📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 16

บทที่ 16 - ปีหนึ่งห้องศูนย์ (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ในช่วงเริ่มเกม มี ‘ตัวประกอบ’ คนหนึ่งมาหาเรื่องจูซูย็อก ก่อนจะถูกพระเอกของเกมจัดการไปแบบเท่ๆ

เป็นตัวประกอบประเภทที่หายากในโรงเรียนมัธยมอันทรงเกียรติ

เขาเคยเป็นเด็กเรียนตอนม.ต้น แต่พอขึ้นม.ปลายกลับแสร้งทำตัวนักเลง แสร้งทำเป็นแข็งแกร่ง

แต่เนื่องจากไม่ได้ก่อคดีมากนัก จึงไม่ได้เป็นจุดสนใจของเพื่อนร่วมรุ่น

เขาเกิดมาพร้อมกับหลอดลมที่ไม่ดี แต่ก็ฝืนสูบบุหรี่จนสำลัก และไม่เคยสูบหมดมวนเลยสักครั้ง

เขาหาเรื่องชกต่อยข้างถนนไปวันๆ จนกระทั่งจูซูย็อกมาช่วยไว้

ตัวประกอบรายนี้ที่แทบจะหายหน้าไปจากเกม มีชีวิตที่น่าสมเพช

แต่เมื่อเรียนจบปีหนึ่ง เขาได้รับอิทธิพลจากจูซูย็อก ผู้เชื่อมั่นในตัวเขา

หลังจากทบทวนตัวเองและปรับปรุงนิสัย เขาสนิทกับจูซูย็อกมากขึ้น จนยกระดับความสัมพันธ์จากตัวประกอบมาเป็นเพื่อนพระเอก

ทว่า เผ่าอสูรตนหนึ่งที่เพ่งเล็งจูซูย็อกมานาน ได้เปลี่ยนให้ตัวประกอบคนนั้นกลายเป็นเอนามี

เผ่าอสูรแทรกซึมเข้าไปในจิตใจที่บอบบางของตัวประกอบได้ง่ายดาย และสามารถกระตุ้นความริษยาในส่วนลึกของจิตใจ

ลงเอยด้วย หนึ่งในเบื้องบน—เทพอสูรแห่งเจ็ดบาป—อินวิเดียสแห่งริษยา—เข้าสิงร่างตัวประกอบคนนั้น

ตัวประกอบที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นเอนามี กลายเป็นเผ่าอสูรไปครึ่งร่าง

การต่อสู้อันดุเดือดกับเผ่าอสูร ทำให้ครูในที่เกิดเหตุถูกกวาดล้างไปทั้งหมด และนักเรียนเสียชีวิตอีกนับสิบ

จูซูย็อกเป็นเพียงคนเดียวที่ขยับตัวได้

หากเขาไม่ฆ่าตัวประกอบ เพื่อนนักเรียนที่บาดเจ็บและยังมีชีวิตทั้งหมดจะต้องตาย

จูซูย็อกฆ่าตัวประกอบไม่ลง เพราะอีกฝ่ายคือเพื่อน

พระเอกของเรื่องลังเลอย่างเห็นได้ชัด ขณะกำลังลดดาบลง ตัวประกอบดิ้นรนด้วยพลังใจเฮือกสุดท้ายและดึงสติกลับมาได้ชั่วขณะ

[ไอ้โง่จูซูย็อก! ถ้านายไม่ฆ่าฉัน ฉันจะฆ่านายเอง! ดังนั้นได้โปรด…]

นั่นคือเจตจำนงอันแรงกล้าของตัวประกอบ

ในท้ายที่สุด เพื่อตัวประกอบที่อุตส่าห์รวบรวมความกล้าจากก้นบึ้งหัวใจ จูซูย็อกเหวี่ยงดาบคู่ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดประหนึ่งเฉือนเนื้อตัวเอง

นับแต่นั้น สภาพจิตใจและปณิธานของจูซูย็อกผู้ลงดาบปลิดชีพเพื่อน ได้พังทลายไม่เป็นท่า

สมาคมเพลเยอร์และคนในครอบครัวพยายามปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถ

แต่โชคไม่เข้าข้าง อุปกรณ์บันทึกภาพไม่ได้บันทึกเสียงลงไปด้วย เนื่องจากขัดข้องเพราะการแทรกแซงจากเผ่าอสูร

ในสายตาสังคม จูซูย็อกกลายเป็นคนไร้ใจที่ฆ่าเพื่อนของตนอย่างเลือดเย็น

โชคยังดี ปากคำของพยานในเหตุการณ์ช่วยให้เขารอดจากบทลงโทษ แต่ทางมูลนิธิวังมยองยังคงมองว่าจูซูย็อกมีปัจจัยเสี่ยง

เมื่อขึ้นปีสอง จูซูย็อกถูกย้ายไปห้องศูนย์

วังมยองโฮ ประธานคณะกรรมการ ส่งร่างแบ่งภาคเข้าไปเรียนในห้องศูนย์เพื่อคอยจับตามองจูซูย็อก

ร่างแบ่งภาคที่อยู่ห้องศูนย์มีชื่อว่าวังจีโฮ

“อึยชิน นายรู้ได้ยังไง?”

“นักเรียนอึยชิน เธอรู้ได้ยังไง?”

ฉันมาถึงห้องทำงานของประธานใหญ่ที่ตึกเงินจรัส ด้วยแอร์ชัตเทิลที่จอดรอหน้าประตูอาคารเรียนชั้นปีหนึ่ง

ทันทีที่มาถึง ‘พวกเขา’ ยิงคำถามพร้อมกัน ด้วยสายตาที่พยายามจับผิดฉัน

〈เรียกดูข้อมูลส่วนบุคคลของ ‘วังจีโฮ’ 〉

[ชื่อ] วังจีโฮ

[สมญานาม] ปีหนึ่งโรงเรียนแสงเงิน, เทพนิยายในเผ่าเสือ, เสือเหลืองแห่งเทพนิยายสร้างชาติ, ผู้พิทักษ์แดนศักดิ์สิทธิ์

[พรคุ้มครอง] ‘เทพสวรรค์เต็มใจที่จะทำให้คำขอเป็นจริง’

[แสงประทาน] (ปิดใช้งาน)

[สถานะ] ปกติ

[ค่าสถานะโดยรวม] Lv.??

[สกิล]

กระโจน Lv.??

เนตรส่อง Lv.??

คำราม Lv.??

(โหลดล้มเหลวบางส่วน)

[คำอธิบาย]

เสือเหลืองแห่งเทพนิยายสร้างชาติ

ได้รับพลัง ‘อยู่ในทุกที่’ จากเทพสวรรค์

ตราบใดที่พรคุ้มครองของเทพสวรรค์ไปถึง เขาจะอยู่ได้ทุกที่ตามใจปรารถนา

เขาอาสาปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จองจำเสือขาวเอาไว้ และเทพสวรรค์ก็อนุญาต

(โหลดล้มเหลวบางส่วน)

นอกจากชื่อและสมญานาม หน้าต่างค่าสถานะที่เหลือของวังจีโฮ เหมือนกับประธานใหญ่ทุกประการ

ในเทพนิยายสร้างชาติ (แกชอน) พรที่เสือเหลืองขอกับเทพสวรรค์คือ ‘ดำรงอยู่ในทุกที่’

เทพสวรรค์ประทานพรนั้นให้ เสือเหลืองจึงดำรงอยู่ในทุกที่ได้จริงๆ

กล่าวคือ เขาสามารถสร้างร่างแบ่งภาค

และเผ่าแท้สามารถดัดแปลงอายุกายภายนอกได้ตามใจ เสือเหลืองจึงสามารถสร้างร่างแบ่งภาคได้หลายช่วงอายุที่ต่างกัน

“…พูดแค่คนเดียวได้ไหม”

ค่อนข้างน่าปวดหัวที่ต้องทนฟังเสือเหลืองในวัยหกสิบและวัยรุ่นพูดพร้อมกัน

เผ่าแท้ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับมนุษย์ สามารถมีทะเบียนราษฎร์ได้หลายใบด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาล

นอกจากนั้น เสือเหลืองยังเว้นที่ว่างไว้ในทุกห้องเรียน เพื่อให้ตัวเองสามารถเข้าเรียนได้ทุกเมื่อ

เสือเหลืองวัยรุ่น วังจีโฮเป็นฝ่ายตอบ

“ฉันพูดก็แล้วกัน คงสะดวกใจที่จะคุยมากกว่าใช่ไหม”

“ไม่สะดวกใจทั้งคู่”

“ฮะฮะ! ฉันชอบนายในมุมนี้มากกว่านะ ดีกว่าแสร้งทำตัวสุภาพเหมือนคราวก่อน… ว่าแต่จะบอกได้หรือยัง ทำไมถึงดูออก?”

น้ำเสียงแฝงการข่มขู่โดยไม่ปิดบัง

แต่ดูจากท่าทีของวังจีโฮที่กำลังเดินเข้าใกล้ เขาคงยังไม่ฆ่าฉันตอนนี้

นั่นช่วยได้มากเลย

วังมยองโฮ

วังจีโฮ

เสือเหลือง (วังโฮ)

ดูจากนิสัยการตั้งชื่อ เขาคงไม่ใช่พวกที่ชอบใช้สมองสักเท่าไร

ข้ออ้างผุดขึ้นในหัวฉันทันที

“จะให้เฉลยแน่นะ? เดี๋ยวนายก็หมดสนุกหรอก”

นี่คือประโยคที่ดีที่สุด หากต้องการปิดบังความลับจากเสือเหลือง

และไม่ผิดจากที่คิด วังจีโฮกะพริบตาพลางพยักหน้า

“ก็ได้ ฉันจะหาคำตอบเอง”

เสือเหลืองเป็นคนง่ายๆ กว่าที่ฉันคิด

“แต่เวลาคุยกับร่างนี้ อย่าใช้คำสุภาพ… ถ้าฉันถูกสงสัยเพราะนายล่ะก็… ถึงจะไม่อยากฆ่า แต่มันคงไม่มีวิธีอื่น”

เสือเหลืองเป็นคนง่ายๆ แต่ขณะเดียวกันก็น่ากลัว

“เข้าใจแล้ว”

ฉันเลิกพูดสุภาพ

วังจีโฮอมยิ้มราวกับเมื่อครู่เป็นแค่การล้อเล่น แต่ฉันรู้ดีว่าเขาคิดจริง

‘แบบนี้อาจจะดีกว่า’

ถ้าติดต่อกับเสือเหลืองได้ง่าย แผนการในอนาคตของฉันก็ยิ่งราบรื่น

การต้องแวะเวียนมาที่ตึกเงินจรัสบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

หากเด็กปีหนึ่งเข้าพบประธานใหญ่ถี่เกินไป คนนอกอาจรู้สึกไม่ชอบมาพากล

“พอดีเลย ฉันมีเรื่องอยากจะรบกวน”

“จะทำข้อตกลงกันอีก?”

ข้อตกลง?

ก็ไม่ผิดเสียทีเดียว ฉันพยักหน้ารับ

“ใช่… ทั้งคดี ‘สัตว์อสูรจู่โจมสนามสอบ’ และ ‘การลักพาตัวซาวอลเซอึม’ ล้วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับเผ่าหมี ขณะเดียวกันก็เกี่ยวข้องกับครูบางคนในโรงเรียนด้วย”

ฉันเคยหวังให้คนร้ายถูกกวาดล้างไปพร้อมกับมายาเกต แต่อีกฝ่ายดวงแข็งเหลือเกิน รายชื่อของครูคนนั้นยังอยู่ในแผนการสอนของโรงเรียน

แม้แต่ในมายาลิสต์ก็ยังไม่มีชื่อของเขา

หากพูดถึงเกม ความสามารถเกี่ยวกับดวงนั้นน่ากลัวมาก ฉันเดาว่านั่นคงมีส่วนไม่มากก็น้อย

“แล้วไง?”

ประธานแบะท่าไม่แยแส

เสือเหลืองทำราวกับเขาไม่สนใจความวุ่นวายภายในโรงเรียน

‘ถ้าเป็นแบบนั้น… แล้วเขาจะนั่งตำแหน่งประธานทำไม?’

สมญานามของเขาคือ ‘ผู้พิทักษ์แดนศักดิ์สิทธิ์’

แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าหมายถึงย่านอึนกวาง, กรุงโซล

มันคือแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกกล่าวถึงในเทพนิยายสร้างชาติ เป็นสถานที่ที่เทพสวรรค์ลงมาจากฟากฟ้าเพื่อประทานพรให้กับเหล่าเสือศักดิ์สิทธิ์

‘เป็นผู้พิทักษ์ไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมถึงไม่ยอมทำหน้าที่’

ทำไมถึงพูดว่า ‘แล้วไง’ ในยามที่เผ่าหมีสร้างความวุ่นวายในโรงเรียน?

ถ้าจะทำตัวแบบนี้ ฉันชักสงสัยขึ้นมาแล้วว่า เสือเหลืองอาสาเป็นผู้พิทักษ์แดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยเหตุผลอะไรกันแน่

เสือเหลืองดูพึ่งพาไม่ได้เลย โดยเฉพาะหน้าที่ประธานคณะกรรมการ

เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันต้องพูดธุระของตัวเอง

“ฉันอยากได้รายการบัญชีและทรัพย์สินอย่างละเอียด ของครูทุกคนที่สัมภาษณ์คัดกรองนักเรียนสอบเข้า”

“ไม่มีปัญหา… แล้วฉันจะได้อะไรจากนาย”

ฉันส่ายหน้า

“คนที่ฉันจะทำข้อตกลงด้วยไม่ใช่นาย”

“หืม…”

“ฉันจะทำข้อตกลงกับเสือแดง… หากยอมส่งรายการบัญชีและทรัพย์สินมาให้ ฉันจะบอกชื่อของครูคนนั้นให้เสือแดงทราบ”

วังจีโฮยังไม่ตอบทันที

ดวงตาขี้เล่นของเสือเหลืองในวัยรุ่นผู้มีหน้าตาหล่อเหลา มองต่ำเป็นเวลานาน

วังจีโฮอาจมีอายุพอๆ กับฉัน และสวมเครื่องแบบนักเรียนเหมือนกัน แต่สีหน้าแววตาในตอนนี้ทำให้คาดเดาอายุได้ยาก

“นายรู้จัก ‘พวกเรา’ เป็นอย่างดีเลยสินะ”

แน่ล่ะ ก็ฉันมองผ่านหน้าจอมาเป็นสิบปีแล้ว

จึงมีข้อมูลในมือเต็มไปหมด

‘ถึงจะไม่เข้าใจความคิดเลยก็เถอะ’

วังจีโฮที่ไตร่ตรองเป็นเวลานาน ทำตาเป็นประกายอีกครั้งราวกับเมื่อครู่เป็นเรื่องโกหก

คงกำลังคาดหวังเรื่องน่าสนุกอยู่สินะ

เขาต้องนำไปบอกกับเสือแดงแน่

“ตกลง ฉันจะบอกเสือแดงให้ แต่ตอนนี้เสือแดงอยู่นอกระยะคลื่นวิทยุด้วยเหตุผลส่วนตัว คงต้องใช้เวลาสักพัก”

นั่นปะไร

การรับปากว่าจะไปบอกกับเสือแดง สื่อเป็นนัยว่ายอมรับข้อเสนอ โล่งอกไปที

ดูเหมือนว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในห้องเรียน กลับกลายเป็นผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ

* * *

ออกจากห้องทำงานของเสือเหลือง ขณะเดินทางกลับหอพัก

ฉันตัดสินใจใช้เวลาว่างเพื่อเดินกินลมชมวิว

ในเขตโรงเรียนแสงเงินจะมีภูเขาลาดเอียงลูกหนึ่ง อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 156 เมตร

ชื่อของมันคือ ‘ภูเขาปีกสวรรค์’

ได้ชื่อนี้เพราะถ้ามองลงมาจากบนฟ้า เทือกเขาที่ทอดยาวจะดูคล้ายปีกที่ผงาดขึ้นฟ้า

เขตหอพักอยู่ติดกับเขาปีกสวรรค์ ส่งผลให้มีสัตว์ป่าป้วนเปี้ยนอยู่แถวทางเข้าหอ

บาเรียป้องกันของโรงเรียนแสงเงิน ไม่สามารถป้องกันสัตว์ป่าได้ หน้าที่ของมันมีเพียงการกีดกันมนุษย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน เอนามี และเผ่าแท้มิให้บุกรุกเข้ามาในเขตโรงเรียน

‘จำได้ว่าในโหมดเควสต์อิสระ จะมีอีเวนต์กวาดล้างหมูป่าที่บุกรุกหอพัก’

หมูป่าไม่ใช่เอนามีจากต่างโลก เควสต์อิสระนี้จึงแทบไม่มีใครทำเพราะได้รางวัลห่วยแตก

‘ลองหาดูดีไหม?’

ฉันวิ่งไปตามรอยต่อของภูเขาปีกสวรรค์กับเขตหอพัก พลางกวาดสายตาไปรอบๆ

สิ่งที่กำลังมองหาคือสุนัขของอันดาอิน ‘เจ้าก้อนสำลี’

“ก้อนสำลีอยู่แถวนี้ไหม~”

ในเนื้อเรื่องช่วงต้นของเพลเมโก

อันดาอินเก็บลูกสุนัขขากะเผลกตัวหนึ่งมาเลี้ยง

เธอตั้งชื่อให้ลูกสุนัขที่น่ารักและนุ่มฟูว่า ‘เจ้าก้อนสำลี’ และเลี้ยงมันใกล้กับภูเขาปีกสวรรค์ตามข้อกำหนดของฝ่ายบริหารหอพัก

‘เธอต้องเลี้ยงมันใกล้เขตภูเขาอย่างไม่มีทางเลือก เพราะหอพักไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไป’

แต่ในช่วงสอบกลางภาคของปีหนึ่งเทอมหนึ่ง пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ

เจ้าก้อนสำลีตายเพราะกินขนมปังผสมยาฆ่าแมลง เป็นฝีมือของคนที่ริษยาอันดาอิน

ขณะนำเจ้าก้อนสำลีไปฝัง อันดาอินร้องไห้สะอึกสะอื้น

จูซูย็อกที่เห็นภาพนั้น ตัดสินใจสืบคดีด้วยตัวเองจนกระทั่งจับคนร้ายได้

‘อีเวนต์การสืบคดีถูกนำมาทำเป็นเควสต์ในเกม เป็นเควสต์เดี่ยวของจูซูย็อก จนกระทั่งเขาสามารถจับตัวคนร้ายและพาไปหาอันดาอิน’

ตอนแรกกลุ่มคนร้ายปฏิเสธเสียงแข็งด้วยท่าทีฉุนเฉียว

แต่เมื่อต้องจำนนด้วยหลักฐาน พวกเธอพยายามบ่ายเบี่ยงให้เป็นการหยอกล้อทั่วไป ทำนองว่า ‘ฉันแค่ให้มันกินขนมปังผสมยาฆ่าแมลงเอง ไม่คิดว่าจะตายสักหน่อย’

ในทางกลับกัน อันดาอินที่ข่มเหงพวกเธอเพียงเพราะลูกสุนัขตาย ถูกป้ายสีให้เป็นคนร้ายแทนเหยื่อ

‘แต่เพราะจูซูย็อกเป็นทายาทตระกูลแชโบล คนพวกนั้นจึงไม่กล้าทำอะไรอันดาอิน’

อย่างไรก็ดี ครูที่ดูแลคดีดังกล่าว ตำหนิอันดาอินด้วยคำพูด ‘เพื่อนหยอกล้อแค่นี้ เธอไม่มีสิทธิ์ใช้ความรุนแรงกับพวกเขา’

แม้อันดาอินจะรอดจากบทลงโทษด้วยอิทธิพลของจูซูย็อก แต่กลุ่มคนร้ายก็ไม่ได้รับโทษเช่นกัน

จูซูย็อกที่โกรธจัด เตรียมใช้อิทธิพลของครอบครัวเพื่อเล่นงานกลุ่มคนร้าย แต่อันดาอินรีบห้ามไว้ เพราะเกรงว่าจูซูย็อกอาจพบเจอเรื่องที่ยุ่งยาก

‘เขียนบทตามสูตรสำเร็จของสังคมนรกในเกาหลี’

หากเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในชีวิตจริง โรงเรียนก็มักจะแก้ปัญหาในทำนองเดียวกัน

‘อันดาอินโชคร้ายชะมัด’

ในโรงเรียนแสงเงินมีครูและนักเรียนที่ดีมากมายก็จริง

แต่ก็มีเด็กเปรตและครูระยำปะปนอยู่ด้วย

พวกเด็กเปรตเหล่านั้นเข้าโรงเรียนแสงเงินได้ด้วยการจ่ายใต้โต๊ะ และครูคนที่รับเงินก็คอยหนุนหลังพวกมัน

จุดอ่อนของจูซูย็อกและอันดาอินก็คือ พวกเขาเชื่อว่าครูทุกคนจะยุติธรรมกับนักเรียน

ทั้งคู่อาจเป็นอัจฉริยะ แต่ก็ยังเป็นแค่เด็กนักเรียนไร้เดียงสาที่ยังไม่เคยลิ้มรสความโหดร้ายของโลก

‘การช่วยเจ้าก้อนสำลีอาจไม่ได้เปลี่ยนจุดจบของเรื่องราวก็จริง แต่ว่า…’

ฉันไม่อยากเห็นเจ้าก้อนสำลีตาย

และไม่อยากเห็นนางเอกอย่างอันดาอินร้องไห้

* * *

ขณะเดินเตร็ดเตร่ไปรอบเขาปีกสวรรค์ ฉันมองนาฬิกาแล้วพบว่าเป็นเวลาหกโมงเย็น

ในช่วงต้นเดือนมีนาคม พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าประมาณหกโมงครึ่ง

เมื่อเริ่มมืด เจ้าก้อนสำลีจะไม่ออกมาเดิน

ฉันจึงตัดสินใจยุติการค้นหา

“เจ้าก้อนสำลี พรุ่งนี้ค่อยออกมานะ”

ฉันเดินทางกลับเขตหอพัก เพื่อเตรียมกินมื้อค่ำในอาคารปีกธรณี ตามด้วยการจัดห้อง ทำความสะอาด โดยไม่เข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศนักเรียนหอใน

ระหว่างทางที่เดินลงจากภูเขา ฉันไตร่ตรองเกี่ยวกับแผนการในอนาคต

‘หือ…!’

สัมผัสถึงการจ้องมองจากด้านบน ฉันรีบเงยหน้าขึ้น

เสือขาวกำลังมองลงมา

‘แบคโฮกุน…!’

ระหว่างทางเดินลงจากภูเขาจะมีตู้ขายสินค้าอัตโนมัติวางเรียงราย

แบคโฮกุนกำลังยืนอยู่บนนั้น

เรือนผมสีขาวสะท้อนแสงพลบค่ำจนกลายเป็นสีแดง

ฉันยังคงยืนจ้องแบคโฮกุนในมุมย้อนแสง

ทุกครั้งที่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน แบคโฮกุนจะย้อมผมเป็นสีดำให้เหมือนคนเกาหลี ในเกมจึงเห็นเขาในร่างผมขาวไม่บ่อยนัก

ครึก!

แบคโฮกุนที่ประสานสายตากับฉัน กระโดดลงจากเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ

เป็นการลงจอดที่ไร้น้ำหนักโดยสมบูรณ์ เหมือนกับขนนกตกลงบนผิวน้ำ

ผมของแบคโฮกุนกลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง

นี่คือรูปลักษณ์ปกติของแบคโฮกุน ตัวละคร PC* ที่ฉันใช้งานเป็นหลัก

(*PC – Playable Character ตรงข้ามกับ NPC)

‘เขาต้องการอะไร…’

แบคโฮกุนเอาแต่จ้องหน้าฉัน

เหมือนกับตอนที่เราจ้องหน้ากันในโรงยิมหลังจบ ‘บทฝึกสอนของตัวประกอบนิรนาม’

‘ทำแบบนี้ทำไม’

แม้แต่ในโลกเดิมของฉันก็ยังมีคำกล่าวทำนองว่า ‘สายตาของเสือมีอำนาจสะกดเหยื่อ’

ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือสายตาของเสือขาวแห่งเผ่าเสือ

อย่าว่าแต่ขยับตัว แค่หายใจยังลำบาก

ฉันต้องรีบแก้ไขสถานการณ์

คุยกันอย่างสันติดีกว่า

“มองอะไร?”

เอ้า… เราพูดอะไรออกไป

เวรแล้วไง

ทำไมวันนี้ถึงได้ปากพล่อยนัก?

แถมยังเป็นต่อหน้าเผ่าเสือ

ฉันรู้ดีว่านั่นเป็นการกระทำที่โง่เขลา แต่จะมาเสียใจทีหลังก็ไม่ทันแล้ว

แก้ไขสถานการณ์ยังไงดี

หรือแก้ไม่ได้แล้ว?

ฉันพยายามรวบรวมความกล้าระดับเดี่ยวกับการหนีออกจากบ้าน และเตรียมพูดออกไปว่า ‘ช่วยเลิกจ้องหน้าสักทีจะได้ไหม’

ทว่า

‘กำลังยิ้ม…?’

มุมปากแบคโฮกุนยกขึ้นเล็กน้อย

กำลังยิ้ม? ไม่สิ หรือว่าโกรธ?

ขณะฉันกำลังสับสน แบคโฮกุนลบรอยยิ้มออกไป

ฟ้าว!

ท่ามกลางเสียงลมพัด แบคโฮกุนอันตรธานหายไปราวกับเป็นเรื่องโกหก

คงบินไปไหนสักแห่งด้วยสกิลกระโจน

แน่นอน ฉันไม่คิดจะไล่ตาม

‘ยังกับมีพายุพัดอยู่ในหัว’

แบคโฮกุนในโลกนี้ทำตัวแปลกมาก

‘ทั้งการปรากฏตัวหลังบทฝึกสอนของตัวประกอบนิรนาม’

และการมาปรากฏตัวต่อหน้าฉัน—โชอึยชิน—นักเรียนปีหนึ่งของโรงเรียนแสงเงิน

‘เพราะอะไรกันนะ’

เขาคือตัวละคร PC ที่ฉันใช้งานยาวนานที่สุด และอยู่ด้วยกันจนถึงศึกสุดท้าย

เป็นธรรมดาที่จะให้ความสนใจ

‘ช่างเถอะ ไว้ค่อยคิดวันหลัง’

แบคโฮกุนไม่ใช่ตัวละครที่จะทำร้ายใคร

และนอกจากเนื้อเรื่องบทสุดท้าย ไม่มีอีเวนต์ใดทำให้เขาตายได้

ฉันตัดสินใจโยนทุกความกังวลเกี่ยวกับแบคโฮกุน ให้เป็นหน้าที่ของตัวเองในอนาคต

ฝากด้วยนะ ตัวฉันในอนาคต

* * *

ในเขตหอพักจะมีอาคารหลักอยู่ห้าหลัง

เป็นหอพักนักเรียนสามหลัง แยกตามชั้นปี สูงหลังละยี่สิบชั้น แต่ละชั้นรองรับได้สามสิบคน

หลังที่สี่คือหอพักครู

และหลังที่ห้าคืออาคารปีกธรณี ซึ่งมีชื่อเล่นว่า ‘ตึกปีก’

ตึกปีกคืออาคารหลักของเขตหอพัก ภายในมีห้องสมาคมปีกธรณี ห้องอาหารสำหรับนักเรียนประจำ ร้านค้า ห้องอ่านหนังสือ ห้องสัมมนา ห้องเรียน ห้องซิมูเลชั่น และโรงยิม

หอพักถูกสร้างให้มีความจุเท่ากับจำนวนนักเรียน แต่เรื่องน่ายินดีก็คือ มีนักเรียนแค่ครึ่งเดียวที่ตัดสินใจอยู่หอใน

หมายความว่าพื้นที่ใช้สอยของเด็กหอจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

หนึ่งห้องพักจะอยู่ได้สองคน แต่ถ้าไม่ได้เจาะจงเป็นพิเศษ ทางโรงเรียนจะจัดให้พักหนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง

ลงเอยด้วย ฉันได้อยู่ห้องสำหรับสองคนตามลำพัง บนชั้นสิบเจ็ดของตึกปีหนึ่ง

‘ใหญ่กว่าหอพักในย่านคนจนหลายเท่า’

การตกแต่งภายในใกล้เคียงกับอพาร์ตเมนต์ขนาดย่อม

สองห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น หนึ่งห้องครัว หนึ่งห้องอาบน้ำ และพื้นที่ส่วนกลาง

หลังจากสำรวจห้อง ฉันจัดข้าวของวางเป็นระเบียบ เปิดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามมิติและเครื่องฟอกอากาศ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการทำความสะอาด

‘รีบอาบน้ำนอนดีไหม?’

ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว

ขณะคิดแบบนั้น ฉันนึกขึ้นได้ว่าจางนัมอุกกับอูซังฮุน อยากเห็นบรรยากาศภายในห้องพักโรงเรียนแสงเงิน

จึงถ่ายรูปด้วยอุปกรณ์พกพาแล้วส่งเข้าไปในแชตกลุ่ม

[จางนัมอุก] หอดูดีเลยนะ มีสองห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว นั่นห้องอาบน้ำใช่ไหม? นี่นายได้อยู่ห้องของสองคนตามลำพัง?

[อูซังฮุน] แวะไปเล่นได้ไหม?

[ฉัน] นั่นห้องอาบน้ำ ใช่แล้ว ฉันอยู่คนเดียว ถ้าจะแวะมาต้องเป็นก่อนสองทุ่มนะ

[จางนัมอุก] คนนอกเข้าได้ไหม? ถ้าได้ ฉันจะไปสุดสัปดาห์นี้เลย

[ฉัน] ไม่ได้ ผิดกฎหอพัก

[จางนัมอุก] น่าเสียดายจัง ㅠㅠ

[อูซังฮุน] ย้ายโรงเรียน

ถึงจุดนี้ ฉันบอกไม่ได้ว่าอูซังฮุนอยากให้จางนัมอุกย้ายมาเรียนจริงๆ หรือแค่ต้องการอำ

และจางนัมอุก การใช้อีโมจิ ‘ㅠㅠ’ ไม่ได้ทำให้คนตัวเท่าหมีแบบนายน่ารักขึ้นมาหรอก

ขณะฉันกำลังเตรียมคำพูดล้อเลียนจางนัมอุก

〈สกิล ‘พลังโชคชะตา’ ทำงาน〉

ฉันลุกพรวดทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศจากระบบ

จากนั้นก็รีบปิดโฮโลแกรมจากเอียร์ริง และเปิดใช้งานแสงประทาน

〈ท่านใช้งานแสงประทาน, เส้นทางเพลเยอร์〉

การ์ดตัวละครนับพันใบเริ่มหมุนรอบตัวฉันพร้อมกับส่องแสง

เมื่อเปิดเส้นทางเพลเยอร์ ฉันสามารถรับมือได้แทบทุกสถานการณ์

‘สกิลพลังโชคชะตานั้นค่อนข้างนามธรรม เดาไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น’

ถ้าเป็นศึกระยะสั้น สกิล ‘พร 100วิ’ ของ ‘กวักคยุงกูร้อยวิ’ ดูจะมีประโยชน์ที่สุด

ถ้าต้องการเคลื่อนที่ ‘พระเวทโพธิสัตว์’ จาก ‘โอเยจี แสงวาบในรัตติกาลสีดำ’ จะดีที่สุด

แต่ฉันก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเห็นท้องฟ้า

‘ไม่ได้ ดวงจันทร์ถูกเมฆหนาบดบัง… ตัวเลือกที่ดีที่สุดรองลงมา… แสงประทานของ ‘มาจินซึง เจ้าชายแห่งผืนหญ้า’ …’

ขณะฉันนึกทบทวนอีเวนต์ในเกมที่เกี่ยวกับหอพัก ความน่าจะเป็นในเหตุการณ์ปัจจุบัน และตัวละครที่ควรยืมพลังออกมาใช้

ในบรรดาการ์ดตัวละครที่รายล้อมฉัน มีหนึ่งใบอยู่นอกเหนือการควบคุม

ตรงข้ามกับความตั้งใจ การ์ดลอยไปนอกหน้าต่างราวกับคิดจะหนี

ฉันรีบเปิดหน้าต่างแล้วเหยียดแขนออกไปคว้าการ์ด

‘ตัวละครบนการ์ดก็คือ…’

แต่ยังไม่ทันจะได้เห็นชัดๆ ประสาทสัมผัสของฉันพลันตึงเครียด

มีคนกำลังร่วงมาจากหลังคาตึกหอพัก

MasterGU.edited = ตารอย->ตามรอย, แสงประธาน->แสงประทาน, ตัวตนอันสูงส่ง->เบื้องบน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset