📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 15

บทที่ 15 - ปีหนึ่งห้องศูนย์ (1)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

แทบทุกเกมจะมี ‘พระเอก’ และ ‘นางเอก’ ที่เป็นหน้าเป็นตาของเกมเสมอ

ในเกมเพลเมโกซึ่งมีตัวละครที่ควรคุมได้มากถึงหลักร้อย ย่อมต้องมีพระเอกนางเอกเช่นกัน

พระเอกคือ จูซูย็อก

นางเอกคือ อันดาอิน

โปสเตอร์ที่โด่งดังที่สุดของเกมเพลเมโก คือภาพของสองตัวละครนี้กำลังหันหลังชนกัน คนหนึ่งถือดาบคู่ อีกคนถือปืนยาว พลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า

ทั้งสองคือตัวละครที่ค่อนข้างโกง เหมาะสมกับบทบาทพระเอกนางเอก

พวกเขาคืออัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาดที่สอบเข้าโรงเรียนแสงเงิน—ซึ่งกล่าวกันว่ามีระดับความยากสูงที่สุดในเกาหลีใต้—ด้วยคะแนนเต็มทั้งภาคข้อเขียน ปฏิบัติ และเอกสาร

ทั้งสองคือตัวแทนนักเรียนใหม่ที่ต้องออกไปกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดภาคเรียน นั่นคือการพบกันครั้งแรก และหลังจากนั้นก็กลายเป็นคู่แข่งกันเรื่อยมา

พวกเขาที่ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ มองว่าอีกฝ่ายคือตัวตนที่ต้องเอาชนะให้ได้ แต่ยิ่งเวลาผ่านไป กลับยิ่งเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น และรักกันมากขึ้น

แต่น่าเสียดาย สถานการณ์อันแสนสิ้นหวังไม่เปิดช่องให้พวกเขาได้พัฒนาความสัมพันธ์

ในช่วงครึ่งหลังของเนื้อเรื่องบทสุดท้าย

จูซูย็อก อันดาอิน และแบคโฮกุน คือสามตัวละครสุดท้ายที่สามารถควบคุมได้ หลังจากคนอื่นตายไปหมดแล้ว

หนึ่งวันก่อนจะทำศึกตัดสิน

จูซูย็อกคิดจะสารภาพรักกับอันดาอิน

[นายกำลังจะตายรึไง? อย่าปักธงตัวเองแบบนั้น!]

อันดาอินสร้างกำแพงเหล็กขึ้นมา

และเสริมว่า

[ห้ามสารภาพก่อนฉัน]

ทั้งสองไม่ยืดบทสนทนา เพียงตัดสินใจอย่างหนักแน่น

จะต้องรอดชีวิตกลับมาให้ได้

แต่ในท้ายที่สุด จูซูย็อกตายขณะปกป้องอันดาอิน และแม้ฝ่ายหญิงจะเอาชนะศัตรูจนรอดมาได้ บาดแผลของเธอก็ลึกเกินไป

อันดาอินผู้ยกเลิกแสงประทาน กล่าวกับจูซูย็อกที่กำลังนอนอยู่ท่ามกลางศพเอนามี

[ซูย็อก… ฉันชอบนาย… ชอบนายมาตั้งแต่ได้ยืนข้างกันในพิธีเปิดภาคเรียนปีหนึ่ง…]

อันดาอินใช้พละกำลังเฮือกสุดท้ายเพื่อสารภาพรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แต่แน่นอน ไม่มีการตอบสนองจากจูซูย็อก และในที่สุดอันดาอินก็ตายตามไป

แบคโฮกุนที่มาถึงเมื่อสาย ทำได้เพียงมองร่างไร้วิญญาณของทั้งคู่ ซึ่งถือเป็นภาพสุดท้ายของพระนางของเรื่อง

แต่ในตอนนี้

ตัวเอกทั้งสองของเรื่องราว—จูซูย็อกและอันดาอิน—กำลังยืนเด่นสง่าอยู่บนเวทีในพิธีเปิดภาคเรียน

“ในนามตัวแทนของนักเรียนชั้นปีหนึ่ง ซึ่งผ่านบททดสอบอันยากลำบากจนได้เข้าเรียนในโรงเรียนแสงเงินเพลเยอร์เมอิสเตอร์ เราขอปฏิญาณตนว่า จะมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาความรู้และความสามารถของตน และหมั่นเข้าเรียนด้วยความเคารพต่อขนบธรรมเนียมและกฎของโรงเรียน”

“จูซูย็อก ตัวแทนนักเรียนใหม่”

“อันดาอิน ตัวแทนนักเรียนใหม่”

อัจฉริยะทั้งสองแผ่ออร่าที่น่าเกรงขาม

พร้อมกันนั้น คำปฏิญาณของนักเรียนใหม่ดังผ่านลำโพง เกิดเป็นเสียงสะท้อนที่เสนาะหู

ทั้งที่มันเป็นแค่คำปฏิญาณตน แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนการแสดงโอเปร่าขนาดย่อม

‘ได้ยินว่าพวกเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ แต่ดูจากภายนอก… บอกยากเหมือนกัน’

สายตาของทั้งคู่ที่ประสานกันสักพักหลังจากท่องคำปฏิญาณจบ มีเพียงบรรยากาศของคู่กัดและการแข่งขัน

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่บรรยากาศแย่ๆ

ตรงกันข้าม บรรยากาศดูดีมีมนต์ขลัง คล้ายกับอัศวินที่กำลังยืนอยู่ในวิหาร

หอพยัคฆ์สง่า—หอประชุมกลางของโรงเรียนแสงเงิน—มีขนาดใหญ่จนใกล้เคียงกับหอจัดเลี้ยงมากกว่าหอประชุม

นักเรียนและครูกว่าสองพันชีวิตของโรงเรียนแสงเงินกำลังเบียดเสียดอยู่ด้านใน

บนชั้นสองคือแขกผู้เข้าชมหลักร้อย

ทุกคนกำลังดื่มด่ำไปกับเสน่ห์และจิตวิญญาณที่พระนางกำลังแผ่ออกมา

“ยังกับจูซูย็อกและอันดาอินอยู่คนละโลกกับพวกเรา”

“การแข่งขันระหว่างสองอัจฉริยะที่หยิ่งทะนงในฝีมือ…!”

“ก็ไม่แย่นี่? อัจฉริยะแข่งกัน ถือเป็นเรื่องดีเสมอ”

“ได้ยินว่าพวกเขาเทพมากสมัยม.ต้น ดูท่าจะจริง”

“เด็กที่สอบเข้าโรงเรียนม.ปลายแสงเงินได้ ไม่มีทางที่จะไม่เก่งสมัยม.ต้น… เลิกพูดถึงโรงเรียนม.ต้นเถอะ ฉันอาย”

“ซูเปอร์โนว่าไร้นามก็เป็นเด็กใหม่ใช่ไหม? เด็กใหม่ปีนี้เจ๋งชะมัด”

จุดสูงสุดสองนักเรียนมัธยมปลายกว่าสองล้านคนทั่วเกาหลีใต้

โรงเรียนแสงเงินคือแหล่งรวมอัจฉริยะและเพลเยอร์มากพรสวรรค์จากทั่วประเทศ

ดังนั้น การที่มีเพียงสองคนโดดเด่นกว่าใครในรุ่น ย่อมเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์

‘พูดถึงเราด้วยแฮะ’

ในโรงเรียนแสงเงิน ชื่อของนักเรียนสี่คนที่อยู่ในทีมสอบสิบสาม แพร่กระจายเป็นวงกว้าง ส่วนใหญ่จึงรู้จักชื่อและฉายาของฉัน

แต่ถึงอย่างนั้น ความโด่งดังกลับถูกกลบจนมิดโดยสองตัวเอกที่เปรียบดังศูนย์กลางของโลก

‘แบบนี้ก็ไม่เลว’

กลับกัน ในฐานะสวะติดเกมอย่างฉัน การได้เห็นพระนางในเกมที่ตัวเองเล่น กำลังมีชีวิตชีวาอยู่ตรงหน้า สร้างความตื่นเต้นได้มากกว่าเป็นไหนๆ

กล่าวคำปฏิญาณจบ จูซูย็อกและอันดาอินเดินลงเวทีโดยใช้บันไดคนละฝั่ง

ทั้งสองเดินกลับไปนั่งประจำที่โดยไม่เหลียวมองกันและกันอีก

ถัดมาเป็นการแนะนำตัวคณาจารย์ แต่มีแค่ไม่กี่คนที่สนใจ เพราะส่วนใหญ่ยังคงดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สองอัจฉริยะสร้างขึ้น

‘ต้องหาเพื่อนร่วมห้องให้เจอ’

ฉันฟังแนะนำจากครูแบบขอไปที พลางสอดส่องมองหานักเรียนห้องศูนย์ แต่ก็ไม่พบใบหน้าที่ฉันเคยเห็นในเกม

พิธีเปิดการศึกษาไม่ใช่อีเวนต์บังคับ แถวที่นั่งของนักเรียนปีหนึ่งจึงเป็นแบบใครมาก่อนได้ก่อน ไม่ได้จัดเรียงตามห้อง จึงไม่มีทางเดาได้ว่าอีกฝ่ายเรียนอยู่ห้องไหน

ฉันไม่คุ้นหน้าใครเลยในบรรดาเด็กปีหนึ่งรอบตัว

‘ถึงจะมีเด็กห้องศูนย์แฝงอยู่ก็คงแยกไม่ออก’

เนื้อเรื่องของเกมเพลเมโกจะหมุนรอบจูซูย็อกและอันดาอินเป็นหลัก

แม้บางครั้งจะเปลี่ยนมุมมองไปเป็นครูและเรื่องนอกโรงเรียน แต่ก็เป็นตัวเอกสองคนนี้ที่คอยพัฒนาเนื้อเรื่องเส้นหลัก

เด็กห้องศูนย์นั้นแทบไม่ปรากฏตัวในเกม เว้นเสียแต่จะติดต่อกับพระนางโดยตรง

‘จากค้นคว้าล่วงหน้า… ไม่ใช่เด็กห้องศูนย์ทุกคนที่จะมีข้อมูลบันทึกอยู่ใน ‘หอสมุดเกม’ … แถมยังไม่บอกด้วยว่าในห้องมีนักเรียนกี่คน’

ย้อนกลับไปเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากติดต่อกับจักรวาลเหนือรูป สกิล ‘เมนูพิเศษของร่างที่เหมาะสมสำหรับเปลี่ยนอนาคตมิติ’ ได้พัฒนาเป็นเลเวลสอง

ส่งผลให้มีเมนู ‘หอสมุดเกม’ เพิ่มเข้ามา

สิ่งที่แลกมากับการหมดสติไปสามวัน คือหนังสือเซตติ้งของเกม

‘ตอนนั้นเราเคยสบถเรื่องที่พวกเขาเอาหนังสือเซตติ้งมาขายทั้งเล่มจริงและในเกม’

ฟังก์ชันหอสมุดเกมจะเปิดก็ต่อเมื่อจ่ายเงิน

แน่นอนว่าฉันจ่าย เพราะถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเกมกากแห่งชาติอย่างเพลเมโก ฉันคือสวะติดเกม

ฉันไม่ได้เสียดาย แค่อับอายที่ตัวเองเป็นแบบนั้น

‘พนันได้เลย ที่จักรวาลเหนือรูปเรียกเรามา เพราะเราคือสวะติดเกม’

ลงเอยด้วย พิธีเปิดภาคเรียนจบลงโดยที่ฉันไม่เจอเด็กปีหนึ่งห้องศูนย์คนอื่นเลย

‘ช่างเถอะ ยังไงก็ได้เจอในห้องเรียนอยู่แล้ว’

ฉันออกจากทางเข้าหอประชุมทันที

* * *

โรงเรียนแสงเงินมีพื้นที่ราวห้าแสนพยอง (1.6 ตารางกิโลเมตร)

สำหรับนักเรียนของโรงเรียนแสงเงิน ซึ่งมีตารางเรียนตายตัวในช่วงเช้า และคาบเรียนเลือกเสรีในช่วงบ่าย ระบบขนส่งภายในโรงเรียนนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง

โรงเรียนแสงเงินได้แจกจักรยานและแอร์บอร์ดให้นักเรียนโดยไม่คิดเงิน และยังมีบริการแอร์ชัตเทิลกับรถเมล์ปกติ

แอร์บอร์ดซึ่งเป็นที่นิยมของนักเรียนส่วนใหญ่ คือระบบขนส่งอัตโนมัติ ที่จะเคลื่อนย้ายไปยังอาคารปลายทางตามที่กำหนด

แต่นักเรียนไม่ได้รับอนุญาตให้ควบคุมแอร์บอร์ดด้วยตัวเอง เพราะนั่นจะขัดต่อพรบ.ขนส่งสาธารณะที่บัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางอากาศ

การสอบใบขับขี่ยานพาหนะทางอากาศนั้นไม่ง่าย ต้องผ่านการคัดกรองที่เข้มงวด

และต่อให้มีใบขับขี่ เพดานการบินก็ห้ามสูงเกินกว่าที่กำหนด และขี่ได้เฉพาะในพื้นที่ส่วนบุคคลเท่านั้น

‘อยากลองขี่ของจริงมานานแล้ว’

ฉันจับแฮนด์ของแอร์บอร์ดที่กำลังบินขึ้นฟ้า

หลังจากเปิดโฮโลแกรมแล้วเลือกปลายทางเป็นอาคารหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกเรียนของปีหนึ่งห้องศูนย์ ระบบไร้คนขับพลันส่งเสียงพร้อมกับปรับเพดานการบิน เพื่อให้สอดคล้องกับแอร์บอร์ดและแอร์ชัตเทิลลำอื่น

‘ยังกับ CG ในเกม’

ท้องฟ้าสีคราม

ด้านบนเต็มไปด้วยแอร์บอร์ดกับแอร์ชัตเทิล

อาคารหลายหลังเรียงรายอยู่ด้านล่าง

เป็นภาพที่งดงามและน่าอัศจรรย์ยังกับ CG ในเกม

‘ดูเหมือนว่า ‘ยังกับ CGเกม’ จะเป็นคำชมที่ดีที่สุดเท่าที่สวะติดเกมอย่างฉันจะคิดได้’

‘ได้เห็นจากด้านบน อาคารต่างๆ ยิ่งดูเท่’

พื้นที่ส่วนกลางของโรงเรียนเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ร่วมกันทั้งนักเรียนและครู เช่นหอประชุมพยัคฆ์สง่าซึ่งตั้งอยู่ใจกลาง อาคารสโมสรนักเรียน อาคารสภานักเรียน อาคารชมรมทั่วไป อาคารศิษย์เก่า และอีกมาก

สิ่งก่อสร้างที่กล่าวมามีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะหอประชุมพยัคฆ์สง่าซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดภาคเรียน

ถัดมา ฉันเริ่มเห็นหอนาฬิกาสีขาวหน้าทางเข้าหลักของโรงเรียน รวมถึงบาเรียป้องกันของโรงเรียนซึ่งปกคลุมอาณาเขตทั้งหมดไล่มาตั้งแต่ประตูรั้ว

รูปปั้นแกะสลักที่วิจิตรงดงาม ดูกลมกลืนไปกับอาคารน้อยใหญ่ เปรียบได้กับอัญมณีที่ประดับประดาในกล่องเพชรนิลจินดาใบใหญ่

‘ตึกเงินจรัส…’

ระหว่างกำลังย้ายจากพื้นที่ส่วนกลางไปยังพื้นที่ของปีหนึ่ง ฉันเห็นอาคารหลักของโรงเรียน—ตึกเงินจรัส—ที่กำลังส่องแสงระยิบระยับจากระยะไกล

เนื่องจากเคยแวะไปแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าพบประธานใหญ่วังมยองโฮ ฉันจึงคิดว่าตัวเองคงไม่ตื่นเต้นถ้าได้เห็นเป็นหนที่สอง

แต่ก็ต้องคิดผิด

จากบรรดาทุกอาคารในโรงเรียนแสงเงิน ตึกเงินจรัสนับว่างดงามอันดับหนึ่งโน!วลกูดoทคอม

ทำไมเสือเหลืองถึงยอมปล่อยให้ตึกเงินจรัสเปื้อนเลือด?

‘ได้ยินว่าเสือเหลืองเป็นคนออกแบบตึกด้วยตัวเอง’

กำลังจะบอกว่า ถึงจะเป็นอาคารที่สร้างจากหยาดเหงื่อและแรงกาย แต่ถ้าเกิดเบื่อขึ้นมา มันจะพังถล่มหรือเปรอะเปื้อนก็ช่างปะไร?

ขณะคิดแบบนั้น แอร์บอร์ดค่อยๆ ลอยออกจากตึกเงินจรัส

* * *

นอกจากแอร์บอร์ด โรงเรียนแสงเงินยังให้บริการอุปกรณ์พกพาชื่อว่า ‘เอียร์ริง’ (Earring)

เพราะถ้านักเรียนคนใดไม่มีอุปกรณ์รับส่งข้อมูลที่ทันสมัย ก็แทบจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ จากโรงเรียนเลย

แน่นอน ฉันได้รับแจกเอียร์ริง แต่ก็ยังหาซื้อมาใช้เองอีกเครื่อง

‘เพราะต้องคอยระวังว่า โรงเรียนอาจดักอ่านข้อความหรือไม่ก็ประวัติ GPS’

ตามพรบ.คุ้มครองข้อมูล เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกดูประวัติข้อมูลของอุปกรณ์

แต่ขณะเซ็นรับเอียร์ริงฟรีจากโรงเรียน เงื่อนไขและข้อตกลงระบุเอาไว้ชัดเจนว่า โรงเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลบางอย่างได้ ‘ในกรณีฉุกเฉิน’

กรณีฉุกเฉินสามารถตีความว่า ‘ตามใจฉัน’ ได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นครูที่ขายซาวอลเซอึมให้กับงานประมูลมายา

‘ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน สิ่งแรกที่ต้องทำคือการโยนเอียร์ริงของโรงเรียนทิ้งไป’

ฉันสวมเอียร์ริงที่ซื้อมาเองไว้กับหูข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างเป็นเอียร์ริงของโรงเรียน

เมื่อยัดเอียร์ริงสีส้มเข้าไปในรูหู มันก็แทบมองไม่เห็นจากภายนอก

สวมเอียร์ริงเสร็จ ฉันเปลี่ยนแอร์บอร์ดเป็นการ์ดและเก็บไว้ในหน้าต่างไอเท็ม ก่อนจะเดินไปยังชั้นเรียนของปีหนึ่งห้องศูนย์

พระเอกอย่างจูซูย็อกเรียนอยู่ปีหนึ่งห้องสอง และนางเอกอย่างอันดาอินเรียนอยู่ปีหนึ่งห้องหนึ่ง

ไม่เหมือนกับปีสองและสามที่จะแบ่งห้องตามผลการเรียน ห้องเรียนของเด็กปีหนึ่ง ไล่ตั้งแต่ห้องหนึ่งถึงห้องสิบ จะใช้การเฉลี่ยเกรดเพื่อแบ่งนักเรียนให้ลงตัว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ที่สอบเข้าเป็นอันดับสองจะต้องอยู่ห้องสอง

และเนื่องจากทั้งอันดาอินและจูซูย็อกสอบได้คะแนนเต็มเหมือนกัน การจัดห้องจึงเรียงตามตัวอักษร

ลงเอยด้วย อันดาอินได้เข้าเรียนห้องหนึ่ง และจูซูย็อกอยู่ห้องสอง

‘ดูจากการรวมตัวของกลุ่มคนตรงหน้า กลุ่มนึงคงเป็นห้องหนึ่ง และอีกกลุ่มเป็นห้องสอง’

เด็กปีหนึ่งส่วนใหญ่ย่อมอยากตีสนิทกับพระนางตั้งแต่วันแรก

ห้องศูนย์อยู่ถัดไปจากห้องหนึ่ง ดังนั้นถ้าผ่านกลุ่มข้างหน้าไปได้ ฉันก็จะถึงห้องศูนย์

เมื่อฝ่าฝูงชนเข้าไป ฉันได้พบกับห้องศูนย์ตามคาด

* * *

ปีหนึ่งห้องศูนย์

คงเพราะฉันมาเกือบสาย ทันทีที่นั่งลง ครูประจำชั้นห้องศูนย์ก็เดินเข้ามา

ครูมองไปรอบห้องแล้วเขียนชื่อตัวเองด้วยชอล์กอิเล็กทรอนิกส์บนกระดานดำ

‘ฮัมกึนยอง’

ฮัมกึนยอง หนึ่งในตัวละครที่ควบคุมได้ และยังเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียน

สำหรับโรงเรียนแสงเงินที่เน้นย้ำเกี่ยวกับวินัยในตัวเอง ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลนักเรียนและช่วยแนะแนว ต้องมีนิสัยไม่เข้มงวดจนเกินไป

ฮัมกึนยองเป็นคนยืดหยุ่น เข้าใจจิตวิทยาเด็กมัธยมปลายเป็นอย่างดี และชำนาญการรับมือเหตุไม่คาดฝัน

ถ้าจำไม่ผิด ในเกมเพลเมโก ชายคนนี้เปรียบดังสุนัขจิ้งจอกที่สวมหน้ากากหมี

“ครูชื่อฮัมกึนยอง จะรับหน้าที่ดูแลห้องเรียนนี้ตลอดหนึ่งปี… ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้า ครูอาจขาดสอนบ่อยเพราะติดงานที่ฝ่ายกิจการนักเรียน”

ในอดีต ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียน เทียบได้กับตำแหน่งครูใหญ่ของโรงเรียน

สรุปโดยสั้น ไม่ใช่เรื่องปกตินักที่คนใหญ่คนโตระดับนั้นจะมาเป็นครูประจำชั้น

อย่างไรก็ดี โรงเรียนแสงเงินมีธรรมเนียมในการใช้ ‘คนมีอำนาจ’ มาดูแลห้องศูนย์ เพราะรู้ฤทธิ์เด็กห้องศูนย์เป็นอย่างดี

ยกตัวอย่างเช่น ครูประจำชั้นปีสองห้องศูนย์คือจูเก่อแจกอล—หัวหน้าฝ่ายธุรการ ส่วนปีสามคือหัวหน้าฝ่ายวิจัย

“ตอนนี้ยังไม่มีผู้ช่วยครูประจำชั้น เพราะไม่มีใครสมัครเข้ามา ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง ว่าแต่…”

หว่างคิ้วฮัมกึนยองเกิดรอยย่นเล็กๆ

“ครูเพิ่งเคยเจอเด็กแบบพวกเธอเป็นครั้งแรก…”

คำพูดของฮัมกึนยองคือสิ่งที่เข้าใจได้

แต่ละปีจะมีนักเรียนเข้าใหม่กว่าห้าร้อยคน เป็นธรรมดาที่ครูจะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

“ถึงจะบอกว่าชินแล้วก็เถอะ… แต่นี่ไม่เกินไปหน่อยหรือ”

ฉันก็คิดแบบนั้น

จากประสบการณ์สมัยเรียนชั้นประถม ม.ต้น ม.ปลาย รวมถึงประสบการณ์ชีวิตทั้งหมด

“อัตราการเข้าเรียนไม่ถึงครึ่ง… แค่ครึ่งของครึ่ง… แม้ว่าการเข้าเรียนจะไม่ส่งผลต่อเกรดก็เถอะ”

สี่คน

จำนวนนักเรียนที่กำลังเข้าเรียนในห้องศูนย์ นับรวมตัวฉันด้วย

ปีหนึ่งห้องศูนย์มีนักเรียนทั้งหมดสิบหกคน

วันแรกของการเรียน อัตราเข้าร่วมคือ 25%

“วันนี้พวกเราจะเลือกหัวหน้าและรองหัวหน้าห้องกัน จากนั้นก็แยกย้าย ส่วนคติพจน์ประจำห้อง ครูจะเป็นคนกำหนดเอง”

คติพจน์ของปีหนึ่งห้องศูนย์

‘เข้าเรียนตรงเวลา’

บนกระดานดำอิเล็กทรอนิกส์ อักษรโฮโลแกรมสี่คำซึ่งอยู่ในรูปภาษาเขียน ถูกแปะไว้เป็นตัวหนา

อาจเป็นคติพจน์ที่ดูธรรมดา แต่ฮัมกึนยองดูจริงจังกับมันมาก

“ใครอยากเป็นหัวหน้าห้องให้ยกมือขึ้น”

นอกจากฉันแล้วยังมีอีกสามคน

หญิงสองชายหนึ่ง

‘ไหนขอดูหน้าหน่อย…’

นักเรียนหญิงคนแรกชื่อคิมยูรี เป็นตัวละครที่ควบคุมได้

ส่วนอีกคนชื่อฮันอี เป็น NPC

ฉันเคยเห็นทั้งสองจากในเกม

ในส่วนของนักเรียนชาย

ทันทีที่เห็นใบหน้าอีกฝ่าย ฉันเผลอพึมพำด้วยท่าทีตกตะลึง

“…ประธานใหญ่?”

เสียงเล็ดลอดออกไปเบามาก แต่ดังพอที่จะทำให้นักเรียนชายหันมา

‘ฉิบ… เวรแล้ว’

ฉันคงเคลิ้มไปกับบรรยากาศของพิธีเปิดภาคเรียน จึงเผลอทำตัวหย่อนยานไปหน่อย

สิ่งที่ฉันเพิ่งพ่นออกไป คงเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ถูกส่งมายังโลกใบนี้

ฉันพยายามเรียบเรียงความคิด เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่ตัวเองก่อ

แต่สมองกลับว่างเปล่า

และคงเพราะสมองว่างเปล่า

ในหัวของฉันจึงเต็มไปด้วยความสับสน โกลาหล ยุ่งเหยิง และตรรกะวกวนที่ไม่มีจุดจบ

ทันใดนั้น เสียงประกาศดังขึ้นจากลำโพงในห้องเรียน

ติ๊งติงติงติ่ง—

— นักเรียนโชอึยชินและวังจีโฮ ชั้นปีที่หนึ่งห้องศูนย์ กรุณามาที่ห้องทำงานของประธานใหญ่ที่ตึกเงินจรัสทันที ขอทวนอีกครั้ง นักเรียนโชอึยชินและวังจีโฮ ชั้นปีหนึ่งห้องศูนย์ กรุณามาที่ห้องทำงานของประธานใหญ่ที่ตึกเงินจรัสทันที จบการประกาศ

“ขอตัวไปหาประธานใหญ่ก่อนนะครับ ครูฮัมกึนยอง”

ประธานใหญ่วังมยองโฮ… ไม่สิ นักเรียนวังจีโฮ คว้าแขนของฉันแล้วลากออกไปนอกห้องเรียน

เขาหิ้วราวกับฉันตัวหนักเท่าลูกโป่ง

แม้ตอนนี้จะหนักไม่เท่าตอนโต แต่ก็ไม่ใช่ตัวเบาๆ แน่นอน

ก่อนที่ประตูห้องเรียนจะปิดสนิท

เสียงของฮัมกึนยองเล็ดลอดออกมา

“อัตราการเข้าเรียนในวันแรก… ลดไปอีกครึ่งหนึ่ง”

เมื่อประตูปิดสนิท อัตราการเข้าเรียนของปีหนึ่งห้องศูนย์ลดจาก 25% เหลือ 12.5%

MasterGU.edited = โรเรียน->โรงเรียน, จูกัดแจกอล->จูเก่อแจกอล

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset