📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 155

บทที่ 155
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ก่อนจะถึงคาบโฮมรูมเย็น

เด็กในห้องต่างพากันตื่นเต้น เพราะคาดหวังอีเวนต์ใหญ่ที่ใกล้จะเริ่มเต็มที

ยกเว้นเม็งเฮียวทง

“ที่ติดอยู่บนสัญลักษณ์ ‘1-0’ คืออัญมณีต่างโลกใช่ไหม? แถมยัง… ส่องแสงขณะปล่อยคลื่นพลังวิเศษออกมาได้ด้วย!”

“อัญมณีต่างโลกถูกสั่งแยกจากร้านเครื่องประดับทำมือทางฝั่งประตูตะวันออกน่ะ! ซื้อมาไม่แพงเนื่องจากงบหมด มันก็เลยดูไม่ว้าวเท่าไร”

“ฉันซื้อแอปฯ โฮโลแกรมมาแล้ว สามารถใช้มันช่วยเพิ่มความว้าวได้”

“…”

ระหว่างที่เพื่อนๆ กำลังคลี่ผ้าพันคอเชียร์ พลางจับกลุ่มคุยด้วยสีหน้าตื่นเต้น เม็งเฮียวทงในชุดพละเอาแต่ยืนเหม่อ

โดยไม่เหลียวแลพระเอกของงานอย่างเม็งเฮียวทง บทสนทนาของเด็กๆ ยังคงดำเนินต่อไป

“เลือกผ้าพันคอเชียร์ได้ดีมากเลย… ถ้ามีของแบบนี้ตั้งแต่อึยชินแข่งทัวร์นาเมนต์หมากรุกก็ดีสิ”

“นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้เตรียมตัวเชียร์ล่วงหน้าไง คราวก่อนยังขาดประสบการณ์ แต่หนนี้ได้อึยชินช่วยมอบคำแนะนำดีๆ ตั้งหลายเรื่อง”

“ถ้ามีของที่ระลึกด้วยก็คงจะดี”

พวกเขาได้ไอเดียนี้มาจากการเห็นรุ่นพี่ห้อง 2/0 ประดับของที่ระลึกเนื่องในโอกาสมาชมคอนเสิร์ตควอนเจอินที่หอพยัคฆ์สำแดง

“เฮียวทง ผ้าพันคอด้านหน้ากับด้านหลังมีลายไม่เหมือนกัน นายชอบฝั่งไหนมากกว่า? ฉันจะชูฝั่งนั้นเป็นหลัก”

“ไม่รู้สิ ก็ไม่เห็นจะต่างกัน”

ได้ยินคำถามคิมยูรี เม็งเฮียวทงมองผ่านๆ ทั้งด้านหน้าและหลังก่อนจะโยนคืนไป

ไม่ได้มีแค่คนเดียวที่ไม่พอใจกับคำตอบนั้น

“องค์ประกอบสีต่างกันชัดเจน และรายละเอียดการปักตรงนี้ก็ต่างกันมาก! ด้านหน้าปักรางวัลที่เฮียวทงเคยได้ในช่วงม.ต้น ส่วนด้านหลังปักเกรดของเอนามีที่นายเคยจัดการไปในช่วงม.ปลาย รวมถึงวันที่จัดการพวกมัน”

“ด้านหน้าคือใบหน้าซีกซ้ายของนาย ด้านหลังเป็นใบหน้าซีกขวา! กือรินตั้งใจวาดมากเลยนะ มันต้องต่างกันอยู่แล้ว พูดอะไรออกมาน่ะ!”

“แดซอกพูดถูก… ถึงใบหน้าของเฮียวทงจะสมมาตรมาก แต่ทรงผมค่อนข้างกระเซิง ฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาจึงแตกต่างพอสมควร ฉันพยายามเก็บรายละเอียดเพื่อให้ดูสมจริงที่สุด…”

“ข…ขอโทษ”

เม็งเฮียวทงได้สติกลับมาหลังจากถูกรุมตำหนิโดยซาวอลเซอึมและสองคู่หูเพื่อนสมัยเด็ก

“นี่… ทีตอนรองหัวหน้าห้องแข่ง พวกนายแอบไปเซอร์ไพรส์ระหว่างแข่ง… แต่ทำไมกับฉันถึงเฉลยก่อนล่ะ? แล้วเอาเวลาที่ไหนไปเตรียมของพวกนี้!”

ได้ยินคำถามเม็งเฮียวทง เพื่อนร่วมชั้นทุกคนตอบเป็นเสียงเดียว

“ก็แอบเตรียมตอนที่เฮียวทงไม่ได้มาจับกลุ่มติวไง พวกเราซุ่มกันตัวโก่งเลยล่ะ”

“อึยชินบอกว่านี่เป็นบทความที่ได้รับความนิยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คงจะแปลกน่าดูถ้าพวกเราไม่เชียร์การแข่งที่มีชื่อเม็งเฮียวทงอยู่บนพาดหัวข่าว”

“บางคนก็อยากเก็บไว้เซอร์ไพรส์ตอนแข่งทีเดียวเลยนะ แต่สุดท้ายพวกเราลงความเห็นว่าควรเฉลยก่อนแข่ง”

“อึยชินดูเป็นคนใจเย็น คงไม่ตกใจระหว่างแข่ง แต่เฮียวทงดูตื่นตูมมากกว่า อาจจะตกใจจนทำผิดพลาดระหว่างการสู้”

ฉันเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนร่วมชั้น

เพราะเม็งเฮียวทงคือเด็กที่ชาชินกับความมุ่งร้ายหรือริษยา แต่ไม่คุ้นเคยกับกำลังใจและความปรารถนาดี

“นอกจากนั้น การเป็นฝ่ายเฉลยเอง ก็ดีกว่าปล่อยให้ถูกจับได้ระหว่างแอบเตรียม”

“คราวที่แล้วก็เกือบถูกจับได้เพราะใครบางคน”

ซาวอลเซอึมกับฮันอีหันไปมองวังจีโฮ

“สุดท้ายก็ไม่ถูกจับได้สักหน่อย”

วังจีโฮตอบอย่างไร้ยางอาย

ด้านหลังตาแก่หน้าไม่อายคนนั้น ฉันเห็นมินกือรินก้มมองผ้าพันคอเชียร์สักพักแล้วพูดขึ้น

“…ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีเพื่อนคอยเชียร์ ฉันคงผิดหวังจนไม่มีกะจิตกะใจจะต่อสู้… สมมติว่าถ้าเป็นฉันล่ะนะ”

“กือริน ไม่ว่าเธอจะสู้กับใคร ฉันจะคอยตามเชียร์เสมอ!”

“นายสนใจการต่อสู้ด้วยหรือ”

“แน่นอน!”

ซงแดซอกกล่าวอย่างมั่นใจ เพื่อนร่วมชั้นที่ได้ยินทยอยหันไปมอง

มินกือรินพูดราวกับว่ารออยู่แล้ว

“ดีมาก การต่อสู้ของเฮียวทงวันนี้น่าจะมีคนมาดูเยอะ ฉันคงไปด้วยไม่ได้ แดซอกช่วยไปดูแทนแล้วมาเล่าให้ฟังหน่อยนะ”

ใบหน้าซงแดซอกพลันบิดเบี้ยวเหมือนอยากจะถอนคำพูด

อย่างที่คิด มินกือรินเข้าใจนิสัยของเพื่อนสมัยเด็กอย่างทะลุปรุโปร่งและรู้วิธีหลอกใช้

‘ช่วงแรกเธอยังดูหงุดหงิดกับนิสัยของแดซอกอยู่เลย มินกือรินพัฒนาเร็วมาก!’

ระหว่างที่ฉันชื่นชมในใจ กริ่งเปลี่ยนคาบดังขึ้น

กริ่งวันนี้เป็นเพลง Light Cavalry Overture ที่เล่นโดยชมรมออเคสตร้า

เนื้อหาสื่อถึงชีวิตในกองพลยานเกราะเบาของทหารฮังการี บรรเลงด้วยทรัมเป็ต ฮอร์น และทรอมโบนอย่างไพเราะ

ฟังดูไม่เข้ากับคาบโฮมรูมเย็นที่เป็นบทสรุปประจำวันสักเท่าไร

‘เลือกเพลงมาเพื่ออีเวนต์วันนี้สินะ’

กระทั่งเม็งเฮียวทงที่ไม่มีความรู้ด้านดนตรีคลาสสิกเลย ก็ยังเข้าใจความหมายของกริ่งเปลี่ยนคาบ

ฉันได้ยินเขาพึมพำ ‘ไอ้พวกชมรมกระจายเสียง…’

ฮันอีที่หูหนวกแต่ขยันอ่านข้อมูล แสยะยิ้มขณะมองโฮโลแกรม

* * *

หลังเลิกเรียน, ย่านอาคารเรียนปีสาม

ย่านอาคารเรียนปีสามจะมีขนาดใหญ่กว่าและทนทานกว่าของปีหนึ่งกับปีสองมาก

เพลเยอร์จะโตเร็วเป็นพิเศษในช่วงม.ปลาย และปะทุถึงขีดสุดในช่วงปีสาม แต่จะมาพร้อมกับความไม่เสถียรทางอารมณ์เนื่องจากต้องแบกรับความกดดันในฐานะพี่ใหญ่ของโรงเรียนม.ปลาย

ลงเอยด้วย ทุนทรัพย์และเวลาถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็กปีสามโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยของตัวนักเรียนเอง ความปลอดภัยของโรงเรียน และความปลอดภัยของประชาชนในละแวกใกล้เคียง

โรงยิมหมายเลขสองในเขตอาคารเรียนปีสามที่พวกเรากำลังยืนอยู่ คือหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้น

“ใหญ่กว่าโรงยิมที่อึยชินเช่าไว้ตอนแรกอีกนะ ทำอีท่าไหนถึงเช่าโรงยิมปีสามมาได้เนี่ย”

“เพราะอีเวนต์ของห้อง 3/0 ก็ถูกจัดพร้อมกันยังไงล่ะ พวกนั้นหูดียังกับผี มาถามฉันว่าจัดทั้งทีเอาแบบยิ่งใหญ่ไปเลยไหม”

ประธานชมรมหนังสือพิมพ์และรองประธาน ที่ต่างก็ติดเข็มกลัดทีมงาน กล่าวพลางติดตั้งโปสเตอร์โฮโลแกรมหน้าโรงยิม

ตามผนังโรงยิมเต็มไปด้วยโฮโลแกรมชีวประวัติของผู้เข้าร่วมอีเวนต์

นอกเหนือจากนั้น ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สะดุด

‘…ฝีมือวังจีโฮ?’

บอลลูนโฆษณากำลังลอยอยู่บนฟ้าพร้อมกับติดป้ายเชิญชวนเข้าร่วมอีเวนต์

บนผิวป้ายมีตราของโรงเรียนแสงเงินแกะสลักอยู่

ยืนมองข้อความบนป้ายประกาศ มุนแซรอนเอียงคอสงสัย

“ห้อง 3/0 ไม่มีฉายาสักหน่อยหรือ จืดชืดไปหน่อยแฮะ… หืม…”

ด้านหน้าชื่ออิมยอนวามีคำว่า ‘ครูประจำชั้นสุดแกร่ง’ เขียนกำกับไว้

ที่จริงแค่ชื่อ 3/0 ก็น่าเกรงขามมากพอแล้ว เพียงแต่มันดูจืดชืดไปหน่อย

เด็กชมรมหนังสือพิมพ์ปีสามซึ่งรับหน้าที่ทำข่าวของปีสาม เผยสีหน้าลำบากใจ

“ฉันก็อยากปรึกษากับพวกห้องศูนย์อยู่หรอก แต่ติดต่อไม่ได้เลยเนี่ยสิ”

“พวกเขาบอกว่ายุ่งอยู่กับการฝึก และถ้าเป็นกรณีที่สู้กับครูประจำชั้น เราห้ามตั้งฉายาให้พวกเขาส่งเดช ไม่อย่างนั้นถ้าแพ้ขึ้นมา พวกเขาจะโทษว่าฉายาที่เราตั้งให้พาซวย”

เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นมาแล้วสินะ

…พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกรุ่นพี่ชมรม ถึงยึดติดกับการเปิดโปงพลังจักรวาลและสวนลอยฟ้านัก

“ว่าแต่ ทำไมครูจูเก่อแจกอลยังไม่มาอีก? ใกล้ถึงเวลาซ้อมคิวแล้วด้วย”

“เด็กปีสองที่ถือชุดครูจูเก่อไปก็ยังไม่กลับมาเลย”

อีเวนต์ในวันนี้จัดโดยชมรมหนังสือพิมพ์

ครูที่ต้องรับบทเป็นกรรมการและพิธีกร ย่อมต้องเป็นจูเก่อแจกอล—ที่ปรึกษาชมรมหนังสือพิมพ์

ทันใดนั้น

“ถ่ายรูปรวมเสร็จแล้ว พวกเธอเข้าไปรอข้างในเถอะ”

“แต่เรายังไม่ได้ถ่ายรูปเดี่ยวเลยนะ!”

“ใช่! ฉันไม่ได้ใส่ชุดเท่ๆ มานานแล้ว อยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเยอะๆ!”

เสียงอันเปี่ยมชีวิตชีวาของกึมชานซอลกับวังชานซองดังแทรกเข้ามาในรูหู

บรรดานักเรียนห้อง 2/0 ผู้เป็นแฟนตัวยงของจูเก่อแจกอล กำลังถ่ายรูปครูประจำชั้นในชุดสูทตัวใหม่

‘ถึงจะดูฉูดฉาดไปหน่อยสำหรับกรรมการ แต่ก็เข้ากันดี’

เพื่อเป็นการฉลองอีเวนต์ ชุดกรรมการของจูเก่อแจกอลถูกจัดซื้อด้วยงบของชมรมหนังสือพิมพ์

ตอนแรกจูเก่อแจกอลปฏิเสธ แต่ประธานชมรมหนังสือพิมพ์รบเร้าว่าเป็นการทำเพื่อเด็กๆ ที่เหนื่อยจากการสอบ เขาจึงยอมใจอ่อน

“เฮ้ย! พวกนายจะทำอะไรน่ะ! รอให้เราถ่ายเสร็จก่อนสิ”

“หมายความว่ายังไง? พวกนายถ่ายไปหลายรูปแล้วนี่ ยังไม่เสร็จอีกหรือไง”

“ใช่! พออีเวนต์จบก็จะไปปาร์ตี้กับครูจูเก่อด้วย”

“ไม่มั้ง? ครูมีนัดปาร์ตี้กับชมรมหนังสือพิมพ์แล้วนะ”

“แต่ครูจูเก่อเป็นครูประจำชั้นห้องเรา!”

“ใช่ ยิ่งไปกว่านั้น…”

วังชานซอลก้าวออกมาพร้อมกับถอดชุดนักเรียนโยนทิ้ง

ด้านในคือเสื้อยืดที่เขียนด้วยปากกาเมจิกว่า ‘ฉันคือสปอนเซอร์’

“สรรเสริญฉันสิ!”

“สปอนเซอร์จงเจริญ!”

“ครูจูเก่อเป็นครูประจำชั้นพวกเรา และอีเวนต์นี้สปอนเซอร์โดย ‘นือรู’ ของรองหัวหน้าห้อง … นั่นเท่ากับว่าห้อง 2/0 ของเราชนะ!”

ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขา ‘ชนะ’ อะไร แต่ประธานชมรมหนังสือพิมพ์มิอาจเก็บซ่อนสีหน้าของผู้พ่ายแพ้

ทว่า

“ก็ไปปาร์ตี้พร้อมหน้ากันทุกคนนี่แหละ… ไว้ค่อยถ่ายรูปกันทีหลังนะ”

“…ครับ!”

“ค่ะ!”

แค่จูเก่อแจกอลเอ่ยปาก สถานการณ์ก็สงบลงทันที

แม้ติดขัดเล็กน้อยในตอนเริ่ม แต่การซ้อมคิวก็ผ่านไปอย่างราบรื่นจนผู้ชมทยอยเข้ามานั่ง

ณ เวทีแปดทรงเหลี่ยมใจกลางโรงยิมหมายเลขสองของชั้นปีสาม ซึ่งไฟทุกดวงกำลังดับสนิท

ขณะจูเก่อแจกอลเดินขึ้นมา แสงสปอตไลท์สว่างขึ้น

‘เข้าใจแล้วว่าทำไมห้อง 2/0 ถึงรบเร้าให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก’

ตอนแรงก็เป็นห่วงว่าสูทสีเบอร์กันดี้ (Burgundy) จะเข้ากับจูเก่อแจกอล—เพลเยอร์ผู้รักความยุติธรรมและใสสะอาดหรือไม่

แต่ตอนนี้หายคาใจแล้ว

จูเก่อแจกอลในชุดสูทสีสันสดใสใจกลางเวที ดูไม่มีปัญหากับเครื่องแต่งกายแม้แต่น้อย

“…ถ้าอย่างนั้น ผมขอประกาศเริ่มอีเวนต์อย่างเป็นทางการ ณ บัดนี้!”

สิ้นคำประกาศของจูเก่อแจกอล ผนังด้านนอกของโรงยิมเปลี่ยนเป็นสีใสพร้อมกัน

ขณะถูกดึงดูดด้วยบอลลูนยักษ์และป้ายโฆษณาบนท้องฟ้า ทัศนียภาพของฉันพลันท่วมท้นด้วยดอกไม้ไฟโน!วลกูดoทคอม

ปัง! บึ้มบึ้ม!

“สุดยอด… ไม่ใช่ CG แต่เป็นดอกไม้ไฟของจริง!”

“มีจุดพลุในอีเวนต์แบบนี้ด้วยหรือ!”

“ทุ่มทุนสร้างชะมัด!”

“เงินจำนวนเท่ากับที่ลูกจ้างของมูลนิธิวังมยองหามาได้อย่างยากลำบาก กำลังระเบิดเล่นอยู่บนท้องฟ้า!”

“ทั้งหมดนี้ราคาเท่าไร… แต่ช่างเถอะ ยังไงพวกเราก็มาโรงเรียนโดยไม่ต้องจ่ายเงินสักวอนอยู่แล้ว อยากใช้ทำอะไรก็เชิญตามสบาย”

ผู้ชมต่างพากันออกปากชม

วังจีโฮที่ติดป้ายทีมงาน แหงนมองดอกไม้ไฟด้วยสีหน้าพึงพอใจ

หลังจากเทศกาลดอกไม้ไฟจบลง จูเก่อแจกอลเริ่มแนะนำผู้เข้าแข่ง

บุคคลแรกที่ปรากฏตัวคือ ‘ครูประจำชั้นสุดแกร่ง’ อิมยอนวา

“จะกีฬาอะไรก็ได้ เข้ามาเลย!”

อิมยอนวาในชุดพละติดตราโรงเรียน ตะโกนอย่างเร่าร้อน

นักเรียนห้อง 3/0 ยังไม่ขึ้นไปบนเวทีแปดเหลี่ยม

“ถัดไปเป็นการเปิดเผยหัวข้อการแข่ง!”

[อีเวนต์การแข่ง: มวยปล้ำ 1 ต่อ 1]

เมื่อโฮโลแกรมขนาดใหญ่ถูกฉาย จูเก่อแจกอลเริ่มอธิบายอย่างกระชับ

“ห้ามใช้พลังวิเศษและไอเท็มทุกชนิด ถ้ามีการตรวจพบคลื่นพลังวิเศษจะถูกปรับแพ้ทันที… ครูอิมยอนวาจะดวลกับนักเรียนห้อง 3/0 ทีละคน”

หัวใจผู้ชมถูกเขย่าโดยคำบรรยายของจูเก่อแจกอล

หากเป็นไปตามกติกาดังกล่าว อิมยอนวาต้องกำราบนักเรียนห้อง 3/0 ด้วยพละกำลังล้วนๆ

เมื่อจูเก่อแจกอลอธิบายเสร็จ นักเรียนห้อง 3/0 ทยอยเดินขึ้นเวทีในสภาพสวมผ้าเตี่ยวทับชุดพละ

‘ไม่อ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาค ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับชมรมหนังสือพิมพ์… ที่แท้ก็ไปซุ่มปั้นกล้ามมา!’

บรรยากาศรอบตัวทุกคนดูเหมือนไปแอบฟิตหุ่นมาเพื่อการแข่งโดยเฉพาะ

“ขอทำการประกาศเงื่อนไขของทั้งสองฝั่ง… หากห้อง 3/0 ได้รับชัยชนะ ระหว่างปิดภาคเรียน ครูอิมยอนวาจะต้องทำงานหนักเยี่ยงกรรมกรเพื่อช่วยนักเรียนห้อง 3/0 ต่อต้านพลังจักรวาล”

เป็นเงื่อนไขที่บ้าบิ่นมาก

สีหน้าจูเก่อแจกอลดูประหลาดใจขณะอ่านบท แต่ยังสามารถขยับไปบรรทัดถัดไปอย่างสุขุม

“หากครูอิมยอนวาเป็นฝ่ายชนะ นักเรียนห้อง 3/0 ทุกคนต้องเข้าค่ายที่ครูประจำชั้นเป็นคนจัด… เดี๋ยวนะ นักเรียนทุกคนต้องเรียนซ่อม? ถูกต้องใช่ไหม”

ได้ยินคำถาม ทุกคนบนเวทีผงกศีรษะรับ

ดูเหมือนจะยอมรับเงื่อนไขนี้ได้

“แล้วครูอิมยอนวาจะรับคำท้าไหม”

จูเก่อแจกอลถามพร้อมกับยื่นผ้าเตี่ยวให้

อิมยอนวารับผ้าเตี่ยวไป พลางตะโกนอย่างมั่นใจ

“รับ!”

ได้เห็นสีหน้าของเธอ จูเก่อแจกอลเผยความกังวล

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาเป็นห่วงนักเรียนห้อง 3/0 มิใช่อิมยอนวา ทั้งที่กติกาเอื้ออำนวยกับฝ่ายแรกมากกว่า

และการแข่งหลังจากนั้นก็มิได้สูสีเลยแม้แต่น้อย

“นี่ วังจีโฮ”

“ว่าไง”

“…ครูอิมยอนวาเป็นมนุษย์แน่หรือ”

“มนุษย์แน่นอน ฉันตรวจสอบหลายรอบแล้ว”

ผ่านไปไม่นาน อิมยอนวาตะเบ็งคำรามหลังจากชนะเด็กห้อง 3/0 สิบกว่าคนไปอย่างขาดลอย

“ไม่สนุกเลย เข้ามาทีละสองเถอะ!”

อิมยอนวายื่นข้อเสนอ และนักเรียนห้อง 3/0 ที่กำลังยืนตัวสั่นด้วยความอับอาย รีบตอบรับทันควันเพื่อเพิ่มโอกาสคว้าชัยชนะ

“นี่มันไม่ใช่ระดับของมนุษย์แล้ว… ในบรรดาเผ่าแท้มีกอริลลาอยู่ด้วยไม่ใช่หรือไง”

“เห็นว่าพอถูกคนเข้าใจว่าเป็นเผ่าแท้มากเข้า เธอตัดสินใจศึกษาเกี่ยวกับเผ่าแท้จนแตกฉานวิชานี้ไปเลย”

ได้ฟังเสียงกระซิบกระซาบจากเด็กชมรมหนังสือพิมพ์ ดูท่าครูอิมยอนวาจะเป็นมนุษย์จริงๆ

ขณะผู้ชมกำลังพูดคุย ฉันเห็นอิมยอนวาใช้มือจับผ้าเตี่ยวของเด็กห้อง 3/0—หนึ่งข้างหนึ่งคน จากนั้นก็เหวี่ยงทั้งคู่ลอยไปในอากาศ

“เนื่องจากครูประจำชั้นห้องศูนย์อยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่ว่า หากไม่แข็งแกร่งก็คงเอาตัวรอดได้ยาก… ฮัมกึนยอง จูเก่อแจกอล และอิมยอนวา… ก็อย่างที่นายรู้ ทุกคนถูกเลือกเพราะเป็นเพลเยอร์ที่แข็งแกร่ง ฉันสืบประวัติอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาเป็นแค่มนุษย์จริงๆ”

วังจีโฮพูดแบบนั้น พลางจับตามองอิมยอนวาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ได้ตรวจสอบพนักงานทั้งโรงเรียนเลยไหม?”

“ไม่ เห็นแบบนี้ฉันก็งานยุ่งนะ ไม่มีเวลาไปเจอหน้าเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนห้าร้อยกว่าคนหรอก อย่างมากก็อ่านเอกสารเอา”

แล้วทำไมไอ้คน ‘งานยุ่ง’ ถึงว่างขนาดมานั่งดูมวยปล้ำ?

“จริงสิ พอลองมานึกดู… ในบรรดาครูที่มีฝีมือใกล้เคียงสามคนนั้น มีอยู่หนึ่งคนที่ฉันไม่เคยไปเจอหน้าเลย”

“ใคร”

“กงชองวอน”

กงชองวอนยังไม่เคยเจอหน้าเสือเหลือง?

ไม่นานการแข่งก็จบลง

การโจมตีประสานระหว่างหัวหน้ากับรองหัวหน้าห้อง 3/0 ซึ่งเป็นสองคนสุดท้าย จบลงอย่างเปล่าประโยชน์ ไม่นานทั้งสองนอนแผ่อยู่บนกองทราย

“ครูอิมยอนวาเป็นฝ่ายชนะ!”

“ย๊าาาห์—!!”

เมื่อจูเก่อแจกอลประกาศผล อิมยอนวาร้องคำรามอย่างผู้มีชัย

ด้านนอกสังเวียน—บนกระบะทราย นักเรียนห้อง 3/0 กำลังยืนรวมตัว

เกือบทุกคนสะอื้นด้วยใบหน้าเจ็บใจ

หลังจากฉลองชัยชนะตามแรงยุของกองเชียร์ ด้วยการเดินวนไปรอบสังเวียน อิมยอนวามองไปทางนักเรียนของตนที่กำลังมีสภาพน่าเห็นใจ

เธอแย่งไมค์ไปจากจูเก่อแจกอลแล้วพูด

“เด็กๆ … ไม่ต้องร้องไห้นะ”

เสียงของเธอฟังดูเหมือนครูทั่วไปที่ห่วงใยนักเรียน

แม้จะขัดกับภาพลักษณ์ แต่มันก็จริงใจจนคนฟังรู้สึกอบอุ่น

“ครู…”

คำปลอบประโลมของอิมยอนวายิ่งทำให้พวกเขาร้องไห้หนักกว่าเก่า

เธอยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะเสริม

“การร้องไห้จะทำให้กล้ามเนื้อเล็กลงนะ ถ้าพวกเธออ่อนแอไปมากกว่านี้ ชีวิตจะไม่ยิ่งลำบากเอาหรือ”

ราวกับคำพูดนั้นแทงใจดำ สีหน้าของอูกีฮวันและนักเรียนห้อง 3/0 ต่างเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

ดูเหมือนไฟแห่งการต่อสู้ที่เคยดับมอดไป จะลุกโชนกลับมาอีกครั้ง

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset