📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 156

บทที่ 156
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

หลังจากจบอีเวนต์แรก, ช่วงพักครึ่ง

ระหว่างที่วงดนตรีกำลังเล่นสดเพลง ‘บรรเลงมวยปล้ำ’

“ครูอิมยอนวา นี่ครับ ผ้า”

“อา… สักครู่นะ”

อิมยอนวาที่รออยู่ในห้องพัก ทำการเซลฟีแล้วอัปโหลดรูปลง SNS โดยยังไม่ได้เปลี่ยนชุดพละชุ่มเหงื่อ

หลังจากโพสต์เสร็จ หญิงสาวรับผ้าเย็นอเนกประสงค์กับเครื่องดื่มเกลือแร่ด้วยสีหน้าพึงพอใจ

สงสัยว่าเธอเขียนอะไรลงไป ฉันจึงเปิดดู SNS ของอิมยอนวา

ข้อความหลายบรรทัดถูกเขียนไว้ใต้รูปเซลฟีที่มีเวทีแปดเหลี่ยมเป็นฉากหลัง

[วันนี้ก็เล่นสนุกกับเด็กๆ ในห้องอีกแล้ว คึคึคึ!

แต่กลัวว่าเด็กๆ จะร้องไห้มากเกินไปจนกล้ามเนื้อหดหาย

ถ้าอ่อนแอลงกว่านี้ ต่อไปคงเล่นกับฉันลำบากแล้วล่ะ ㅠ0ㅠ;;; คึคึ!

ในช่วงปิดภาคเรียน เห็นทีต้องยกระดับเจ้าพวกน่ารักเหล่านี้ ด้วยบทฝึกสุดโหดหินในค่ายเรียนเสริมสักหน่อยแล้ว!

#ต่อให้ปั้นกล้ามมาก็สู้ฉันไม่ได้หรอก #คราวนี้ไม่พัฒนาขึ้นเท่าไรเลยนะ #ค่ายเรียนเสริมควรจัดที่เกาะร้าง #บูตแคมป์ปิดภาคเรียนฤดูร้อน]

ถ้านักเรียนห้อง 3/0 มาเห็นเข้า มีโอกาสที่พวกเขาจะโกรธจนน้ำลายฟูมปาก

ว่าแต่ไอ้คำว่า ‘บูตแคมป์’ นี่มีกลิ่นแปลกๆ อยู่นะ

…อิมยอนวาคงไม่ได้คิดจะสร้างหน่วยรบพิเศษในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนใช่ไหม

‘มือกำลังสั่น’

มือของอิมยอนวาที่ถือขวดเครื่องดื่ม กำลังสั่นเบาๆ จนเกือบไม่สังเกตเห็น

ถึงจะไม่แสดงออก แต่คงไม่ง่ายนักที่จะเอาชนะแก๊งเด็กแสบห้อง 3/0 ซึ่งนำโดยอูกีฮวัน ด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียว

‘จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมต้องยอมแข่งด้วยกติกาที่ตัวเองเสียเปรียบ’

ตระหนักถึงสายตาของฉัน อิมยอนวายิ้มเขินๆ พลางวางขวดเครื่องดื่มลง ถอดแว่นออกแล้วเริ่มเช็ดแว่นด้วยผ้าเย็นอเนกประสงค์

“ครูไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”

“แน่นอน ฉันแค่เล่นสนุกกับพวกนักเรียนที่น่ารักเท่านั้นเอง!”

น่ารัก?

คำวิเศษณ์ดังกล่าวควรใช้กับแค่เจ้าบ่วงและนักเรียนห้อง 1/0 ยกเว้นวังจีโฮ

ฉันนึกย้อนไปถึงฉากที่บรรดานักกล้ามห้อง 3/0 ถูกอิมยอนวาเหวี่ยงจนกลิ้งออกจากสังเวียนมวยปล้ำแล้วร้องห่มร้องไห้

ไม่มีเศษเสี้ยวความน่ารักปรากฏอยู่ในตัวเด็กมีปัญหาเหล่านั้นเลย

อิมยอนวาที่เพิ่งบดขยี้นักเรียนปีสามด้วยพละกำลังระดับกอริลลา แต่เผยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะพูดถึงนักเรียนที่น่ารักของตน ยังดูเหมาะสมกับคำว่า ‘น่ารัก’ กว่าอีก

‘เดี๋ยวนะ… หน้าตาคุ้นๆ’

อิมยอนวาผู้ถอดแว่นพลางโอ้อวดนักเรียนตัวเอง

เธอดูคล้ายกับอิมจีฮวา หัวหน้าทีมจัดการดาวเทียมที่ฉันเคยเจอในตึกสมาคม

อิมจีฮวาที่แต่งหน้าสไตล์สาวออฟฟิศได้อย่างไร้ที่ติ จนสง่างามไม่แพ้บรรดานางแบบในห้างสรรพสินค้า

กับอิมยอนวา ผู้สวมแว่นตาที่ดูเหมือนทำจากกระจกกันกระสุน และชอบแต่งกายด้วยชุดพละโรงเรียนตลอดเวลา

ไม่ใช่แค่บรรยากาศรอบตัว แต่ทั้งสองมีสีหน้าแววตาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จนฉันไม่เคยเอะใจ

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาอย่างละเอียดจะพบว่า ทั้งโครงหน้าและชื่อต่างก็ใกล้เคียงกันมาก

“รู้จักหัวหน้าทีมอิมจีฮวาแห่งสมาคมเพลเยอร์ไหมครับ”

“หือ? อึยชินรู้จักพี่จีฮวาด้วยหรือ อ้อ… คงเป็นตอนเหตุการณ์สนามเบสบอลจัมชิลสินะ”

ฝั่งอิมจีฮวาเป็นพี่สาวสินะ

“ฝาแฝดหรือครับ”

“เปล่า แค่พี่น้องกันเฉยๆ … หน้าตาเหมือนกันมากเลยหรือ”

“ครับ ถึงผมจะดูไม่ออกจนกระทั่งถอดแว่นก็เถอะ”

“ฮะฮะ! การปลอมตัวได้ผล!”

“ปลอมตัว?”

อิมยอนวาพูดขณะสวมแว่นตาเลนส์เปล่ากลับเข้าไป

“เมื่อก่อนฉันเคยแต่งตัวคล้ายพี่น่ะ จนคนชอบเข้าใจผิดว่าฉันอ่อนแอและใจดีเหมือนกับพี่ จึงถูกหาเรื่องหรือกลั่นแกล้งบ่อย สุดท้ายก็จบที่การลงไม้ลงมือทุกที… หลังๆ ก็เลยพยายามแต่งตัวให้มีบรรยากาศต่างออกไป”

ระดับหัวหน้าทีมของสมาคมเพลเยอร์จะอ่อนแอได้ยังไง?

เธอดูแก่กว่าฮงกยูบินก็จริง แต่ก็ยังดูสาวอยู่ดี การได้เป็นหัวหน้าทีมดาวเทียมซึ่งเป็นแกนหลักของสมาคมด้วยอายุเท่านี้ ย่อมต้องไม่ใช่เพลเยอร์ไก่กาอยู่แล้ว

“หัวหน้าทีมอิมจีฮวาไม่น่าจะอ่อนแอมั้งครับ”

“อ่อนแอสิ ไม่เหมือนกับฉัน พี่จีฮวาทั้งอ่อนแอและเปราะบาง โลกนี้โหดร้ายเกินไปสำหรับเธอ… ออกไปทำงานนอกบ้านจะโดนใครรังแกบ้างก็ไม่รู้”

ฉันไม่เข้าใจ แต่ก็พยายามเข้าใจ

เมื่อเทียบกับอิมยอนวาแล้ว เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งปวงอาจดูอ่อนแอและเปราะบาง เธอก็พูดไม่ผิดเสียทีเดียว

“ฉันขอไปวางแผนบูตแคมป์ก่อนนะ! แล้วเจอกันอึยชิน!”

อิมยอนวายืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้อง

เมื่อประตูเปิดออก เสียงตะโกนของนักร้องนำดังกระหึ่มยิ่งกว่าเสียงกีตาร์ไฟฟ้าหรือกลอง

[มังกรครามจงเจริญ! เสือขาวจงเจริญ! จอมพลังจงเจริญ—!]

มือของอิมยอนวาหายสั่นแล้วขณะเดินออกไปโดยมีเพลง ‘บรรเลงมวยปล้ำ’ เป็นฉากหลัง

สมกับที่เป็นครูประจำชั้นสุดแกร่ง พลังการฟื้นฟูร่างกายน่าทึ่งจริงๆ

* * *

หลังจบคอนเสิร์ตปิดอีเวนต์แรก และทำการเก็บกวาดเวทีเสร็จเรียบร้อย

คนคุมอีเวนต์ที่ไล่ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าไม่มีเม็ดทรายเหลืออยู่บนเวทีแปดเหลี่ยม มองมาทางฉันแล้วกล่าว

“อึยชิน จีโฮ กับแซรอนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผู้เข้าแข่งใช่ไหม งั้นไปซ้อมเชียร์กับเพื่อนๆ เถอะ”

“ใช่! เดี๋ยวพวกเราจัดการคู่เฮียวทงกับเบ๊ขนมปังให้เอง”

“ขอบคุณครับ”

“ฉันจะอยู่ที่นี่ค่ะ มันทำข่าวง่ายกว่า”

มุนแซรอนผู้เปี่ยมไปด้วยแรงกระหายทำข่าว ตัดสินใจอยู่ช่วยงานต่อ

ฉันยอมรับความห่วงใยของรุ่นพี่คุมอีเวนต์ แล้วเดินไปทางฝั่งกองเชียร์พร้อมวังจีโฮ

“อึยชินมาแล้ว”

“ฉันเว้นที่ให้แล้ว! เอ้านี่ผ้าพันคอเชียร์”

“พวกเราเตรียมโฮโลแกรมเสร็จแล้วล่ะ!”

เม็งเฮียวทงกับบังยุนซบ สองนักกีฬาคนสำคัญในอีเวนต์

กองเชียร์ของห้องศูนย์และห้องสอง ซึ่งเป็นห้องของแต่ละคน ถูกจัดให้นั่งใกล้กับเวทีแปดเหลี่ยม

เด็กๆ ในกลุ่มกองเชียร์ห้อง 1/0 กำลังตื่นเต้น

“ห้อง 1/2 ก็เตรียมกองเชียร์มาเหมือนกันสินะ”

“พวกเขามีคนเยอะกว่า แต่ดูไม่กระตือรือร้นกันเท่าไรเลย…”

“มีคนน้อยแต่มากคุณภาพแบบเราดีกว่านะ”

นั่นไม่เกี่ยวกับคนน้อยหรือมาก แต่ปัญหาอยู่ที่พฤติกรรมของบังยุนซบ

เด็กห้อง 1/2มาชมการแข่งด้วยก็จริง แต่ทำไปเพื่อเอาใจจูซูย็อก ไม่ใช่บังยุนซบ

‘บังยุบซบชอบหาเรื่องคนที่เก่งกว่าตัวเอง…’

มีนักเรียนแค่ไม่กี่คนในโรงเรียนแสงเงินที่ห่วยกว่าบังยุนซบ

ดังนั้น เบ๊ขนมปังของฉันจึงทำตัวเหมือนเป็นศัตรูเด็กทั้งโรงเรียน

ในแต่ละวัน ถ้าไม่ถูกกระทืบอย่างน่าสมเพช ก็โชคดีได้จูซูย็อกมาห้ามไว้ทัน นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่มีเพื่อนเลย

‘ถ้าจูซูย็อกไม่ชวนเพื่อนๆ มาเชียร์บังยุนซบ พนันได้เลยว่าไม่มีใครมาแน่’

ถึงจะมีบางคนอยากมาดูบังยุนซบถูกอัดจนน่วม แต่ก็คงไม่ลงมานั่งแถวกองเชียร์

ได้เห็นเด็กห้อง 1/2นั่งเรียงแถวกันแบบนี้ ฉันรู้สึกภูมิใจที่จูซูย็อก—พระเอกของเกม ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนอย่างล้นหลามโน!วลกูดoทคอม

“ครูจูเก่อแจกอลมาแล้ว!”

“หืม… ดูเหมือนจะเปลี่ยนเนกไทนะ”

“ลวดลายเปลี่ยนไป!”

อย่างที่คิด เด็กๆ ห้องฉันช่างสังเกตจริงๆ

เดิมที ทางชมรมหนังสือพิมพ์เตรียมชุดกรรมการไว้สับเปลี่ยนสองแบบ แต่พอเอาเข้าจริงกลับเปลี่ยนแค่เนกไทเพราะจูเก่อแจกอลคัดค้าน

“ขอบคุณทุกคนที่ยังรออยู่นะครับ… ผมขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า อีเวนต์ถัดไปกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า”

จูเก่อแจกอลยืนอ่านสคริปต์ในท่าจับไมค์พูด

เม็งเฮียวทงเป็นฝ่ายถูกแนะนำตัวก่อน

หลังจากประกาศความสำเร็จเก่าๆ ที่ยาวเป็นพืด ผู้ชมรอบๆ เริ่มกระซิบกระซาบทำนอง ‘โห!’ ‘หืม… เหมือนจะเคยเห็นตอนม.ต้นอยู่นะ’ และ ‘มาเข้าโรงเรียนของเรานี่เอง’

“…และเขาก็คือ ยอดฝีมือลับ! เม็งเฮียวทง!”

เฮ—!!

ท่ามกลางเสียงเชียร์ สปอตไลท์สว่างเพิ่มอีกหนึ่งจุด

ขณะยืนหันหลังให้กองเชียร์ห้อง 1/0 เม็งเฮียวทงสวมสีหน้าเฉยเมยโดยปราศจากความกังวล ค่อนไปทางเบื่อหน่าย

‘คงเพราะเคยเสี่ยงชีวิตสู้ในไฟต์คลับมาแล้ว…’

ด้วยสีหน้าเฉยเมย เม็งเฮียวทงหักข้อนิ้วพลางอบอุ่นร่างกาย

ทันใดนั้น เพื่อนร่วมชั้นต่างตะโกน

“เฮียวทงไฟติ้ง!”

“สู้เค้านะ!”

“ชนะให้ได้แล้วมาเลี้ยงข้าวฉัน!”

ได้ยินเสียงตะโกน เม็งเฮียวทงหันกลับมามองพวกเรา

เมื่อเสียงเชียร์ของเพื่อนดังขึ้นเรื่อยๆ บุรุษสมองหินเริ่มออกอาการประหม่า

แม้จะเยือกเย็นขณะเผชิญหน้าบังยุนซบหรือกองเชียร์นิรนาม แต่กลับประหม่าเมื่อได้เห็นคนรู้จักคอยให้กำลังใจ

ด้านนอกสปอตไลท์ ใครบางคนเดินเข้าไปใกล้แล้วแตะหลังเม็งเฮียวทงที่ยืนนิ่งไปดื้อๆ

“ครูฮัมกึนยองนี่นา!”

“ฝั่งนั้นมีครูทักกอซัน ฝั่งนี้ก็ต้องมีครูฮัมกึนยอง!”

เมื่อฮัมกึนยองพูดบางอย่าง เม็งเฮียวทงสูดลมหายใจยาว จนกระทั่งเริ่มสงบสติได้แล้วอบอุ่นร่างกายต่อ

‘คิดถูกจริงๆ ที่ให้ครูฮัมกึนยองเป็นโค้ช’

เขาเตรียมแม้กระทั่งเทปแปะกล้ามเนื้อมาด้วย คงอยากทำหน้าที่โค้ชให้ดีที่สุด

“…เกรตทัก นักสู้ในตำนาน เจ้าของเส้นทางอาชีพที่นักสู้ทุกคนใฝ่ฝัน ผู้ถูกกล่าวขานว่าสามารถฉีกวายุแหวกสมุทร!”

ระหว่างนั้น สคริปต์แนะนำตัวบังยุนซบยังคงดำเนินต่อไป

‘ยังกับสคริปต์แนะนำตัวทักกอซัน…’

ในเมื่อประวัติของบังยุนซบไม่มีอะไรให้เขียน ชมรมหนังสือพิมพ์จึงต้องเกริ่นประวัติทักกอซันแทน

ฉันสัมผัสถึงความลำบากใจของมุนแซรอนผู้เขียนสคริปต์

“…ศิษย์ชั่วคราวของผู้บำเพ็ญตบะ ทักกอซัน และเบ๊… เอ่อ… เด็กซื้อขนมปังของรองหัวหน้าห้อง 1/0 ซูเปอร์โนว่าไร้นาม… และเขาก็คือ… บังยุนซบ!!”

ดูเหมือนว่าจูเก่อแจกอลจะไม่กล้าพูดว่า ‘เบ๊ขนมปัง’ ออกมา จึงรีบเปลี่ยนคำแล้วผายมือไปทางฝั่งหนึ่งของเวที

เสียงเชียร์ดังกระหึ่มยิ่งกว่าตอนแนะนำตัวเม็งเฮียวทงเสียอีก

สปอตไลท์ฉายไปหาทักกอซันและบังยุนซบ

ใบหน้าทั้งสองดูสงบนิ่ง

‘บรรยากาศรอบตัวบังยุนซบเปลี่ยนไปมาก… ทักกอซันคงฝึกมาดี’

ไม่ใช่การปั้นกล้ามทื่อๆ เหมือนเด็กห้อง 3/0 แต่กลิ่นอายของบังยุนซบดูแหลมคมกว่าเก่า

“ถัดไปจะเป็นการเปิดเผยกติกาของอีเวนต์นะครับ”

[ประเภทการแข่ง: ต่อสู้กันซึ่งหน้า หาผู้ชนะจากการแข่งสามรอบ]

เสียงประกาศดังมาจากตัวหนังสือที่ฉายด้วยโฮโลแกรม

“ห้ามใช้ไอเท็มนอกเหนือจากที่เตรียมไว้ให้ แต่สามารถใช้พลังวิเศษได้อย่างอิสระ”

กติกาการแข่งเกิดจากการปรึกษาหารือระหว่างทักกอซันและจูเก่อแจกอล

‘ถ้าอนุญาตให้ใช้แสงประทาน เราไม่เชื่อว่าฝีมือเม็งเฮียวทงจะเป็นสองรองใคร’

จูเก่อแจกอลยื่นกระบองสองท่อนกับสนับแขนที่ติดเซนเซอร์พลังวิเศษให้กับแต่ละฝั่ง

“อุปกรณ์ป้องกันตัวที่ทั้งสองฝ่ายสวมอยู่ จะคอยคำนวณความเสียหายจากอาวุธติดเซนเซอร์ตลอดเวลา… หากฝ่ายไหนสร้างความเสียหายจนถึงค่าที่กำหนดได้ก่อน ก็จะได้รับชัยชนะในรอบนั้นไป”

เป็นกติกาที่จูเก่อแจกอลเสนอ เพื่อไม่ให้ป้องกันไม่ให้มีฝ่ายไหนโกหกว่า ‘ยังไหว’ ทั้งที่บาดเจ็บหนัก

ไม่อย่างนั้น หากอวัยวะของนักเรียนเสียหายร้ายแรงจนต้องเข้ารับการผ่าตัด กำหนดการช่วงปิดเทอมก็จะกลายเป็นหมันเนื่องจากต้องเก็บตัวฟื้นฟูร่างกาย

“หากส่วนหนึ่งของร่างกายสัมผัสกับพื้นนอกเวทีทรงแปดเหลี่ยม ผู้เข้าแข่งจะถูกจับแพ้ฟาวล์ทันที… หากกรรมการประกาศหยุดการแข่งแล้ว แต่ยังมีฝ่ายใดโจมตีใส่คู่ต่อสู้ ผู้เข้าแข่งจะถูกปรับแพ้ฟาวล์ทันทีเช่นกัน”

เมื่อจูเก่อแจกอลอธิบายกติกาเสร็จ เม็งเฮียวทงกับบังยุนซบต่างพยักหน้ารับ

“ถัดไปเป็นการยืนยันเงื่อนไขของทั้งสองฝ่าย ในกรณีที่นักเรียนเม็งเฮียวทงได้รับชัยชนะ ปรมาจารย์ทักกอซันจะต้องหยุดเผยแพร่ลัทธิลวง… เอ่อ… หยุดชักชวนไปเป็นศิษย์”

…เม็งเฮียวทงคงเขียนเงื่อนไขดังกล่าวด้วยตัวเอง แต่เขียนลงไปทั้งอย่างนั้นเลยหรือ

ขณะครูฮัมกึนยองกล่าวบางสิ่งอยู่ด้านข้าง เม็งเฮียวทงก้มศีรษะลงไปฟัง จนดูเหมือนเตรียมจะเอาหัวโขก

“หากนักเรียนบังยุนซบได้รับชัยชนะ นักเรียนเม็งเฮียวทงต้องกลายเป็นศิษย์ของครูทักกอซัน และนักเรียนโชอึยชินจะต้องยกเลิกผลของ ‘แหนบแห่งคำสัญญา’ ที่ผูกมัดกับนักเรียนบังยุนซบอยู่… ถูกต้องใช่ไหม?”

ทักกอซันกับบังยุนซบผงกศีรษะอย่างหนักแน่น

กับทักกอซันคงไม่แปลก เพราะหน้าเขาเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ทำไมบังยุนซบต้องเก๊กหน้าขรึมด้วยล่ะ?

อยากสูบบุหรี่ขนาดนั้นเชียว?

“การต่อสู้จะเริ่มในอีกสามนาที ได้โปรดเตรียมตัวให้พร้อม”

โฮโลแกรมนับถอยหลังสามนาทีถูกฉายกลางอากาศ

บรรยากาศยิ่งปลุกเร้าเมื่อวงดนตรีเล่นเพลง ‘The Beast’ ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงประกอบเกม ‘Fight Night Champion’

‘ถ่ายรูปดีกว่า’

ฉันอยากตะโกนคุยกับเม็งเฮียวทง แต่อีกฝ่ายคงกำลังประหม่า จึงตัดสินใจทำแค่ถ่ายรูป

เด็กคนอื่นคงคิดคล้ายกัน จึงเอาแต่ปิดปากพลางโบกผ้าพันคอเชียร์อย่างแข็งขัน

ขณะครูจูเก่อแจกอลตรวจทานสคริปต์พลางหันไปพูดกับมุนแซรอนว่า ‘ครูคิดว่าสคริปต์แนะนำตัวอันนี้ดิบไปหน่อยนะ’ ฉันถ่ายรูปเขาแล้วส่งไปให้ฮงกยูบิน

รูปถ่ายเม็งเฮียวทงกำลังอบอุ่นร่างกายพลางพูดคุยกับครูฮัมกึนยอง ถูกส่งไปให้ครูสอนคณิตศาสตร์โรงเรียนทันแร

เมื่อส่งรูปเสร็จ วงดนตรีข้างเวทีเล่นจบเพลงพอดี และนาฬิกาจับเวลาแสดงตัวเลข 00:00:00

“รอบที่หนึ่ง เริ่มได้!”

ทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าหากันหลังจากได้ยินสัญญาณจากจูเก่อแจกอล

สิ้นสุดการต่อสู้อันดุเดือด รอบแรกจบลงด้วยชัยชนะของเม็งเฮียวทง

ทว่า

“ไอ้หมาชิบะ รอบต่อไปฉันชนะแน่!”

ก่อนรอบสองจะเริ่มขึ้น บังยุนซบที่ใช้ไอเท็มฟื้นฟู ยั่วยุเม็งเฮียวทงด้วยสีหน้ายียวน

และคำประกาศดังกล่าวมิได้เป็นเพียงการบลัฟ มันคือความจริง

* * *

ชั้นบนสุดของวังมยองทาวเวอร์

หนุ่มหล่อในวัยสามสิบตอนต้นกำลังนั่งจัดการเอกสารที่โต๊ะทำงาน

หลังจากอนุมัติงบเสร็จ เลขานุการผู้มีใบหน้าคล้ายสวมหน้ากากปรากฏตัวขึ้น

“ท่านเสือเหลือง”

เพิ่งจะทำงานเสร็จ มีงานใหม่มาอีกแล้วหรือ?

เสือเหลืองชี้ไปบนโต๊ะ สื่อเป็นนัยว่าวางเอกสารลงมาได้เลย แต่เลขานุการยังคงพูดต่อ

“เราได้เบาะแสของภาพวาดที่ท่านตามหาแล้ว”

อีมูกีสู่สวรรค์?

เสือเหลืองกระดกคางเป็นนัยให้พูดต่อ

“ยังจำขยะที่ท่านเสือเหลืองตัดมือออก แล้วให้ท่านหัวหน้าคนทรงล้างสมองได้ไหม”

“มันทำไม”

“ข้าปลอมตัวเป็นทนายความของรัฐแล้วแอบวางสายข่าวไว้ใกล้มัน… ซึ่งก็ได้ผล… หลังจากมนตร์ลวงตาคลายออก และอาการเบลอยาเริ่มบรรเทาลง มันยอมปิดปาก”

เลขากล่าวพลางล้วงหยิบชิปที่บรรจุไฟล์ออกมา แล้วนำปึกกระดาษพรินต์วางลงบนโต๊ะ

“เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ไอ้ขยะนั่นพัวพันกับการโจรกรรม มันบอกว่ามีไพ่เด็ดสำหรับลดโทษอยู่ พร้อมกับเอ่ยถึงอีมูกีสู่สวรรค์”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset