วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม
สนามบินเซี่ยงไฮ้
เจ้าซวี่หมิงกับนักกีฬาคนอื่นๆ จากสองสโมสรกำลังรอขึ้นเครื่อง
การแข่งขันรอบชิงแชมป์โลก IOI สรุปวันได้แล้ว โดยจะจัดวันที่ 31 ธันวาคม เปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการวันเสาร์ของสัปดาห์ถัดไป ใช้เวลาแข่งขันหนึ่งเดือน จบตอนปลายเดือนมกราคม
รูปแบบการแข่งขันคล้ายกับงานแข่งขันชิงแชมป์โลก GOG มีทั้งหมดสิบหกทีม แข่งสองรอบคือ รอบแบ่งสายที่มีทั้งหมดสี่สายกับรอบน็อกเอ้าต์
เรื่องตารางการแข่งขัน ไฮไลต์การแข่งขันรอบแบ่งสายกับรอบน็อกเอ้าต์จะพยายามจัดในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดตามกฎหมาย ส่วนการแข่งขันที่ไม่ค่อยสำคัญกับวันพักผ่อนจะจัดให้อยู่ในช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์ให้ได้มากที่สุด
ถึงจัดออกมาได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็สมเหตุสมผล
แต่เพราะความแตกต่างของเวลา ประสบการณ์การชมการแข่งขันของผู้ชมจีนจึงไม่ค่อยดีนัก ตัวอย่างเช่น เวลาในการรับชมการแข่งขันในจีนจะอยู่ช่วงตีสามถึงเที่ยงของวันถัดไป ถือเป็นเวลาที่ค่อนข้างแย่
เพราะยังไงงานก็จัดที่ลอสแอนเจลิส ไม่มีทางเปลี่ยนตารางได้แล้ว
Finger Games เตรียมที่พักและอาหารให้หนึ่งวันก่อนการแข่งขันไปจนถึงตอนที่ทีมตกรอบ
ดังนั้นสโมสรที่ไม่ค่อยมีเงินจึงเลือกไปถึงโรงแรมใกล้สนามแข่งหนึ่งถึงสองวันก่อนการแข่งขันเริ่ม
กลับกันเจ้าซวี่หมิงตัดสินใจไปก่อนล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้ทีมจีนได้แข่งกับทีมฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกาและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม พวกเขาจะไปพักโรงแรมที่ Finger Games เตรียมไว้ให้
หลงอวี่คอร์เปอเรชันเป็นคนออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักทั้งหมดสำหรับหนึ่งสัปดาห์นี้
กลุ่มที่ไปมีทั้งหมดยี่สิบคน แต่ละสโมสรมีสมาชิกทีมห้าคน ผู้จัดการทีม และโค้ช รวมทั้งหมดเป็นสิบสี่คน
เจ้าซวี่หมิงไปลอสแอนเจลิสด้วยเพื่อเที่ยวเล่นและชมการแข่งขัน IOI ล้วนๆ เพราะยังไงงานที่เหลือของฝ่ายความร่วมมือจัดการบริหาร IOI ของหลงอวี่คอร์เปอเรชันมีแค่โปรโมตงานแข่งขันชิงแชมป์โลก IOI ดังนั้นเขาไปลอสแอนเจลิสด้วยก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
พอไปถึงลอสแอนเจลิส เจ้าซวี่หมิงจะแวะไปสำนักงานใหญ่ Finger Games กับทีมงานจากฝ่ายความร่วมมือจัดการบริหาร IOI หลังจัดการกับนักกีฬาของทั้งสองสโมสรเสร็จ
ทั้งยี่สิบคนกำลังรอขึ้นเครื่องอยู่ที่สนามบิน
ตอนนี้มีเมืองแบบปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ไม่กี่เมืองที่สามารถบินตรงไปลอสแอนเจลิสได้ ซึ่งตั๋วก็ค่อนข้างแพง เมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่ต้องบินไปเปลี่ยนเครื่อง ตั๋วจะถูกกว่า แต่ใช้เวลาเดินทางนานกว่า
เจ้าซวี่หมิงไม่ได้เลือกทางที่ถูกกว่า แต่เลือกบินไฟล์ตตรงที่ถูกลงมาหน่อย ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมดแค่สิบสามชั่วโมง
เขารู้สึกภูมิใจนิดหน่อย เพราะยังไงหลงอวี่คอร์เปอเรชันก็เป็นคนออกค่าตั๋ว เลือกบินตรงถือว่าใจดีกับสโมสรเหล่านี้มากทีเดียว
นักกีฬาส่วนใหญ่ของสองสโมสรเป็นเด็กติดเกม ไม่เคยไปต่างประเทศ ไม่เคยเห็นโลกกว้างมากนัก เจ้าซวี่หมิงจึงรู้สึกว่าต้องใจดีด้วยหน่อย
ส่วนเรื่องที่นั่ง เจ้าซวี่หมิงเป็นผู้บริหารระดับสูงของหลงอวี่คอร์เปอเรชัน เขาต้องเลือกบินชั้นธุรกิจสำหรับทริปเพื่อธุรกิจอยู่แล้ว แต่หลังจากพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน เขาก็เลือกบินชั้นประหยัด
ไม่ใช่ว่าเขาอยากช่วยบริษัทประหยัดเงิน แต่มองเข้ามาแล้วจะดูไม่ดีนัก
เพราะทริปนี้มีหลายคน ถ้าให้ทั้งยี่สิบคนบินชั้นธุรกิจก็จะแพงเกินไป เพราะตั๋วชั้นธุรกิจแพงกว่าชั้นประหยัดสามเท่า ถ้าเบิกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็จะแพงขึ้นจากเดิมสามถึงสี่แสนหยวน ซึ่งดูไม่เหมาะนัก
กลับกัน เจ้าซวี่หมิงก็รู้สึกกระดากใจที่จะบินชั้นธุรกิจแล้วให้นักกีฬาบินชั้นประหยัด เขาจึงเลือกอดทนนั่งชั้นประหยัดแทน
แน่นอนว่าผู้จัดการทีมและสมาชิกทีมของทั้งสองสโมสรไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แค่หลงอวี่คอร์เปอเรชันออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ก็ดีมากแล้ว จะขอให้จ่ายเพิ่มสามเท่าเพื่ออัปเกรดเป็นชั้นธุรกิจก็คงมากเกินไป
แถมบอสเจ้าก็นั่งชั้นประหยัดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยก่อนจะถึงเวลาขึ้นเครื่อง เจ้าซวี่หมิงคุยกับผู้จัดการทีมของทั้งสองสโมสรและอธิบายการเตรียมตัวคร่าวๆ หลังถึงลอสแอนเจลิส
“โรงแรมที่ Finger Games เตรียมไว้ให้เรารอบนี้คือ Courtyard by Marriott อยู่ห่างจากสนามแข่งสองร้อยเมตร ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินเท้าได้ ถือว่าสะดวกมาก
“สภาพแวดล้อมโรงแรมไม่มีอะไรให้พูดถึงเป็นพิเศษ ถือว่าดีมาก มีทุกอย่างที่เราต้องการ
“พอไปถึง เราจะเช็กอินโรงแรมก่อน ผมจะเป็นคนออกค่าโรงแรมช่วงก่อนการแข่งขัน ก่อนเริ่มแข่งหนึ่งวัน ทุกคนต้องเช็กเอ้าต์และเช็กอินใหม่ เราจะย้ายไปอยู่ห้องที่ Finger Games เตรียมไว้ให้
“ทางบริษัทเตรียมล่ามไว้ให้ ถึงตอนนั้นน่าจะต้องรบกวนผู้จัดการทีมทั้งสองคนช่วยกันหาร้านอินเทอร์เน็ตและร้านอาหารใกล้ๆ กับล่ามของเรา จะได้ดูว่าจะซ้อมและกินที่ไหน
“Finger Games น่าจะมีห้องสำหรับฝึกซ้อมและอาหารการกินเตรียมไว้ให้ แต่จะพร้อมให้ใช้หนึ่งวันก่อนการแข่ง เพราะงั้นสัปดาห์นี้เราต้องพึ่งตัวเองไปก่อน”
ผู้จัดการทีมทั้งสองพยักหน้ารัวระหว่างที่เจ้าซวี่หมิงอธิบายรายละเอียดต่างๆ
เหล่านักกีฬาต่างตื่นเต้นเล็กน้อย บางคนประหม่าเพราะนี่คือการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
ระหว่างที่เจ้าซวี่หมิงกำลังคุยกับสองผู้จัดการทีมอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากไกลๆ
“ทางนี้ครับ เดี๋ยวเราถ่ายกันตรงนี้ ทุกคนยืนตามลำดับความสูง ใช่ๆ เรียงสามแถว นักกีฬาตัวหลักยืนหน้า ชูธงประจำสโมสรด้วย โอเค จะถ่ายแล้วนะครับ
“หนึ่ง สอง สาม! โอเค อีกรูปครับ”
เจ้าซวี่หมิงอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เขาตกตะลึง
สโมสร FV ไม่ใช่เหรอ
ทำไมถึงคนเยอะขนาดนั้น!
ตอนนี้คนประมาณสามสิบคนกำลังยืนถ่ายรูปกันอยู่ แถวหน้าสุดถือธงทีมสโมสร FV นักกีฬาตัวหลักยืนหน้าสุด มองปราดเดียวเจ้าซวี่หมิงก็จำได้ทันที
ช่างภาพสองคนถือกล้องรุมถ่ายรูปกลุ่มคนที่ว่า มีช่างกล้องอีกคนกำลังถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมด
เจ้าซวี่หมิงเห็นหน้าคุ้นเคยท่ามกลางกลุ่มนั้น มีทั้งติงกั้น อู๋เยว่ ผู้จัดการลู่ และสมาชิกสโมสร SUG
เขาตะลึงงันไป
นี่มันอะไรกันเนี่ย
ถ้าพวกนั้นมาที่นี่ ก็แสดงว่ามาขึ้นเครื่องบิน ถ้ามาขึ้นเครื่องบิน ก็แปลว่าจะบินไปลอสแอนเจลิส
ทีมงานของสโมสร FV ก็จะบินไปลอสแอนเจลิสด้วยเหรอ มากสุดก็น่าจะพาไปสักเจ็ดแปดคนสิ
ทำไมถึงพาไปเยอะขนาดนี้
แล้วทำไมคนของสโมสร SUG ถึงอยู่ในกลุ่มด้วย
ตอนแรกเจ้าซวี่หมิงคิดว่ากลุ่มคนจากสองสโมสรที่ตัวเองจะพาไปนั้นเยอะแล้ว แต่สโมสร FV กลับชนะไปในแง่ของจำนวน!
เจ้าซวี่หมิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น การพบกันครั้งนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเขาสุดๆ
อู๋เยว่ที่เพิ่งถ่ายรูปเสร็จเห็นเจ้าซวี่หมิงกำลังรอขึ้นเครื่อง
เขาเองก็แปลกใจเล็กน้อย ถึงเขากับเจ้าซวี่หมิงจะมองหน้ากันไม่ติด แต่คงมากเกินไปถ้าจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นทั้งๆ ที่สบตากันแล้ว
เพราะงั้นอู๋เยว่จึงเดินเข้าไปทักเจ้าซวี่หมิงทันที
“บอสเจ้า! ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันที่นี่ บังเอิญจังครับ”
เจ้าซวี่หมิงฝืนยิ้นพร้อมกับลุกยืน “บอสอู๋ มาขึ้นเครื่องไปลอสแอนเจลิสเหรอครับ”
อู๋เยว่พยักหน้า “ใช่ครับ บอสเจ้าก็เหมือนกันเหรอ บังเอิญมาก
“แต่ก็ไม่แปลก ไฟล์ตนี้เวลาเหมาะสุดแล้ว ใจตรงกันเลยนะครับ”
หมิ่งจิ้งเชา เยว่จือโจว และคนอื่นๆ อยู่ที่จิงโจว ส่วนอู๋เยว่ สโมสร FV และ สโมสร SUG อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ที่จิงโจวไม่มีไฟล์ตบินตรงไปลงลอสแอนเจลิส ทุกคนเลยเลือกบินจากเซี่ยงไฮ้
อู๋เยว่กับเจ้าซวี่หมิงบังเอิญมาเจอกันเพราะเวลาเครื่องออก เวลาบิน ตารางบิน ที่นั่ง และราคาของตั๋วไฟล์ตนี้เหมาะที่สุดโนiวลกูดอทคอม
การพบกันของทั้งสองฝ่ายสร้างความกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
เพราะเจ้าซวี่หมิงจงใจไม่พาสโมสร FV ไปด้วย ทั้งสองฝ่ายรู้เรื่องนี้ดี
จากสถานการณ์ในตอนนี้ เจ้าซวี่หมิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดปากเงียบและทำเป็นถามตามมารยาท “ยังเหลือเวลาอีกสักพักกว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่อง บอสอู๋หาที่นั่งรอก่อนมั้ยครับ”
อู๋เยว่ยิ้ม “อ๋อ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นครับบอสเจ้า”
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย อู๋เยว่ก็เรียกคนอื่นๆ “ไปได้แล้วทุกคน เดี๋ยวตามผมไปหาที่นั่งรอกัน”
แต่เจ้าซวี่หมิงก็ต้องแปลกใจเพราะอู๋เยว่กับพลพรรคไม่ได้นั่งในโซนนั่งรอข้างๆ พวกเขา แต่เดินตรงไปยังเลานจ์ VIP ที่อยู่ห่างออกไปหน่อย
เจ้าซวี่หมิงงง
อะไรกันเนี่ย
เลานจ์ VIP มีไว้ให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจและสมาชิกระดับไฮเอนด์นั่งรอขึ้นเครื่อง ด้านในมีทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ขนม เครื่องดื่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น มีบริการเสริมอย่างบริการเปลี่ยนเที่ยวบิน เปลี่ยนที่นั่ง และบริการอื่นๆ นอกจากนั้น ยังมีโซฟานั่งเดี่ยวที่นั่งสบายกว่าแถวที่นั่งแข็งๆ ในโซนพักผ่อนด้วย!
เจ้าซวี่หมิงตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นคนทั้งสามสิบคนรวมช่างกล้องเดินเข้าไปด้านใน
หมายความว่าไงกัน
จองชั้นธุรกิจกันทั้งสามสิบคนเลยเหรอ
เขารู้ราคาตั๋วเครื่องบินดี ชั้นประหยัดราคาประมาณหนึ่งหมื่นหยวน ส่วนชั้นธุรกิจราคาประมาณสามหมื่นหยวน ถ้าทั้งสามสิบคนจองชั้นธุรกิจ ก็เท่ากับว่าเสียเงินเพิ่มจากชั้นธุรกิจถึงหกแสนหยวน!
บ้าเกินไปแล้ว!
เจ้าซวี่หมิงปฏิเสธความคิดนี้ทันที
ทำไมสโมสร FV ถึงยอมเสียเงินเพิ่มจากเดิมหกแสนหยวนกับค่าตั๋วเครื่องบินด้วย ไม่เห็นสมเหตุสมผลเลย!
ใช่ พวกเขาต้องจ่ายค่าพักในเลานจ์ VIP เพื่ออวดพวกเราแน่!
เจ้าซวี่หมิงรู้ดีว่าถึงเลานจ์ชั้นธุรกิจจะมีไว้สำหรับคนที่ซื้อตั๋วชั้นธุรกิจหรือคนที่รวยมากๆ แต่พวกเขาก็จ่ายเงินเพื่อเข้าไปใช้บริการได้ ราคาอยู่ที่หนึ่งร้อยหยวนต่อคน
ถ้างั้นสามสิบคนก็จ่ายแค่ประมาณสามพันหยวน ซึ่งก็ไม่เท่าไหร่
เจ้าซวี่หมิงคิดว่าตัวเองก็จ่ายเพิ่มสองพันหยวนเพื่ออวดเบ่งคืนได้ แต่พอคิดดูอีกที ไฟล์ตบินก็ไม่ได้ล่าช้า อีกไม่นานก็จะได้ขึ้นเครื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม
แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่าจะดีกว่า
หลังจากโดนอู๋เยว่กับพรรคพวกขัดจังหวะ เจ้าซวี่หมิงก็ไม่มีอารมณ์คุยกับผู้จัดการทีมอีก ทุกคนนั่งไถมือถือเล่นระหว่างรอขึ้นเครื่อง
ไม่รู้ทำไม เจ้าซวี่หมิงอดคิดถึงภาพในเลานจ์ VIP ขึ้นมาไม่ได้
บรรยากาศเงียบสงบ ไร้ซึ่งความวุ่นวาย ได้นั่งบนโซฟาหนังแสนนุ่มสบาย อ่านนิตยสาร ดูหนัง มีเครื่องดื่มกับขนมบริการไม่อั้น…
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนโดยเยาะเย้ย
เจ้าซวี่หมิงก้มมองนาฬิกาบ่อยครั้ง โชคดีที่ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว
ทุกคนไปที่เกตและต่อคิวรอ
ไฟล์ตบินตรงไปลอสแอนเจลิสนี้บินด้วยเครื่องลำใหญ่ รองรับผู้โดยสารได้ห้าร้อยที่นั่ง แบ่งเป็นสองชั้น จึงมีคนต่อคิวหลายคน
เจ้าซวี่หมิงกับคนอื่นๆ รีบไปต่อคิวรออยู่หน้าสุด
ระหว่างที่คิวยาวขึ้นเรื่อยๆ อู๋เยว่กับคนอื่นๆ ก็ยังไม่ยอมออกจากเลานจ์ VIP เจ้าซวี่หมิงเริ่มสงสัยหนักขึ้นเรื่อยๆ
อะไรกัน
ไม่รีบมาต่อคิวหรือยังไง…
ในที่สุดอู๋เยว่กับติงกั้นก็พากลุ่มคนสามสิบคนออกจากเลานจ์ VIP แต่พวกเขาไม่ได้ไปต่อท้ายแถวและเดินตรงไปที่เกตเลย
อู๋เยว่กับคนอื่นๆ ไม่ได้โดนพนักงานต้อนรับห้ามไว้
แถวยาวเหยียดอีกฝั่งทำให้เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจน
เจ้าซวี่หมิงกับหัวหน้าทีมจากสองสโมสรมองอู๋เยว่กับคนอื่นๆ เดินนำขึ้นเครื่องไปก่อนอย่างทำอะไรไม่ได้ ขณะที่แถวของตัวเองขยับช้าเหมือนเต่า
เครื่องบินลำใหญ่แบ่งเป็นสองชั้น มีทางขึ้นเครื่องแยกกัน การขึ้นและลงเครื่องไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ชั้นธุรกิจอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นประหยัดอยู่ชั้นล่าง ซึ่งชั้นธุรกิจนั้นไม่มีคิวให้ต่อ
เจ้าซวี่หมิง “…”
เขาปิดปากเงียบขณะมองตามแผ่นหลังของอู๋เยว่ ติงกั้น และคนอื่นๆ ไป