หลังจากอู๋เยว่และติงกั้นขึ้นเครื่อง ทั้งสองก็บอกให้สมาชิกทีมเก็บกระเป๋าบนชั้น จากนั้นก็ไปนั่งประจำที่ของตัวเอง
นี่คือการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของพานอิงที่เป็นหัวหน้าทีมสโมสร FV หลังจากนั่งลง เขาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองรอบๆ
“ที่นั่งบนเครื่องบินกว้างขนาดนี้เลยเหรอ นึกว่าจะคล้ายๆ กับรถไฟความเร็วสูงซะอีก” พานอิงพึมพำเบาๆ
อู๋เยว่หัวเราะ “ถ้าบินชั้นประหยัด คุณคงไม่พูดแบบนี้ ที่นั่งของชั้นเฟิร์สคลาสกว้างกว่านี้อีกนะ แต่บนเครื่องมีที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสแค่ไม่กี่ที่ และผมว่าเราก็ไม่ควรฟุ่มเฟือยเกินไป เลยจองเป็นชั้นธุรกิจแทน”
ห้องโดยสารเฟิร์สคลาสเป็นเหมือนห้องส่วนตัว ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสหนึ่งที่มีขนาดเท่ากับที่นั่งชั้นประหยัดหกที่ ระยะห่างระหว่างด้านหน้ากับด้านหลังมากกว่าสองเมตร สามารถนอนกลิ้งไปมาได้
แต่ชั้นเฟิร์สคลาสมีที่นั่งไม่ถึงสามสิบที่ อู๋เยว่ไม่อยากให้ทุกคนได้รับการดูแลที่ต่างกัน และไม่อยากฟุ่มเฟือยมากเกินไป เลยไม่เลือกนั่งเฟิร์สคลาส
ชั้นธุรกิจแย่กว่าชั้นเฟิร์สคลาสแค่นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก
ถึงจะไม่มีห้องส่วนตัว แต่ที่นั่งชั้นธุรกิจก็มีโครงสร้างแบบกึ่งส่วนตัว มองเป็นช่องเล็กๆ แยกกันด้วยที่กั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่งได้ แต่ก็ไม่เหมือนที่นั่งเฟิร์สคลาสที่เป็นห้องส่วนตัว ตัดขาดจากโลกภายนอก
แต่ที่นั่งชั้นธุรกิจก็ยังถือว่ากว้างอยู่ดี ด้านข้างมีโต๊ะขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีจอพร้อมช่องเสียบต่างๆ อยู่ข้างๆ ที่นั่งปรับเอนได้หนึ่งร้อยแปดสิบองศา เพราะงั้นประสบการณ์ที่ได้รับจึงดีกว่าชั้นประหยัด
ทุกคนนั่งประจำที่ตัวเอง แผงกั้นชั้นธุรกิจแบ่งทุกคนออกจากกัน ทำให้นักกีฬาหลายคนที่เพิ่งขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกประหม่าเล็กน้อย
พานอิงพูดขึ้น “ผู้จัดการลู่ครับ มีอะไรที่ผมต้องระวังไหม อะไรใช้ไม่ได้บ้าง”
ผู้จัดการลู่ยิ้ม “อยากสั่งอะไรก็สั่งได้เลย ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามพนักงานได้ บอกไปว่าเพิ่งนั่งชั้นธุรกิจครั้งแรก พนักงานมีความเป็นมืออาชีพมาก พวกเขาไม่หัวเราะคุณหรอก”
พูดจบ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็เดินเข้ามาต้อนรับพร้อมมอบเครื่องดื่ม ผ้าร้อน และของว่างต่างๆ ให้
พนักงานย่อตัวลงข้างๆ ที่นั่ง เธอยื่นผ้าเปียกให้เช็ดมือและหน้าก่อน จากนั้นก็เสิร์ฟน้ำกะทิลิ้นจี่ ก่อนจะยื่นเมนูอาหารให้พร้อมกับถามว่ามีข้อกำหนดพิเศษอะไรเกี่ยวกับอาหารรึเปล่า
พานอิงตาลายขณะพลิกดูเมนู
ที่ผ่านมาเขาคิดว่าอาหารบนเครื่องบินจะเป็นข้าวกล่องธรรมดา แต่พอเห็นเมนู เขาก็ตระหนักว่าอาหารไม่ใช่ข้าวกล่อง แต่มีให้เลือกมากมายหลายประเภท!
มีอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างกุ้ง ส้มหั่นเต๋า สลัดตามฤดูกาล และอื่นๆ
อาหารจานหลักสุดหรูมีทั้งเสต็กกระทะร้อนเสิร์ฟพร้อมหัวหอมผัด หน่อไม้ฝรั่งและมันฝรั่งแดงราดซอสเกรวี่ หรือ ปลาค็อดดำเสิร์ฟกับมะเขือเทศราชินี มันฝรั่งอบ และมะกอกดำ
มีชีส ผลไม้ ของหวาน อูด้งทะเล แซนด์วิชไก่และชีส และติ่มซำแบบจีนต้นตำรับ
นอกจากนั้นยังมีเมนูอาหารเช้าอย่าง ไข่กวนกับหัวไชเท้า เห็ดชุบแป้งทอดกับน้ำเต้าหู้ บะหมี่ผัดไก่และเห็ด เบคอน ไส้กรอกหมู แพนเค้ก และอื่นๆ
ที่น่าทึ่งที่สุดคือ พานอิงเห็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเมนู ผู้โดยสารบางคนคงชอบแหละมั้ง
แน่นอนนอกจากเมนูที่ว่ามาแล้ว ยังมีเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทต่างๆ อย่างไวน์ แชมเปญ และอื่นๆ
สรุปแล้ว เมนูนี้ทำให้พานอิงตาลายจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว
แต่เขาก็ไม่ได้รีบ ยังมีเวลาให้คิดอีกเยอะกว่าเครื่องจะขึ้น
หลังจากเครื่องขึ้น พานอิงก็เข้าใจสิทธิประโยชน์ของชั้นธุรกิจมากขึ้น
เขาเลือกได้ว่าจะพักผ่อนหรือกินก่อน ถ้าเลือกนอน ก็สามารถนอนราบลงและหลับพักผ่อนได้ พอตื่น พนักงานก็จะเข้ามาถามว่าต้องการกินอะไรไหม ถ้าเลือกกินก่อน เขาก็เลือกสั่งอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก ของหวานอย่างเค้กหรือไอศกรีม และอื่นๆ ได้ ถ้ากินแบบไม่เร่งรีบจะใช้เวลาประมาณสองถึงสามชั่วโมง
พอเหนื่อย ก็เอนตัวลงหลับพักผ่อนได้
สิ่งที่ต่างจากชั้นประหยัดคือ ที่นั่งชั้นธุรกิจเอนได้ร้อยแปดสิบองศา มีผ้าห่มผืนเล็ก หมอน ชุดนอน รองเท้าแตะ ชุดกระเป๋าสำหรับค้างคืน และอื่นๆ ประสบการณ์การพักผ่อนจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
พอไปเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดนอนกับรองเท้าแตะ พานอิงก็ยิ่งรู้สึกสะดวกสบายมากกว่าเดิม ถึงจะอยู่บนฟ้า แต่ความรู้สึกแทบไม่แตกต่างจากโซฟาที่บ้าน
แปรงสีฟัน ยาสีฟ้า ครีมทามือ และอุปกรณ์อาบน้ำอื่นๆ ในกระเป๋าสำหรับค้างคืนเป็นของแบรนด์ทุกชิ้น แม้แต่ตัวกระเป๋าเองก็หรูหราและคุณภาพดีมาก พานอิงไม่รู้เลยว่ากระเป๋าใบเล็กนี้ก็ราคาเกินพันหยวนแล้ว
นอกจากนั้น สิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนก็แตกต่างจากของชั้นประหยัดลิบลับ
นอกจากที่นั่งจะปรับเอนราบได้แล้ว ยังติดระบบปรับลมเบาะมาด้วย พวกเขาสามารถปรับอัตโนมัติได้ตามขนาดตัวเพื่อให้นั่งได้สะดวกสบายที่สุด
หูฟังเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนคุณภาพดี สวมปุ๊บ เสียงเครื่องยนต์ดังเสียดหูของเครื่องบินก็หายไปปั๊บ
เข็มขัดนิรภัยเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบหนังบุนวมรุ่นที่หนาขึ้น และไม่ได้หนาขึ้นอย่างเดียว แต่ยังมีถุงลมนิรภัยติดมาด้วย ซึ่งปลอดภัยกว่า
จอที่ดูอยู่ขนาดใหญ่กว่าชั้นประหยัดหลายเท่า มีรีโมตพิเศษใช้สำหรับพูดคุยกับผู้โดยสารชั้นธุรกิจคนอื่นๆ แบบเรียลไทม์ด้วย
พานอิงไม่ง่วงเลยสักนิด พอพนักงานอธิบายสิทธิประโยชน์ให้ฟัง เขาก็เริ่มสั่งอาหารไม่หยุด
ก่อนหน้านี้ ตอนที่พานอิงกับทีมชนะการแข่งขันรอบคัดเลือก อู๋เยว่พาพวกเขาไปห้างใกล้สนามแข่งเพื่อกินอาหารดีๆ ซึ่งเป็นภัตตาคารตะวันตกราคาหัวละสี่ร้อยหยวน
ส่วนอาหารที่เสิร์ฟในชั้นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางหรือรสชาติก็ต่างทำให้พานอิงเชื่อได้ยากว่านี่คืออาหารบนเครื่องบิน เขารู้สึกว่ามาตรฐานของมันเกือบเท่ากับอาหารในภัตตาคารตะวันตกที่เคยกินเลย
พานอิงชิมอาหารสองคำจากนั้นก็ยกไวน์ขึ้นจิบ เขารู้สึกผ่อนคลายมากจนอยากบิดขี้เกียจ
“ขึ้นเครื่องบินสบายขนาดนี้เลยเหรอ пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ
“จะกินนอนตอนไหนก็ได้ไปตลอดสิบสามชั่วโมง ดูหนังตอนไหนก็ได้ ไม่เห็นเหนื่อยเลยสักนิด”
…
อีกด้านหนึ่ง ที่ห้องโดยสารชั้นประหยัด
เจ้าซวี่หมิงเอนเบาะลงเรียบร้อยแล้ว แต่ที่นั่งชั้นประหยัดเอนได้แค่ร้อยยี่สิบองศา ถึงจะใช้หมอนรองคอก็ยังรู้สึกไม่สะดวกสบาย
พอเครื่องขึ้น พนักงานก็เริ่มแจกอาหาร แต่มีข้าวกล่องให้เลือกแค่สองแบบ ไม่ว่าจะเลือกอย่างไหนก็รสชาติไม่ดี
ที่นั่งคับแคบกับถาดวางขนาดเล็กที่สั่นไปมาทำให้เพลิดเพลินกับอาหารได้น้อยลง ต้องคอยระวังตลอดว่าข้าวกล่องหรือซุปจะหกใส่ตัก
ไม่มีชุดนอน รองเท้าแตะ เครื่องอาบน้ำ และอื่นๆ ให้
เรื่องดีเพียงอย่างเดียวคือ ทุกคนได้นั่งด้วยกัน จึงไม่ต้องกลัวว่าที่นั่งข้างๆ จะเป็นคนอ้วนหนักร้อยโลที่พยายามยัดตัวลงบนเบาะจนคนด้านข้างไม่มีพื้นที่ส่วนตัว
ถึงอย่างนั้น ที่นั่งชั้นประหยัดสุดคับแคบก็ทำให้เจ้าซวี่หมิงรู้สึกอึดอัดและคิดผิด
เขารู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสมาชิกทั้งสองสโมสร จริงๆ แล้วควรจองที่นั่งชั้นธุรกิจให้ตัวเอง!
บอกได้แค่ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมากนักตอนที่จองตั๋วเครื่องบิน คิดแค่ว่ายอมนั่งๆ ไปจนถึงลอสแอนเจลิส ให้สิทธิ์ตัวเองเหนือคนอื่นจะดูไม่ดี
แต่สภาพจิตใจของเจ้าซวี่หมิงก็พังทลายทันทีเมื่อเห็นทีมสามสิบคนของสโมสร FV นั่งชั้นธุรกิจ ส่วนเขาต้องมานั่งเบียดเสียดในชั้นประหยัด
พนักงานบังเอิญเดินผ่านมาพอดี เจ้าซวี่หมิงจึงรีบถามขึ้น “ผมอัปเกรดเป็นชั้นธุรกิจตอนนี้ได้ไหมครับ”
พนักงานผุดยิ้มมืออาชีพพลางตอบกลับ “ขอโทษด้วยค่ะผู้โดยสาร ชั้นเฟิร์สคลาสกับชั้นธุรกิจของเที่ยวบินนี้เต็มหมดแล้ว ไม่มีที่ว่างเลยค่ะ”
เจ้าซวี่หมิงผงะไป “ไม่เหลือเลยเหรอครับ”
พนักงานยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “ใช่ค่ะ ต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ”
เจ้าซวี่หมิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ตามหลักแล้ว มักจะมีที่ว่างเหลือในชั้นเฟิร์สคลาสกับชั้นธุรกิจ เพราะราคาแพงมาก จึงอัปเกรดที่นั่งระหว่างบินได้
แต่สโมสร FV จองที่นั่งชั้นธุรกิจไปรวดเดียวสามสิบที่ แถมนี่ยังเป็นไฟล์ตไปลอสแอนเจลิสที่เป็นที่นิยมมาก เพราะงั้นจึงไม่มีที่นั่งเหลือเลย
พูดอีกอย่างคือ เจ้าซวี่หมิงไม่มีทางเลือกอื่น เขาทำได้แค่นั่งเบียดเสียดในชั้นประหยัดไปอีกสิบชั่วโมง แล้วค่อยไปพักผ่อนให้เต็มที่ที่ลอสแอนเจลิส
ริมฝีปากของเจ้าซวี่หมิงกระตุกขณะพยายามฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ”
สายตาของเขามองไปยังทางเดินสู่ชั้นธุรกิจตรงหน้าอย่างฝืนใจ เขาเห็นพนักงานส่งยิ้มให้ขณะดึงม่านกั้นระหว่างชั้นธุรกิจกับชั้นประหยัด
เจ้าซวี่หมิง “…”
เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา ทริปไปลอสแอนเจลิสครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นไปด้วยดีแน่…