41. นอกชายแดน (8)
* * *
เทพนิยายมีหลากประเภท
‘เทพนิยายสร้างชาติ’ ซึ่งเทิดทูนต้นกำเนิดของชาติ ต้นกำเนิดผู้ก่อตั้ง และกระบวนการก่อตั้งชาติ โดยพรรณนาให้เคียงกับปาฏิหาริย์
‘เทพนิยายวีรชน’ ซึ่งกล่าวถึงชาติกำเนิด การเติบโต และความสำเร็จของวีรชน
‘เทพนิยายไขคำตอบ’ ซึ่งคอยอธิบายต้นกำเนิดของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และความหลากหลายของขนมธรรมเนียมต่างๆ
เทพนิยายไขคำตอบยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เทพนิยายธรรมชาติ’ หรือ ‘เทพนิยายพรรณนา’
ผู้คนพยายามใช้เทพนิยายประเภทนี้เพื่ออธิบายเหตุผลที่ท้องฟ้าแยกออกจากผืนดิน เหตุผลที่ท้องฟ้าต้องมีพระอาทิตย์กับพระจันทร์ และมนุษย์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
จากบรรดาเทพนิยายไขคำตอบ ตำนานที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘เทพนิยายกำเนิดโลก’ ซึ่งอธิบายการเกิดจักรวาลและโลก
บนคาบสมุทรเกาหลี มีเทพนิยายกำเนิดโลกมากมายที่ตกผลึกจากการใคร่ครวญและจินตนาการของคนโบราณ
ตัวแทนที่เด่นชัดของเทพนิยายกำเนิดโลกคือ ‘บทเพลงกำเนิดโลก’
พระศรีอริยเมตไตรยผู้แบ่งแยกฟ้าดินในบทเพลงกำเนิดโลก และยังเป็นผู้สร้างพระอาทิตย์ พระจันทร์ กับดวงดาว ตรัสถาม ‘หนูเจ้าปัญญา’ ถึงต้นกำเนิดของไฟและน้ำ
หนูเจ้าปัญญาตอบ
—ท่านศรีอริยเมตไตรยอยากรู้ต้นกำเนิดของไฟและน้ำหรือ แล้วข้าจะได้สิ่งใดตอบแทน
พระศรีอริยเมตไตรยตอบ
—ข้าจะมอบกล่องไม้โลกา*ให้ (กล่องเก็บธัญพืชของคนโบราณ)
หนูเจ้าปัญญาตอบพระศรีอริยเมตไตรย โดยเล่าว่าไฟและน้ำเกิดจากภูเขากึมดองและภูเขาโซฮา
ในภายหลัง เมื่อบทเพลงกำเนิดโลกเริ่มแพร่หลาย หนูเจ้าปัญญาได้กลายเป็นเผ่าแท้และเป็นผู้นำของเผ่าหนู
ผ่านไปเนิ่นนาน หนูเจ้าปัญญาที่ดำรงชีวิตด้วยการรวบรวมธัญพืชใส่กล่องโลกา และคอยแอบฟังบทสนทนายามค่ำคืน เรียกตัวเองว่าเด็กเจ้าเล่ห์และแฝงตัวปะปนอยู่กับมนุษย์
เด็กเจ้าเล่ห์ที่ฝักใฝ่มนุษย์อย่างสุดโต่ง หลงใหลศักยภาพของมนุษย์ที่ขาดความสมบูรณ์แบบ รวมถึงเรื่องราวอันน่าจดจำที่มนุษย์สร้างขึ้น
เขาพาตัวเองเข้าไปพัวพันกับมนุษย์ที่อายุขัยสั้นจู๋หากเทียบกับเผ่าแท้ โดยอาศัยหูที่ดีเพื่อคอยค้นหาและมอบพรคุ้มครองแก่มนุษย์ที่มีเรื่องราวชีวิตน่าจดจำ
ในระยะหลัง เด็กเจ้าเล่ห์หันมาให้ความสนใจกับ ‘แฟชั่น’ —หนึ่งในรูปแบบการแสดงความคิดและอารมณ์ของมนุษย์
ความ ‘เจ้าปัญญา’ ของเด็กเจ้าเล่ห์ได้ครอบคลุมถึงศาสตร์แห่งศิลปะด้วย
และผลก็คือ…
“หัวหน้าครับ ลูกชายเจ้าของขอพบ”
“ให้เข้ามา”
สำนักงานใหญ่ ‘นือรู’ สาขาเกาหลี หนึ่งในท็อปห้าแบรนด์แฟชั่นสุดหรูของโลก
เด็กเจ้าเล่ห์อาศัยฝีมือผลักดันตัวเองเข้ามาทำงานที่นี่
‘ซอโดล’ ผู้สร้างชื่อในฐานะนักออกแบบอิสระ ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ประจำนือรูเมื่อช่วงต้นปี
“พี่เด็กเจ้าเล่ห์! ผมได้ยินว่าพี่แวะเข้ามาที่สำนักงาน!”
เมื่อเปิดประตู วังชานซอลเดินเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉง
วังชานซอลที่เพิ่งปรากฏตัว คือนักเรียนที่โด่งดังด้านฝีมือและความเกเรประจำโรงเรียนที่ทรงเกียรติที่สุดของเกาหลี และเป็นหนึ่งในเป้าหมายถัดไปที่เขาจะมอบพรคุ้มครอง
พักหลังมานี้ ซอโดลที่หมกตัวอยู่ในห้องทดลองเพื่อวิจัยเกี่ยวกับ ‘ตา’ ที่จับจ้องเขตอึนกวาง ตัดสินใจลดปริมาณงานออกแบบลง ส่งผลให้เข้าสำนักงานไม่บ่อย
แม้จะมีงานกองเป็นภูเขา แต่เขามิอาจละเลยวังชานซอลผู้เลือกเดินไปบนเส้นทางเด็กเกเร แม้นจะเพียบพร้อมด้วยพรสวรรค์และความมั่งคั่งตั้งแต่เกิด
ซอโดลทักทายวังชานซอลด้วยรอยยิ้ม
“ลมอะไรหอบมาหรือ”
“ผมมีเรื่องจะขอร้อง…”
ได้ยินคำพูดวังชานซอล ในใจซอโดลเริ่มตื่นเต้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกคำขอร้องของวังชานซอลน่าสนใจเสมอ
เช่นการขอคำแนะนำวิธีเอาชนะ ‘แบทเทิลรอยัล’ ที่นักเรียนห้อง 2/0 จัดขึ้น หรือการออกแบบสูทสำหรับฮงกยูบิน หนึ่งในมนุษย์ที่เขาคอยเอาใจใส่
หลังจากฟังคำอธิบายอย่างคร่าวของวังชานซอล ซอโดลพยักหน้า
“เจ้าอยากรู้ตารางการเดินทางที่แท้จริงของชมรมหนังสือพิมพ์ แต่กลัวว่าจะถูกเด็กเพี้ยนนามสกุลวังห้อง 1/0 ขัดขวาง เลยอยากให้ข้าไปช่วยสืบแทนสินะ”
“ใช่! ผมเคยสู้กับหมอนั่นแล้ว ไม่เคยเห็นเด็กเพี้ยนคนไหนแข็งแกร่งเท่าเขามาก่อน! หมอนั่นเอาชนะผมกับกึมชานด้วยมือข้างเดียว แถมยังสู้ไปหัวเราะไป”
วังชานซอลเล่าข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวังจีโฮ
ซอโดลฟังอย่างตั้งใจพลางครุ่นคิด
‘ไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะชานซอลทั้งสองได้ด้วยมือข้างเดียว บอกว่าชื่อวังจีโฮสินะ… เด็กห้อง 1/0… เห็นว่าเป็นญาติของประธานวังมยองโฮด้วย หืม…’
ตระกูลวังแห่งวังมยองกรุปมีเพียงคนสนิทของเสือเหลืองกับร่างแบ่งภาค ไม่บ่อยนักที่จะมีมนุษย์ปะปน
เสือเหลืองอาจเก็บเด็กอัจฉริยะมาชุบเลี้ยงก็ได้ แต่ซอโดลคิดต่าง
‘จะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เสือเหลืองดูมีแรงกระตุ้นขึ้นมาในปีนี้ไหมนะ… หลังจากเดือนมีนาคม หมอนั่นกระตือรือร้นขึ้นมาก ตรงกับช่วงที่เด็กใหม่วังจีโฮเริ่มเข้าเรียนพอดี’
ขณะซอโดลครุ่นคิด วังชานซอลกล่าวพลางฉายโฮโลแกรมสองสามหน้าจอ
“ผมบอกให้กึมชานจองจุดสอดแนมสำคัญบนชั้นบนสุดของอีสต์วิงโรงแรมอีคารัสไว้แล้ว! ส่วนนี่คือรูปของเด็กเพี้ยนนั่น อย่าประมาทเขาเด็ดขาด แล้วก็รุ่นน้องคนนี้ด้วย! ถ้าดูจากประวัติแล้วถือว่าไม่ธรรมดาเลย”
รูปถ่ายบุคคลที่วังชานซอลฉาย คือใบหน้าของวังจีโฮกับโชอึยชิน
ได้เห็นรูปถ่ายทั้งสอง ซอโดลเบิกตากว้างทันที
ทั้งคู่คือเป้าหมายที่ซอโดลกำลังให้ความสนใจ
‘เสือเหลือง! ซูเปอร์โนว่าไร้นาม!’
เมื่อซอโดลเริ่มหัวเราะคิกคัก วังชานซอลทำหน้าพึงพอใจ
“ได้สิ แต่ขอฟังเรื่องสนุกๆ เป็นการแลกเปลี่ยนนะ”
เด็กเจ้าเล่ห์ยิ้มอ่อน แถมยังใช้ภาษาทางการ!
วังชานซอลพึงพอใจที่อีกฝ่ายยอมรับข้อเสนอ และเริ่มเล่าเรื่องสนุกที่เตรียมเอาไว้
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะเล่าอดีตสมัยม.ต้นของกึมชานซอลให้ฟัง! ตอนที่ยังเป็นเด็กเกเรน่ะ เธอต้องเผชิญหน้ากับนักเลงเจ้าถิ่นที่คุมเด็กประถมทั่วทั้งเขตอึนกวาง…”
ซอโดลคอยตอบรับเป็นระยะด้วยภาษาทางการ ระหว่างฟังเรื่องราวการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างกึมชานซอลกับเจ้าถิ่นปริศนา
อาจเพราะกำลังวางแผนสนุก ผนวกกับได้ฟังเรื่องราวน่าสนใจ ในหัวเขาจึงเต็มไปด้วยไอเดียและแรงบันดาลใจสำหรับคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิปีถัดไป
‘ห่างหายไปนานแล้วสินะ… ส่งเสื้อผ้าชุดใหม่ไปให้พวกเด็กๆ ดีไหม’
ซอโดลชอบแต่งตัวให้คนที่ตนห่วงใย โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่เขาออกแบบเอง
ควอนเจอินอาจได้รับการปรนนิบัติอย่างดีจากทีมทะเลสาบนิรันดร์ แต่ปัญหาคือคนที่ไม่มีใครคอยอยู่ข้างกาย
ในกรณีของฮงกยูบิน หลังจากเด็กเจ้าเล่ห์คอยก่อกวนและหมั่นแนะนำไปว่า ‘แต่งตัวให้ดูดีเข้าไว้ไม่ดีกว่าหรือ เพราะเจ้าไม่มีทางรู้ว่าจะได้เจอกับครูเมื่อไร’ เป็นเหตุใดให้ฮงกยูบินแต่งตัวเนี้ยบอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม แม้นซอโดลจะตามเซ้าซี้ไม่เลิก แต่ก็มีบางคนยังไม่ใส่ใจกับการแต่งตัว ซึ่งนั่นทำให้เขาขุ่นเคืองใจ
‘หลังจากเสร็จงานที่วังชานซอลไหว้วาน เราควรตัดชุดฤดูร้อนขึ้นมากี่ตัว และแจกจ่ายให้ใครบ้างดีนะ… พวกเขาต้องตกตะลึงและหัวเสียแน่ถ้าเราแวะไปหาด้วยตัวเอง’
ซอโดลยิ้มพลางจินตนาการถึงสีหน้าอ่อนระทวยของกลุ่มคนที่ได้รับพรคุ้มครองจากเขา
และผลของการเปลี่ยนไอเดียให้เป็นการกระทำ
ฮงกยูบินที่เตรียมบินออกนอกประเทศในช่วงเช้ามืด ถูกรั้งตัวไว้
“คิดจะไปไหนในเวลาแบบนี้”
ซอโดลที่ได้อ่านตั๋วเดินทางของฮงกยูบิน กล่าวพลางยิ้มอ่อน
ปลายทางของตั๋วคือเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน
หนึ่งในเส้นทางการทัศนศึกษาของชมรมหนังสือพิมพ์ ที่เขาสืบทราบจากการห้อยตัวเหนือผนังชั้นนอกของโซนอีสต์วิง โรงแรมอีคารัส
“นี่มันปลายทางของชมรมหนังสือพิมพ์ไม่ใช่หรือ”
เสือเหลือง ซูเปอร์โนว่าไร้นาม กึมชานซอล วังชานซอล และฮงกยูบินมารวมตัวกันในสถานที่เดียว!
ซอโดลที่เคยเคร่งเครียดหลังจากทำงานหนักจนถึงขีดจำกัด กล่าวอย่างอดใจไม่ไหว
“ข้าไปด้วยสิ”
* * *
ขณะที่เกือบทุกคนในล็อบบี้โรงแรมกำลังทำหน้าเครียด
คนแรกที่ทำลายความเงียบคือวังชานซอล
“พี่เด็กเจ้าเล่ห์… พี่พานักเรียนคนแรกผู้น่าสมเพชและชอบเกาะแกะมาด้วยทำไม”
ผู้ชายที่วังชานซอลเรียกว่าพี่ และวังจีโฮเรียกว่าเด็กเจ้าเล่ห์ ฉันเคยเจอมาแล้วสองหน
หนแรกเกิดขึ้นที่ห้อง VIP ของร้านนือรู ตอนนั้นฉันแวะไปพร้อมกับจูซูย็อกและเม็งเฮียวทง โดยใช้อภิสิทธิ์ที่วังชานซอลมอบให้
หนที่สองคือเมื่อตอนที่ฉันแวะไปร้านบุฟเฟ่ต์เค้กในวังมยองทาวเวอร์ หลังจากได้แชมป์ทัวร์นาเมนต์หมากรุกโนเวลกูดฺoทคอม
“เปล่า ฉันตามเขามาเอง”
“เฮือก!”
“ด…เดี๋ยวสิ ทำไมพี่ถึงใช้ภาษาทางการ!”
กึมชานวังชานยิ่งหัวเสียเมื่อเด็กเจ้าเล่ห์ยิ้มอ่อนแทนคำตอบ
พวกเขาคงทราบถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ควรระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเมื่อหัวหน้าดีไซเนอร์ของนือรู—เด็กเจ้าเล่ห์—ผู้นำเผ่าหนู—ยิ้มอ่อนและใช้ภาษาทางการ
“สวัสดีครับ คุณครูจูเก่อ ผมฮงกยูบิน หัวหน้าทีมสื่อที่ 1 ประจำสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลี”
ระหว่างนั้น ฮงกยูบินตีหน้าซื่อแนะนำตัวเองกับจูเก่อแจกอลเหมือนทุกที
ดูเหมือนว่าหลังจาก ‘เหตุการณ์นั้น’ เขาจะทำตัวแบบนี้ทุกครั้งที่ได้เจอกับจูเก่อแจกอล
“ฉันจำได้… แล้วลมอะไรหอบมาหรือ ฉันกำลังจะออกไปข้างนอกกับนักเรียน”
จูเก่อแจกอลขีดเส้นแบ่งด้วยใบหน้าเข้มงวด
เขาแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าไม่คิดจะใช้เวลาร่วมกับฮงกยูบิน แต่ฝ่ายหลังยังคงดันทุรังอย่างไม่ย่อท้อ
“บังเอิญเจอคุณครูก็ดีแล้วครับ ผมมีเรื่องที่อยากคุยด้วยพอดี”
คำว่า ‘บังเอิญ’ ทำเอาใบหน้าของนักเรียนห้อง 2/0 พลันบูดบึ้ง
“โห่—!”
“อะไรนะ! กล้าพูดว่าบังเอิญ?”
“ถึงจะอยู่นอกคาบสมุทรเกาหลี แต่ก็ควรใช้ภาษาเกาหลีให้ถูกต้อง!”
“เข้าใจจริงๆ หรือเปล่าว่า ‘บังเอิญ’ หมายถึงอะไร! กลับไปเรียนภาษามาใหม่!”
มันค่อนข้างน่าขัน เมื่อฉันระลึกถึงตอนที่เด็กห้อง 2/0 เคยพูดว่า ‘บังเอิญ’ ต่อหน้าเด็กชมรมหนังสือพิมพ์ที่ท่าอากาศยานแห่งชาติเฉิงตูเมื่อวันก่อน
แม้จะถูกต่อต้านจากห้อง 2/0 อย่างหนัก ฮงกยูบินยังคงยิ้มพลางฉายโฮโลแกรมไปทางจูเก่อแจกอล
เนื้อหาของโฮโลแกรมเกี่ยวข้องกับมกอูรัม
สีหน้าของจูเก่อแจกอลเปลี่ยนเป็นกังวลทันที
“…ตอนนี้นักเรียนอยู่ที่ไหน”
“อยู่ในความคุ้มครองของเรา ก็อย่างที่คุณทราบ สมาคมเพลเยอร์ของจีนไม่ได้ลงทุนกับความปลอดภัยสาธารณะมากนัก ผมพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยกำลังของสมาคม แต่ทางฝั่งนี้ต้องการเพลเยอร์มากกว่าหนึ่งคนเพื่อรับรองตัวตนให้นักเรียน”
“ฉันช่วยยืนยันได้ไหม”
“สบายมากครับ ชื่อเสียงของคุณครูถือว่าโด่งดังในจีน สถานะของครูโรงเรียนแสงเงินยิ่งช่วยได้มาก”
เมื่อจูเก่อแจกอลเตรียมออกไปพร้อมฮงกยูบิน เด็กห้อง 2/0 รีบกรูเข้ามาล้อมจูเก่อแจกอล
“เดี๋ยวก่อน! ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่เราขอไปด้วย!”
“อยากได้เพลเยอร์ไปช่วยยืนยันตัวตนไม่ใช่หรือ พวกเราก็เพลเยอร์เหมือนกัน!”
“หลายคนในหมู่พวกเราได้รับฉายาแล้วนะ!”
“ยิ่งมีเพลเยอร์มากก็ยิ่งดีไม่ใช่หรือ ถ้าได้ยินไม่ผิด เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเด็กโรงเรียนเราโดยตรง พวกเราก็เป็นห่วงเหมือนกัน!”
“ใช่! ยังไม่แน่ด้วยว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะหาเรื่องติอะไรอีก ถ้ามีเพลเยอร์มากกว่ายี่สิบคนช่วยยืนยัน ทางนั้นต้องคัดค้านไม่ได้แน่!”
อาจมีบางประโยคที่ฟังดูไม่จริงใจ แต่ข้อเสนอของพวกเขาช่วยแก้ไขปัญหาได้จริง
ดูท่าจูเก่อแจกอลจะเห็นด้วย จึงครุ่นคิดสักพักแล้วตอบ
“…อย่าก่อเรื่องล่ะ”
“ครับ!”
“ค่ะ!”
ขณะฮงกยูบินแอบขมวดคิ้วลับหลังจูเก่อแจกอล เด็กห้อง 2/0 แสยะยิ้มพลางเย้ยหยันฝ่ายแรก
ระหว่างที่บรรดาแฟนคลับจูเก่อแจกอลกัดกัน เขารับมือกับสถานการณ์ได้อย่างใจเย็น
ขณะวังจีโฮกับฉันตัดสินใจอยู่ที่โรงแรมต่อ จูเก่อแจกอลกล่าวด้วยใบหน้ารู้สึกผิด
“ขอโทษด้วยที่ต้องรบกวนเด็กปีหนึ่ง ถ้ามีอะไรรีบโทรหาครูทันทีเลยนะ”
“ครับ รุ่นพี่ประธานชมรมคงใกล้ตื่นแล้ว คงไม่มีอะไรน่ากังวล”
หลังจากฮงกยูบิน จูเก่อแจกอล และห้อง 2/0 ออกไปยังสำนักงานสมาคม
ล็อบบี้ที่ถูกพายุพัดผ่าน กลับมาเงียบเชียบอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางล็อบบี้อันว่างเปล่า เด็กเจ้าเล่ห์เดินตรงเข้ามาหาฉัน
“สวัสดี ข้าคือเด็กเจ้าเล่ห์ ผู้นำเผ่าหนู และเป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ของนือรู”
เด็กเจ้าเล่ห์ผู้สวมเสื้อนอกปกฟิชเมาท์ (Fish Mouth) ที่ตกแต่งอย่างมีชีวิตชีวา ยื่นนามบัตรให้ฉัน
(ปกฟิชเมาท์ — ปกเสื้อแจ็กเกตหรือสูทที่ปลายปกแหลมขึ้นเหมือนปากปลา)
บนนามบัตร ชื่อ ‘ซอโดล’ ถูกเขียนเป็นภาษาเกาหลีและอังกฤษแบบตัวเขียนหวัด
เมื่อฉันรับนามบัตรมา เขากล่าว
“ข้าได้ยินวีรกรรมของซูเปอร์โนว่าไร้นามในตอนสอบเข้าแล้ว และยังประทับใจผลงานการปราบเอนามีหลายต่อหลายหนหลังจากเข้าเรียน ไม่อยากเชื่อว่าเด็กมัธยมปลายปีหนึ่งจะสร้างสถิติอันน่าจดจำเช่นนี้ได้! จริงสิ แต่ถ้าคำนึงจากความเป็นมาของเจ้า เรื่องที่น่าทึ่งที่สุดคือการคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์หมากรุก!”
ซอโดลสนทนาอย่างเป็นกันเองด้วยใบหน้ากระตือรือร้น
‘ลางไม่ดีเลยแฮะ’
ลำพังการกระหน่ำชื่นชมก็ไม่น่าอภิรมย์มากพออยู่แล้ว ยิ่งผนวกกับ ‘ชื่อเสีย’ ของเด็กเจ้าเล่ห์เข้าไป มันยิ่งชวนให้อึดอัด
ซอโดลที่กล่าวอย่างตื่นเต้น เปลี่ยนไปเข้าประเด็นด้วยเสียงเคร่งขรึม
“ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน โชอึยชิน… เจ้าไม่อยากได้พรคุ้มครองจากข้า…”
“ไสหัวไป”
วังจีโฮชิงตัดบทก่อนที่ซอโดลจะพูดจบ