอมากกว่า!

ขณะคิมยูรีตำหนิตัวเองอย่างหนัก

“ยูรี หยิบอาวุธออกมา! ฝูงเอนามีจะขึ้นฝั่งในอีกสามนาที! …นี่! เธอยังไหวไหม!”

“…เธอไม่สบายหรือ”

ทั้งสองไม่กล่าวโทษคิมยูรีแม้แต่น้อย อีกทั้งยังถามด้วยความเป็นห่วง

ทันใดนั้น

เสียงหนึ่งดังกังวานในหัวคิมยูรี

[…ยังเหลือความกล้าหาญอยู่ไหม]

เมื่อคิมยูรีเงยหน้า เธอเห็นผีเสื้อตัวเล็กที่ฉาบคลื่นพลังวิเศษกำลังบินวนรอบศีรษะ

ชวนให้นึกถึงเผ่าผีเสื้อที่มอบพรคุ้มครองให้ตน

เผ่าแท้ทิ้งข้อความให้คิมยูรีไว้ว่า: หากวันใดคิมยูรีสูญเสียความกล้าหาญทั้งหมดไป ถึงตอนนั้นเธอจะช่วยเอง

‘การมาที่นี่ถือเป็นความกล้าหาญหรือเปล่านะ… หรือเป็นแค่ความอวดดี?’

ต่อให้เป็นความกล้าหาญ มันคือความกล้าหาญที่ห่วยแตกที่สุด จนทำให้เพื่อนสนิทต้องตกอยู่ในอันตราย

ขณะคิมยูรีลังเลว่าควรตอบเผ่าแท้ไปอย่างไร

“ถ้าพวกเราคอยรับมืออยู่ที่นี่ เพื่อนๆ กับครูจะตามมาช่วยสินะ…”

“น่าจะเป็นแบบนั้น… ดูจากการที่รองหัวหน้าห้องวางแผนอพยพชาวบ้านแถวนี้ล่วงหน้า เขาน่าจะรู้อะไรบางอย่างมา”

แตกต่างจากคิมยูรีที่ลังเล เพื่อนทั้งสองเชื่อมั่นและเตรียมใจต่อสู้ในศึกที่มองไม่เห็นหนทางชนะ

คิมยูรีหยิบไอเท็มการ์ดออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นไลท์เซเบอร์

หากไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย เธอเชื่อว่าตนคงไม่หลงเหลือความกล้ามากเท่านี้

คิมยูรีตัดสินใจยังไม่ยืมพลังจากเผ่าแท้

ขณะหญิงสาวเตรียมต่อสู้ด้วยอาวุธในมือ เสียงของผีเสื้อดังแว่วอีกครา

[น่าเสียดายจัง แผนการดันไม่เป็นไปตามที่วางไว้… นึกว่าจะได้ใช้งานสักสองครั้งเสียอีก]

แผนการไม่เป็นไปตามที่วางไว้?

นึกว่าจะได้ใช้งานสักสองครั้ง?

เผ่าแท้กำลังพูดเรื่องอะไร?

ขณะคิมยูรีตงิดใจ

เผ่าแท้ผู้สวมผ้าคลุมตาข่ายลายปีกผีเสื้อ ปรากฏตัวในความคิดของเธอด้วยร่างที่คล้ายภาพลวงตาโนเวลกูดอทคอม

มันคือ ‘จิต’ ของนาบียรองที่เชื่อมกับคิมยูรีผ่านพรคุ้มครอง

ในมือนาบีรยองกำลังถือกรอบรูป

ในกรอบรูปมีผีเสื้อสีขาว กำลังถูกหมุดตรึงไว้บนฉากหลังที่เป็นดอกแมกโนเลีย

[ลาก่อน คุณหนูแมกโนเลีย]

หลังจากกล่าวคำอำลา

ผีเสื้อสีขาวในกรอบรูป พลันสลายกลายเป็นละออง

ซ่าาา!

เมื่อเงาของนาบีรยองหายไปจากความคิดของคิมยูรี

พรคุ้มครองก็สลายไปด้วยเช่นกัน

และ

แรงดันพลังวิเศษปริมาณมหาศาล ปะทะเข้ากับร่างกายคิมยูรีอย่างหนักหน่วง

บึ้มมมม!

“อ๊ากกกก!”

เธอรู้สึกราวกับทุกเซลล์ในร่างกายระเบิดเป็นจุณ เส้นเลือดทั้งหมดถูกตัดขาด

คลื่นพลังวิเศษซึ่งไม่มีที่ไป พยายามทำลายร่างคิมยูรีเพื่อหาทางออก

คิมยูรีไม่เคยสัมผัสแรงดันพลังวิเศษระดับนี้มาก่อน แม้ร่างกายจะทำพันธสัญญากับเบื้องบนถึงสองหลัก

เธอไม่เคยรู้ตัวเลยว่า ที่ผ่านมาตัวเองทนรับแรงดันพลังวิเศษได้ด้วยตราผนึกของสมาคม และพรคุ้มครองของนาบีรยอง

ตอนนี้จึงต้องลิ้มรสความเป็นจริงอันโหดร้าย

ทันใดนั้น หญิงสาวหวนนึกถึงคำพูดวังจีโฮในวันที่ตราผนึกแสงประทานลบเลือน

—หากเอาแต่ปฏิเสธเบื้องบน ร่างกายของเธอจะเสียหายเพราะแรงดันพลังวิเศษ

‘เราน่าจะเชื่อฟังเขา!’

เป็นเพราะคิมยูรีไม่สนใจ แสงประทานจึงใกล้ปะทุในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด

เธอพยายามข่มพลังเอาไว้ขณะส่งเสียงกรีดร้อง

“หือ… เกิดอะไรขึ้น? หัวหน้าห้อง! เฮ้ย!”

“ยูรี!”

ขณะเสียงของเพื่อนเบาลงทุกที แรงดันพลังวิเศษยิ่งทวีความเกรี้ยวกราด

ระหว่างนั้น เอนามียังคงคืบคลานเข้าใกล้ชายฝั่งมาทางพวกเขา

* * *

ซงแดซอกกำลังตื่นตระหนก

เมื่อสักครู่ คลื่นพลังวิเศษพุ่งเข้ามาจากหน้าต่าง จนกระจกทุกบานแตกละเอียด

ไม่ว่าจะมองยังไง เหตุการณ์นี้ก็ไม่มีทางเกิดจากการปะทุของคลื่นพลังวิเศษตามธรรมชาติแน่ๆ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เอนามีที่ปล่อยพิษเล่นงานนักเรียนหญิง จะต้องซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ เพื่อเตรียมโจมตีทางกายภาพ

ซงแดซอกที่เชื่อแบบนั้น รีบตะโกนอย่างร้อนรน

“เฮ้ย! ตื่นได้แล้ว! ลุกขึ้น!”

เลือดไหลซึมจากเสื้อเชิ้ตของซงแดซอก เนื่องจากเขาใช้ร่างกายบังกระจกเอาไว้

แขนสองข้างยังคงปลอดภัยด้วยอำนาจ ‘สกิลเสริมแกร่งเฉพาะจุด’ แต่ลำพังเสื้อเชิ้ตที่ขายตามท้องตลาด คงทนรับแรงปะทะจากเศษกระจกคมๆ ไม่ไหว

‘…ต้องเลือกแล้ว’

ซงแดซอกยังเหลือเรี่ยวแรง

อย่างน้อยก็สอง อย่างมากคือสามคน

นั่นคือจำนวนเด็กผู้หญิงที่เขาแบกหนีไปพร้อมกันได้

เด็กหนุ่มต้องเลือกสามผู้โชคดีจากนักเรียนหญิงกว่ายี่สิบชีวิต

‘ใครจะไปเลือกได้วะ!’

หนึ่งในงานหลักของเพลเยอร์คือการช่วยเหลือคนธรรมดา

แต่พลังของเพลเยอร์นั้นมีจำกัด และไม่ใช่ทุกกรณีที่จะช่วยได้ทุกชีวิต

ในชั้นเรียน ‘จริยธรรมของเพลเยอร์’ ตำราเรียนคอยกำชับอยู่เสมอว่า หากวันใดต้องตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว นั่นจะเป็นเรื่องที่บีบหัวใจอย่างมาก

ซงแดซอกเชื่อว่าเขาจะตัดสินใจได้อย่างเยือกเย็นในสถานการณ์จริง แต่พอมันเกิดขึ้น การรักษาความสุขุมแล้วทำตามตำราช่างยากเย็นแสนเข็ญ

‘คนที่บาดเจ็บน้อยที่สุด… คนที่มีโอกาสรอดมากที่สุดถ้าปฐมพยาบาลทัน… และคนที่ช่วยได้ง่ายที่สุดในกรณีที่เงื่อนไขข้อแรกๆ ตรงกันหลายคน… หรือก็คือ… ต้องเลือกช่วยคนที่ร่างกายเล็กที่สุดก่อน’

เขาพยายามไตร่ตรองสิ่งที่เรียนจากในคาบ ด้วยมือไม้ที่สั่นเป็นเจ้าเข้าอย่างมิอาจหักห้าม

โครม!

ทันใดนั้น ประตูหอพักเปิดออกด้วยฝีมือใครบางคน

“คุณครู!”

โนยองมี—ครูประจำชั้นห้อง 1/2

ซงแดซอกยินดีปรีดาเมื่อได้เห็นใครสักคนมาช่วย

แต่ความสุขจบลงอย่างรวดเร็ว

“…นักเรียนซงแดซอกจากห้องศูนย์?”

โนยองมีเองก็บาดเจ็บหนัก

คำนึงจากการที่มีเลือดไหลตรงมุมปาก อวัยวะภายในคงจะเสียหาย

คลื่นพลังวิเศษที่แผ่ออกจากดาบ ดูอ่อนแอยิ่งกว่านักเรียนหญิงที่ร่อแร่ที่สุดในห้องเสียอีก

‘ครูติดพิษ? นอกจากนั้น… ข้างหลัง…!’

เกี้ยยยยย!!

กรรร…!

ด้านหลังโนยองมี มีเอนามีตามมาอีกเป็นพรวน

โนยองมีรีบปิดประตู แต่ประตูที่ใกล้พังเต็มทีคงทนได้ไม่นาน

ด้วยสายตาสิ้นหวัง เธอยืนมองกลุ่มนักเรียนหญิงที่นอนหมดแรงบนพื้น พลางหลับตาลงด้วยเปลือกตาที่สั่นระริก

จากนั้นก็พูดกับซงแดซอก

“ครูจะช่วยถ่วงเวลาไว้ให้… หนีออกไปทางกระจกเร็วเข้า!”

ได้ยินโนยองมีพูดแบบนั้น ซงแดซอกได้สติ

ในหนังที่ดูพร้อมกับเพื่อนๆ ห้อง 1/0 คำพูดก่อนตายของเพื่อนพระเอก ช่างคล้ายคลึงกับสิ่งที่ครูพูดเหลือเกิน

ซงแดซอกกล่าวพลางสวมอุปกรณ์ป้องกัน

“ผมก็จะสู้เหมือนกัน!”

“…นักเรียนซงแดซอก!”

โนยองมีจ้องหน้าซงแดซอกที่ตัดสินใจอย่างบ้าบิ่น

เด็กหนุ่มยืนอยู่หน้าประตูพลางกำหมัดแน่น

เธอยังคงรบเร้า

“ตอนนี้ยังทันนะ… หนีเร็ว…!”

“ผมจะไม่ไปไหน!”

ปึง! ปึงปึง!

เกี้ยยยย!

ในระหว่างนั้น เอนามีที่หวังตะครุบเหยื่อพยายามพังประตูเข้ามา

โชคดีที่มันไม่ฉลาดพอจะอ้อมไปเข้าทางหน้าต่าง แต่เอนามีเหล่านี้มีพลังกำลังเพียงพอที่จะชดเชยความโง่

ประตูและผนังใกล้ถึงขีดจำกัดเต็มที จนสามารถมองเห็นร่างกายเอนามีด้านนอก

“ผมจะป้องกันด้านหน้าให้… พอมันพังประตูเข้ามา… ครูกับผม…?”

พรืด…

โนยองมีทรุดลงไปนั่งในท่าหลังพิงกำแพง ราวกับร่างกายเธอถึงขีดจำกัดแล้ว

“ครู! ตื่นสิครับ!”

ซงแดซอกรีบวิ่งเข้าไปหาโนยองมีแล้วเขย่า แต่เธอไม่ตอบสนอง

ถึงจะยังมีลมหายใจรวยริน แต่ใบหน้าโนยองมีซีดเผือดราวกับขาดเลือด ผิวหนังเย็นเฉียบ

‘…เธอกำลังจะตาย’

ซงแดซอกประเมินอย่างเย็นชา

เขาเองก็กำลังถูกพิษกัดกิน

ประสิทธิภาพการต่อสู้เหลือไม่ถึงครึ่ง และไม่มีข้อมูลของฝั่งเอนามีเลย

ตอนแรกคิดว่าถ้าได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่ครูของโรงเรียนแสงเงิน อาจยื้อเวลาไว้จนกระทั่งกำลังเสริมมาถึงได้ แต่กลับกลายเป็นว่าโนยองมีหมดสภาพที่จะต่อสู้

ถ้าหนีไปตั้งแต่แรก เขากับนักเรียนอีกสามคนคงมีทางรอด

พอคิดว่าผลลัพธ์กลายเป็นแบบนี้เพราะความโลเลและโง่เขลาของตน ซงแดซอกเจ็บใจจนอยากตะโกนออกมาดังๆ

‘กือรินต้องตำหนิตัวเองแน่…’

เมื่อความตายอยู่ตรงหน้า สิ่งแรกในความคิดเด็กหนุ่มคือมินกือริน

มินกือรินบังคับให้ซงแดซอกเข้าค่ายยุวชน จะสนิทกับเพื่อนคนอื่นในห้อง

ถ้าซงแดซอกตายไป เธอคงต้องโทษตัวเองอย่างหนัก

‘ค่ายยุวชนเป็นอะไรที่สนุกจริงๆ … เรารู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำเธอที่บังคับให้มา’

ซงแดซอกเปิดดีไวซ์แล้วเปิดโหมดบันทึกเสียง

เขาอยากฝากบางสิ่งถึงมินกือรินก่อนที่ประตูอันเปราะบางนั่นจะแหลกละเอียด

“กือริน…”

แต่หลังจากเรียกชื่อ เด็กหนุ่มคิดคำพูดอื่นไม่ออก

ลงเอยด้วย สิ่งที่ถูกบันทึกไว้มีแค่นั้น

ขณะซงแดซอกกดปุ่มหยุด

เขาสัมผัสถึงคลื่นพลังวิเศษอันทรงพลัง ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่อีกฟากหนึ่งของประตู

วาบ!

แสงสีขาวโพลนสว่างวาบจากรอยแตกบนผนัง

‘เกิดอะไรขึ้น…!’

กลิ่นอายของเอนามีหายไปอย่างสิ้นเชิง

พวกมันไม่อยู่ด้านหลังรอยแตกอีกต่อไป

โดยไม่ต้องใช้สกิลตรวจจับ ซงแดซอกดูออกว่าพวกเอนามีถูกทำให้หมดสภาพในพริบตา

ก๊อก ก๊อก…

เสียงเคาะประตูดังแผ่วเบา

ผ่านรอยแตกบนผนัง เขาเห็นบุคคลที่รูปร่างคล้ายตนยืนอยู่ด้านนอก

ระหว่างที่ซงแดซอกลังเลว่าควรเปิดประตูดีไหม อีกฝ่ายพังเข้ามาเองตามอำเภอใจ

โครม!

เบื้องหน้าซงแดซอกที่ยกอาวุธขึ้นตามสัญชาตญาณ

คือคนที่เขารู้จักดี

“ปลอดภัยดีใช่ไหม… ฉันมาสายนิดหน่อยเพราะติดธุระที่ผู้มีพระคุณไหว้วานมา”

วังจีโฮ นักเรียนสุดเพี้ยนหนึ่งแห่งห้อง 1/0

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset